วิศวะคอม ตกงาน??

คือตอนนี้เห็นหลายเสียงพูดกันว่า ถ้าเรียนวิศวะคอม วิศวะอิเล็ก อาจจะตกงานได้ ถึงแม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีก็ตาม เท่
ร้องไห้อยากให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นและแนะนำหน่อยค่ะ คือกำลังจะแอดเข้ามหาวิทยาลัยแล้วคิดไว้ว่าอยากเรียนวิศวะคอม และขออีกคำถามนึงคือถ้าไม่เรียนคอมแล้วควรเรียนวิศวะไร ที่ไหนดีคะ ที่แบบมีงานมั่นคงในตอนนี้ เงินเดือรโอเคหลิ่วตา
ขอคำแนะนำด้วยะคะจุ๊บๆประหลาดใจ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เรียนอะไรก็ได้ ถ้าเก่งจริง ไม่ตกงาน ไม่มีอดตายหรอกครับ  
ความคิดเห็นที่ 29
ปัญหาโลกแตกมาครับ แล้วแต่คนจะมองเอาครับ มองจากคนนอก  หรือมองจากคนใน  รับรู้จากไหน  ฟังจากใคร ฟังจากคนที่จบมาจริงๆ หรือคนที่ไม่ได้จบมาแล้วมโนเอา  ฟังมาพูดจริงแค่บางส่วน ไม่ได้แปลว่าจะพูดจริงทั้งหมด  หยิบคำพูดที่ไม่รู้จริงมากระทบกระทั่งกันนี่คงทำให้ตัวเองดูสูงส่งมากดีนะครับ  ส่วนตัวผมก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน และปัจุบันก็ไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเพื่อรับใช้ บริษัท เจ้านาย อีกต่อไปแล้ว ทำงานอิสระส่วนตัวที่เครียดน้อยกว่า เงินดีกว่าแทนแล้ว เอาความรู้สร้างประโยชน์กับตัวเองแล้ว และจะขอเล่าบางมุมบ้างนะครับ

รู้ไหมครับว่าปีหนึ่งๆมีคนจบวิศวะคอมเท่าไหร่ ถ้านับเฉพาะ คณะวิศวะกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (วศบ.) เท่านั้นรวมแล้วทั่วประเทศทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน  ก็เกือบๆหมื่นคนต่อปี นี่ยังต้องรวมไปถึงคนจบวุฒิ คอ.บ. อส.บ. วท.บ. สาขาอื่นๆที่คาบเกี่ยวกันมาก เช่น สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์(คอ.บ.) สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์(วท.บ.) สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์(ทล.บ) และอีกหลายๆสาขา  ที่จบออกมาในแต่ล่ะปี  และออกมาแข่งขันการหางานในสายงานที่คาบเกี่ยวกัน ซึ่งไหนจะคนที่จบออกมาก่อนหน้า  คนที่เปลี่ยนงานและมีใบสำคัญกว่าปริญญาและความสามารถคือ "ใบผ่านงาน" อีก

เอาประกาศหางานมาเป็นตัวสะท้อนว่าขาดแคลน บางทีก็เป็นเรื่องน่าขันมากและเป็นการหัวเราะทั้งน้ำตาเลยด้วยครับ  เพราะหลายบริษัทหลายตำแหน่ง ไม่ได้ต้องการจริง เปิดรับสมัครเพื่อเรียกร้องความต้องการบางอย่างจากผู้บริหารบริษัทเอง(ในย่อหน้าถัดไป)   เปิดรับสมัครแล้วงานไม่ใช่อย่างที่ประกาศไว้ เรียกร้องหาโปรแกรมเมอร์ หาวิศกรคอม เอาไปทำเอกสาร เอาไปวิเคราะห์ตัวเลข เพื่อนผมคนหนึ่งเข้าไปในฐานะโปรแกรมเมอร์ เจออีกทีเป็นตำแหน่งเลขานุการซะงั้น อีกคนเข้าไปทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ไอที รู้ตัวอีกทีอยู่ตำแหน่งผู้จัดการแผนกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคอมด้วยซ้ำไป เหตุคือ เข้าไปแล้วไม่มีงานในส่วนของคอมพิวเตอร์มาป้อนเลย  มาป้อนในส่วนของเอกสารและส่วนใช้โปรแกรม Excel แทน  และที่บางบริษัทก็ระบบงานยุ่งเหยิง เจ้าของประสาทกินจนเป็นที่เลื่องลือ งานหนักเงินน้อยไม่ก้าวหน้า บริษัทแบบนี้ก็มีอยู่เยอะเช่นกัน ทำไม่เท่าไหร่ก็อออก แล้วก็ประกาศหาคนใหม่อยู่นั่นแหละ สุดท้ายก็เหมือนว่ามันขาดแคลนมากจริงๆ เพราะรัวๆประกาศหาคนมาทำงานตำแหน่งเดิมๆ

