มุมมองของนักปฏิบัติคนหนึ่งต่อท่านคึกฤทธิ์และแนวพุทธวจน (Only) ชวนนักปฎิบัติและเพื่อนสมาชิกมาแชร์ไอเดียกันครับ

Topic - แนวยึดเอาพุทธวจนอย่างเดียวโดยท่านคึกฤทธิ์

ในฐานะนักปฏิบัติ (รุ่นใหม่) คนหนึ่งผมไม่เห็นด้วยที่หลายๆคนในห้องศาสนาด่าว่าท่านด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม แต่เห็นด้วยว่าการยึดเอาพุทธวจนอย่างเดียวล้วนๆโดยไม่เอาคำสอนของพระอาจารย์ท่านอื่นๆเลยนั้นน่าจะเป็นการปิดโอกาศตนเองในการรับ inputs ที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญสติจากพระอาจารย์ที่มีความรู้และประสพการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากครับ

ในช่วงที่ผมยังล้มลุกคลุกคลาน ช่วงแรกๆของการเจริญสติผมยอมรับว่าคำสอนหรือภาษาของท่านคึกฤทธิ์นั้นเข้าใจง่ายและ topics ที่นำมาแชร์ลงใน youtube นั้นเป็นประเด็นที่ relate กับชีวิตประจำวันของตนเองได้เลย เรื่องความรัก มูลเหตุแห่งทุกข์ ตายแล้วไปไหน etc. มันเป็นคำถามในใจของคนทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งได้ดูได้ฟังก็ยิ่งศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้าเพราะท่านคึกฤทธิ์จะ refer ถึงพระศาสดาเสมอ รู้สึกทึ่งในความ genius ของพระพุทธเจ้าที่ท่านค้นพบเรื่องอริยสัจสี่ เป็นแรงบันดาลใจให้ศึกษาและมุ่งมั่นปฏิบัติมากยิ่งขึ้น

ผมมองว่าพระคึกฤทธิ์ท่านเป็นพระสมัยใหม่ (ท่านจบจากอเมริกา) concept ที่ท่านนำเสนอจึงถูกจริตของคนที่มีแนวคิดใหม่ๆ ต่างจากรูปแบบเดิมๆหรือตามธรรมเนียมปฏิบัติ ท่านสื่อสารโดยใช้คำง่ายๆและอธิบายได้โดยไม่ทำให้คนงง (อย่างผมเองไม่เข้าใจภาษาบาลีเลย ขนาดคำเบสิกอย่าง นามรูป ปิติ อุเบกขา ญาน ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร ก็เพราะยังไม่เคยได้ประสพหรือสัมผัสมันนั้นเอง) ผมให้ credit ท่านในเรื่องสนับสนุนให้คนเลิกงมง่ายในเรื่องไสยศาสตร์และเรื่องเครื่องรางของขลัง ผมชอบวิธีการนำเสนอของท่านที่เน้นในเรื่องของปัญญาและกระบวนการทางความคิดด้วยเหตุและผล (ผมไม่นิยมแนวอดีตพระเกษม)

สำหรับนักปฏิบัติใหม่การเรื่มต้นกับแนวนี้ผมมองว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะการที่พระคึกฤทธิ์ชี้ให้คนยึดพุทธวจนอย่างเดียวนั้นก็มีข้อดี เพราะหากมีหลักหรือฐานในการปฏิบัตธรรมเป็นพุทธวจนแล้ว คนๆนั้นย่อมไม่มีหลงทางแน่นอน

ปัญหา: การยึดเอาหลักพุทธวจนอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับทุกๆคนเสมอไป ในเรื่องการเจริญสตินั้นแต่ละคนมันมีความแตกต่างกันมากจริงๆ (ปัญญา ศรัทธา สิ่งที่สะสมมาตั้งแต่อดีต etc.) บางคนบรรลุธรรมได้โดยยึดหลักพุทธวจนอย่างเดียวตามท่านคึกฤทธิ์ แบบนั้นก็ดีไป แต่บางคนมันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ การปฏิเสธคำสอนของครูอาจารย์แบบไม่เอาเลยนั้นเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาศของตนเองในการได้รับ inputs ที่คุณอาจจะคลิ๊กแล้วทำให้คุณพัฒนาไปต่อได้

เมื่อก่อนผมเต็มร้อยกับแนวท่านคึกฤทธิ์ จนวันที่ตัวเองติดยังไปต่อไม่ได้ในระดับระดับหนึ่ง คำสอนบางคำ คำพูดบางประโยค ที่ผมได้ยินโดยบังเอิญจากคลิปของหลวงพ่อชาและท่านพุทธทาสนั้น มันคลิ๊กผม มันตรงกับระดับที่ยังก้าวข้ามไปไม่ได้ คำสอนนั้นเมื่อนำมาใช้ระหว่างการปฏิบัติก็เห็นผลว่าใช้ได้จริงๆ ไปต่อได้แบบชัดแจ้ง ไม่มี 50 50 มันไปได้เพราะรู้ชัดเจนแจ่มชัด ผมถึงบางอ้อเลยว่าเฮ้ย การปฏิเสธคำสอนของอาจารย์อื่นๆเลยนี่อาจเป็นการปิดกั้นโอกาศบรรลุธรรมได้เลยนะ

สรุป: ผมมองว่าพระคึกฤทธิ์เป็นพระที่ดี ท่านมีแนวทางของท่านชัดเจน ส่วนตัวผมไม่ตำหนิอะไรท่านเลยนะ (อันนี้แล้วแต่คนจริงๆ ผมเข้าใจได้สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวท่าน แต่ไม่เห็นด้วยจริงๆที่ไปด่าว่าท่านราวกับท่านเป็นพระที่แย่และเลวร้าย) ผมว่ามีพุทธวจนเป็นฐานให้เรารู้ว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ แล้วก็ต่อยอดด้วยคำสอนจากพระอาจารย์ต่างๆ แบบนี้เราจะรู้เลยทันทีว่าคำสอนใดเยส คำสอนได้ไม่น่าจะโอเค ใช้แนวผสมผสานให้เหมาะกับจริตของเราน่าจะดีที่สุด

วิธีที่ง่ายสำหรับเค้า อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราก็ได้
อย่าปิดกั้นตนเอง ทดลองก่อนถึงจะรู้ว่าแบบไหนที่ถูกกับจริตของเรา ... ผมว่านะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่