เมื่อเก็บสะสมไว้มากเราก็อยากแบ่งปัน. - จึงเกิดเป็นรี(เล่า)วิวครั้งแรกครั้งนี้นี่เอง
**อาจจะเป็นเรื่องเล่าซะเยอะ และรูปตามใจเจ้าของกล้องหน่อยๆ ขอโทษด้วยนะคะ แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากออกเดินทางนะคะ**
มีเสียงแว่วมาจากผู้มีพระคุณล้นฟ้าบอกว่า “แม่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นเองบ้าง คนนั้นคนนี้(เอ่ยชื่อคนรู้จัก) ก็ยังไปเองได้ ทำไมน้องพาแม่ไปไม่ได้บ้าง”
“แล้วคุณแม่อยากไปไหน”
“ฟุคุโอกะ มันธรรมชาติดี แม่ว่าสวยนะดูจากหนังสือ”
“ภูฏานธรรมชาติไม่พอหร๋อคะ”
“มันคนละแบบ”
“โอ่ย”
จบบทสนทนาทั้งหมดไปในวันนี้
จากนั้นฉันก็มานั่งคิดเออนั่นสิ แต่ไปเที่ยวเองมันยากจะตาย ตั้งแต่เกิดมาไปทัวร์ตล๊อด ก้าวขาแรกไปทำอะไรที่ไม่ชินมันยากนะ แต่ฉันก็คิดว่า “เอาวะค่ะ ไหนๆก็ไหนๆโตมาได้ขนาดนี้ ลองสักทีละกัน เผื่อมีคราวหน้า555”
งั้นเริ่มกันเลยนะคะ เรารวบลัดตัดตอนมาถึงตอนเดินทางเลยแล้วกัน เพราะก่อนหน้านั้นทรหดจริงๆ วันๆไม่ทำอะไรเลยค่ะคุณผู้อ่าน ถ้าไม่นับชีวิตประจำวันที่ต้องทำ ก็นั่งอ่านรีวิวไปเที่ยวกันจนตาแฉะ เปิดกันไปสิเว็บนั้นเว็บนี้ หนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ เล่มไหนดีเอ้าเปิดดู แต่ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆนะคะ ทั้งหมดนี้จึงเป็นหนึ่งในกำลังใจที่อยากกลับมาตอบแทนผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน

สำหรับตารางเที่ยวเป็นดังนี้นะคะ
Day 1: BANGKOK - FUKUOKA
Day 2: FUKUOKA - YUFUIN
Day 3 : YUFUIN - BEPPU
Day 4 : BEPPU - ASO - KUMAMOTO
Day 5 : KUMAMOTO - NAGASAKI
Day 6 : NAGASAKI
Day 7 : NAGASAKI - SAGA - FUKUOKA
Day 8 : FUKUOKA
Day 9 : FUKUOKA - BANGKOK
เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉันและครอบครัวเราสามคน เดินทางไปถึงสุวรรณภูมิตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง วนหาที่จอดรถสักพักคิดว่าไม่มี
เอ้าโชคดีมีว่างอยู่ที่นึงชั้น 5 ด้วย เราก็จอด เมื่อไปถึงตัวอาคารผู้โดยสาร พระเจ้าคนเยอะมากไปไหนกันเนี่ย
เรายืนกันอยู่สักพักตรงเคาน์เตอร์ J ที่คนล้นออกมา
สายตาเหลือบไปเห็นป้ายการบินไทย ไป พูซาน ญี่ปุ่น เชิญเคาน์เตอร์ C “ซอรี่ฟอยัวอินคอนวิเนียน” จะรออะไรหล่ะคะ รีบเดินไปเลยค่ะ
พอเดินมาถึงเคาน์เตอร์ C ก็คนอีกแหล่ะค่ะ แต่ดีกว่าเมื่อกี้หน่อย รอไปสักพักก็เช็คอินเสร็จ ไปเลาจน์ รองท้องก่อนขึ้นเครื่อง
เที่ยวบินวันนี้ TG 648 BKK-FUK Boeing 747 Dreamliner เครื่องขึ้นนิ่มมาก เสียงเครื่องยนต์เบาสุดๆ
