https://www.facebook.com/banphot.huajai?fref=nf
นพ.บรรพต หัวใจ หมอเอ้
14 กรกฎาคม 2014 · Makkasan · มีการแก้ไข ·
ขออนุญาตตอบคำถามคุณสรยุทธ
ที่ สปสช แสดงข้อมูลที่ระรานสิทธิ์อื่น
กับข้อมูลที่ว่า...
ข้าราชการใช้ค่ารักษา ต่อหัว ตก 12,000฿ ต่อคนต่อปี
ในขณะคนไข้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าใช้แค่ 2,700฿ต่อคนต่อปี
เป็นข้อมูลที่ถูกจัดฉาก!!!
เพราะเนื้อแท้เบื้องลึกที่มี
แยกเป็นประเด็นดังนี้
1. ตัวเลข 12,000฿
ไม่ใช่แค่ค่ายาอย่างเดียว แต่รวมถึงค่าห้องค่าอาหารด้วย และรวมถึงยามะเร็งแพงๆ ที่ไม่ได้ให้สิทธิ์อื่น
ทั้งๆ ที่ทั่วโลกใช้ยามะเร็งแพงๆ กลุ่มนี้รักษาจนเป็นสูตรมาตรฐาน
แต่ สปสช ต่างหากที่ไม่ได้ให้ยานี้อยู่ในบัญชียาหลักเอง คนไข้ก็ไม่เข้าถึง
แล้วมาโวยวายว่าตนเองแค่ 2,700฿
ลองให้คนไข้เข้าพักห้องพิเศษสิ
2,700฿ เอาไม่อยู่หรอก
2. ตัวเลข 12,000฿
มาจากคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ข้าราชการแก่ๆ ทั้งนั้น
ลองไปดูคนที่ใช้สิทธิ์ข้าราชการดู
ข้าราชการอายุน้อย ก็ให้สิทธิ์พ่อแม่
มองอีกมุม..
ตัวเป็นข้าราชการคนเดียว แต่มีคนไข้คนแก่ 2 คน หรือแม้แต่ข้าราชการบำนาญ ก็แก่แล้วทั้งนั้น
จาก 5 ล้านคนที่ใช้สิทธิ์
คนแข็งแรงจริงๆ มีแค่ล้านคน
อีก 4 ล้านคน เป็นคนไข้แก่ๆ
(ขอย้ำแก่ๆ หน่อยนะครับ)
คนแก่ ก็ต้องมีโรคภัยเยอะ
หมอก็ให้ยาเต็มที่ เป็นยาที่ดีที่สุด
ผมว่า 12,000฿ รวมค่ายาค่าห้องมันยังน้อยไปเลย!! เพราะข้าราชการรวยๆ เข้าโรงพยาบาลเอกชนจ่ายเอง
3. ลองไปดูตัวเลข 2,700฿ บ้าง
ที่ สปสช จ่าย คือแค่ค่ายา และค่าอาหารไม่กี่บาท
แต่เอาไปอ้างทั่วบ้านทั่วเมืองว่า
"หนูทำได้!!"
ลองมีใครไปตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่แท้จริง
โรงพยาบาลต้องรับภาระตั้งแต่ คนไข้ที่ไม่ดูแลตัวเอง จาก สปสช (จริงๆ ข้าราชการก็มี หมอด่าเท่าเทียมกัน)
พอมีรักษาฟรี..
