เราคนนึงเมื่อ2ปีที่แล้ว(อยู่ม.4)ยังมีความคิดต่อคนที่อยู่ในวัยเรียนแล้วไปทำงานตามร้านต่างๆ
เกือบ100%(ของวัยนักเรียน)จะเป็นpart timeที่เราเจอ ยอมรับแบบตรงๆเลยว่ามีทัศนคติต่อพวกเขาคือ
1.บ้านจนเหรอ ต้องหาเงินเรียนเองแน่เลย
2.พวกไม่เอาไหน ขี้เกียจเรียนต่อเลยมาทำงาน ส่งผลให้เราคิดว่าเค้าไม่มีการศึกษาที่สูงมาก เราจึงไม่คาดหวัง
ที่จะได้รับการบริการที่ดีจากเค้า
3.บางครั้งทั้งสายตาและท่าทางเราก็รู้สึกเหยียดเค้านะแต่ไม่แสดงออกมาก กลัวโดนติง 55555
4.ดูลำบากจัง น่าสงสารเนอะ ดูต้องดิ้นรน
คิดได้4ข้อใหญ่ๆนะ มีอีกหลายข้อเลยแหละแต่เป็นยิบย่อย มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนส่วนนึงและโดน
ปลูกฝังโดยค่านิยมแบบไทยๆส่วนนึง ซึ่งมันค่อนข้างเป็นความคิดที่ร้ายกาจมาก ภายใน2ปีนั้นความคิดก็ค่อยๆเปลี่ยน
คิดได้เองว่าเห้ย~~ ความคิดเราที่มีต่อพวกเขามันแย่มากนะ นอกจากจะทำร้ายเค้าแล้วยังเป็นการบั่นทอนจิตใจ
ตัวเองอีก ผู้ใหญ่(รอบข้างเรา)ก็คิดผิดนะ สอนเราอย่างนี้ได้ไง แต่ก็มีบางคนนะที่พูดในเชิงว่าก็ลองไปทำดูสิ
เหมือนสนับสนุนให้หาประสบการณ์แต่เจตนาเค้าเรารู้สึกได้เลยว่า

แต่ก็มีบางคนอีกนะที่จริงใจจริงๆเพราะเค้า
เคยผ่านจุดนั้นมา เค้าดูดีใจตื่นเต้นด้วยซ้ำเมื่อเราถามเพราะเค้าคิดว่าเด็กสมัยนี้เอาแต่เรียน ความคิดของเราในปัจจุบัน
ที่มีต่อคนวัยเรียนที่ทำงานpart timeได้เปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามอย่างสมบูรณ์ล่ะ ไม่หลงเหลือความคิดเดิมอยู่เลย
คงเป็นเพราะเราโตขึ้นทั้งจากระยะเวลา/การทำกิจกรรมกับผู้อื่น/การพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เฟลมากๆมาแล้ว
ทุกอย่างมันสอนให้เราคิดเองได้เลยว่าพวกเค้าไม่ได้ต้องดิ้นรนหรือรู้สึกทรมานมากเท่าที่เราไปรู้สึกแทนเค้านะ
อีกอย่างการทำงานpart timeก็ไม่ได้น่าอายนี่นา ทำไมเราต้องไปรู้สึกเสียใจแทนเค้าด้วยล่ะ(ขำตัวเอง555)
อีกอย่างเราต้องพุดขอบคุณพวกเค้าให้มากๆต่างหาก ไม่อย่างนั้นตอนนี้เวลาเราไปกินอาหารนอกบ้านเพื่อหวังจะได้พักผ่อน
สบายๆหน่อย ไม่ต้องเก็บถ้วยจานเอง ถ้าเด็กทุกคนคิดแต่ว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย ป่านนี้คงได้บริการตักผักตักข้าว
เสิร์ฟตัวเองเป็นแน่แท้ ถึงแม้จะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟที่หลายคนเห็นว่าง่ายๆ เดินไปเดินมาแต่นั่นก็ต้องใช้ความคล่องตัวไม่น้อย
และถ้าให้เราไปทำเองบ้าง แน่นอนในช่วงแรกเราจะรู้สึกอายมากๆเพราะไม่เคยทำมาก่อนไง เราแค่อยากจะบอกทุกคนว่า
การที่เราจะเคยคิดไม่ดียังไงมันผิดจริงแต่อย่าให้มันมาเป็นตัวกำหนดอนาคต มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะคิด อย่าคิดว่าฉันแย่มาก
เลวมากที่คิดงั้น อย่าถืออคติให้เปลี่ยนเป็นลองลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำบ้าง(ทำในสิ่งที่ถูกต้องนะ) และอย่าอายที่จะไปลองทำงานpart time
ช่วงปิดเทอมสั้นๆ แน่นอนว่าครั้งแรกต้องตื่นเต้น&อายมาก ยิ่งถ้าใครที่อยากลองทำแต่ทางบ้านไม่ได้จน พอมีฐานะ
เคยแต่มานั่งรับบริการ พอต้องมาให้บริการเอง มันเป็นอะไรที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน55555 แต่อยากให้ลองก้าวข้ามความกลัว
ความอายจุดนั้นของตัวเองมาให้ได้นะค่ะ อย่าอายว่าญาติๆเพื่อนๆคนรู้จักเพื่อนพ่อเพื่อนแม่หรือแม้กระทั่งพ่อแม่เองจะมองยังไง
(บางคนพ่อแม่ไม่สนับสนุน มองว่าไปการทำงานคือคนที่ไม่มีทางไปแล้ว) แต่แค่รู้ว่าตัวเองทำดีแล้วนะ ก็ทำเลย อย่าปล่อยให้
ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดียวของเราตอนนั้นมันผ่านไปเพียงเพราะความกลัว หาประสบการณ์ด้านนี้ให้ตัวเองบ้างนะค่ะ หาทางของตัวเองให้เจอ
จะได้ไม่ต้องเรียนแบบที่เด็กไทยส่วนใหญ่เรียนกัน จะได้เอาเวลานั้นไปทำในสิ่งที่เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่คิดจะทำกันแล้วเราจะได้เจอกับ
สิ่งที่เด็กในวัยเดียวกันไม่เคยได้เจอ สู้ๆนะค่ะ
คุณมีมุมมองต่อเด็กวัยรุ่นที่ไปทำงานตามร้านต่างๆอย่างไร
เกือบ100%(ของวัยนักเรียน)จะเป็นpart timeที่เราเจอ ยอมรับแบบตรงๆเลยว่ามีทัศนคติต่อพวกเขาคือ
1.บ้านจนเหรอ ต้องหาเงินเรียนเองแน่เลย
2.พวกไม่เอาไหน ขี้เกียจเรียนต่อเลยมาทำงาน ส่งผลให้เราคิดว่าเค้าไม่มีการศึกษาที่สูงมาก เราจึงไม่คาดหวัง
ที่จะได้รับการบริการที่ดีจากเค้า
3.บางครั้งทั้งสายตาและท่าทางเราก็รู้สึกเหยียดเค้านะแต่ไม่แสดงออกมาก กลัวโดนติง 55555
4.ดูลำบากจัง น่าสงสารเนอะ ดูต้องดิ้นรน
คิดได้4ข้อใหญ่ๆนะ มีอีกหลายข้อเลยแหละแต่เป็นยิบย่อย มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนส่วนนึงและโดน
ปลูกฝังโดยค่านิยมแบบไทยๆส่วนนึง ซึ่งมันค่อนข้างเป็นความคิดที่ร้ายกาจมาก ภายใน2ปีนั้นความคิดก็ค่อยๆเปลี่ยน
คิดได้เองว่าเห้ย~~ ความคิดเราที่มีต่อพวกเขามันแย่มากนะ นอกจากจะทำร้ายเค้าแล้วยังเป็นการบั่นทอนจิตใจ
ตัวเองอีก ผู้ใหญ่(รอบข้างเรา)ก็คิดผิดนะ สอนเราอย่างนี้ได้ไง แต่ก็มีบางคนนะที่พูดในเชิงว่าก็ลองไปทำดูสิ
เหมือนสนับสนุนให้หาประสบการณ์แต่เจตนาเค้าเรารู้สึกได้เลยว่า
เคยผ่านจุดนั้นมา เค้าดูดีใจตื่นเต้นด้วยซ้ำเมื่อเราถามเพราะเค้าคิดว่าเด็กสมัยนี้เอาแต่เรียน ความคิดของเราในปัจจุบัน
ที่มีต่อคนวัยเรียนที่ทำงานpart timeได้เปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามอย่างสมบูรณ์ล่ะ ไม่หลงเหลือความคิดเดิมอยู่เลย
คงเป็นเพราะเราโตขึ้นทั้งจากระยะเวลา/การทำกิจกรรมกับผู้อื่น/การพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เฟลมากๆมาแล้ว
ทุกอย่างมันสอนให้เราคิดเองได้เลยว่าพวกเค้าไม่ได้ต้องดิ้นรนหรือรู้สึกทรมานมากเท่าที่เราไปรู้สึกแทนเค้านะ
อีกอย่างการทำงานpart timeก็ไม่ได้น่าอายนี่นา ทำไมเราต้องไปรู้สึกเสียใจแทนเค้าด้วยล่ะ(ขำตัวเอง555)
อีกอย่างเราต้องพุดขอบคุณพวกเค้าให้มากๆต่างหาก ไม่อย่างนั้นตอนนี้เวลาเราไปกินอาหารนอกบ้านเพื่อหวังจะได้พักผ่อน
สบายๆหน่อย ไม่ต้องเก็บถ้วยจานเอง ถ้าเด็กทุกคนคิดแต่ว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย ป่านนี้คงได้บริการตักผักตักข้าว
เสิร์ฟตัวเองเป็นแน่แท้ ถึงแม้จะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟที่หลายคนเห็นว่าง่ายๆ เดินไปเดินมาแต่นั่นก็ต้องใช้ความคล่องตัวไม่น้อย
และถ้าให้เราไปทำเองบ้าง แน่นอนในช่วงแรกเราจะรู้สึกอายมากๆเพราะไม่เคยทำมาก่อนไง เราแค่อยากจะบอกทุกคนว่า
การที่เราจะเคยคิดไม่ดียังไงมันผิดจริงแต่อย่าให้มันมาเป็นตัวกำหนดอนาคต มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะคิด อย่าคิดว่าฉันแย่มาก
เลวมากที่คิดงั้น อย่าถืออคติให้เปลี่ยนเป็นลองลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำบ้าง(ทำในสิ่งที่ถูกต้องนะ) และอย่าอายที่จะไปลองทำงานpart time
ช่วงปิดเทอมสั้นๆ แน่นอนว่าครั้งแรกต้องตื่นเต้น&อายมาก ยิ่งถ้าใครที่อยากลองทำแต่ทางบ้านไม่ได้จน พอมีฐานะ
เคยแต่มานั่งรับบริการ พอต้องมาให้บริการเอง มันเป็นอะไรที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน55555 แต่อยากให้ลองก้าวข้ามความกลัว
ความอายจุดนั้นของตัวเองมาให้ได้นะค่ะ อย่าอายว่าญาติๆเพื่อนๆคนรู้จักเพื่อนพ่อเพื่อนแม่หรือแม้กระทั่งพ่อแม่เองจะมองยังไง
(บางคนพ่อแม่ไม่สนับสนุน มองว่าไปการทำงานคือคนที่ไม่มีทางไปแล้ว) แต่แค่รู้ว่าตัวเองทำดีแล้วนะ ก็ทำเลย อย่าปล่อยให้
ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดียวของเราตอนนั้นมันผ่านไปเพียงเพราะความกลัว หาประสบการณ์ด้านนี้ให้ตัวเองบ้างนะค่ะ หาทางของตัวเองให้เจอ
จะได้ไม่ต้องเรียนแบบที่เด็กไทยส่วนใหญ่เรียนกัน จะได้เอาเวลานั้นไปทำในสิ่งที่เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่คิดจะทำกันแล้วเราจะได้เจอกับ
สิ่งที่เด็กในวัยเดียวกันไม่เคยได้เจอ สู้ๆนะค่ะ