เมือง San Diego อยู่ทางตอนใต้สุดของรัฐแคลิฟอร์เนียโดยมีพรมแดนติดกับประเทศเม็กซิโก เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดังสองของรัฐนี้ รองจาก Los Angeles ที่นี่ถือเป็นเมืองต้นกำเนิดของแคลิฟอร์เนียโดยเกิดจากเรือของชาวสเปนมาจอดเทียบท่าการค้าที่นี่เป็นที่แรกของรัฐนี้ ซึ่งจุดนี้ก็คือ Point Loma
เมื่อพูดถึง San Diego คนก็มักจะนึกถึงเมืองท่าเรือ สวนสัตว์ และสวนน้ำที่มีชื่อเสียง ใครที่มาที่นี่ ก็มักจะไม่พลาดการไปเที่ยวที่ San Diego Waterfront ซึ่งยาวตั้งแต่ด้านหลังของ Convention Center ขึ้นไปจนถึง The Maritime Museum, San Diego Zoo และ Seaworld
จริงๆ โดยส่วนตัวไม่ได้ชอบการเที่ยวสวนสัตว์หรือ seaworld เท่าไรนัก การมา San Diego ครั้งก่อนๆ (เคยมาแล้วสองครั้ง) เลยไม่ได้แวะไปเที่ยวที่นี่เลย อย่างไรก็ตามการกลับมาครั้งนี้จุดหมายหลักจึงไม่ใช่สวนสัตว์และ seaworld เช่นเคยแต่เป็นสวนดอกไม้ คือ Carlsbad The Flower Fields พอดีปีก่อนตอนจะมาที่นี่ ก็หาข้อมูลว่ามีที่อื่นเที่ยวนอกจากสวนสัตว์และ seaworld หรือเปล่า เลยเจอว่าที่นี่ก็มีสวนดอกไม้ ดูรูปแล้วสวยมาก แต่ปีที่แล้วมาไม่ทันเพราะปิดซะก่อน เลยตั้งใจว่าปีนี้จะแวะมาอีกทีก่อนกลับเมืองไทย (ตอนนี้มาอยู่ซานฟรานซิสโกสองปีครับ) ครั้งนี้เรามากัน 3 วัน 2 คืน แผนการคร่าวๆ คือ
วันแรก (1) -- ทุ่งดอกไม้ที่ Carlsbad -- Point Loma -- Coronado Island
วันที่สอง (2) -- San Diego Seaworld -- Waterfront
วันที่สาม (3) -- Balboa Park -- Old Town Historic State Park
การเดินทางในเมืองนี้ พวกเราเช่ารถกันวันเดียวคือวันแรก นอกนั้นตั้งใจเดินทางด้วยรถเมล์หรือรถไฟแทนแต่ก็ต้องขึ้นหลายต่อทีเดียว ไปๆ มาๆ พวกเราก็ใช้บริการ Uber ตลอด เพราะแต่ละที่ไม่ได้ไกลกันมากนัก ขึ้น Uber ทีนึงแค่ 10-20$ หารค่ารถกัน (ไปกัน 4 คน) ก็ยังถูกกว่านังรถบัสหลายๆ ต่อรวมกันอยู่ดี (แต่ที่นี่มี day pass ของรถเมล์และรถไฟซึ่งราคาไม่แพงเลยและคุ้มถ้าต้องขึ้นหลายๆ ต่อ ก็เป็นอีกทางเลือกในการเดินทางครับ)
วันแรก เริ่มออกเดินทางจากสนามบิน San Diego ก็ราวๆ สิบโมงกว่าแล้ว และเราก็ตรงดิ่งกันไปที่ Carlsbad The Flower Fields (
http://www.theflowerfields.com)
เป็นที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ที่นี่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมไปจนถึงเทศกาลวันแม่ของอเมริกาก็คือประมาณต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี พวกเราก็ดันเลือกมาตอนต้นเดือนมีนาคมเพราะลืมคิดไปว่า เพิ่งเข้าฤดูใบไม้ผลิดอกไม้อาจจะยังไม่บาน... จนใกล้ๆ วันจะเดินทาง ก็ลองเช็คดูในเวบ ปรากฏว่าก็ยังบานไม่เต็มที่อยู่ดี แต่คงเลื่อนตั๋วไม่ได้ เลยต้องเลยตามเลย สรุปว่าช่วงที่ดีที่สุดที่ควรมาและดอกไม้จะบานเต็มพื้นที่ 50 acres ก็น่าจะประมาณกลางๆ เดือนเมษายน ค่าเข้าชม ราคาผู้ใหญ่ก็คนละ 12 เหรียญ
รูปนี้ที่เป็นรูปดึงดูดผมให้มาที่นี่ เป็นรูปตอนบานเต็มทั้งพื้นที่ครับ เอามาจาก internet
ดอกไม้เกือบทั้งทุ่งของที่นี่คือ ดอก Ranunculus ซึ่งมีหลายสีมาก ทั้งขาว ส้ม เหลือง ชมพู แดง ม่วงเข้ม บางแปลงปลูกแยกเป็นสีๆ บางแปลงปลูกปนกัน นี่ขนาดยังบานไม่เต็มยังสวยขนาดนี้ ถ้าบานเต็มแล้วได้มาเห็นด้วยตานี่คงดีไม่น้อยครับ
เดินเข้ามาหน่อยก็เจอแปลงที่เริ่มบานเกือบเต็ม
ที่นี่มีรถให้นั่งพาชมรอบๆ สวนด้วย (เสียเงินเพิ่ม)
[CR] เพิ่มสีสันในวันฟ้าใส ที่ San Diego
เมื่อพูดถึง San Diego คนก็มักจะนึกถึงเมืองท่าเรือ สวนสัตว์ และสวนน้ำที่มีชื่อเสียง ใครที่มาที่นี่ ก็มักจะไม่พลาดการไปเที่ยวที่ San Diego Waterfront ซึ่งยาวตั้งแต่ด้านหลังของ Convention Center ขึ้นไปจนถึง The Maritime Museum, San Diego Zoo และ Seaworld
จริงๆ โดยส่วนตัวไม่ได้ชอบการเที่ยวสวนสัตว์หรือ seaworld เท่าไรนัก การมา San Diego ครั้งก่อนๆ (เคยมาแล้วสองครั้ง) เลยไม่ได้แวะไปเที่ยวที่นี่เลย อย่างไรก็ตามการกลับมาครั้งนี้จุดหมายหลักจึงไม่ใช่สวนสัตว์และ seaworld เช่นเคยแต่เป็นสวนดอกไม้ คือ Carlsbad The Flower Fields พอดีปีก่อนตอนจะมาที่นี่ ก็หาข้อมูลว่ามีที่อื่นเที่ยวนอกจากสวนสัตว์และ seaworld หรือเปล่า เลยเจอว่าที่นี่ก็มีสวนดอกไม้ ดูรูปแล้วสวยมาก แต่ปีที่แล้วมาไม่ทันเพราะปิดซะก่อน เลยตั้งใจว่าปีนี้จะแวะมาอีกทีก่อนกลับเมืองไทย (ตอนนี้มาอยู่ซานฟรานซิสโกสองปีครับ) ครั้งนี้เรามากัน 3 วัน 2 คืน แผนการคร่าวๆ คือ
วันแรก (1) -- ทุ่งดอกไม้ที่ Carlsbad -- Point Loma -- Coronado Island
วันที่สอง (2) -- San Diego Seaworld -- Waterfront
วันที่สาม (3) -- Balboa Park -- Old Town Historic State Park
การเดินทางในเมืองนี้ พวกเราเช่ารถกันวันเดียวคือวันแรก นอกนั้นตั้งใจเดินทางด้วยรถเมล์หรือรถไฟแทนแต่ก็ต้องขึ้นหลายต่อทีเดียว ไปๆ มาๆ พวกเราก็ใช้บริการ Uber ตลอด เพราะแต่ละที่ไม่ได้ไกลกันมากนัก ขึ้น Uber ทีนึงแค่ 10-20$ หารค่ารถกัน (ไปกัน 4 คน) ก็ยังถูกกว่านังรถบัสหลายๆ ต่อรวมกันอยู่ดี (แต่ที่นี่มี day pass ของรถเมล์และรถไฟซึ่งราคาไม่แพงเลยและคุ้มถ้าต้องขึ้นหลายๆ ต่อ ก็เป็นอีกทางเลือกในการเดินทางครับ)
วันแรก เริ่มออกเดินทางจากสนามบิน San Diego ก็ราวๆ สิบโมงกว่าแล้ว และเราก็ตรงดิ่งกันไปที่ Carlsbad The Flower Fields (http://www.theflowerfields.com)
เป็นที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ที่นี่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมไปจนถึงเทศกาลวันแม่ของอเมริกาก็คือประมาณต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี พวกเราก็ดันเลือกมาตอนต้นเดือนมีนาคมเพราะลืมคิดไปว่า เพิ่งเข้าฤดูใบไม้ผลิดอกไม้อาจจะยังไม่บาน... จนใกล้ๆ วันจะเดินทาง ก็ลองเช็คดูในเวบ ปรากฏว่าก็ยังบานไม่เต็มที่อยู่ดี แต่คงเลื่อนตั๋วไม่ได้ เลยต้องเลยตามเลย สรุปว่าช่วงที่ดีที่สุดที่ควรมาและดอกไม้จะบานเต็มพื้นที่ 50 acres ก็น่าจะประมาณกลางๆ เดือนเมษายน ค่าเข้าชม ราคาผู้ใหญ่ก็คนละ 12 เหรียญ
รูปนี้ที่เป็นรูปดึงดูดผมให้มาที่นี่ เป็นรูปตอนบานเต็มทั้งพื้นที่ครับ เอามาจาก internet
ดอกไม้เกือบทั้งทุ่งของที่นี่คือ ดอก Ranunculus ซึ่งมีหลายสีมาก ทั้งขาว ส้ม เหลือง ชมพู แดง ม่วงเข้ม บางแปลงปลูกแยกเป็นสีๆ บางแปลงปลูกปนกัน นี่ขนาดยังบานไม่เต็มยังสวยขนาดนี้ ถ้าบานเต็มแล้วได้มาเห็นด้วยตานี่คงดีไม่น้อยครับ
เดินเข้ามาหน่อยก็เจอแปลงที่เริ่มบานเกือบเต็ม
ที่นี่มีรถให้นั่งพาชมรอบๆ สวนด้วย (เสียเงินเพิ่ม)