เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลให้การเลือกปฏิบัติทางเพศทำไม่ได้ดังนี้
1. กฎหมายให้ความหมายของการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศว่า เป็นการกระทําอันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรือจํากัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เพราะเหตุที่บุคคลนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง หรือมีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกําเนิด (เพศที่ 3)
2. ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) ซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาที่มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และสามารถกำหนดให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการด้วยวิธีที่เห็นเหมาะสม รวมทั้งกำหนดค่าชดเชยให้ด้วย
3. ให้มีกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศเพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
4. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ วลพ. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
กฎหมายใหม่นี้นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ นะครับ โดยเฉพาะคนที่สังคมเรียกว่าเพศที่ 3 เพราะต่อไปนี้กฎหมายห้ามไม่ให้หน่วยงานต่างๆ ออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อแบ่งแยกกีดกันเพศที่ 3 อีกต่อไป
เรื่องที่ผมคิดขึ้นมาได้ทันทีเลยก็คือ เรื่องของการเกณฑ์ทหารของบุคคลเพศที่ 3 ที่แต่เดิมมักจะถูกกีดกันไม่ให้เกณฑ์ทหารเพราะว่าถูกบรรจุว่าเป็นบุคคลที่มีความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งหลังจากกฎหมายนี้บังคับใช้ ทางหน่วยทหารน่าจะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบนี้แน่นอนครับ
นอกจากนั้นตามกฎหมายใหม่นี้ หากใครยังแบ่งแยกหรือกีดกันเพศที่ 3 อยู่อีก ต่อไปนี้มีโทษถึงติดคุกอีกด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!
ที่มา
https://www.facebook.com/pages/Solicitor-Law/390272577820817?sk=timeline
'กฎหมายความเท่าเทียมระหว่างเพศ' ประกาศใช้แล้ว!
1. กฎหมายให้ความหมายของการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศว่า เป็นการกระทําอันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรือจํากัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เพราะเหตุที่บุคคลนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง หรือมีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกําเนิด (เพศที่ 3)
2. ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) ซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาที่มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และสามารถกำหนดให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการด้วยวิธีที่เห็นเหมาะสม รวมทั้งกำหนดค่าชดเชยให้ด้วย
3. ให้มีกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศเพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
4. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ วลพ. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
กฎหมายใหม่นี้นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ นะครับ โดยเฉพาะคนที่สังคมเรียกว่าเพศที่ 3 เพราะต่อไปนี้กฎหมายห้ามไม่ให้หน่วยงานต่างๆ ออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อแบ่งแยกกีดกันเพศที่ 3 อีกต่อไป
เรื่องที่ผมคิดขึ้นมาได้ทันทีเลยก็คือ เรื่องของการเกณฑ์ทหารของบุคคลเพศที่ 3 ที่แต่เดิมมักจะถูกกีดกันไม่ให้เกณฑ์ทหารเพราะว่าถูกบรรจุว่าเป็นบุคคลที่มีความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งหลังจากกฎหมายนี้บังคับใช้ ทางหน่วยทหารน่าจะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบนี้แน่นอนครับ
นอกจากนั้นตามกฎหมายใหม่นี้ หากใครยังแบ่งแยกหรือกีดกันเพศที่ 3 อยู่อีก ต่อไปนี้มีโทษถึงติดคุกอีกด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!
ที่มาhttps://www.facebook.com/pages/Solicitor-Law/390272577820817?sk=timeline