Inspiration Conquers Limitation: อยากเรียนต่อโทเอกเมืองนอกแต่เกรดป ตรีน้อยทำอย่างไร

กระทู้สนทนา
ขอแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวผมเอง ผมจบ ป ตรีด้วยเกรดเฉลี่ย 2.22 น่าจะต่ำสุดในรุ่นที่จบมา และเป็นเด็กต่างจังหวัด ไม่มีพี่น้องหรือญาติคนไหนเคยมาเรียนระดับโทเอกที่อเมริกามาก่อน เรียกได้ว่าไม่มีข้อมูลอะไรโดยสิ้นเชิง ถึงหลายคนจะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วแต่เรื่องมาเรียนต่อเมืองนอกยังอยู่ในใจผมเสมอมาและผมไม่ต้องการมาเอาดีกรีจากยูอะไรก็ได้ ผมต้องการยูที่ได้มาตรฐาน ผมตั้งเป้าไปที่ยูท็อป 100

หลังจากจบ ป ตรี ผมยังมึนกับชีวิตไม่หาย ผมสับสนว่าจะเอายังไงดี จะมุเตรียมตัวสอบไปเลยปีนึงเกรดต่ำขนาดนี้คงต้องใช้คะแนน TOEFL และ GRE มาช่วยดึง หรือว่าจะทำงานไปก่อนแล้วเตรียมตัวไปด้วย แต่ก็ธรรมดาด้วยเกรดขนาดนี้ผมมีปัญหาในการหางานอีกต่างหาก ตอนนั้นเหมือนสองจิตสองใจ หางานไปด้วยเตรียมตัวไปเรียนไปด้วย แต่ทำอะไรก็ไม่เต็มที่เพราะความสับสน

เรื่องเรียนต่อนี้ก็เหมือนมืดแปดด้าน เคยเข้าไปปรึกษาสถาบันแนะแนวหลายๆ ที่ เกือบทุกที่ก็จะออกแนวมึนเหมือนกันเพราะเคสอย่างนี้ไม่ค่อยมี โดยทั่วไปแล้วคนจะไปเรียนเมืองนอก ถึงเกรดจะไม่สูงมากแต่ก็ไม่ควรจะน้อยขนาดนี้ และส่วนมากแนะนำให้ไปยูที่เข้าง่ายๆ แต่มาตรฐานไม่ดีนัก ซึ่งผมไม่ต้องการ ถึงจะเหนื่อยแต่ผมไม่ย่อท้อ เตรียมตัวสอบ หาข้อมูลทุกทาง ถึงแม้ว่าโอกาสมันจะดูเลือนลางแค่ไหนก็ตาม ผมยอมรับข้อผิดพลาดในอดีตของผมแต่ให้อภัยตัวเอง และพร้อมที่จะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้น ขอบคุณทางบ้านที่ให้การสนับสนุนและ internet ที่ทำให้ผมเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง

หลังจากได้งานผมก็ยังเรียนภาษาไปด้วย ผมเริ่มต้นด้วยการสอบ TOEFL ก่อน ครั้งแรกคะแนนก็ไม่ดีนัก ผมไม่ได้เก่งภาษา กลับไปเตรียมตัว แก้ไขข้อบกพร่อง สองสามเดือนมาสอบใหม่ คะแนนขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่ถึงมาตรฐาน ผมสอบอยู่หลายครั้งจนรู้สึกว่าผมต้องทุ่มกับมันมากขึ้น ผมลาออกจากงานมาเตรียมตัวเต็มที่ (อันนี้ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและพื้นฐานของแต่ละคน หลายคนสอบได้ดีในขณะที่ทำงานไปด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องออกจากงาน ต้องรู้ตัวเอง)

ผมสอบ TOEFL และ GRE อยู่หลายครั้งจนคะแนนผ่านมาตรฐานและเริ่มคงที่ ด้วย GPA อันกะจิดหริด คะแนน TOEFL-GREระดับปานกลางพอผ่าน และประสบการณ์ทำงานอันน้อยนิด ผมตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการถัดไปคือกระบวนการสมัคร โดยหาหนังสือ ranking แล้วเลือกสมัครยูท็อป 100 ของสาย engineering โดยสมัครตั้งแต่ท็อป 25 ลงมา รอบนี้ผมสมัครไปสิบกว่าที่ (เทอม Fall) สมัครแล้วยังส่งเมลล์ไปถึงหัวหน้าโปรแกรมแนะนำตัวและบอกถึงความตั้งใจของเรา รวมถึงทำ research เกี่ยวกับงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจและส่งเมลล์ไปติดต่อแนะนำตัวเลย หลายครั้งก็เงียบหาย หลายคนก็ตอบกลับมา บางครั้งก็ช่วยอธิบาย process การคัดเลือกให้อีก ผมได้ความรู้มากมาย
  