คนเราก็กินเหล้า สูบบุหรี่ ขับรถเร็ว หรือแม้แต่เป็นไข้ 1 ชั่วโมงก็มาโรงพยาบาล
ถ้าคนไข้ไม่ดูแลตัวเอง ไม่รักษาเบื้องต้นมาก่อน
ภาระงานของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทวีคูณ ที่ต้องมาดูคนไข้กลุ่มนี้ กับคนไข้ที่เจ็บป่วยธรรมชาติไม่ได้เกิดจากเหล้า บุหรี่หรือแม้แต่อุบัติเหตุ
บวกกับปัญหาฟ้องร้องหมอมากขึ้น
จน รพ. อำเภอไม่กล้ารักษา ต่อส่งต่อมา รพ. จังหวัดหรือ รพ.ศูนย์
แน่นอนว่า...ต้องจ้างพยาบาลเพิ่ม
เจ้าหน้าที่ระดับอื่นๆ ก็ต้องเพิ่มขึ้น
แต่ กพ ไม่ได้บรรจุอัตรากำลังพลของเจ้าหน้าที่เป็นข้าราชการ
โรงพยาบาลต่างหากที่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าจ้างเงินเดือน
พยาบาลจบใหม่ ป.ตรี เดือนละ 15,000฿
จ้าง 10 คน ก็ 150,000฿/เดือน
ไหนจะค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์
คนมาก ขยะมาก มีค่าแม่บ้านทำความสะอาด ค่าทิ้งขยะ
แน่นอนกำไรที่ได้จากการรักษาข้าราชการ คือ รายได้หลัก ที่จะไปจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้
สปสช เคยนึกถึงต้นทุนเหล่านี้ไหม
ไม่ใช่คิดแต่ค่ายาและค่าบริหารของตนเอง แล้วเอาไปโพทนาไปทั่วบ้านทั่วเมือง ว่า 2,700฿ เอาอยู่
จริงๆ หากย้อนไปตอนที่มีโครงการ 30฿ ค่าหัวแค่ 1,200฿ แต่ปีนี้ไม่ใช่ 2,700฿ แต่เป็น3,300฿ ด้วยซ้ำ
แล้วยังจะมาโอ้อวดตัวเลขบ้าบอนี้อยู่ได้
ในเมื่อมันเพิ่มขึ้นมาจะ 3 เท่าตัวแล้ว
อ้อ!! ยาบางตัว ให้โรงพยาบาลฉีดให้คนไข้ไปก่อน แล้วซื้อมาคืนก็มี
นี่ไม่รวมค่าเข็มค่าอะไรต่อมิอะไรนะ
ทำเนียนตลอด กะว่าไม่ต้องการให้ รพ ได้กำไรสักแดงเดียว
4. จากตัวเลข 2,700฿
ของคนไข้ สปสช มีตั้งแต่เด็กยันแก่
มีคนวัยทำงาน คนป่วยก็น้อย
บางส่วนไปรักษาที่คลินิก โรงพยาบาลเอกชน หรือซื้อประกันชีวิต
ผมว่าเกิน 5 ล้านคน
เพราะพี่ๆ บางคนเปิดคลินิก ได้เดือนละ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท
คนไข้เหล่านั้นไม่ใช่คนไข้เบิกได้ แต่มาจากชาวบ้านตาดำที่ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพทั้งนั้น
5. ตัวเลขฝั่ง 12,000฿ กับ 2,700฿
ลองย้อนไปดูปีก่อนๆ
หรือปีหน้าสิ
จะรู้ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งยาและค่าห้องพิเศษค่าหารฝั่งข้าราชการลดลง
ส่วนฝั่ง สปสช มีค่ายากับค่าอาหาร ขอเบิกจากรัฐเพิ่มขึ้น
ผมขอพูดกลางๆ นะ
สปสช คุณทำงานที่มีเป้าหมายที่ดี
แต่อย่ามาระรานสิทธิ์อื่นๆ ด้วยผลงานตัวเลขที่ไม่แท้จริงของคุณได้ไหม
กรมบัญชีกลางปีนี้ก็

ดันเพิ่มวงเงินค่าห้องพิเศษให้คนไข้ข้าราชการ
เดี๋ยวลองดูปีหน้านะ ตัวเลขเกิน 12,000฿ ก็บีบให้ลดค่ายา
ใช้ตรรกะอะไรคิด?!?
คนไข้ยอมผูกเปลข้างโรงพยาบาล
หรือปูเสื่อนอนหน้าลิฟท์ ขอแค่ได้ยาดี
จำไว้!!!
สุดท้าย!!
แทนที่แต่ละสิทธิ์จะมากัดกันเอง
ไปแก้ต้นเหตุสิ!!
1. บรรจุข้าราชการด้านสาธารณสุข เพื่อไม่ให้โรงพยาบาลหาเงินจ้างเอง
จะให้ทอดกฐินหาเงินทุกปี มันน่าเกลียดนะผมว่า!!
2. คนไข้ที่เกิด จาก เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด อุบัติเหตุจากความมึนเมา หรือความเร็ว
ไม่ต้องรักษาฟรี!!!
