วันนี้พอดีมีเวลาว่าง เลยว่าจะมาเขียนอะไรที่มีสาระลงในนี้ซะหน่อย
เห็นช่วงนี้น้องๆเริ่มจะใกล้ปิดเทอมกันแล้ว (รึเปล่า) ไม่แน่ใจ 5555
แต่เห็นหลายคนเริ่มอยากเรียนภาษาต่างประเทศ หาข้อมูลต่างๆนาๆ
แล้วก็มีหลายคนทักอินบ๊อกเข้ามาถามเรื่องเรียนภาษาที่นิว (เคยตั้งกระทู้ไว้เมื่อนานมาแล้ว)
เลยคิดว่าเราก็มีประสบการณ์ เลยอยากมาเล่าให้ฟัง
พูดก่อนเลย ว่าไม่ได้เป็นเอเจ้นหรืออะไรทั้งนั้น แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เฉยๆหนะ
เอาตัวเราก่อนเลย เราพึ่งมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ4-5เดือน (โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์)
เราพึ่งเรียนจบ เรียนภาษาอย่างเดียวเพื่อจะต่อโท ไม่ได้ทำงาน เที่ยวอย่างเดียว 5555
แล้วเราก็พบว่า มันมีหลายๆอย่างที่น่าสนใจ
และน่าจะเป็นข้อคิดให้หลายๆคนได้คิดก่อนตัดสินใจเลือกประเทศหรือหลายๆอย่าง
เริ่มเลยนะคะ
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าเราไม่ได้อยากมาเรียนที่นิวซีแลนด์เลย
ไม่ชอบ มันเงียบ ไม่น่าสนใจ ไม่เคยอยู่ในหัวสมองสักนิดดียว
ในใจเรา ถ้าคิดถึงนิวซีแลนด์ ก็คิดถึงแต่ภูเขาทะเล แกะ และครีมรกแกะ (ที่คนนิวซีแลนด์ไม่ใช้) 5555
ประเทศแรกของเราคือ อเมริกา เรายอมรับว่าเป็นคนค่อนข้างยึดติดกับประเทศนี้
ชอบทุกอย่าง ชอบสำเนียง อยากเที่ยวที่นั่น อยากใช้ชีวิต
เพราะไลฟ์ไสตล์ หลายๆอย่างของเรามันไม่เข้ากับที่นี่เลย
แต่ในเมื่อพ่อแม่เป็นคนส่ง ไม่ใช่ตังค์ตัวเอง ก็ต้องทำตามใจฝืนมา อย่างไม่มีความกระตือรือร้น
ในใจก็แบบ เออ เอาวะ คิดแค่ไปเรียนภาษา ทำของตัวเองให้ดีก็พอ ที่ไหนก็เหมือนกัน (มั้ง)
แต่จริงๆแล้ว เราพบว่า ........
หนึ่ง
ก่อนที่เราจะเลือกประเทศเพื่อเรียนภาษา จงดูไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ดูก่อนว่า ตัวเองเป็นคนแบบไหน ชอบการดำเนินชีวิตแบบไหน แล้วค่อยดูประเทศที่เหมาะกับเรา
อย่าทำตามใจคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือใครก็ตาม เพราะผลที่สุดแล้ว คนที่ได้หรือเสียประโยชน์คือตัวเราเอง
เป็นปกตินะ ที่พ่อแม่จะเลือกสิ่งที่เค้าคิดว่าดีที่สุดให้กับเรา แต่ ! มันดีที่สุดสำหรับเราจริงๆหรอ ?
