เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนคบกันมานานละ เค้ามักจะมีตรรกะอะไรแปลก ๆ ที่คนอื่นทั่วไปคิด หรือมักจะคิดเห็นอะไรแปลก ๆ กว่าตรรกะที่คนธรรมดาทั่วไปควรจะเป็น
ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เริ่มคบกัน เค้าก็บอกว่าไม่ได้จีบเรา แต่มาที่บ้านทุกวัน ซักพักเริ่มมีประมาณว่ามาแอบนอนหลับไม่ยอมกลับบ้าน พออีกซักระยะหนึ่งเริ่มเข้าห้องนอนเราละ แต่นอนใต้ที่ข้างเตียงนะ อีกซักพักเราเลยยอมให้มานอนบนเตียงด้วย(ยังไม่มีไรกันนะคะ) จนในที่สุดเรื่องอย่างว่าก็เกิดขึ้น(เราเริ่มก่อนเพราะคิดว่าเค้ามาจีบ ตอนนั้นเราก็เริ่มมีใจแล้วแหละ) แต่เค้าก็บอกว่าไม่ได้จีบ หลังจากคืนนั้น เค้าก็หายไปเกือบเดือน กว่าเราจะกลับมาคุยกัน
หลังจากนั้นเราก็อยู่ด้วยกัน แต่ก็แยกคนละบ้าน แต่เรามักจะแวะไปหาเค้าที่บ้านมากกว่านอนค้างที่นั่นบ้าง อยู่บ้านตัวเองบ้าง เราสองคนก็ใช้ชีวิตเหมือนคนเป็นแฟนกันทั่วไปแหละ จนวันนึงมีเรื่องอยู่ว่า เค้าก็แอบแชตใน facebook กับสาว (ปกติเราก็ปล่อย ๆ แชตไปแหละ ขอแค่อย่าออกไปเจอกันก็พอ) วันนั้นเราอยู่ที่บ้านเราแหละ เค้าบอกงานยุ่ง ห้องรก อย่าเพิ่งเข้ามาวันนี้ เราก็เลยไม่เข้าไป แต่พอเย็น ๆ เราก็ชวนกันไปกินข้าวปกติ แต่พ่อเจ้าประคุณก็บอกเราว่า ตัวซื้อถุงยางเข้ามาให้หน่อย เราก็ถามว่า จะเอาไปทำไม เค้าบอกว่า จะเอามาขัดรองเท้า เราก็เริ่มตงิด ๆ ละ ขัดรองเท้าพ่อง กีวีก็มีทำไมไม่เอาไปขัด พอถึงห้องเราก็ยื่นกล่องถุงยางให้ ซักพักเค้าเข้าไปอาบน้ำ เราแอบดูโทรศัพท์ค่ะ สรุปว่าเป็นอย่างที่เราคิดค่ะ แอบนัดสาวจ้า ตอนกลางวันแอบไปส่งกันที่ทำงานแล้วหนึ่งรอบ (นางทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง) เราแอบโกรธในใจละ พอเดินออกมานี่ถามเลย ที่รักตกลงที่บอกไม่ให้มาหามันเป็นอย่างนี้ใช่มะ ตอนนี้กำลังจะไปรับใช่มะ พอโดนจับได้เราก็อ้ำอึ้งค่ะ เราเลยยื่นคำขาดว่า ไปก็เลิกกัน เค้าก็ต่อรองว่า ก็รับปากเค้าไปแล้วว่าจะไปรับ ถ้าไม่ไปเค้าก็เป็นคนไม่รักษาคำพูดใช่มะ เราไม่ยอมให้ไป ก็ยังยืนกราน จนสุดท้ายตกลงกันคนละครึ่งทาง คือให้เราไปรับผู้หญิงคนนั้นด้วย จนในที่สุดก็ไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่หอ ซักพัก พ่อเจ้าประคุณโทรไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นค่ะ ผู้หญิงคนนั้นนางก็บอกว่า เสียความรู้สึก ทำไมมารับเราต้องเอาผู้หญิงคนอื่นมาด้วย (นางไม่รู้นะว่าเราเป็นกะเทย) แต่โลกมันกลมกว่านั้นค่ะ น้องผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาวของคนที่เรารู้จักค่ะ เราเลยเกิดสงสารน้องคนนั้น เพราะถ้ามารู้ทีหลังจากพี่สาวนางว่า