ฟรีแลนซ์  จะเจอกันมากในสาขานี้โดยเฉพาะประเทศนี้  เพราะคนจบออกมาเยอะ ไม่ใช่ว่าไม่เก่งเทพเทวดาอย่างคนที่ได้ทำงานบริษัทใหญ่ๆเค้าได้ยกหางไว้ครับ  เค้าก็มีความเก่งในด้านของเค้า  บางคนเก่งฮาร์ดแวร์ บางคนเก่งซอร์ฟแวร์ บางคนเก่งเน็ตเวิร์กบ้าง  แต่งานพวกนี้มันไม่ได้มีมาตลอด  บริษัทบางบริษัทเค้าไม่ได้มีปัญญาจ้างแสดนด์บายไว้ได้ตลอด  ก็เลยหาเอางานเป็นจ็อปๆไปถูกกว่าจ้างไว้เป็นทีมมาทำงาน ใช้เสร็จก็จบ  ซึ่งในที่นี้ก็มีผลประโยชน์ทับซ้อนให้ได้หาผลประโยชน์ของคนฝั่งผู้จ้างคือ "มีค่านายหน้า" หรือก็คือคนในบริษัทที่มาเสนองานให้นั่นแหละหักเอากี่เปอร์เซ็นก็ว่ากันไป เช่น บริษัทให้เงินมาในงานชิ้นนั้นชิ้นนี้มา 10,000บาท หักนายหน้า 10% 20%ก็ว่ากันไป  ไหนจะมีบางคนที่ขอใช้คำว่าเลวสุดๆด้วยการเบี้ยวเงินงวดสุดท้ายก็มีให้เห็นบ่อยๆกับฟรีแลนซ์หน้าใหม่ๆ สุดท้ายก็หาประโยชน์กันเป็นนิสัยเลยกีดกันกันหาข้ออ้างต่างๆนาในการพิจารณา เพื่อที่ว่าช่องว่างในการหาผลประโยชน์ในการขาดแคลนบุคลากรคอมจะได้ไม่ถูกอุดด้วยการมีเจ้าหน้าที่คอมอยู่นั่นเอง

บางคนจบไม่ตรงสาขาแต่อยากจะเป็น อยากจะทำงานในสาขานี้ เลยเรียนแต่เฉพาะอย่างอีกก็เป็นตัวเบียดเข้ามาหางานในจุดนี้ด้วย ซึ่งน่าขันด้วยน้ำตาอีกนั่นแหละที่งานในประเทศไทยสุดท้ายชี้วัดกันด้วยประสบการณ์การทำงาน ใบผ่านงานสำคัญกว่าใบปริญญาด้วยซ้ำไป  สรุปบางครั้งได้คนที่เก่งแต่พูดมา เมื่อทำงานลงลึกในรายละเอียดกลับไม่รู้อะไรเลยแก้ไขปัญหางานยากไม่ได้เพราะพื้นฐานจริงๆไม่ได้เรียนมา จนต้องไปใช้บริการฟรีแลนซ์อีกนั่นแหละครับ  บางครั้งการโปรแกรมมิ่ง ไปซื้อหนังสือมาอ่านได้ครับ มีเยอะทุกภาษาเลย แต่แนวคิดในการแก้ปัญหาบางครั้งก็ต้องอาศัยความรู้เฉพาะที่ต้องเรียนตามหลักสูตรมาช่วย เค้าเลยบอกเลยว่า โปรแกรมเมอร์กับคีย์แมน ต่างกันนิดเดียวเองครับ

