อะไรเอ่ย? คือการเป็นพนักงานที่ดี

อะไรเอ่ย? คือการเป็นพนักงานที่ดี



เมื่อเช้านี้ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิท โทรมาเล่าว่ามันโดนเจ้านายดุ เรื่องที่มันส่งงานช้าเกินเวลาไป 1 วัน เห็นมันบ่นๆว่า “ก็แฟนเพิ่งคลอดลูก เจ้านายก็ต้องเห็นใจกันบ้าง” ผมนี่รมเสียเลยครับ พอดีผมนี่ก็เคยเจอปัญหาลูกน้องส่งงานช้าทั้งที่รับปากซะดิบดีว่าจะส่งงานวันไหน กลายเป็นผมเองก็ส่งงานเค้าแทบไม่ทัน ที่แน่ๆงานร้อนแก้ไม่ทัน ลูกค้าไม่ค่อยประทับใจอีก แล้วลูกน้องแบบนี้ผมจะไปฝากผีฝากไข้ ขึ้นเงินเดือน มอบหมายหน้าที่ต่อไปได้อย่างไรครับ อ้อ ลืมไป เล่าต่อเรื่องเพื่อนของผม คือ ผมเองก็ไม่กล้าจะโวยใส่เพื่อนผมมาก เพราะมันก็เพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาแต่มัธยม กลัวมันจะเสียใจอ่ะครับ มันอุตส่าห์โทรมาเล่า แต่ผมก็บอกมันให้คิดในทางกลับกันดูบ้างว่าถ้าเราเป็นนายคนเราจะอยากได้พนักงานแบบไหน และนี่ก็เป็นที่มาของบทความนี้ครับ บทความนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่ไปกว่าบทความของคนอื่นๆ ที่เค้าพยายามแนะนำว่าพนักงานที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร  แต่บทความนี้ผมเลือกหัวข้อที่คิดว่าพนักงานท่านไหนมาครบแล้วล่ะก็ จะต้องเป็นพนักงานชั้นดีที่อนาคตมีแต่โตๆๆๆเพื่อไปเป็นผู้บริหารแน่นอนครับ

1. คุณจะต้องรู้และเข้าใจเป้าหมายขององค์กร (Know Your Organization' Goals)

แม้ว่าคุณคิดว่าคุณเป็นแค่เป็นพนักงานคนนึงของบริษัทและคุณก็มีเป้าหมายชีวิตของคุณเอง แต่อย่าลืมว่าพนักงานอย่างคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กรเช่นกัน คุณควรจะมีเป้าหมายในการทำงานเช่นเดียวกับเป้าหมายของนายจ้างหรือองค์กรเพราะมันจะทำให้คุณมีไฟในการทำงานและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนครับ

2. ตรงต่อเวลา (Be on time)

คุณควรจะตั้งเป้าว่าจะต้องไปถึงที่ทำงานก่อนเวลาทำงานอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลาเข้างาน เพราะถ้าหากมีเรื่องด่วนขึ้นมาระหว่างการเดินทางไปที่ทำงาน อย่างน้อยคุณก็จะไปถึงที่ทำงานตรงเวลา หรือถ้าคุณขับรถไปทำงานและต้องจอดรถไกลจากออฟฟิศ คุณก็จะไม่ไปทำงานสายอยู่ดี และอีกอย่างก็คือ ถ้าลูกค้าของคุณมาเช้าก่อนเวลานัดประชุม คุณก็จะเป็นคนที่อยู่ทันเวลาที่จะทักทายลูกค้าครับ

3. อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ (Don't stop learning)

ถ้าคุณมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติม  ไม่ว่าจะเป็นทักษะที่ตรงกับหน้าที่ที่คุณรับผิดชอบหรือไม่ หรือถ้าคุณได้รับโอกาสที่จะไปเทรนโดยที่นายคุณเห็นว่าคุณมีความเหมาะสมแล้วล่ะก็ อย่าพลาดทีจะคว้าโอกาสนั้นไว้นะครับ การที่คุณได้ศึกษาเพิ่มเติม ได้เรียนรู้และมีทักษะใหม่ๆเพิ่มขึ้น มันจะเป็นใบเบิกทางให้กับคุณครับ ความรู้ความสามารถใหม่ๆจะทำให้คุณได้รับโอกาสในการทำงานใหม่ๆมากขึ้น เมื่อคุณพิสูจน์ได้ว่าคุณมีความสามารถหลากหลายและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมมั่นใจว่าการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งอยู่ไม่ไกลครับ

4. ส่งงานให้ตรงเวลา (Meet Your Deadlines)

เรื่องนี้สำคัญมากครับ เพราะสำหรับผม มันคือจุดเริ่มต้นของบทความนี้ ผมคิดว่ามันคือความรับผิดชอบด้วย ความรับผิดชอบสำคัญมากต่อการทำงานและมันทำให้มองไปถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวคุณเองด้วย

เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ หากคุณได้รับมอบหมายให้ทำงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง โดยที่มีกำหนดวันส่งงาน นั่นหมายความว่านายของคุณคาดหวังว่าคุณกำลังทำงานนั้นอยู่และรอดูผลงานของคุณ คุณควรจะตั้งเป้าหมายว่าคุณจะต้องส่งงานให้ไวกว่าวันที่จะต้องส่งงานอย่างน้อยหนึ่งวัน

คุณควรจะให้เวลานายของคุณในการตรวจงาน แก้ไขงาน ก่อนที่จะนำงานนั้นออกไปใช้จริง อย่าปล่อยให้ผลงานของคุณเป็นผลงานที่เร่นด่วนวินาทีสุดท้ายซึ่งไม่ได้ผ่านการตรวจอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เพราะนั้นหมายถึงผลงานขององค์กรด้วย

เป็นไงครับ ง่ายๆ 4 ข้อ ที่อ่านแล้วเข้าใจกันทุกคน แต่เวลาปฎิบัตินี่สิครับ ผมเห็นหลายๆคนมีข้ออ้างมากมายสรรหาลากมาตั้งแต่อาม่าอากงไม่สบายยันหลานไม่สบาย (ครบทั้งตระกูลเลยครับ) ผมไม่ได้จะใจร้ายกับพนักงานนะครับ การอยู่ร่วมกันในที่ทำงาน การทำงานเป็นทีมเดียวกัน และการที่ทุกคนต้องมีเรื่องส่วนตัวบ้างเป็นเรื่องธรรมดาครับ องค์กรย่อมเข้าใจครับแต่ถ้ามันมากเกินไป เช่น อาม่าป่วยทุกวันจันทร์ สัก2เดือนติดกันแล้วคุณไม่หาทางแก้ไขกับเรื่องส่วนตัวเลย ซึ่งถ้ามันทำงานงานคุณเป๋ แบบนี้ผมว่าคุณชักขาดความรับผิดชอบแล้วล่ะครับ ซึ่งคนแบบนี้แม้ว่าจะฉลาดเรียนจบเกียรตินิยมมา องค์กรก็ต้องเบ้ปากและไม่ยอมรับกันทั้งนั้นล่ะครับ วันนี้ฝากไว้เท่านี้ครับ ขอให้คุณเป็นพนักงานที่ดีที่โตไปกับองค์กรนะครับ ยิ้ม

AEC Job Listing Team

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่