แฟนเราที่จีบนางเนี้ยะ ถ้าได้ไปเป็นแฟนกัน โดยมีแฟนเก่าที่อยู่ด้วยกันเป็นกะเทยเนี้ยะ นางจะเสียความรู้สึกแค่ไหน เราเลยจัดการโทรไปหาน้องคนนั้นเลยค่ะ แล้วบอกให้นางฟังว่า เรากับผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยกันในลักษณะอย่างที่กล่าวมาข้างต้น คือ กินข้าว ซักผ้า ทำความสะอาดห้อง จนถึงเรื่องอย่างว่าทุกอย่างแหละ น้องผู้หญิงคนนั้นก็เลยบอกว่า ตกลงเอายังไง เค้าบอกเค้าไม่มีแฟน พี่ประชุมสายหน่อยสิ เราเลยจัดการประชุมสายเลยค่ะ น้องผู้หญิงที่คนนั้นก็ถามเค้าว่า เป็นอย่างที่เราพูดจริงรึเปล่า เค้าก็บอกว่าจริง แต่ไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เป็นพี่น้องกัน น้องผู้หญิงคนนั้นก็บอกเค้าว่า อย่างที่เราพูดหน่ะ เค้าเรียกว่าแฟนกันแล้ว แต่เค้าก็ยังเถียงอยู่ว่า มันไม่ใช่ แล้วในที่สุดน้องคนนั้นก็หายไปจากชีวิตเค้า แล้วเคสนี้ก็จบไป แล้วเค้าก็ยังยืนยันต่อไปกับทุกคนว่า เราเป็นพี่น้องกัน
และแล้วเคสใหม่ก็มาถึง ทีนี้เป็นน้องผู้หญิงคนนึงค่ะ แชตเหมือนเดิมค่ะ ทำงานที่ธนาคารสีบานเย็น รายนี้โปรไฟล์ผู้หญิงดีมากนะคะ เราก็เกิดสงสาร เลยถามเค้าไปว่า ถ้าจะคบกับน้องคนนี้ ก็เลิกกับเราเถอะ เราไม่อยากให้น้องเค้าต้องเสียใจ ผู้หญิงดี ๆ ไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่งั้นเค้าจะจัดการเอง ตอนนี้หล่ะค่ะ เริ่มดราม่ากันแล้วค่ะ เค้าเลือกน้องคนนั้นค่ะ ผู้หญิงที่คุยผ่านแชตซึ่งไม่เคยเจอกันเลยซักครั้ง คุยกันได้แค่ 2 อาทิตย์ กับเราที่อยู่กันด้วยกันทุกวัน แล้วเหตุผลที่เค้าบอกมาคือ อยากลองเสี่ยงดู เค้ายังอยากแต่งงานมีลูก มีครอบครัวอยู่ ตอนนั้นเราร้องไห้โฮเลยค่ะ รู้สึกตัวเองด้อยค่ามาก คนที่อยู่กันมาเกือบ 2 ปี เทียบไม่ได้เลยกับคนที่เพิ่งคุยกันได้แค่ 2 อาทิตย์ เราร้องไห้หนักมาก จนฟุบ ซักพักเค้าก็เข้ามากอด แล้วก็ร้องไห้หนักพอ ๆ กับเรา เค้าพูดตลอดว่า เท่าที่เค้าเคยมีแฟนมา ไม่เคยมีใครดูแลเอาใจใส่เค้ามากขนาดนี้เลย แต่ในเมื่อเค้าตัดสินใจแล้ว เราก็เลยยอมตัดใจเลิก แต่คืนนั้นเค้าก็ขอเราว่าอยู่ด้วยกันก่อน เราก็ยอมอยู่ สุดท้ายเรื่องจบด้วยเรื่องอย่างว่า แล้วเค้าก็ยอมรับว่าเค้าก็รักเรา และเค้าไม่อยากเสียเราไป เราก็ใจอ่อน (ตามประสากะเทย) จนในที่สุด เค้าก็คุยกับน้องคนนั้นต่อโดยที่เรายินยอม จนสุดท้ายเราจึงจัดการด้วยวิธีการของเรา บอกนางไปว่า ขอโทษนะคะที่แฟนเราไปรบกวน ตามประสาผู้หญิงดี ๆ เจออะไรอย่างนี้ก็เลิกคุยสิคะ แล้วเคสนี้ก็จบไป ตอนนี้ยอมรับเต็มปากละว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน
แล้วเคสต่อมาก็เริ่มอีกแล้วค่ะ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนก็คบกันปกตินี้แหละ แฟนเราเป็นเด็กชมรม (ชมพุทธ) ที่จริงก็แก่จนสมควรไปทำมาหากินแล้วแหละ แต่ก็ยังวนเวียนทำกิจกรรมกับน้อง ๆ อยู่ถึงเวลามีเด็กคนนึง อยู่ต่างมหาลัยกัน แต่เป็นเด็กชมรมเหมือนกัน แล้วพอถึงเวลา เค้าก็เริ่มคุยกัน ถึงเวลาน้องผู้หญิงคนนี้ก็ทักแชทแฟนเรา ทีแรกเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะปกติเค้าก็คุยกับคนอื่นเยอะแยะอยู่ละ แต่ถึงเวลา ชักเอาหนัก ส่งรูปกิจกรรมตัวเองมาให้ดูตลอดเวลา ทั้งอาหารการกิน กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เดี่ยวก็เพลง เดี่ยวก็ถามข่าวนั่นนี่ (ช่วงนี้วัดที่เค้าศรัทธามีข่าวอยู่) แฟนเราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ส่งรูปกิจกรรมตัวเองให้ดูบ้าง (เหมือนอ่อยอ๊ะ ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ) แต่นางก็ส่งมาทั้งวัน เราในฐานะแฟนก็รู้สึกเหนื่อยกับพฤติกรรมนี้ คุยกับแฟนแล้ว แฟนก็บอกไม่ได้คิดอะไร
เราถึงขั้นเคยแชตไปในเฟสแฟนเราว่า น้องคะ ทำอย่างนี้แฟนไม่ว่าหรอ นางก็ตีเบลอใส่ ยังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ มีครั้งหนึ่งแฟนเราถึงขั้นว่า เดี่ยวจะพาไปเจอกัน ซึ่งจากพฤติกรรม น้องคนนี้ก็ดูคล้าย ๆ เด็กสมาธิสั้น ทำตัวตื่นเต้น ตื่นตัวตลอดเวลา ยุก ๆ ยิก ๆ อยู่ไม่นิ่ง เราก็รู้สึกว่า เออช่างมันเถอะ ถ้าจะจากฉันไปอยู่กับคนอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของคุณละกัน เหตุการณ์หลังจากที่เรา 3 คนไปทำบุญ ก็พากันไปทานข้าวเสร็จแล้วเดี่ยวแฟนเราจะไปส่งน้อง แล้วเรากลับไปที่ห้องก่อน เราก็ไปรอที่ห้องครึ่งชั่วโมงผ่านไป หายต๋อมค่ะ เราก็เลยแกล้งโทรไปถาม ที่รักเดี่ยวกลับมาซื้อน้ำเข้ามาด้วยนะ แฟนเราก็บอกอืม ๆ เดี่ยวกลับละ (ก่อนหน้านี้เราชวนกันไปถนนคนเดิน แต่พอไปวัดกลับมาเค้าบอกว่าง่วง ไม่ไปละเดี่ยวส่งน้องเสร็จแล้วจะกลับมานอน) แต่แล้วก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เราเริ่มมีน้ำโหละ เลยโทรไปถามอีกที เค้าบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ขัวเหล็ก (สถานที่หนึ่งในเชียงใหม่ ใกล้ ๆ กับสะพานนวรัตน์) เราก็ถามไหนบอกว่าง่วงไง แล้วทำไมถึงไป เค้าก็บอกสงสารน้อง น้องอยากไป นึกว่าเข้าใจกันแล้ว บอกแล้วไงไม่ได้คิดอะไร เราก็ถาม ก็ไหนว่าง่วง เค้าก็บอกว่า ก็มานอนหลับเฝ้ามันอยู่เนี้ยะ แต่เราไม่เชื่อ เพราะภาพที่ออกมา ถ่ายรูปคุ่กันสนั่น และโดยพฤติกรรมตอนกลางวันที่ไปด้วยกัน น้องคนนั้นใช้แฟนเราถ่ายรูปสนั่นเช่นกัน เราเลยบอกว่ากลับมาเดี่ยวนี้ ถ้าไม่กลับมาเลิกกัน แล้วเค้าก็กลับมา เค้าบอกเราตลอดเวลาว่าไม่คิดอะไร เพราะเท่าที่เราดู ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่เสปกเค้าหรอก เราคิดว่าเวลาที่เค้าอยู่กับน้องคนนี้ เค้าจะรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นผู้นำ พูดอะไร สอนอะไร น้องก็เชื่อ พูดกันในเรื่องความเชื่อของเค้าแล้วเค้าต่อกันติดหน่ะ (ประมาณว่าได้รับการยกย่องแล้วมีความสุข) เราเลยว่าปล่อยมันเถอะ เพราะยังไงเค้าก็ไม่ตอบโจทย์กันในชีวิตจริงหรอก (เคสนี้ยังคาราคาซังอยู่)
และเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อคืนนี้เองค่ะ ช่วงนี้เค้าติด bee talk มากค่ะ นั่งส่องมันทั้งวัน เราก็เหมือนเดิม แชตไปเถอะ ขออย่าออกไปเจอตัวก็ละกัน แล้วสิ่งที่เรากลับก็เกิดขึ้นค่ะ คืนนั้นเรานอนหลับก่อน เค้าก็แชตของเค้าเล่นไปตามปกติ จนประมาณเกือบตี 5 เราสะดุ้งตืนขึ้นมา เค้ากำลังจะออกไปหาคนในแชตค่ะ เราโกรธมาก เค้าทำให้เรารู้สึกว่า เราเหมือนคนไม่มีค่า ทั้ง ๆ ที่นอนหลับอยู่ในห้องด้วยกัน แต่เค้าจะแอบออกไปหาคนอื่น เค้าไม่คิดหรอว่าถ้าเราตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเค้า เราจะรู้สึกยังไง เราจะไม่เกิดข้อสงสัยอะไรเลยหรอ สรุปแล้วคืนนั้นเค้าไม่ได้ออกไปนะคะ เหมือนผีแกล้ง เราตื่นก่อน ทะเลาะกันเลยค่ะ เราก็ถามเหตุผลเค้าอย่างนี้แหละ ว่าคิดว่าถ้าเค้าตื่นมาไม่เจอตัว แล้วเค้าจะรุ้สึกยังไง เค้าก็ให้เหตุผลว่า ไม่หนิ ยังไม่ได้ไป แล้วตัวจะโกรธทำไม ยังไงเค้าก็ยังรักตัว เค้าไม่มีทางทิ้งตัวหรอก ต่อให้ในอนาคต แต่งงานมีลูก ก็ยังจะรักตัวอยู่ แต่เรารับไม่ได้จริง ๆ กับการกระทำครั้งนี้ เราถามเหตุผลเค้าว่า คิดมั้ยว่าเค้าจะเสียใจแค่ไหน เคยคิดก่อนมั้ยว่าถ้าทำแล้วเราจะทะเลาะกัน เค้าก็ให้เหตุผลกับเราแบบงง ๆ จนในที่สุด เรารับไม่ไหว เก็บเสื้อผ้า ข้าวของทั้งหมดออกจากห้องเค้า แล้วกลับมาอยู่บ้าน แล้วบอกเค้าว่าเราเป็นพี่น้องกันเถอะ ผู้ชายอย่างตัวไม่เหมาะจะมีใครเป็นเจ้าของ ถ้าใครได้ไปต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่
สรุปคือตอนนี้ เรากับเค้าก็แยกกันแล้ว แต่สิ่งที่เราอยากรู้คือ เรื่อง ตรรกะในการคิดของเค้า ไม่ว่าจะเรื่องเหตุการเริ่มแรกที่เรามีอะไรกัน เรื่องการเป็นอยู่ที่เราเป็นอยู่ทุกวันแต่บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน พฤติกรรมที่ทำกับน้องชมรมแบบนั้น แต่บอกว่าไม่ได้คิดอะไร แล้วก็สุดท้ายคือเรื่องการแอบออกไปเจอคนใน Bee talk ทั้ง ๆ ที่เรานอนอยู่ในห้อง สรุปแล้วคือ เค้ามีตรรกะที่ผิดปกติ หรือเค้าแค่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองกันแน่
(ยาวหน่อยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ)
ตกลงแฟนเรามีปัญหาทางจิตมั้ย หรือเค้าแค่เอาแต่ใจตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เริ่มคบกัน เค้าก็บอกว่าไม่ได้จีบเรา แต่มาที่บ้านทุกวัน ซักพักเริ่มมีประมาณว่ามาแอบนอนหลับไม่ยอมกลับบ้าน พออีกซักระยะหนึ่งเริ่มเข้าห้องนอนเราละ แต่นอนใต้ที่ข้างเตียงนะ อีกซักพักเราเลยยอมให้มานอนบนเตียงด้วย(ยังไม่มีไรกันนะคะ) จนในที่สุดเรื่องอย่างว่าก็เกิดขึ้น(เราเริ่มก่อนเพราะคิดว่าเค้ามาจีบ ตอนนั้นเราก็เริ่มมีใจแล้วแหละ) แต่เค้าก็บอกว่าไม่ได้จีบ หลังจากคืนนั้น เค้าก็หายไปเกือบเดือน กว่าเราจะกลับมาคุยกัน
หลังจากนั้นเราก็อยู่ด้วยกัน แต่ก็แยกคนละบ้าน แต่เรามักจะแวะไปหาเค้าที่บ้านมากกว่านอนค้างที่นั่นบ้าง อยู่บ้านตัวเองบ้าง เราสองคนก็ใช้ชีวิตเหมือนคนเป็นแฟนกันทั่วไปแหละ จนวันนึงมีเรื่องอยู่ว่า เค้าก็แอบแชตใน facebook กับสาว (ปกติเราก็ปล่อย ๆ แชตไปแหละ ขอแค่อย่าออกไปเจอกันก็พอ) วันนั้นเราอยู่ที่บ้านเราแหละ เค้าบอกงานยุ่ง ห้องรก อย่าเพิ่งเข้ามาวันนี้ เราก็เลยไม่เข้าไป แต่พอเย็น ๆ เราก็ชวนกันไปกินข้าวปกติ แต่พ่อเจ้าประคุณก็บอกเราว่า ตัวซื้อถุงยางเข้ามาให้หน่อย เราก็ถามว่า จะเอาไปทำไม เค้าบอกว่า จะเอามาขัดรองเท้า เราก็เริ่มตงิด ๆ ละ ขัดรองเท้าพ่อง กีวีก็มีทำไมไม่เอาไปขัด พอถึงห้องเราก็ยื่นกล่องถุงยางให้ ซักพักเค้าเข้าไปอาบน้ำ เราแอบดูโทรศัพท์ค่ะ สรุปว่าเป็นอย่างที่เราคิดค่ะ แอบนัดสาวจ้า ตอนกลางวันแอบไปส่งกันที่ทำงานแล้วหนึ่งรอบ (นางทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง) เราแอบโกรธในใจละ พอเดินออกมานี่ถามเลย ที่รักตกลงที่บอกไม่ให้มาหามันเป็นอย่างนี้ใช่มะ ตอนนี้กำลังจะไปรับใช่มะ พอโดนจับได้เราก็อ้ำอึ้งค่ะ เราเลยยื่นคำขาดว่า ไปก็เลิกกัน เค้าก็ต่อรองว่า ก็รับปากเค้าไปแล้วว่าจะไปรับ ถ้าไม่ไปเค้าก็เป็นคนไม่รักษาคำพูดใช่มะ เราไม่ยอมให้ไป ก็ยังยืนกราน จนสุดท้ายตกลงกันคนละครึ่งทาง คือให้เราไปรับผู้หญิงคนนั้นด้วย จนในที่สุดก็ไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่หอ ซักพัก พ่อเจ้าประคุณโทรไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นค่ะ ผู้หญิงคนนั้นนางก็บอกว่า เสียความรู้สึก ทำไมมารับเราต้องเอาผู้หญิงคนอื่นมาด้วย (นางไม่รู้นะว่าเราเป็นกะเทย) แต่โลกมันกลมกว่านั้นค่ะ น้องผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาวของคนที่เรารู้จักค่ะ เราเลยเกิดสงสารน้องคนนั้น เพราะถ้ามารู้ทีหลังจากพี่สาวนางว่า แฟนเราที่จีบนางเนี้ยะ ถ้าได้ไปเป็นแฟนกัน โดยมีแฟนเก่าที่อยู่ด้วยกันเป็นกะเทยเนี้ยะ นางจะเสียความรู้สึกแค่ไหน เราเลยจัดการโทรไปหาน้องคนนั้นเลยค่ะ แล้วบอกให้นางฟังว่า เรากับผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยกันในลักษณะอย่างที่กล่าวมาข้างต้น คือ กินข้าว ซักผ้า ทำความสะอาดห้อง จนถึงเรื่องอย่างว่าทุกอย่างแหละ น้องผู้หญิงคนนั้นก็เลยบอกว่า ตกลงเอายังไง เค้าบอกเค้าไม่มีแฟน พี่ประชุมสายหน่อยสิ เราเลยจัดการประชุมสายเลยค่ะ น้องผู้หญิงที่คนนั้นก็ถามเค้าว่า เป็นอย่างที่เราพูดจริงรึเปล่า เค้าก็บอกว่าจริง แต่ไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เป็นพี่น้องกัน น้องผู้หญิงคนนั้นก็บอกเค้าว่า อย่างที่เราพูดหน่ะ เค้าเรียกว่าแฟนกันแล้ว แต่เค้าก็ยังเถียงอยู่ว่า มันไม่ใช่ แล้วในที่สุดน้องคนนั้นก็หายไปจากชีวิตเค้า แล้วเคสนี้ก็จบไป แล้วเค้าก็ยังยืนยันต่อไปกับทุกคนว่า เราเป็นพี่น้องกัน
และแล้วเคสใหม่ก็มาถึง ทีนี้เป็นน้องผู้หญิงคนนึงค่ะ แชตเหมือนเดิมค่ะ ทำงานที่ธนาคารสีบานเย็น รายนี้โปรไฟล์ผู้หญิงดีมากนะคะ เราก็เกิดสงสาร เลยถามเค้าไปว่า ถ้าจะคบกับน้องคนนี้ ก็เลิกกับเราเถอะ เราไม่อยากให้น้องเค้าต้องเสียใจ ผู้หญิงดี ๆ ไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่งั้นเค้าจะจัดการเอง ตอนนี้หล่ะค่ะ เริ่มดราม่ากันแล้วค่ะ เค้าเลือกน้องคนนั้นค่ะ ผู้หญิงที่คุยผ่านแชตซึ่งไม่เคยเจอกันเลยซักครั้ง คุยกันได้แค่ 2 อาทิตย์ กับเราที่อยู่กันด้วยกันทุกวัน แล้วเหตุผลที่เค้าบอกมาคือ อยากลองเสี่ยงดู เค้ายังอยากแต่งงานมีลูก มีครอบครัวอยู่ ตอนนั้นเราร้องไห้โฮเลยค่ะ รู้สึกตัวเองด้อยค่ามาก คนที่อยู่กันมาเกือบ 2 ปี เทียบไม่ได้เลยกับคนที่เพิ่งคุยกันได้แค่ 2 อาทิตย์ เราร้องไห้หนักมาก จนฟุบ ซักพักเค้าก็เข้ามากอด แล้วก็ร้องไห้หนักพอ ๆ กับเรา เค้าพูดตลอดว่า เท่าที่เค้าเคยมีแฟนมา ไม่เคยมีใครดูแลเอาใจใส่เค้ามากขนาดนี้เลย แต่ในเมื่อเค้าตัดสินใจแล้ว เราก็เลยยอมตัดใจเลิก แต่คืนนั้นเค้าก็ขอเราว่าอยู่ด้วยกันก่อน เราก็ยอมอยู่ สุดท้ายเรื่องจบด้วยเรื่องอย่างว่า แล้วเค้าก็ยอมรับว่าเค้าก็รักเรา และเค้าไม่อยากเสียเราไป เราก็ใจอ่อน (ตามประสากะเทย) จนในที่สุด เค้าก็คุยกับน้องคนนั้นต่อโดยที่เรายินยอม จนสุดท้ายเราจึงจัดการด้วยวิธีการของเรา บอกนางไปว่า ขอโทษนะคะที่แฟนเราไปรบกวน ตามประสาผู้หญิงดี ๆ เจออะไรอย่างนี้ก็เลิกคุยสิคะ แล้วเคสนี้ก็จบไป ตอนนี้ยอมรับเต็มปากละว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน
แล้วเคสต่อมาก็เริ่มอีกแล้วค่ะ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนก็คบกันปกตินี้แหละ แฟนเราเป็นเด็กชมรม (ชมพุทธ) ที่จริงก็แก่จนสมควรไปทำมาหากินแล้วแหละ แต่ก็ยังวนเวียนทำกิจกรรมกับน้อง ๆ อยู่ถึงเวลามีเด็กคนนึง อยู่ต่างมหาลัยกัน แต่เป็นเด็กชมรมเหมือนกัน แล้วพอถึงเวลา เค้าก็เริ่มคุยกัน ถึงเวลาน้องผู้หญิงคนนี้ก็ทักแชทแฟนเรา ทีแรกเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะปกติเค้าก็คุยกับคนอื่นเยอะแยะอยู่ละ แต่ถึงเวลา ชักเอาหนัก ส่งรูปกิจกรรมตัวเองมาให้ดูตลอดเวลา ทั้งอาหารการกิน กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เดี่ยวก็เพลง เดี่ยวก็ถามข่าวนั่นนี่ (ช่วงนี้วัดที่เค้าศรัทธามีข่าวอยู่) แฟนเราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ส่งรูปกิจกรรมตัวเองให้ดูบ้าง (เหมือนอ่อยอ๊ะ ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ) แต่นางก็ส่งมาทั้งวัน เราในฐานะแฟนก็รู้สึกเหนื่อยกับพฤติกรรมนี้ คุยกับแฟนแล้ว แฟนก็บอกไม่ได้คิดอะไร
เราถึงขั้นเคยแชตไปในเฟสแฟนเราว่า น้องคะ ทำอย่างนี้แฟนไม่ว่าหรอ นางก็ตีเบลอใส่ ยังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ มีครั้งหนึ่งแฟนเราถึงขั้นว่า เดี่ยวจะพาไปเจอกัน ซึ่งจากพฤติกรรม น้องคนนี้ก็ดูคล้าย ๆ เด็กสมาธิสั้น ทำตัวตื่นเต้น ตื่นตัวตลอดเวลา ยุก ๆ ยิก ๆ อยู่ไม่นิ่ง เราก็รู้สึกว่า เออช่างมันเถอะ ถ้าจะจากฉันไปอยู่กับคนอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของคุณละกัน เหตุการณ์หลังจากที่เรา 3 คนไปทำบุญ ก็พากันไปทานข้าวเสร็จแล้วเดี่ยวแฟนเราจะไปส่งน้อง แล้วเรากลับไปที่ห้องก่อน เราก็ไปรอที่ห้องครึ่งชั่วโมงผ่านไป หายต๋อมค่ะ เราก็เลยแกล้งโทรไปถาม ที่รักเดี่ยวกลับมาซื้อน้ำเข้ามาด้วยนะ แฟนเราก็บอกอืม ๆ เดี่ยวกลับละ (ก่อนหน้านี้เราชวนกันไปถนนคนเดิน แต่พอไปวัดกลับมาเค้าบอกว่าง่วง ไม่ไปละเดี่ยวส่งน้องเสร็จแล้วจะกลับมานอน) แต่แล้วก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เราเริ่มมีน้ำโหละ เลยโทรไปถามอีกที เค้าบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ขัวเหล็ก (สถานที่หนึ่งในเชียงใหม่ ใกล้ ๆ กับสะพานนวรัตน์) เราก็ถามไหนบอกว่าง่วงไง แล้วทำไมถึงไป เค้าก็บอกสงสารน้อง น้องอยากไป นึกว่าเข้าใจกันแล้ว บอกแล้วไงไม่ได้คิดอะไร เราก็ถาม ก็ไหนว่าง่วง เค้าก็บอกว่า ก็มานอนหลับเฝ้ามันอยู่เนี้ยะ แต่เราไม่เชื่อ เพราะภาพที่ออกมา ถ่ายรูปคุ่กันสนั่น และโดยพฤติกรรมตอนกลางวันที่ไปด้วยกัน น้องคนนั้นใช้แฟนเราถ่ายรูปสนั่นเช่นกัน เราเลยบอกว่ากลับมาเดี่ยวนี้ ถ้าไม่กลับมาเลิกกัน แล้วเค้าก็กลับมา เค้าบอกเราตลอดเวลาว่าไม่คิดอะไร เพราะเท่าที่เราดู ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่เสปกเค้าหรอก เราคิดว่าเวลาที่เค้าอยู่กับน้องคนนี้ เค้าจะรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นผู้นำ พูดอะไร สอนอะไร น้องก็เชื่อ พูดกันในเรื่องความเชื่อของเค้าแล้วเค้าต่อกันติดหน่ะ (ประมาณว่าได้รับการยกย่องแล้วมีความสุข) เราเลยว่าปล่อยมันเถอะ เพราะยังไงเค้าก็ไม่ตอบโจทย์กันในชีวิตจริงหรอก (เคสนี้ยังคาราคาซังอยู่)
และเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อคืนนี้เองค่ะ ช่วงนี้เค้าติด bee talk มากค่ะ นั่งส่องมันทั้งวัน เราก็เหมือนเดิม แชตไปเถอะ ขออย่าออกไปเจอตัวก็ละกัน แล้วสิ่งที่เรากลับก็เกิดขึ้นค่ะ คืนนั้นเรานอนหลับก่อน เค้าก็แชตของเค้าเล่นไปตามปกติ จนประมาณเกือบตี 5 เราสะดุ้งตืนขึ้นมา เค้ากำลังจะออกไปหาคนในแชตค่ะ เราโกรธมาก เค้าทำให้เรารู้สึกว่า เราเหมือนคนไม่มีค่า ทั้ง ๆ ที่นอนหลับอยู่ในห้องด้วยกัน แต่เค้าจะแอบออกไปหาคนอื่น เค้าไม่คิดหรอว่าถ้าเราตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเค้า เราจะรู้สึกยังไง เราจะไม่เกิดข้อสงสัยอะไรเลยหรอ สรุปแล้วคืนนั้นเค้าไม่ได้ออกไปนะคะ เหมือนผีแกล้ง เราตื่นก่อน ทะเลาะกันเลยค่ะ เราก็ถามเหตุผลเค้าอย่างนี้แหละ ว่าคิดว่าถ้าเค้าตื่นมาไม่เจอตัว แล้วเค้าจะรุ้สึกยังไง เค้าก็ให้เหตุผลว่า ไม่หนิ ยังไม่ได้ไป แล้วตัวจะโกรธทำไม ยังไงเค้าก็ยังรักตัว เค้าไม่มีทางทิ้งตัวหรอก ต่อให้ในอนาคต แต่งงานมีลูก ก็ยังจะรักตัวอยู่ แต่เรารับไม่ได้จริง ๆ กับการกระทำครั้งนี้ เราถามเหตุผลเค้าว่า คิดมั้ยว่าเค้าจะเสียใจแค่ไหน เคยคิดก่อนมั้ยว่าถ้าทำแล้วเราจะทะเลาะกัน เค้าก็ให้เหตุผลกับเราแบบงง ๆ จนในที่สุด เรารับไม่ไหว เก็บเสื้อผ้า ข้าวของทั้งหมดออกจากห้องเค้า แล้วกลับมาอยู่บ้าน แล้วบอกเค้าว่าเราเป็นพี่น้องกันเถอะ ผู้ชายอย่างตัวไม่เหมาะจะมีใครเป็นเจ้าของ ถ้าใครได้ไปต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่
สรุปคือตอนนี้ เรากับเค้าก็แยกกันแล้ว แต่สิ่งที่เราอยากรู้คือ เรื่อง ตรรกะในการคิดของเค้า ไม่ว่าจะเรื่องเหตุการเริ่มแรกที่เรามีอะไรกัน เรื่องการเป็นอยู่ที่เราเป็นอยู่ทุกวันแต่บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน พฤติกรรมที่ทำกับน้องชมรมแบบนั้น แต่บอกว่าไม่ได้คิดอะไร แล้วก็สุดท้ายคือเรื่องการแอบออกไปเจอคนใน Bee talk ทั้ง ๆ ที่เรานอนอยู่ในห้อง สรุปแล้วคือ เค้ามีตรรกะที่ผิดปกติ หรือเค้าแค่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองกันแน่
(ยาวหน่อยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ)