ลูกน้องที่ทำงาน คุณพ่อเค้าเป็นโรคไตอยู่แล้วรักษาด้วยการกินยา ต่อมาหลังจากคุณแม่เค้าเสียไป
คุณพ่อก็เศร้าซึม ไม่กินยา ไม่ค่อยกินข้าว ต่อมามีอาการไอมาก หายใจไม่สะดวก ลูกน้องเลยพา
คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่มีสิทธิบัตรทองอยู่ เนื่องจากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา
หมอเลยให้อยู่ ICU หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตรุนแรง ต้องทำการฟอกไตด่วน
และในขณะเดียวกันก็เป็นโรคหัวใจโต ต้องทำบอลลูนและอาจต้องผ่าตัดด้วย
หมอโรคไตบอกว่า ค่าฟอกไต เบิกสิทธิบัตรทองไม่ได้ ค่าฟอกครั้งละ 4,000 บาท คนไข้ต้อง
หาเงินมารักษาเอง และมีค่าวางเส้น อื่นๆอีก โดยไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆอีก ส่วนหมอหัวใจบอกว่า
ค่าทำบอลลูน และถ้าต้องผ่าตัดหัวใจใช้สิทธิบัตรทองได้ ลูกน้องจึงบอกว่าค่าใช้จ่ายฟอกไตสูงอย่างนี้
ไม่สามารถจ่ายเองได้ ขอให้โรงพยาบาลทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่านี้ได้ไหม
แต่หมอบอกว่าส่งตัวไม่ได้ เพราะที่นี่รักษาได้ จะส่งตัวเมื่อรักษาไม่ได้เท่านั้น
ลูกน้องกลุ้มใจเรื่องค่าใช้จ่าย อยากจะย้ายสิทธิ์ แต่ถามไปที่ สปสช ก็บอกว่าถ้า Admit อยู่ย้ายไม่ได้
ย้ายก็ย้ายไม่ได้ หมอก็ไม่ส่งตัว จะรักษาต่อก็ไม่มีตังค์ จะย้ายออกเองเลย ไปถามโรงพบาบาลรัฐที่ไหนๆ
ก็ไม่รับเพราะเตียงเต็ม หมอเหมือนพูดให้ทำใจ รักษาไปจะอยู่ได้กี่ปี อย่างมาก ก็ 2 ปี (คนไข้โรคไต
บางคนเค้าก็อยู่ได้เป็นสิบๆปีนะ หมอทำไมพูดบั่นทอนกันอย่างนี้?)
อยากสอบถามว่าทางออกเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไรคะ มันไม่มีทางออกให้คนจนเลยจริงๆหรือ
หมายเหตุ ลูกน้องไปเสาะหาจนรู้ว่าทำเรื่องไปที่ สปสช ขอเข้าโครงการอะไรซักอย่างได้ ถ้าผลอนุมัติผ่าน
ค่าฟอกไตจะเบิกได้ 1,500 บาท ตอนนี้ไปคุยกับหมอขอให้เขียนให้ ซึ่งเรื่องนี้ทางหมอและโรงพยาบาล
ก็ไม่เห็นแนะนำคนไข้ว่ามีโครงการนี้อยู่ แต่กว่าเรื่องจะอนุมัติก็คงใช้เวลานาน ตอนนี้พ่อเค้ายังไม่ได้เริ่มต้น
ฟอกไตเลย อาการน้ำท่วมปอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น่าเป็นห่วงจริงๆค่ะ
หาทางออกให้คนจนๆ กรณีสิทธิบัตรทองไม่ครอบคลุมค่ารักษา
คุณพ่อก็เศร้าซึม ไม่กินยา ไม่ค่อยกินข้าว ต่อมามีอาการไอมาก หายใจไม่สะดวก ลูกน้องเลยพา
คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่มีสิทธิบัตรทองอยู่ เนื่องจากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา
หมอเลยให้อยู่ ICU หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตรุนแรง ต้องทำการฟอกไตด่วน
และในขณะเดียวกันก็เป็นโรคหัวใจโต ต้องทำบอลลูนและอาจต้องผ่าตัดด้วย
หมอโรคไตบอกว่า ค่าฟอกไต เบิกสิทธิบัตรทองไม่ได้ ค่าฟอกครั้งละ 4,000 บาท คนไข้ต้อง
หาเงินมารักษาเอง และมีค่าวางเส้น อื่นๆอีก โดยไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆอีก ส่วนหมอหัวใจบอกว่า
ค่าทำบอลลูน และถ้าต้องผ่าตัดหัวใจใช้สิทธิบัตรทองได้ ลูกน้องจึงบอกว่าค่าใช้จ่ายฟอกไตสูงอย่างนี้
ไม่สามารถจ่ายเองได้ ขอให้โรงพยาบาลทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่านี้ได้ไหม
แต่หมอบอกว่าส่งตัวไม่ได้ เพราะที่นี่รักษาได้ จะส่งตัวเมื่อรักษาไม่ได้เท่านั้น
ลูกน้องกลุ้มใจเรื่องค่าใช้จ่าย อยากจะย้ายสิทธิ์ แต่ถามไปที่ สปสช ก็บอกว่าถ้า Admit อยู่ย้ายไม่ได้
ย้ายก็ย้ายไม่ได้ หมอก็ไม่ส่งตัว จะรักษาต่อก็ไม่มีตังค์ จะย้ายออกเองเลย ไปถามโรงพบาบาลรัฐที่ไหนๆ
ก็ไม่รับเพราะเตียงเต็ม หมอเหมือนพูดให้ทำใจ รักษาไปจะอยู่ได้กี่ปี อย่างมาก ก็ 2 ปี (คนไข้โรคไต
บางคนเค้าก็อยู่ได้เป็นสิบๆปีนะ หมอทำไมพูดบั่นทอนกันอย่างนี้?)
อยากสอบถามว่าทางออกเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไรคะ มันไม่มีทางออกให้คนจนเลยจริงๆหรือ
หมายเหตุ ลูกน้องไปเสาะหาจนรู้ว่าทำเรื่องไปที่ สปสช ขอเข้าโครงการอะไรซักอย่างได้ ถ้าผลอนุมัติผ่าน
ค่าฟอกไตจะเบิกได้ 1,500 บาท ตอนนี้ไปคุยกับหมอขอให้เขียนให้ ซึ่งเรื่องนี้ทางหมอและโรงพยาบาล
ก็ไม่เห็นแนะนำคนไข้ว่ามีโครงการนี้อยู่ แต่กว่าเรื่องจะอนุมัติก็คงใช้เวลานาน ตอนนี้พ่อเค้ายังไม่ได้เริ่มต้น
ฟอกไตเลย อาการน้ำท่วมปอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น่าเป็นห่วงจริงๆค่ะ