ประเทศไม่ใช่ไม่มีผลนะ เราว่าค่อนข้างมีผลกระทบกับตัวผู้เรียนอย่างมากเลย
คือถ้าเราอยู๋ในสังคมที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง มันจะส่งผลให้เรากระตือรือร้นที่จะออกไปนู่นไปนี่
ไปที่ใหม่ๆ ไปหาความร็ เจอผู้คน แต่ถ้าเรามาอยู่ในจุดที่ไม่ใช่ตัวของเรา มันจะทำให้รู้สึกว่าการเรียนภาษาไม่สนุก ค่อนข้างน่าเบื่อ
ไม่มีอะไรน่าตื่นต้นที่จะทำ
อย่างเช่น ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบเมืองที่ทันสมัย วุ่นวาย มีสีสัน มีอไรให้ทำ เราขอพูดเลยว่า คุณอย่ามานิวซิแลนด์ อย่าไปเชื่อว่าที่เค้าว่าไปโอ๊คแลนด์สิ มันก็เป็นเมืองใหญ่ คนเยอะ มีนู่นนี่ให้ทำเยอะแยะ ไม่เบื่อหรอก เราพูดเลยว่า มันไม่จริง ! คุณหลอกดาว ! เราเจอมากับตัว 5555555 เพราะคุณจะพบว่าที่นี่น่าเบื่อมากสำหรับคนอย่างคุณ ถึงแม้มันจะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ประชากรหนาแน่นที่สุดของแประเทศนี้ แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราแล้ว น่าจะแบบ สิบห้าโอ๊คแลนด์เท่ากับหนึ่งกรุงเทพ (ในความคิดเรานะ) เพื่อนหลายคนของเราถึงกับร้องไห้อยากกลับบ้านทุกวันในรอบสามเดือน ไม่ได้ขู่นะ แต่มันคือเรื่องจริง ! จงเลือกไปนู่น อเมริกา ซิดนี่ อังกฤษ แล้วชีวิตน่าจะมีความสุขกว่า แต่ถ้าคุณเป็นคนสบายๆ ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย ชอบชีวิตเรียบง่าย รักธรรมชาติ ไม่ชอบอะไรหวือหวา เราขอแนะนำเลยว่า คุณเลือกนิวซีแลนด์เถอะ เพราะมันจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มากสำหรับคุณ ชีวิตที่นี่มันง่าย สบายๆ ไม่ต้องแก่งแย่ง เวลาว่างเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปเที่ยวเมืองต่างๆ รอบๆได้ ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ไปเที่ยวเกาะใต้ ยิ่งถ้าได้ไปเกาะใต้แล้ว เราพูดได้เลยว่าคุณจะหลงรักที่นี่ รักธรรมชาติที่นี่จนไม่อยากกลับเลยที่เดียว
สอง
อย่าเชื่อคนที่เค้าพูดว่า ไปนิวสิ คนไทยน้อย มันไม่จริง !
เราเป็นคนนึงที่พ่อแม่บอกให้มาเรียนที่นี่เพราะมีหลายคนพูดว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีคนไทยน้อย อย่าไปเลยเมกา อย่าไปเลยออสจะเจอแต่คนไทย แล้วภาษาจะได้พัฒนาหรอ แต่ความจริงแล้ว เราพูดได้เลยว่า ถ้าคุณเลือกมาโอ๊คแลนด์วันนี้ 80เปอร์เซ็นท์ของคนที่เดินอยู่ในควีนสตรีท เป็นคนเอเชีย ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะได้ยินเสียงคนไทยแว่วๆไม่ขาดสาย 55555 แต่ถ้าเทียบกับจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย อาหรับ ยอมรับเลยว่าคนไทยน้อยกว่าก็จริง บางรรบางห้องเรียนมีคนไทย 4-5คน แต่ถ้าเลือกรรแพงหน่อย คนไทยจะน้อยหน่อย โอ๊คแลนด์วันนี้โดนเฉพาะในย่านเศรษฐกิจ เหมือนเอเชียทาว เหมือนเดินอยู่ที่ไหนก็ไม่รุที่ไม่ใ่นิวซีแลนด์ 55555 แต่สำหรับคนที่อยากมานิวจริงๆ ชอบประเทศนี้ แล้วอยากพัฒนาภาษาแล้วไม่อยากเจอคนไทย มั่นใจในตัวเองว่า ฉันเนี๊ยะ รักธรรมชาติ ชอบเมืองเงียบๆจริงๆ เราแนะนำให้ไปอยู่เมืองอื่นที่ไม่ใช่โอ๊คแลนด์ โคโลมานเดล ไคลชเชิท เนลสัน เวลลิงตั้น อะไรพวกนั้นไปเลย เพราะภาษาน่าจะพัฒนาได้ดีกว่ามาที่นี่เป็นไหนๆ ถ้าทนได้ 5555
สาม
อยู่โฮสดี หรือ อยู่เองดี ยังไงดีนะ ?
จากประสบการณของเราเลยนะ ถ้าใครมาปรึกษาเราเรื่องนี้ เราแนะนำให้อยู่กับโฮส เลือกโฮสเลย คำตอบสุดท้าย ! 5555
เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าการมาเรียนภาษายิ่งระยะเวลาสั้นๆ 3-6เดือน ถ้าไม่อยู่กับเจ้าของภาษามันจะได้ภาษาหรอ ? เพราะการมาเรียนภาษาเอาจริงๆแล้วถ้าใครคิดอยากจะมีเพื่อนเป็น Native speaker ละก็ คุณค่อนข้างคิดผิด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเพื่อนเป็น native เพราะคนพวกนี้เค้าไม่ได้ต้องมาเรียนภาษากับเราอยู่แล้ว เพื่อนส่วนมากที่มีก็จะเป็นเด็กต่างชาติที่มาเรียนที่รรเดียวกัน พูดกันถูกๆผิดๆพอสื่อสารกันรู้เรื่อง การอยู่กับโฮสมันจะทำให้คุณได้พูดภาษากับเจ้าของภาษาในชีวิตประจำวัน ได้เรียนร็วัฒนธรรมของเค้า เพราะจากที่เพื่อนเราประสบปัญหา ส่วนมากคืออยู่กันเอง แล้วอยู่กับคนไทย มันทำให้ไม่ได้อะไรเลย กลับไปก็พูดแต่ภาษาไทย อารมณ์เหมือนแบบ เรียน wall street แล้วกลับบ้าน แต่ดีกว่าตรงที่อาจมีเพื่อนต่างชาติบ้างแค่นั้น ส่วนข้อเสียของการอยู๋โฮสก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี รรส่วนมากไม่ค่อยสนใจเรื่องโฮสสักแต่จะเอาตังค์ และโฮสส่วนมากก็คิดว่าการรับเป็นโฮสคือช่องทางหารายได้เสริม แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีที่ดีดีเลย เรายอมรับว่าเราค่อนข้างโชคดีที่ได้โฮสดีไม่ใช่แค่เราแต่เพื่อนส่วนมากในรรของเราก็แฮปปี้กับโฮสของตัวเอง เพราะรรค่อนข้างที่จะเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างมาก ถ้าโฮสคนไทนถูกเด็กแจ้งเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 2-3ครั้ง ติดๆกัน เค้าก็จะตัดโฮสบ้านนั้นออกจากระบบไปเลย
สี่
ตั้งเป้าหมายของตัวเองในแน่นอน มาเรียน มาทำงาน แค่อยากหาประสบการณ์ให้ชีวิต ?
จากที่เราประสบพบเห็นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เราขอแนะนำว่าสำหรับคนที่ตั้งใจมาเรียนเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษจริงๆ เตรียมตัวสอบต่างๆ ว่าไม่ควรทำงาน เพราะเมื่อคุณทำงานแล้วคุณจะไม่มีสติ สมาธิเท่าที่ควรให้กับการเรียน ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ต้องนอนดึกตื่นเช้า เวลารรมีกิจกรรมก็ไปทำกับเค้าไม่ได้ เวลาจะสอบอยากหยุดงานที่ทำงานก็ไม่ให้หยุด ขาดคน ต่างๆนาๆ เราไม่ได้พูดว่าการทำงานเปนสิ่งไม่ดี จริงๆแล้วการทำงานมันก็ทำให้ได้ประสบการณ์มากขึ้น เรียนร็ชีวิต แถมได้ค่าขนม (ที่ถูกกดค่าแรงอย่างหดหู่ โดยเฉพาะร้านไทย อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆว่า เป็นคนไทยด้วยกันไมถึงกดกันเอง ทำไมทำแฟร์ๆให้เป็นค่าแรงขั้นต่ำอย่างฝรั่งเค้าไม่ได้ ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายของตัวคุณเองว่า อยากได้อะไรกันแน่ ? ตัวเองอยู่จุดไหน แล้วทำจุดนั้นให้ดีที่สุด
ห้า
ระยะเวลาในการเรียน นานเท่าไหร่ดีนะ ?
เราเลือกลงครอสภาษาเป็นเวลา 6 เดือน ตอนนี้เริ่มอยากอยู่ต่อ ซึ่งตอนแรก เราก็คิดว่ามันคงพอกับการพัฒนาภาษาอังกฤษของเรา เพราะเราค่อนข้างมีพื้นฐานอยู่บ้างระดับหนึ่ง แล้วเราก็เริ่มเรียนในระดับซึ่งค่อนข้างสูงเลย (จากผลสอบ) แต่เราพบว่า การที่เราเริ่มจากขั้นสูงๆนั้น ทำให้เราเห็นการพัฒนาของตนเองได้ช้ากว่าคนที่เริ่มจากศูนย์ หรือคนที่ไม่ค่อยเป็น ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เราค้นพบว่า 6เดือน จริงๆแล้วมันไม่ได้นานอย่างที่เข้าใจ เวลาผ่านไปเร็วเสมอ การเรียนภาษามันต้องใช้เวลาที่มากกว่านั้น สำหรับคนที่มีเวลา ไม่รีบร้อนต้องทำอะไร เราคิดว่าอย่างน้อย 9เดือน - 1ปี เป็นระยะเวลาที่โอเคที่จะเห็นการพัฒนาตนเองในระยะยาว ทั้งฟัง พูด อ่านเขียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็อยู่กับตัวของตัวเองด้วยว่าทุ่มให้มันแค่ไหน เหมือนที่เค้าว่า you are what you eat การเรียนภาษาอังกฤษมันก็เหมือนกันนั่นหละ
จริงๆน่าจะมีอะไรสำคัญๆอีก แต่ตอนนึ้ดึกแล้ว สมงสมองเบลอๆไปหมด มีอะไรอยากถาม อินบ๊อกได้นะ เราว่าง 5555
หวังว่าที่เขียนไปจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆ น้องๆที่สนใจ หรือคิดจะเรียนภาษาต่ออยู่บ้าง
สำหรับเรา ตอนนี้เอาจริงๆแล้ว เราก็ค่อนข้างมีความสุขกับการอยู่ประเทศนี้นะ ตอนแรกก็ไม่ชอบอย่างที่บอก แต่เพราะเราชอบถ่ายรูป
เราชอบเที่ยวที่นี่ เมือง ธรรมชาติเค้าสวยมาก คิดว่าจะทำกระทู้เรื่องเที่ยวนิวอยู่เหมือนกัน ไว้จะเอารูปมาอวดให้ดูกันนะ เผื่ออยากจะมาเรียนที่นี่มากขึ้น ถึงบางทีมันจะน่าเบื่อไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับที่ไทยแล้ว ก็คงไม่อยากกลับ ชีวิตที่นี่มันสบาย สบายจนไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตเดิมๆที่ไทยเลย
อ๋อ
สำหรับคนที่อายุเข้าผับได้แล้ว เราแนะนำเลยว่าถ้าอยากเป็นภาษาไวๆ ลองเข้าผับดิ ! มันดีนะ
มันจะช่วยมากๆ เพราะคนในนั้นเค้าจะเฟรนลี่ พูดง่ายๆ แอลกอฮอลเข้าปาก แล้วภาษาพุ่ง 555555
เพื่อนหลายคนของเราพูดเก่งขึ้นเพราะสิ่งนี้ ทางทีดีหาแฟนฝรั่งเลยห๊ะ เวิคชัวร์ ! 55555 หรือไม่ก็ไปโบถ อย่าคิดมากเรื่องศาสนา ลองไปโบถดู
คนที่โบถส่วนมากเป็น Native speaker เค้าใจกว้าง เข้ามาคุย มาสอน มาช่วย มันก็ช่วยพัฒนาได้ไปอีกแบบนึงหละ
ส่วนสำหรับ
คนที่อยากมาเรียนไอเอลที่นี่ เราพูดได้เลยว่าที่นี่กับที่ไทยถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ที่ไทยจะสอนเข้มข้นกว่า
ที่นี่เค้าจะเน้นให้ทำเอง ไม่ได้มี trick อะไรมากแบบที่ไทยสอน แต่การมาเรียนที่นี่ น่าจะได้เรื่องของ spreaking กับ listenning ที่เป็นข้อได้เปรียบ
ไงก็ไว้แค่นี้สำหรับวันนี้ก่อนนะคะ ยังไงถ้าคิดไรเพิ่มเติมได้จะมาเติมใหม่น้า
สำหรับคนที่สนใจเรียนภาษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิวซีแลนด์ :)
เห็นช่วงนี้น้องๆเริ่มจะใกล้ปิดเทอมกันแล้ว (รึเปล่า) ไม่แน่ใจ 5555
แต่เห็นหลายคนเริ่มอยากเรียนภาษาต่างประเทศ หาข้อมูลต่างๆนาๆ
แล้วก็มีหลายคนทักอินบ๊อกเข้ามาถามเรื่องเรียนภาษาที่นิว (เคยตั้งกระทู้ไว้เมื่อนานมาแล้ว)
เลยคิดว่าเราก็มีประสบการณ์ เลยอยากมาเล่าให้ฟัง
พูดก่อนเลย ว่าไม่ได้เป็นเอเจ้นหรืออะไรทั้งนั้น แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เฉยๆหนะ
เอาตัวเราก่อนเลย เราพึ่งมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ4-5เดือน (โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์)
เราพึ่งเรียนจบ เรียนภาษาอย่างเดียวเพื่อจะต่อโท ไม่ได้ทำงาน เที่ยวอย่างเดียว 5555
แล้วเราก็พบว่า มันมีหลายๆอย่างที่น่าสนใจ
และน่าจะเป็นข้อคิดให้หลายๆคนได้คิดก่อนตัดสินใจเลือกประเทศหรือหลายๆอย่าง
เริ่มเลยนะคะ
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าเราไม่ได้อยากมาเรียนที่นิวซีแลนด์เลย
ไม่ชอบ มันเงียบ ไม่น่าสนใจ ไม่เคยอยู่ในหัวสมองสักนิดดียว
ในใจเรา ถ้าคิดถึงนิวซีแลนด์ ก็คิดถึงแต่ภูเขาทะเล แกะ และครีมรกแกะ (ที่คนนิวซีแลนด์ไม่ใช้) 5555
ประเทศแรกของเราคือ อเมริกา เรายอมรับว่าเป็นคนค่อนข้างยึดติดกับประเทศนี้
ชอบทุกอย่าง ชอบสำเนียง อยากเที่ยวที่นั่น อยากใช้ชีวิต
เพราะไลฟ์ไสตล์ หลายๆอย่างของเรามันไม่เข้ากับที่นี่เลย
แต่ในเมื่อพ่อแม่เป็นคนส่ง ไม่ใช่ตังค์ตัวเอง ก็ต้องทำตามใจฝืนมา อย่างไม่มีความกระตือรือร้น
ในใจก็แบบ เออ เอาวะ คิดแค่ไปเรียนภาษา ทำของตัวเองให้ดีก็พอ ที่ไหนก็เหมือนกัน (มั้ง)
แต่จริงๆแล้ว เราพบว่า ........
หนึ่ง ก่อนที่เราจะเลือกประเทศเพื่อเรียนภาษา จงดูไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ดูก่อนว่า ตัวเองเป็นคนแบบไหน ชอบการดำเนินชีวิตแบบไหน แล้วค่อยดูประเทศที่เหมาะกับเรา
อย่าทำตามใจคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือใครก็ตาม เพราะผลที่สุดแล้ว คนที่ได้หรือเสียประโยชน์คือตัวเราเอง
เป็นปกตินะ ที่พ่อแม่จะเลือกสิ่งที่เค้าคิดว่าดีที่สุดให้กับเรา แต่ ! มันดีที่สุดสำหรับเราจริงๆหรอ ?