ถ้าชอบดูวิวสวยๆแนะนำริมหน้าต่างเลยนะคะ กระจกใสมากสงสัยเครื่องใหม่
เครื่องออกตอนตีหนึ่งนะคะ ขึ้นเครื่องปุ๊ปก็นอกเอาแรงเลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดหนัก
ก่อนเครื่องลงก็มีอาหารเช้าร้อนๆมาเสิร์ฟมันชั่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีจริงๆ
เรามาถึงสนามบินนานาชาติฟุคุโอะตอนแปดโมงเช้าผ่าน Immigration และรับกระเป๋ารวมๆประมาณ 30 นาที
เย่! ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ ไกด์พร้อม (บอกตัวเองค่ะ) ลูกทีมดูน่าจะพร้อม เราก็เดินเหร๋อๆหราๆ
ออกจากประตูไปสัมผัสอากาศเย็นม้าก แล้วก็หันหลังเดินกลับเข้าอาคาร พร้อมหยิบโพยทั้งหมดออกมา
เดี๋ยวต้องไปทำอะไรบ้าง
- อย่าลืม! แวะ Tourist information เอาเอกสารรายละเอียดต่างๆ
- เคาน์เตอร์ตรงข้ามเป็นที่ซื้อตั๋วรถบัส Nishitetsu
ตารางเที่ยววันนี้เราจะไป ดาไซฟุและเที่ยวเมืองด้วย ค่าตั๋ว One-day pass 1340Y/Person
พอซื้อตั๋วเสร็จเราก็เดินออกมารอด้านนอก ป้ายเบอร์ 2 ดูรอบรถ แล้วก็มายืนรอตรงแถวตามเส้นที่เขียนว่า Hakata
เดี๋ยวรถที่จะมารับเราประมาณ 9.30น. เพื่อไปสถานี Hakata เพราะเราจองโรงแรมไว้แถวๆนั้น
คืนนี้เรานอนที่ Hakata Green No.2 Hotel เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บก่อนค่ะ แล้วค่อยออกเที่ยว
ทุกวันจะเป็นเป็นแบบนี้ค่ะ คือเมื่อไปถึงเมืองไหนๆเราจะเอากระเป๋าใหญ่ไปเก็บก่อน
เพราะคุณแม่ไม่ยอมใช้บริการแมวดำ เนื่องจาก Shopping เยอะมากตลอดทางกลัวไม่มีกระเป๋าเก็บของเลยยอมแบกๆลากๆเอาค่ะ
(ส่วนเบอร์ 1 จะเป็นบัสฟรี ไป Domestic Terminal ค่ะ(อันนี้ถ้าใครจะไปSubwayมารอบัสตรงนี้ได้เลยค่ะ)
บนรถบัสมีที่ว่างสำหรับางกระเป๋าได้นะคะ แต่อาจต้องยืนกันๆหน่อย มันจะเลื่อนไปมาตอนรถวิ่ง
ระหว่างอยู่บนรถดูวิวไปพลางๆและก็ดูที่หน้าจอรถบัสนะคะ พอเห็นเขียน Hakata Staion เราก็ลงได้เลยค่ะ
ฝั่งที่ลงรถนี้น่าจะเป็นด้านหลังสถานีนะคะ ซึ่งโรมแรมก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ เดินนิดเดียว แต่พอดีกว่านี้วันแรก อยากชมเมือง ไม่ใช่!
คือพอลงรถแล้วก็เปิด Map ที่เป็นกระดาษ และ Offline map บนมือถือดูเลยทำให้เดินอ้อมไปเล็กน้อย
แต่จริงๆเมื่อลงจากรถบัสแล้วเดินทะลุตึกนิดเดียวถึงหน้าโรงแรมเลยค่ะ ใกล้สถานีรถไฟมาก
(ไม่ได้เช่า Pocket - Wifiไปนะคะ เพราะเคยไปเที่ยวแล้วเมื่อโทรศัพท์มีเน็ตถ่ายรูปเสร็จอัพ แชท วันๆเลยไม่ทำอะไรเลยค่ะ
คราวนี้เลยตั้งใจว่าจะไปเที่ยวแบบสงบ กลับมาใช้เน็ตที่โรงแรมเท่านั้น เพราะไม่มีคุณไกด์พาเดินแล้วเราต้องเดินเอง
ส่วนเรื่องใช้เน็ตหาแผนที่ รอบรถไฟ หรือพวกข้อต่างