[CR] ครั้งแรก กับ3วันที่ฮานอย

วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์ ในการไปเที่ยวฮานอย ในฉบับความรู้สึกของตัวเอง เผื่อจะเป็นอีกช่องทางในการให้ข้อมูลสำหรับชาวbackpacker ทั้งหลาย

เริ่มต้นที่เห็นโปรจาก airasiago ไปกลับต่อคนรวมโรงแรม+อาหารเช้า 3คืน อยู่ที่ประมาณ 4,800บาท ส่วนเรื่องของที่นั่ง อาหาร น้ำหนักกระเป่า และประกันภัย ค่อยซื้อตอนใกล้ๆเดินทาง เราไปช่วง 05-08/03/2015 คิดเอาเองว่าอากาศน่าจะหนาวๆ เย็นๆ สบายๆ
วีคสองวีคก่อนเดินทางก็อ่านรีวิว หาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องการเดินทาง รวมถึงเคล็ดลับต่างๆ ในการไปเที่ยวที่นี่ ซึ่งหลักๆ หลายคนจะเตื่อนเรื่องโดนโกง เอาว่าจะระวังตัวเป็นพิเศษก็แล้วกัน นอกจากนี้ เราได้ส่งemail เพื่อ re-confirm booking และสอบถามข้อมูลต่างๆก่อนไป โดยเฉพาะอากาศ เพราะจากที่เช็ค คือฝนทั่งวีค เห้อออ เสื้อกันฝนอย่าลืม!!!

จากนั้นทำการซื้อที่นั่ง อาหาร น้ำหนักกระเป๋า และประกันภัย ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเอง ซึ่งเพิ่มอีกคนละประมาณพันนึง

เราตัดสินใจจองรถรับส่งกับทางโรงแรม ด้วยราคาที่ไม่ต่างกับการนั่ง taxi meterเอง ขาไปเค้าคิด usd18 (ห้าร้อยกว่าบาท) ขากลับคิด usd15 (สี่ร้อยกว่าบาท) เป็นราคาnet เพราะในรีวิวมีเตือนว่า ให้เฟิร์มกันดีๆ ไม่งั้นอาจจะโดนชาร์จ vatเนียนๆได้

แล้ววันเดินทางก็มาถึง ไฟลท์ FD642 DMK-HAN 07:00-08:40 โชคดีที่ไม่ดีเลย์ คืออยากขึ้นเครื่องมาก จะได้นอนแล้วก็กิน คือทั้งง่วงทั้งหิวอ่ะ อากาศตอนบินคือดีมาก ดีจนร้อน แดดเปรี้ยง อาหารที่ซื้อไว้ก็พอทำให้หายหิวไปได้ไม่น้อย และแล้วอากาศก็เริ่มเปลี่ยน เมฆเริ่มเยอะ แดดเริ่มหาย เมื่อลูกเรือประกาศเครื่องเริ่มลดระดับ เอาละซิ พยากรณ์แม่นดีจริง มองไปนอกเครื่องตอน landing เปียกชุ่มฉ่ำดีจัง สนามบินใหม่ สะอาดดีมากกก ลงจากเครื่องแนะนำให้ผ่าน ต.ม.ก่อน ไม่อยากครับ วีซ่ายังไม่ต้องทำเลย ใบขาเข้า-ออกก็ไม่มี เสร็จก็ลงบันไดเลื่อนไปรับกระเป๋า ห้องน้ำอยู่ทางขวาน่ะ กว้างมาก ไปคนเดียวก็ไม่ต้องกังวลเอาเข้าไปด้วยได้สบายๆ เสร็จก็เดินออกมาเจอคนขับยืนถือป้ายชื่อตามที่ตกลงไว้ เราพยายามจะบอกว่ารอแป้บนึง คือจะแลกเงินกับซื้อซิมก่อน ฮีก็ไม่เข้าใจ พูดอังกฤษไม่ได้เลย คือใช้ท่าทางอย่างเดียว เลี้ยวขวาไปจะเจอจุดแลกเงิน คือรวยมากขอบอกถือเงินเป็นล้านๆ จุดนี้และจุดที่มีการใช้จ่าย ไม่ต้องรีบน่ะครับ นับดีๆ เลขศูนย์มันเยอะ อย่างงเชียว เสร็จก็ซื้อซิมจากช็อปที่ติดกัน ได้มาในราคาที่ดีงามมาก พนักงานก็แนะนำดี สรุปเราก็เอาซิมแบบเน้น unlimited internet เพราะคงไม่โทรหาใครแน่นอน ราคาแค่ vnd200,000 ราวๆ 300บาท แถมโทรฟรีภายในประเทศได้อีก 30นาที(มั้ง) ดีเลย เผื่อไว้โทรหากัน หรือโรงแรมเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ซิมนี้ใช้ได้ 30วัน เสียดายไม่มีใครไปต่อจากที่กลับมา อิ้อิ้

เดินไปขึ้นรถก็ต้อง surprise เพราะรถที่มารับคือ toyota fortuner รุ่นใหม่ อันนี้ก็ปลื้มมมม ขึ้นรถได้ก็ตั้งหน้าตั้งตา update social networkสุดๆ เล่นให้คุ้ม อิ้อิ้ ระหว่างสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาเพื่อต้อนรับอาเซี่ยน ทุกอย่างดูดี ใหญ่โต (แต่สิ่งที่จี๊ดมากคือเสียงแตรรถเมื่อเข้าถึงตัวเมือง มันบีบกันแบบ บีบๆไปอ่ะ คนอื่นทั้งเดิน ทั้งขับขี่ก็หลบๆกันเองอยู่ดี แต่ก็แปลกที่ตลอดที่อยู่ที่นั่นไม่เห็นมีอุบัติเหตุเลย) ใช้เวลาประมาณ 45นาที โรงแรมตั้งอยู่หัวมุมถนน มองรอบๆ ก็มีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่อดตายแน่ อยู่แถว old quarterนั่นแหละ พนักงานต้อนรับให้ข้อมูลและความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ระหว่างเช็คอิน ค้าก็มี welcome drink มาให้ ก็ง่ายๆครับ ชา กาแฟมีสแตนบายอยู่ที่ lobby หรือน้ำส้มที่เอามาจาก breakfast และกล้วยเป็น welcome fruit ไปอีก อิ้อิ้ ด้วยความที่ยังเช้ามาก เราเลยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่อง early check in หลังจากเสร็จจาก check in พนักงานที่ดูแลเรื่องทัวร์ ก็เข้ามาสอบถามว่าเรามีแพลนอะไรรึยัง เราก็บอกเราจะไปฮาลองเบย์ ทามก๊อก เค้าจัดให้แบบ deluxe package คือกรุ๊ปจะเล็กกว่า อาหารจะดีกว่า รถรับส่ง เรือจะดีกว่า และรวมคายัค จักรยาน buffet lunch รายละเอียดมีดังนี้

1. ฮาลองเบย์ คนละ usd60   
2. ทามก๊อก คนละ usd46

รวมแล้วก็ usd106 ซึ่งเราก็บอกเคาว่าตอนที่คุยกับทางโรงแรม แจ้งว่าถ้าจองทัวร์ด้วยเค้าจะลดให้ 10% (คือปริ้น correspondence มาด้วย) เค้าก็ลดให้เหลือ usd96 เราก็เลยบอกว่า งั้นขอไปตกลงกันก่อน แล้วเดี๋ยวลงมาบอก ฮีก็โอเคไม่ได้เร่งเร้าอะไรให้อึดอัด พอเสร็จเราเลยแอบถามว่าห้องเป็นยังไงบ้าง เสร็จรึยัง เค้าก็บอกเสร็จแล้ว check in ได้เลย ดีจัง early check in ตั้งแต่ 10โมงกว่า

ห้องอยู่ชั้น 2 แต่จริงๆเหมือนชั้น 3 คือเค้ามีลิฟท์ตรงครึ่งชั้น และจาก lobbyขึ้นมา เจออีกชั้นก่อนจะถึงห้องเรา ซึ่งเป็นห้องอาหาร และห้องพักด้วย ห้องถือว่าโอเค สมราคา สะอาดดี ไม่มีกลิ่น แล้วก็ดูไม่น่ากลัว เราเลือกห้องแบบ superior window เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้ใช้หรอก หุหุ แต่ห้องจะเตี้ยๆหน่อย เพดานทำค่อนข้างต่ำ นี่ถ้าสูงเกิน 180ซม. คงยิ่งอึดอัด แต่โดยรวมแล้วสำหรับเรามันโอเคน่ะ ห้องไม่เกินพัน รวมอาหารเช้าอีกต่างหาก สักแป้บ เบลบอยก็เอากระเป๋ามาส่ง จัดทิปไป usd1 อิ้อิ้

ทีนี่ก็มานั่งดูกันว่าจะจองทัวร์กับที่นี่เลยดีมั้ย ได้ข้อสรุปคือจอง ลองดูสักตั้ง ไหนๆก็มาเที่ยวละ ขอแอบสบายๆอย่างที่เค้าบอกหน่อยละกัน จะงกอะไรนักหนา จริงมั้ย แต่จะขอต่อรองให้เหลือคนละ usd90 รีเฟรชหนังหน้าตัวเองเรียบร้อย ก็เตรียมของที่ต้องใช้ในการเดินเที่ยวสำหรับวันนี้ ที่สำคัญ เสื้อกันฝนขาดไม่ได้ คือไม่ได้ตกแบบบ้านเราอ่ะ มันเป็นละออง ฝอยๆทั้งวันเลย เอาเสื้อกันฝนติดไปเผื่อๆ

ลงมาต่อค่าทัวร์ ก็ได้ตามนั้น คนละ usd90 ให้เค้าชาร์จเข้าห้องไว้จ่ายตอน check outทีเดียว คือตั้งใจว่าจะรูดการ์ด รวทั้งค่ารถไปกลับก็ด้วย เราเลยทำการจองดูโชว์หุ่นกระบอกน้ำตอน 2ทุ่มคืนนี้เลย เพราะอีก 2วันที่ไปทัวร์ คงกลับมาไม่ทัน ค่าดูโชว์คนละ vnd100,000 ราวๆ 150บาท
ออกมายืนดูแผนที่หน้าโรงแรม พร้อมความงงกับชื่อถนน (คือเป็นคนที่ดูแผนที่ได้แย่มาก ทุกวันนี้ขับรถยังใช้ gpsเกือบตลอด) เพื่อนอีกคนก็ช่วยงมๆ ดูๆ เดินๆกันไป จนไปเจอร้านอาหารร้านนึง ดูท่าทางน่ารับทานดี ขายประมาณก๋วยเตี๋ยว มีน้ำซุปร้อนๆ และคล้ายๆข้าวเกรียบปากหม้อบ้านเรา ไปถึงก็สั่งเป้นภาษาอังกฤษ เค้าก็ไม่เข้าใจ เราเห็นพวกเครื่องปรุงเค้า ก็ไม่รู้ว่าหมูหรือเนื้อ คือไม่กินเนื้ออ่ะ เอาไงดีกว่า ก็เลยนึกถึงเพื่อนคนนึงที่นางเดินทางคนเดียวเป็นประจำ และนางเป็นมุสลิม นั่นก็คือการวาดรูป หมู วัว ไก่ แล้วติ๊กถูกติ๊กผิดเอา แค่นี้ก็เข้าใจกันทั่วโลก รวมถึงที่นี่ด้วย อิ้อิ้ พอเลือกได้ว่าเป็น หมู เราก็ไปรอที่โต๊ะ กะจะได้กินประมาณ เฝอหมูร้อนๆกันคนละถ้วย แต่!!! ความจริงเค้าเอาข้าวเกรียบปากหม้อมาให้ ซึ่งจานใหญ่มาก ประมาณ 15ชิ้นได้ พร้อมผัก 1ชาม น้ำซุปหวานๆ รสชาติคล้ายๆพะโล้ และมีชิ้นหมูยอชิ้นใหญ่ 1ชิ้น แล้วก็ตามมาด้วยจานที่ 2 ทำให้รู้เลยว่า เวรหล่ะ นี่ต้องกินอิปากหม้อ คนละจาน ตอนนั้นมีอยู่ 2-3โต๊ะ เรานั่งโต๊ะมุมในสุด ก็กินๆไป ที่โต๊ะก็มีเครื่องปรุง และมีคล้ายๆพริกน้ำส้ม ก็เลยมาเอาราดกิน แล้วก็จิบๆ ซดๆอิซุปถ้วยน้อยนั่น ใส้ของปากหม้อ ประมาณใส้ปอเปี๊ยะบ้านเรา วุ้นเส้น หมูสับ เห็ดหูหนู และแล้วพระเจ้าก็เมตตา ประมาณเที่ยง ทีนี้คนเต็มร้านเลย ก็หันไปดูโต๊ะอื่น กลายเป็นสั่งอิปากหม้อนี่ทุกโต๊ะเลยจ้า แต่วิธีกินคือ ไม่ต้องใช้อิพริกน้ำส้ม เค้าแค่คีบปากหม้อจุ่มลงน้ำซุปนั่นแล้วก็กิน กับผัก กลายเป็นว่า อร่อย อร้อย อร่อยเลยคุณเอ้ย กรรมมั้ยละ กินกันจนจะหมดอยู่ละเพิ่งมารู้ แฮ.... เอานาดีกว่ามารู้ตอนหมดแล้ว อ่อๆ ยังมีเรื่องเครื่องดื่ม คือก็ไม่รู้จะสั่งอะไร เพื่อนก็บอกว่าที่นี่เค้ากินน้ำขาวๆคล้ายๆนมอ่ะ ก็มีโต๊ะนึงสั่งมา แล้วเหมือนมีเนื้อเต้าหู้ด้วย อีกแก้วสีคล้ายๆชา น้ำส้ม บอกไม่ถูก ก็เรียกคนที่ร้านมา แล้วก็ชี้ไปที่น้ำ 2แก้วนั่น บวกกับทำท่ายกซด อ่า..นางเข้าใจ เอามาเสริฟ เอาน้ำขาวๆ ก็คือน้ำถั่วเหลือง หวานดี เย็นๆ มีเนื้อคล้ายเต้าฮวยด้วย ถือว่าผ่าน อีกแก้วคือน้ำชา กินเสร็จก็เรียกเก็บตังค์ ก็แอบดู google ว่าเท่าไหร่พูดว่าอะไร บาวเยียว..ถามไป ที่นี้มาเป็นชุด จนต้องถาม how much นางก็บอกมาเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมดทั้งมวลก็ vnd73,000 โหวววว เหมือนจะแพง แต่พอคิดไปคิดมา ก็แค่ราวๆ 145บาทเองสำหรับ 2คน