ภาพลักษณ์และทักษะการพูดสำคัญสุดในการหางาน  เพื่อนรุ่นผมหลายๆคนที่เก่งจริงๆในด้านนั้นๆ ไม่ได้ทำงานอย่างที่ควรจะได้ เพราะสอบสัมภาษณ์ไม่เคยผ่าน  เกรดเฉลี่ยไม่สูง เพราะเก่งเฉพาะด้านเดียว ส่วนอื่นเลยฉุดไว้  เรื่องแบบนี้คนสัมภาษณ์บางครั้งก็ไม่ใส่ใจดูว่าเค้าเก่งในด้านไหน ตรงกับที่ต้องการหรือไม่  รอแต่คนที่เก่งทุกอย่างทุกวิชาอย่างเดียว จะยกตัวอย่างให้เป็นรายๆไปครับ  เพื่อนคนหนึ่งเก่งด้านเน็ตเวิร์คมากแต่สัมภาษณ์ไม่ผ่านเพราะลักษณะดูเป็นแก็งสเตอร์มี รอยสัก  เพื่อนคนหนึ่งเขียนโปรแกรม(VB,C#ในสมัยก่อนนั้น)เก่งมากไม่ถึงครึ่งวันเสร็จทั้งๆที่พวกผมทำกันสามสี่วันยังไม่ผ่าน เพราะลักษณะเป็นคนพูดน้อย เบาๆ ดูเนือยๆ ไร้ชีวิตชีวา  อีกคนเก่งโปรแกรมJava มาก เก็บใบเซอร์ได้หมด แต่เป็นพวกพูดจาโผงผาง แบบขวานผ่าซาก ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบตรงๆ   อีกคนเก่งเรื่องฮาร์ดแวร์ ทำอุปกรณ์ติดต่อกับคอม เขียนโปแกรมควบคุมได้ตั้งแต่ต้นจนจบชนิดที่ว่าผมทำได้เสร็จจริงมันทำได้ดีกว่าเยอะเลย แต่ก็ไม่ได้งานเพราะหน้าตาบุคลิกออกแนวมนุษย์ซกมก  หรืออีกคนที่เก่งด้านฐานข้อมูลมากแต่ไปทำงานในไร่ในสวนผลไม้สืบทอดงานที่บ้าน  โดยทั้งหมดนี้ก็ยังคงรับงานบ้างแล้วแต่มีคนติดต่อมา ซึ่งทั้งหมดตอนนี้มีกิจการส่วนตัวทั้งสิ้น ชวนให้ไปทำงานบริษัทก็ไม่มีใครไปแล้ว นี่หรือเปล่าคนที่บอกว่าขาดแคลน  ขาดแคลนเพราะไม่มีคนเก่ง  หรือขาดแคลนที่ไม่สามารถหาคนเก่งมาทำงานให้ได้กันแน่

ต้องเก่งแค่ไหนที่จะผ่านเกณฑ์การรับเข้าทำงานได้โดยไม่สนประสบการณ์การทำงาน เพราะแทบทุกสาขาไม่ว่าจะคอมหรือไม่คอม  ส่วนมากต้องหางานหลังจากจบ จำนวนมากตกงานเพราะไม่ใช่ว่าไม่เก่ง แต่เพราะว่าไม่มีโอกาสต่างหาก คนเก่งจำนวนมาก แตกต่าง คนเก่งจำนวนมากไม่มีเส้นสายรับเข้าทำงาน คนเก่งจำนวนมากมีทางเลือกในการใช้ชีวิตมากกว่าการไปทำงานบริษัท หน่วยงาน  หลายคนตัดสินว่าคนนั้นเก่ง คนนั้นไม่เก่งจากการที่เข้าทำงานรับเงินเดือนเท่านั้น  การจะเอาบรรทัดฐานอะไรไปวัด มันไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง

มุมมองของคนที่หาคนมาทำงานด้านนี้เอาตัวละครในหนังในทีวีเป็นบรรทัดฐานในการหาคนมาทำงาน  ซึ่งมันไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งความเป็นจริง  คนที่พิมพ์รัวๆ แล้วทำให้โปรแกรมขนาดพันบรรทัดเสร็จได้ในการกดEnterแค่ครั้งเดียวหน่ะ อยากรู้เหมือนกันว่ามหาลัยไหนสอนให้ทำได้บ้าง วานบอกผมหน่อย แม้แต่พวก born to be ยังไม่เห็นว่าจะมีใครทำได้เลย  พอเห็นคนที่จบมาโดยตรงทำไม่ได้อย่างที่มโนไว้ก็ว่าเค้าไม่เก่ง ว่าเค้ากากไปซะแล้ว

คนเรียนมาจบมา แม้จะไม่เก่ง ไม่รู้เรื่อง ทำไม่เป็น จริงอยู่มันมีอยู่จริงๆนั่นแหละ  แต่คนพวกนี้มันเอามาพัฒนาต่อได้นะเพราะก็เคยเรียน ผ่านการทำงานมาบ้างแล้ว  แม้ไม่ถึงขั้นเก่งฉกาจทำงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอันได้  แต่ก็มีฝีมืออยู่ในระดับ Expert User เหมือนกัน ทำอะไรหลายๆอย่างได้  ใช้โปรแกรม เครื่องมือได้ ไม่ใช่เห็นว่ากากแล้วก็โละทิ้งเลยทันที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่