อย่างไรก็ตามรอบนี้ผมโดนปฎิเสธเรียบ (และอย่างรวดเร็ว) ผมท้อใจอย่างที่สุด  เวลาเข้าไปอ่าน requirement ในเวปมหาลัยต่างๆ ก็มักบอกเกณฑ์ชัดเจน ยิ่งดูเกณฑ์ GPA ยิ่งละเหี่ยใจ คนเกรดไม่ถึงเกณฑ์จะเข้าใจดี แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและทุกคนรอบข้าง ผมสมัครใหม่อีกรอบสำหรับเทอม Spring และ Fall ของปีถัดไป โดนเรียบอีกตามเคย ลืมบอกไปว่าช่วงของการสมัครมหาลัยนี้ผมทำงานกับอาจารย์ที่มหาลัยเก่า อาจารย์ท่านก็กรุณาจ้างผมให้ทำงานไปพลางๆ ผมคิดว่าถ้าหมด deadline การสมัครของปีนี้ไปแล้วก็คงจะเลิกแล้ว คงเรียนต่อในประเทศนี่แหละ อย่างน้อยเรียนมหาลัยเดิมของเราก็ไม่น่ามีปัญหา ผมปลงแล้วจริงๆ

จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ที่งานนิทรรศการแนะแนวการศึกษาอเมริกางานหนึ่งซึ่งผมได้ไปมา ผมก็ตระเวณถามไถ่หาข้อมูลต่างๆ ไปเรื่อย ผมก็ได้มาหยุดที่บูทมหาลัยแห่งหนึ่งซึ่งผมไม่เคยได้ยินชื่อและสมัครมาก่อน และเป็นที่ที่ทำให้ความฝันของผมเป็นจริงๆ นั่นคือ Michigan Technological University มหาลัยที่อยู่ในเมืองเล็กของ Michigan ฝั่ง Upper Peninsular ผมกลับมาดู  Ranking อยู่อันดับ 85 ของ engineering graduate school ผมไม่รอช้าที่จะสมัคร (ถึงในเวปจะบอกชัดเจนว่าอย่างน้อย 3.00) ผมสมัครที่นี่เป็นที่สุดท้าย

ผมทำตามแบบที่เคยทำคือ ติดต่อหัวหน้าภาคและอาจารย์ต่างๆ ในภาควิชาไปด้วย และวันที่จดหมายมาถึงบ้านเป็นวันที่ผมไม่เคยลืม ทุกทีถ้าเป็นจดหมายปฏิเสธจะบางเพราะภายในเป็นกระดาษปฏิเสธแผ่นเดียว แต่คราวนี้มันมีอะไรที่แตกต่างเพราะมันหนาเหมือนแนบรายละเอียดมากมายข้างใน เป็นอย่างที่คิด ผมได้รับการตอบรับเข้า Master program in Chemical Engineering ในที่สุด

สรุปผมใช้เวลากับกระบวนการนี้ 3 ปีเต็ม สอบโทเฟลไปประมาณหกครั้ง GRE สองครั้ง สมัครยูไปกว่า 30 ที่ ได้ประสบการณ์มากมายจากตรงนี้ ต้องขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกคนทั้งครอบครัว แฟน อาจารย์ เพื่อนๆ และทุกกำลังใจที่ทำให้ความฝันนี้สำเร็จ

ทั้งหมดที่ผมแชร์มานี้เพื่อต้องการให้กำลังใจคนที่มีความฝันอยากมาเรียนต่อทุกคน  โดยเฉพาะถ้าเกรดน้อยด้วยแล้วยิ่งมืดแปดด้านไปกันใหญ่ เหนื่อยได้ ท้อได้ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเกรดอย่างผม ไม่มีพื้นฐานภาษาที่ดีมาแต่ต้นและไม่มีประสบการณ์ทำงานมากนัก สามารถเข้ายูท็อป 100 ได้ ทุกคนไปเรียนที่ไหนก็ได้ครับในโลก ขอให้เราตั้งใจ มีวินัย มีความหวัง คิดบวก เปิดใจเรียนรู้อยู่เสมอรับรองความสำเร็จมาถึงแน่นอน ผมพร้อมสนับสนุนเต็มที่

ถ้าใครมีคำถามหรือรายละเอียดและเทคนิคปลีกย่อยที่ต้องการจะรู้ เช่น ทำไมเขาถึงรับผม เทคนิคในการสมัคร เป็นต้น หรือประสบการณ์ที่อยากแชร์ เจอกันได้ที่ https://www.facebook.com/pages/Big-Brother-Edu/604123919689906?ref=aymt_homepage_panel



https://www.facebook.com/pages/Big-Brother-Edu/604123919689906?ref=aymt_homepage_panel
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่