เสร็จก็มุ่งหน้าตามถนนที่ดูในแผนที่ ป๊าดดดดด งงดีแท้ เลยเปิด google mapไปเลย เล่นไม่อั้นอยู่แล้วนิ เปิดตลอดเลย ไม่หลงแน่นอน อิ้อิ้ เดินไปถ่ายรูปไป แวะนั่นแวะนี่ดังนี้

1. Temple of Literature/ Van Mieu Pagoda วัดวั่นเมียว วิหารวรรณกรรม มี Temple of Literature Entry Gate / Dai Thanh Mon ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮานอย และยังมี Thien Guang Tinh ประดิษฐานศิลาจารึกรายชื่อจอหงวนไว้เป็นเกียรติประวัติ วางบนฐานศิลาหลังเต่าครับ ดูจากทางเข้า ไม่น่าเชื่อว่าด้านในจะกว้างใหญ่และมีหลายส่วนมาก หลายมุมให้บรรยากาศเหมือนวัดญี่ปุ่น ที่นี่เค้านิยมนำดอกลิลลี่มาสักการะ ซึ่งดอกใหญ่ และสวยมาก

2. Ho Chi Minh’s Museum พิพิธภัณฑ์ลุงโฮฯ มีประวัติ ภาพถ่าย ลายมือ และมีศิลปะแนวๆสงครามแสดงอยู่ครับ แต่เราไม่ได้เข้าไปน่ะ เพราะเวลาไม่อำนวย

3. One Pillar Pagoda วิหารเสาเดียว ด้านข้างมี Dien Huu Pagoda วัดนี้ใส่ขาสั้นห้ามเข้า ไหว้พระขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม พร้อมกับทำบุญพอหอมปากหอมคอ

4. Ho Chi Minh's Mausoleum สุสานลุงโฮจิมินห์ มีโลงแก้ว ห้ามถ่ายรูปภายในเด็ด ขาด ควรไปแต่เช้า ไม่เช่นนั้นต้องรอคิวนานมากและอาจไม่ได้เข้าชม ด้านหน้ามองเห็น จตุรัสบาดิงห์ ในนี้ก็ไม่ได้เข้าไปเหมือนกัน