ประเทศไม่ใช่ไม่มีผลนะ เราว่าค่อนข้างมีผลกระทบกับตัวผู้เรียนอย่างมากเลย
คือถ้าเราอยู๋ในสังคมที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง มันจะส่งผลให้เรากระตือรือร้นที่จะออกไปนู่นไปนี่
ไปที่ใหม่ๆ ไปหาความร็ เจอผู้คน แต่ถ้าเรามาอยู่ในจุดที่ไม่ใช่ตัวของเรา มันจะทำให้รู้สึกว่าการเรียนภาษาไม่สนุก ค่อนข้างน่าเบื่อ
ไม่มีอะไรน่าตื่นต้นที่จะทำ อย่างเช่น ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบเมืองที่ทันสมัย วุ่นวาย มีสีสัน มีอไรให้ทำ เราขอพูดเลยว่า คุณอย่ามานิวซิแลนด์ อย่าไปเชื่อว่าที่เค้าว่าไปโอ๊คแลนด์สิ มันก็เป็นเมืองใหญ่ คนเยอะ มีนู่นนี่ให้ทำเยอะแยะ ไม่เบื่อหรอก เราพูดเลยว่า มันไม่จริง ! คุณหลอกดาว ! เราเจอมากับตัว 5555555 เพราะคุณจะพบว่าที่นี่น่าเบื่อมากสำหรับคนอย่างคุณ ถึงแม้มันจะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ประชากรหนาแน่นที่สุดของแประเทศนี้ แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราแล้ว น่าจะแบบ สิบห้าโอ๊คแลนด์เท่ากับหนึ่งกรุงเทพ (ในความคิดเรานะ) เพื่อนหลายคนของเราถึงกับร้องไห้อยากกลับบ้านทุกวันในรอบสามเดือน ไม่ได้ขู่นะ แต่มันคือเรื่องจริง ! จงเลือกไปนู่น อเมริกา ซิดนี่ อังกฤษ แล้วชีวิตน่าจะมีความสุขกว่า แต่ถ้าคุณเป็นคนสบายๆ ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย ชอบชีวิตเรียบง่าย รักธรรมชาติ ไม่ชอบอะไรหวือหวา เราขอแนะนำเลยว่า คุณเลือกนิวซีแลนด์เถอะ เพราะมันจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มากสำหรับคุณ ชีวิตที่นี่มันง่าย สบายๆ ไม่ต้องแก่งแย่ง เวลาว่างเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปเที่ยวเมืองต่างๆ รอบๆได้ ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ไปเที่ยวเกาะใต้ ยิ่งถ้าได้ไปเกาะใต้แล้ว เราพูดได้เลยว่าคุณจะหลงรักที่นี่ รักธรรมชาติที่นี่จนไม่อยากกลับเลยที่เดียว
สอง อย่าเชื่อคนที่เค้าพูดว่า ไปนิวสิ คนไทยน้อย มันไม่จริง !
เราเป็นคนนึงที่พ่อแม่บอกให้มาเรียนที่นี่เพราะมีหลายคนพูดว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีคนไทยน้อย อย่าไปเลยเมกา อย่าไปเลยออสจะเจอแต่คนไทย แล้วภาษาจะได้พัฒนาหรอ แต่ความจริงแล้ว เราพูดได้เลยว่า ถ้าคุณเลือกมาโอ๊คแลนด์วันนี้ 80เปอร์เซ็นท์ของคนที่เดินอยู่ในควีนสตรีท เป็นคนเอเชีย ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะได้ยินเสียงคนไทยแว่วๆไม่ขาดสาย 55555 แต่ถ้าเทียบกับจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย อาหรับ ยอมรับเลยว่าคนไทยน้อยกว่าก็จริง บางรรบางห้องเรียนมีคนไทย 4-5คน แต่ถ้าเลือกรรแพงหน่อย คนไทยจะน้อยหน่อย โอ๊คแลนด์วันนี้โดนเฉพาะในย่านเศรษฐกิจ เหมือนเอเชียทาว เหมือนเดินอยู่ที่ไหนก็ไม่รุที่ไม่ใ่นิวซีแลนด์ 55555 แต่สำหรับคนที่อยากมานิวจริงๆ ชอบประเทศนี้ แล้วอยากพัฒนาภาษาแล้วไม่อยากเจอคนไทย มั่นใจในตัวเองว่า ฉันเนี๊ยะ รักธรรมชาติ ชอบเมืองเงียบๆจริงๆ เราแนะนำให้ไปอยู่เมืองอื่นที่ไม่ใช่โอ๊คแลนด์ โคโลมานเดล ไคลชเชิท เนลสัน เวลลิงตั้น อะไรพวกนั้นไปเลย เพราะภาษาน่าจะพัฒนาได้ดีกว่ามาที่นี่เป็นไหนๆ ถ้าทนได้ 5555
สาม อยู่โฮสดี หรือ อยู่เองดี ยังไงดีนะ ?
