อจินไตยตอนที่ 10

ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนที่ยังรออ่านอยู่ที่ ทิ้งไปเป็นเดือนๆ พอดีผมติดช่วงสอบน่ะครับ
จะเขียนต่อก็ห่วงสอบ เลยไม่มีสมาธิเท่าไหร่ ตอนนี้สอบจบแล้วเลยขอเขียนต่อให้จบนะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความเดิมตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33164014

“ซูด....”

เสียงดูดน้ำอัดลมที่ใกล้หมด ของมิ้นท์ ดังขึ้น ท่ามกลางโลกสีฟ้าที่มีฝูงปลามากมายเวียนว่ายรายล้อม โดยระหว่างที่เรากับบี กำลังชื่นชมความสวยงามของฝูงปลาใน อควาเรี่ยม แม่เสือสาวน้อย กลับเหม่อมองพวกมันด้วยสายตาที่ต่างไป

“อยากกินรึไง”

มิ้นท์สะดุ้งเล็กๆก่อนจะหันมามองเรา ดูเหมือนจะทายถูก สำหรับพวกเราอาจจะเป็นเป็นฝูงปลาสวยงาม แต่สำหรับ ยัยนี่  คงไม่ต่างอะไรกับตู้โชว์อาหารแน่ๆ

“ฮะๆ โถ่เอ้ย ยัยแมวน้อย”

เราร้องก่อนจะถลาเข้าไปกอดมิ้นท์จากข้างหลัง แล้วใช้มือขยี้หัวอย่างหมั่นเขี้ยว แม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ยัยนี่เป็นเหมือนน้องสาวที่เราอยากมี ถึงจะแก่กว่ากันเป็นร้อยปีก็เถอะ แต่ท่าทางดื้อ ปากไม่ตรงกับใจ นี่แหละที่เห็นแล้วอดไม่ได้ ต่างจากบีที่ดูเป็นพี่สาวใจดี อบอุ่นเสมอ

ว่าแล้วก็นึกได้ เลยหันมองไปทางบี ก่อนจะเห็นเธอมองมายังเราที่กำลังหยอกมิ้นท์อยู่ ด้วยสายตาและรอยยิ้มเหงาแปลกๆ ทำเอากอดของเราคลายออกจากมิ้นท์โดยอัตโนมัติ และเกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราทั้งสามที่กำลังชื่นชมความงามของสัตว์ในโลกสีฟ้า โดยทุกคนเอาแต่มองไปยังตู้กระจกขนาดใหญ่
ราวกับมีเรื่องให้ขบคิดในใจ จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง...

“นี่ ปาล์ม” เสียงเรียกของมิ้นท์ ทำให้เราหันไปหาเธออีกครั้งหนึ่งก่อนจะเห็นบางสิ่งที่เกินขึ้นมาบนหัวของเธอ

มันคือใบหูสีดำที่มีขนอ่อนข้างในสีขาว แว่บแรกเรานึกว่าเป็นที่คาดผมหูแมวที่พวกคอสเพลย์นิยมใส่กัน ก่อนจะเห็นมันกระดิกดุ๊กดิกอยู่บนหัวของมิ้นท์อย่างจงใจ เราถึงรู้ว่านั่นคือหูจริงๆของมิ้นท์

“หายหน้าบึ้งได้ซักทีนะ” แม่สาวหูแมวทักเราพลางยิ้ม

“มิ้นท์ ! เธอไม่ควรคืนร่างจริงในทีแบบนี้นะ...”

บีกระซิบดุ ทำให้อีกฝ่ายใช้มือลูบหูแมวบนหัวแนบไปกับเรือนผมก่อนที่มันจะหายไปราวกับเล่นกล

“เอาน่า ตอนนี้ไม่มีใครผ่านมาซักหน่อย กล้องก็ไม่มี แถมต่อให้ถูกเห็นจริงๆ คนเขาก็นึกว่าเป็นเรื่องประดับอยู่แล้ว ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเป็นหูของฉันจริงๆ”
บียังคงมีสีหน้าไม่พอใจ ทำให้มิ้นท์ขอตัวออกไปซื้ออะไรกินเพิ่ม ทิ้งให้เราอยู่กับบีเพียงลำพังสองคน

“นี่... บี... อย่าไปโกรธมิ้นท์เลยนะ ยัยนั่นคงเห็นเราเงียบๆ เลยพยายามแก้เครียดขำๆน่า”

“ปาร์ม...”

“หืม...?”

“เธอชอบมิ้นท์เหรอ ?”

ปลาฉลามตัวเบิ้อเริ่มว่ายผ่านตู้กระจกอวดความยิ่งใหญ่เบื้องหน้าเรา ถ้าเป็นแต่ก่อนเราคงหยิบเอามือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ไปแล้ว แต่ในตอนนี้เบื้องหน้าของเรากลับมีเพียง บี ที่นั่งนิ่งรอคำตอบพร้อมหันมองมา ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือตัวเราเองที่ไม่ตอบปฏิเสธออกไปในทันที

“คือว่า...”

“จริงด้วยสินะ...”

“ไม่ใช่นะ !” เรารีบสวนขึ้นก่อนที่จะถูกบีเข้าใจผิด “คนที่ฉันชอบจริงๆน่ะ คือเธอต่างหาก !”

บีอึ้งไป เราเองก็อึ้งเหมือนกัน ที่กล้าพูดออกไปแบบนั้น ขนาดตอนที่เราจะเอื้อมมือไปกอดเธอ ตอนที่ไปค้างด้วยครั้งแรก ยังโดนปฏิเสธเลยนี่นา แล้วนี่ถึงกับสารภาพรักนี่นะ นี่เราเป็นบ้าไปแล้วรึยังไง

“จริงเหรอ...”

แทนที่จะเป็นคำปฏิเสท กลับเป็นการถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง โดยเราได้ตอบยืนยันกลับไป ทำให้ได้เห็นบางสิ่งที่สวยงามที่สุด นั่นคือรอยยิ้มของ บี ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา ภาพริมฝีปากชมพูอ่อนกับนัยน์ตาเป็นประกายตื้นตัน ทำเอาหัวใจของเรารุ้สึกชุ่มชื้นไปหมด ราวกับได้สูดอากาศสดชื้นของฟ้าหลังฝนก็ไม่ปาน

เรากับบีขยับนั่งเข้าไปใกล้กันจนไหล่ชิด ก่อนจะมีเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเราสองคน และจะยื่นกระดาษใบหนึ่งให้ โดยบอกว่า มีพี่สาวคนหนึ่งฝากมาให้ ซึ่งในนั้นมีข้อความเขียนไว้

                                                “นึกได้ว่ามีธุระ ฝากดูแลปาล์มด้วยนะบี”
                                                                  มิ้นท์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่