ก่อนที่จะเดินไปถึงที่ต่อไป ก็เห็นวัยรุ่นนั่งกินไปอิมมะพร้าวกัน ดูน่ากิน เลยจัดมา 1ลูก เนื้อไอติมเหนียวหอมหวานดี มีเนื้อมะพร้าวอบพร้อมโอโจ้(ทองม้วน)ด้วย ลูกนี้ vnd50,000 (ราวๆ75บาท) ก็แอบแพงน้า

5. Tran Quoc Pagoda วัดที่อยู่บนแหลมยื่นไปในทะเลสาบ West Lake ซึ่งจะต้องผ่านถนน ที่มีทะเลสาบอยู่ทั้งสองฟาก ระหว่างทางให้ฟีลแบบเมืองนอก สถานตากอากาศดีนี่เอง ทั้งคนนั่งพัก ชมวิวทะเลสาบ ออกกำลังกายในหลากหลายประเภท บ้างก็พาน้องมาดุ๊กดิ๊กมาวิ่งเล่น โดยตะวันออกเป็น Trac Bach Lake และตะวันตกเป็น West Lake ไม่เสียค่าเข้าชม ตกเย็นที่วัดแห่งนี้จะมีคนท้องถิ่นเข้ามาไหว้พระขอพรกันเยอะมาก

ออกมาตัดสินใจลองกินอิขนมที่มีน้ำตาลเคี่ยวคล้ายๆตังเม คลุกถั่วแล้วเอาแผ่นแป้งกลมๆบางมาประกบ อันละ vnd10,000 (ราวๆ15บาท) คือมันเหนียวมาก และไม่หวานอย่างที่คิด เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เสร็จออกมาเรียก taxiตามคำแนะนำของพนักงานที่โรงแรม เพราะขืนเดินกลับคงมืดพอดี บอกคนขับไป st. joseph ก็ตกลง แต่พอออกรถไปได้ ก็หันมาถามอีก เลยเอาแผนที่ให้ดู ก็เป็นอันเข้าใจ

6. St. joseph ค่าtaxi meter อยู่ที่ vnd65,000 (ราวๆ100บาท) โบสถ์ปิดแล้ว ก็ได้แต่ถ่ายรูปจากด้านนอก

เสร็จก็ตัดสินใจเดินไปวัดหง๊อกเซิน ใกล้ๆกัน แต่ระหว่างเดินแถวๆโบสถ์ เห็นเด็กน้อยกินทาโกะยากิน่ารับทาน บวกกัยความหิว เลยมองๆหา ก็ไปเจอร้านทาโกะยากิ ตกแต่งแบบญี่ปุ่น จัดไปหกลูก รสชาติผ่านเลย แล้วเพื่อนอยากลองอิขนมปลาที่เป็นใส้ถั่วแดง อันนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ จืดๆ กลิ่นถั่วแดงก็แรง สั่งชาเขียวมา 2แก้ว สีเขียวน่ากลัว พอดูดเข้าปาก ให้อารมณ์ประมาณเอาใบชาเขียวมาตำๆอ่ะ ยังมีกากอยู่เลย ไม่ผ่านเหมือนกัน จัดไป vnd130,000 (ราวๆ200บาท)

7. Ngoc Son Temple วัดหง๊อกเซิน(เนินหยก) นี้อยู่บนเกาะกลาง Hoan Kiem Lake ทะเลสาปคืนดาบ มีสะพานเทฮุก(แสงอาทิตย์) สีแดงเชื่อม ค่าเข้าชม vnd30,000 ต่อคน (ราวๆ45บาท) โชคดีมากที่มาทัน ไม่โอ้เอ้กันมาก เพราะก่อนเข้ามัวถ่ายรูปที่ริมทะเลสาบกันเพลิน เพราะหลังจากที่เข้าไปได้สักพัก เค้าก็ปิดประตูทางเข้าเลย ประมาณ 6โมงได้ ไหว้พระขอพรไปก็ถ่ายรูปเก็บถาพเรื่อยๆ แม้อากาศจะไม่ค่อยเป็นใขจสักเท่าไหร่

จากนั้นก็เดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อดูว่า โรงละครหุ่นกระบอกน้ำอยู่ตรงไหน ก่อนเดินกลับโรงแรม ด้วยความอิดโรยยย
ชื่อสินค้า:   ฮานอย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่