จากประสบการณของเราเลยนะ ถ้าใครมาปรึกษาเราเรื่องนี้ เราแนะนำให้อยู่กับโฮส เลือกโฮสเลย คำตอบสุดท้าย ! 5555
เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าการมาเรียนภาษายิ่งระยะเวลาสั้นๆ 3-6เดือน ถ้าไม่อยู่กับเจ้าของภาษามันจะได้ภาษาหรอ ? เพราะการมาเรียนภาษาเอาจริงๆแล้วถ้าใครคิดอยากจะมีเพื่อนเป็น Native speaker ละก็ คุณค่อนข้างคิดผิด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเพื่อนเป็น native เพราะคนพวกนี้เค้าไม่ได้ต้องมาเรียนภาษากับเราอยู่แล้ว เพื่อนส่วนมากที่มีก็จะเป็นเด็กต่างชาติที่มาเรียนที่รรเดียวกัน พูดกันถูกๆผิดๆพอสื่อสารกันรู้เรื่อง การอยู่กับโฮสมันจะทำให้คุณได้พูดภาษากับเจ้าของภาษาในชีวิตประจำวัน ได้เรียนร็วัฒนธรรมของเค้า เพราะจากที่เพื่อนเราประสบปัญหา ส่วนมากคืออยู่กันเอง แล้วอยู่กับคนไทย มันทำให้ไม่ได้อะไรเลย กลับไปก็พูดแต่ภาษาไทย อารมณ์เหมือนแบบ เรียน wall street แล้วกลับบ้าน แต่ดีกว่าตรงที่อาจมีเพื่อนต่างชาติบ้างแค่นั้น ส่วนข้อเสียของการอยู๋โฮสก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี รรส่วนมากไม่ค่อยสนใจเรื่องโฮสสักแต่จะเอาตังค์ และโฮสส่วนมากก็คิดว่าการรับเป็นโฮสคือช่องทางหารายได้เสริม แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีที่ดีดีเลย เรายอมรับว่าเราค่อนข้างโชคดีที่ได้โฮสดีไม่ใช่แค่เราแต่เพื่อนส่วนมากในรรของเราก็แฮปปี้กับโฮสของตัวเอง เพราะรรค่อนข้างที่จะเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างมาก ถ้าโฮสคนไทนถูกเด็กแจ้งเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 2-3ครั้ง ติดๆกัน เค้าก็จะตัดโฮสบ้านนั้นออกจากระบบไปเลย
สี่ ตั้งเป้าหมายของตัวเองในแน่นอน มาเรียน มาทำงาน แค่อยากหาประสบการณ์ให้ชีวิต ?
จากที่เราประสบพบเห็นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เราขอแนะนำว่าสำหรับคนที่ตั้งใจมาเรียนเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษจริงๆ เตรียมตัวสอบต่างๆ ว่าไม่ควรทำงาน เพราะเมื่อคุณทำงานแล้วคุณจะไม่มีสติ สมาธิเท่าที่ควรให้กับการเรียน ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ต้องนอนดึกตื่นเช้า เวลารรมีกิจกรรมก็ไปทำกับเค้าไม่ได้ เวลาจะสอบอยากหยุดงานที่ทำงานก็ไม่ให้หยุด ขาดคน ต่างๆนาๆ เราไม่ได้พูดว่าการทำงานเปนสิ่งไม่ดี จริงๆแล้วการทำงานมันก็ทำให้ได้ประสบการณ์มากขึ้น เรียนร็ชีวิต แถมได้ค่าขนม (ที่ถูกกดค่าแรงอย่างหดหู่ โดยเฉพาะร้านไทย อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆว่า เป็นคนไทยด้วยกันไมถึงกดกันเอง ทำไมทำแฟร์ๆให้เป็นค่าแรงขั้นต่ำอย่างฝรั่งเค้าไม่ได้ ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายของตัวคุณเองว่า อยากได้อะไรกันแน่ ? ตัวเองอยู่จุดไหน แล้วทำจุดนั้นให้ดีที่สุด
ห้า ระยะเวลาในการเรียน นานเท่าไหร่ดีนะ ?