3. หาวิธี เก็บภาษีรายได้จากร้านขายข้าวแกง จากอาชีพขายของออนไลน์ จากวินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ รถแท็กซี่ให้ได้เสียก่อนเถอะ
ข้าราชการรับเงินเดือนน้อย แต่จ่ายภาษีรายได้เป๊ะทุกปี
จะไม่ให้สิทธิ์รักษาพรีเมียมกว่า คงไม่มีใครอยากทำงานแน่ ลาออกหมด
4. แต่ละกองทุนมีบอร์ดคนละบอร์ด
ประกันสังคมเอย สปสช เอย และกรมบัญชีกลางเอย
ต่างคนต่างคิดจะประหยัดของตัวเอง
ไม่สนใจค่าใช้จ่ายที่ รพ รับภาระงานจากคนไข้ของพวกเอ็งเลย
พอได้กำไร ทำตัวเลขประหยัดงบได้
ก็พากันไปทัศนศึกษาดูงานต่างประเทศ
เคยนึกถึงคนที่เป็นเบี้ยล่างของผลงานที่พวกเอ็งได้หน้าบ้างไหม?!?
5. พัฒนายา และควบคุมมาตรฐานยาที่อยู่ประเทศไทย ทั้งนำเข้า ทั้งผลิตเองให้ได้ อย่าให้ยากระหลั่วๆ มาใช้กับคนไทย จนคนไข้หนีเข้า รพ เอกชน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นแผนการที่ตั้งใจ หรือเป็นความบังเอิญ
ผมเองอยากให้ทุกสิทธิ์คงอยู่
ได้เห็นคนไข้ไม่ต้องขายบ้าน ขายที่นา
มันชื่นใจที่มี สปสช
แต่ สปสช มาระรานคนอื่น มันแย่มาก
NGO ที่หนุนหลัง สปสช
ขอถามอีกครั้ง
"ความเท่าเทียมกัน กับ ความยุติธรรม มันต่างกันนะ"
คนไทยเสีย VAT ทุกคน
แต่เมริงจะไม่ให้เอา VAT ไปสร้างไปพัฒนาอย่างอื่นเลยรึไง
มัวแต่เอามาซ่อม!!
มิน่า!! มหาเธร์ ถึงสั่งขังลืม NGO
ครั้งที่พัฒนาประเทศมาเลเซีย
นพ.บรรพต ขออนุญาตตอบคำถามคุณสรยุทธ ที่ สปสช แสดงข้อมูลที่ระรานสิทธิ์อื่น
นพ.บรรพต หัวใจ หมอเอ้
14 กรกฎาคม 2014 · Makkasan · มีการแก้ไข ·
ขออนุญาตตอบคำถามคุณสรยุทธ
ที่ สปสช แสดงข้อมูลที่ระรานสิทธิ์อื่น
กับข้อมูลที่ว่า...
ข้าราชการใช้ค่ารักษา ต่อหัว ตก 12,000฿ ต่อคนต่อปี
ในขณะคนไข้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าใช้แค่ 2,700฿ต่อคนต่อปี
เป็นข้อมูลที่ถูกจัดฉาก!!!
เพราะเนื้อแท้เบื้องลึกที่มี
แยกเป็นประเด็นดังนี้
1. ตัวเลข 12,000฿
ไม่ใช่แค่ค่ายาอย่างเดียว แต่รวมถึงค่าห้องค่าอาหารด้วย และรวมถึงยามะเร็งแพงๆ ที่ไม่ได้ให้สิทธิ์อื่น
ทั้งๆ ที่ทั่วโลกใช้ยามะเร็งแพงๆ กลุ่มนี้รักษาจนเป็นสูตรมาตรฐาน
แต่ สปสช ต่างหากที่ไม่ได้ให้ยานี้อยู่ในบัญชียาหลักเอง คนไข้ก็ไม่เข้าถึง
แล้วมาโวยวายว่าตนเองแค่ 2,700฿
ลองให้คนไข้เข้าพักห้องพิเศษสิ
2,700฿ เอาไม่อยู่หรอก
2. ตัวเลข 12,000฿
มาจากคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ข้าราชการแก่ๆ ทั้งนั้น
ลองไปดูคนที่ใช้สิทธิ์ข้าราชการดู
ข้าราชการอายุน้อย ก็ให้สิทธิ์พ่อแม่
มองอีกมุม..
ตัวเป็นข้าราชการคนเดียว แต่มีคนไข้คนแก่ 2 คน หรือแม้แต่ข้าราชการบำนาญ ก็แก่แล้วทั้งนั้น
จาก 5 ล้านคนที่ใช้สิทธิ์
คนแข็งแรงจริงๆ มีแค่ล้านคน
อีก 4 ล้านคน เป็นคนไข้แก่ๆ
(ขอย้ำแก่ๆ หน่อยนะครับ)
คนแก่ ก็ต้องมีโรคภัยเยอะ
หมอก็ให้ยาเต็มที่ เป็นยาที่ดีที่สุด
ผมว่า 12,000฿ รวมค่ายาค่าห้องมันยังน้อยไปเลย!! เพราะข้าราชการรวยๆ เข้าโรงพยาบาลเอกชนจ่ายเอง
3. ลองไปดูตัวเลข 2,700฿ บ้าง
ที่ สปสช จ่าย คือแค่ค่ายา และค่าอาหารไม่กี่บาท
แต่เอาไปอ้างทั่วบ้านทั่วเมืองว่า
"หนูทำได้!!"
ลองมีใครไปตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่แท้จริง
โรงพยาบาลต้องรับภาระตั้งแต่ คนไข้ที่ไม่ดูแลตัวเอง จาก สปสช (จริงๆ ข้าราชการก็มี หมอด่าเท่าเทียมกัน)
พอมีรักษาฟรี..
คนเราก็กินเหล้า สูบบุหรี่ ขับรถเร็ว หรือแม้แต่เป็นไข้ 1 ชั่วโมงก็มาโรงพยาบาล
ถ้าคนไข้ไม่ดูแลตัวเอง ไม่รักษาเบื้องต้นมาก่อน
ภาระงานของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทวีคูณ ที่ต้องมาดูคนไข้กลุ่มนี้ กับคนไข้ที่เจ็บป่วยธรรมชาติไม่ได้เกิดจากเหล้า บุหรี่หรือแม้แต่อุบัติเหตุ
บวกกับปัญหาฟ้องร้องหมอมากขึ้น
จน รพ. อำเภอไม่กล้ารักษา ต่อส่งต่อมา รพ. จังหวัดหรือ รพ.ศูนย์
แน่นอนว่า...ต้องจ้างพยาบาลเพิ่ม
เจ้าหน้าที่ระดับอื่นๆ ก็ต้องเพิ่มขึ้น
แต่ กพ ไม่ได้บรรจุอัตรากำลังพลของเจ้าหน้าที่เป็นข้าราชการ
โรงพยาบาลต่างหากที่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าจ้างเงินเดือน
พยาบาลจบใหม่ ป.ตรี เดือนละ 15,000฿
จ้าง 10 คน ก็ 150,000฿/เดือน
ไหนจะค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์
คนมาก ขยะมาก มีค่าแม่บ้านทำความสะอาด ค่าทิ้งขยะ
แน่นอนกำไรที่ได้จากการรักษาข้าราชการ คือ รายได้หลัก ที่จะไปจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้
สปสช เคยนึกถึงต้นทุนเหล่านี้ไหม
ไม่ใช่คิดแต่ค่ายาและค่าบริหารของตนเอง แล้วเอาไปโพทนาไปทั่วบ้านทั่วเมือง ว่า 2,700฿ เอาอยู่
จริงๆ หากย้อนไปตอนที่มีโครงการ 30฿ ค่าหัวแค่ 1,200฿ แต่ปีนี้ไม่ใช่ 2,700฿ แต่เป็น3,300฿ ด้วยซ้ำ
แล้วยังจะมาโอ้อวดตัวเลขบ้าบอนี้อยู่ได้
ในเมื่อมันเพิ่มขึ้นมาจะ 3 เท่าตัวแล้ว
อ้อ!! ยาบางตัว ให้โรงพยาบาลฉีดให้คนไข้ไปก่อน แล้วซื้อมาคืนก็มี
นี่ไม่รวมค่าเข็มค่าอะไรต่อมิอะไรนะ
ทำเนียนตลอด กะว่าไม่ต้องการให้ รพ ได้กำไรสักแดงเดียว
4. จากตัวเลข 2,700฿
ของคนไข้ สปสช มีตั้งแต่เด็กยันแก่
มีคนวัยทำงาน คนป่วยก็น้อย
บางส่วนไปรักษาที่คลินิก โรงพยาบาลเอกชน หรือซื้อประกันชีวิต
ผมว่าเกิน 5 ล้านคน
เพราะพี่ๆ บางคนเปิดคลินิก ได้เดือนละ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท
คนไข้เหล่านั้นไม่ใช่คนไข้เบิกได้ แต่มาจากชาวบ้านตาดำที่ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพทั้งนั้น
5. ตัวเลขฝั่ง 12,000฿ กับ 2,700฿
ลองย้อนไปดูปีก่อนๆ
หรือปีหน้าสิ
จะรู้ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งยาและค่าห้องพิเศษค่าหารฝั่งข้าราชการลดลง
ส่วนฝั่ง สปสช มีค่ายากับค่าอาหาร ขอเบิกจากรัฐเพิ่มขึ้น
ผมขอพูดกลางๆ นะ
สปสช คุณทำงานที่มีเป้าหมายที่ดี
แต่อย่ามาระรานสิทธิ์อื่นๆ ด้วยผลงานตัวเลขที่ไม่แท้จริงของคุณได้ไหม
กรมบัญชีกลางปีนี้ก็
เดี๋ยวลองดูปีหน้านะ ตัวเลขเกิน 12,000฿ ก็บีบให้ลดค่ายา
ใช้ตรรกะอะไรคิด?!?
คนไข้ยอมผูกเปลข้างโรงพยาบาล
หรือปูเสื่อนอนหน้าลิฟท์ ขอแค่ได้ยาดี
จำไว้!!!
สุดท้าย!!
แทนที่แต่ละสิทธิ์จะมากัดกันเอง
ไปแก้ต้นเหตุสิ!!
1. บรรจุข้าราชการด้านสาธารณสุข เพื่อไม่ให้โรงพยาบาลหาเงินจ้างเอง
จะให้ทอดกฐินหาเงินทุกปี มันน่าเกลียดนะผมว่า!!
2. คนไข้ที่เกิด จาก เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด อุบัติเหตุจากความมึนเมา หรือความเร็ว
ไม่ต้องรักษาฟรี!!!
3. หาวิธี เก็บภาษีรายได้จากร้านขายข้าวแกง จากอาชีพขายของออนไลน์ จากวินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ รถแท็กซี่ให้ได้เสียก่อนเถอะ
ข้าราชการรับเงินเดือนน้อย แต่จ่ายภาษีรายได้เป๊ะทุกปี
จะไม่ให้สิทธิ์รักษาพรีเมียมกว่า คงไม่มีใครอยากทำงานแน่ ลาออกหมด
4. แต่ละกองทุนมีบอร์ดคนละบอร์ด
ประกันสังคมเอย สปสช เอย และกรมบัญชีกลางเอย
ต่างคนต่างคิดจะประหยัดของตัวเอง
ไม่สนใจค่าใช้จ่ายที่ รพ รับภาระงานจากคนไข้ของพวกเอ็งเลย
พอได้กำไร ทำตัวเลขประหยัดงบได้
ก็พากันไปทัศนศึกษาดูงานต่างประเทศ
เคยนึกถึงคนที่เป็นเบี้ยล่างของผลงานที่พวกเอ็งได้หน้าบ้างไหม?!?
5. พัฒนายา และควบคุมมาตรฐานยาที่อยู่ประเทศไทย ทั้งนำเข้า ทั้งผลิตเองให้ได้ อย่าให้ยากระหลั่วๆ มาใช้กับคนไทย จนคนไข้หนีเข้า รพ เอกชน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นแผนการที่ตั้งใจ หรือเป็นความบังเอิญ
ผมเองอยากให้ทุกสิทธิ์คงอยู่
ได้เห็นคนไข้ไม่ต้องขายบ้าน ขายที่นา
มันชื่นใจที่มี สปสช
แต่ สปสช มาระรานคนอื่น มันแย่มาก
NGO ที่หนุนหลัง สปสช
ขอถามอีกครั้ง
"ความเท่าเทียมกัน กับ ความยุติธรรม มันต่างกันนะ"
คนไทยเสีย VAT ทุกคน
แต่เมริงจะไม่ให้เอา VAT ไปสร้างไปพัฒนาอย่างอื่นเลยรึไง
มัวแต่เอามาซ่อม!!
มิน่า!! มหาเธร์ ถึงสั่งขังลืม NGO
ครั้งที่พัฒนาประเทศมาเลเซีย