...I see ที่แท้ หลวงปูพุทธอิสระก็คือ"พระอุตตระ"ที่พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งมาเผยแพร่ศาสนาพุทธแถบสุวรรณภูมิเมื่อกว่า 2 พันปี

กระทู้สนทนา
ประวัติสุดยอด...หลวงปู่พุทธอิสระ !!!


โอ๊วววว
หากหลวงปู่ไม่บอก ไม่รู้นะเนี่ยะ
ท่านคือพระอุตตระ ที่มากับพระโสณะเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาในแถบสุวรรณภูมิ..ก๊อด !

ไม่รู้จริงๆว่า ท่านคือคนสร้างพระปฐมเจดีย์ด้วย..ว๊าววววว
ท่านคือพระโพธิสัตว์ และจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10..จุ๊จุ๊

ในอดีตชาติท่านเคยเป็นสังฆราช ในลังกาแล้วด้วยนะ
หลังจากนั้น ก็เสด็จมาเป็นหลวงปู่เทพโลกอุดร (โลกอุดรหรือโลกอวดอุตริวะ ?)
ท่านเกี่ยวข้องกับวังหน้า(สมัย ร.1)อีก

พอดีพอร้าย..
จำเป็นต้องมาเกิดใหม่
มีให้เลือกระหว่างเกิดเป็นลูกสุนัข หรือเป็นเด็กชาย

ท่านไม่เลือกเกิดเป็นลูกสุนัข..เสียดาย
แต่เลือกเกิดเป็นเด็กชาย ชื่อ ด.ช.สุวิทย์ ทองประเสริฐ

โว๊ววววว
นี่ท่านเล่าเองเลยนะ...
อ่านเถอะ มันส์  อ่านจบแล้วกราบซะ
นี่คือ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 เชียวนะเว้ยยย ..ซิบอกให่ !!!





ปาราชิก คือประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภท ครุกาบัติที่เรียกว่า อาบัติปาราชิก

คำศัพท์ว่า ปาราชิกนั้น แปลว่า ยังผู้ต้องพ่าย หมายถึง ผู้ต้องพ่ายแพ้ในตัวเองที่ไม่สามารถปฏิบัติในพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ได้

ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่

1.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)
2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ได้ราคา 5 มาสก(5 มาสกเท่ากับ 1 บาท)
3.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) แสวงหาและใช้เครื่องมือประหารและจ้างวานฆ่าคน หรือพูดพรรณาคุณแห่งความตายให้คนนั้นๆยินดีที่จะตาย(โดยมีเจตนาหวังให้ตาย)
4.กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

อาบัติปาราชิกทั้ง 4 นี้เป็นอาบัติหนักที่เรียกว่า อเตกิจฉา คือไม่สามารถแก้ไขได้เลย

""""""""""""""""""""""""

ผมเชื่อนะ
เพราะว่า...ผมเป็นคนหูเบา !!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่