เราเลือกลงครอสภาษาเป็นเวลา 6 เดือน ตอนนี้เริ่มอยากอยู่ต่อ ซึ่งตอนแรก เราก็คิดว่ามันคงพอกับการพัฒนาภาษาอังกฤษของเรา เพราะเราค่อนข้างมีพื้นฐานอยู่บ้างระดับหนึ่ง แล้วเราก็เริ่มเรียนในระดับซึ่งค่อนข้างสูงเลย (จากผลสอบ) แต่เราพบว่า การที่เราเริ่มจากขั้นสูงๆนั้น ทำให้เราเห็นการพัฒนาของตนเองได้ช้ากว่าคนที่เริ่มจากศูนย์ หรือคนที่ไม่ค่อยเป็น ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เราค้นพบว่า 6เดือน จริงๆแล้วมันไม่ได้นานอย่างที่เข้าใจ เวลาผ่านไปเร็วเสมอ การเรียนภาษามันต้องใช้เวลาที่มากกว่านั้น สำหรับคนที่มีเวลา ไม่รีบร้อนต้องทำอะไร เราคิดว่าอย่างน้อย 9เดือน - 1ปี เป็นระยะเวลาที่โอเคที่จะเห็นการพัฒนาตนเองในระยะยาว ทั้งฟัง พูด อ่านเขียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็อยู่กับตัวของตัวเองด้วยว่าทุ่มให้มันแค่ไหน เหมือนที่เค้าว่า you are what you eat การเรียนภาษาอังกฤษมันก็เหมือนกันนั่นหละ
จริงๆน่าจะมีอะไรสำคัญๆอีก แต่ตอนนึ้ดึกแล้ว สมงสมองเบลอๆไปหมด มีอะไรอยากถาม อินบ๊อกได้นะ เราว่าง 5555
หวังว่าที่เขียนไปจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆ น้องๆที่สนใจ หรือคิดจะเรียนภาษาต่ออยู่บ้าง
สำหรับเรา ตอนนี้เอาจริงๆแล้ว เราก็ค่อนข้างมีความสุขกับการอยู่ประเทศนี้นะ ตอนแรกก็ไม่ชอบอย่างที่บอก แต่เพราะเราชอบถ่ายรูป
เราชอบเที่ยวที่นี่ เมือง ธรรมชาติเค้าสวยมาก คิดว่าจะทำกระทู้เรื่องเที่ยวนิวอยู่เหมือนกัน ไว้จะเอารูปมาอวดให้ดูกันนะ เผื่ออยากจะมาเรียนที่นี่มากขึ้น ถึงบางทีมันจะน่าเบื่อไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับที่ไทยแล้ว ก็คงไม่อยากกลับ ชีวิตที่นี่มันสบาย สบายจนไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตเดิมๆที่ไทยเลย
อ๋อ สำหรับคนที่อายุเข้าผับได้แล้ว เราแนะนำเลยว่าถ้าอยากเป็นภาษาไวๆ ลองเข้าผับดิ ! มันดีนะ
มันจะช่วยมากๆ เพราะคนในนั้นเค้าจะเฟรนลี่ พูดง่ายๆ แอลกอฮอลเข้าปาก แล้วภาษาพุ่ง 555555
เพื่อนหลายคนของเราพูดเก่งขึ้นเพราะสิ่งนี้ ทางทีดีหาแฟนฝรั่งเลยห๊ะ เวิคชัวร์ ! 55555 หรือไม่ก็ไปโบถ อย่าคิดมากเรื่องศาสนา ลองไปโบถดู
คนที่โบถส่วนมากเป็น Native speaker เค้าใจกว้าง เข้ามาคุย มาสอน มาช่วย มันก็ช่วยพัฒนาได้ไปอีกแบบนึงหละ
ส่วนสำหรับคนที่อยากมาเรียนไอเอลที่นี่ เราพูดได้เลยว่าที่นี่กับที่ไทยถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ที่ไทยจะสอนเข้มข้นกว่า
ที่นี่เค้าจะเน้นให้ทำเอง ไม่ได้มี trick อะไรมากแบบที่ไทยสอน แต่การมาเรียนที่นี่ น่าจะได้เรื่องของ spreaking กับ listenning ที่เป็นข้อได้เปรียบ
ไงก็ไว้แค่นี้สำหรับวันนี้ก่อนนะคะ ยังไงถ้าคิดไรเพิ่มเติมได้จะมาเติมใหม่น้า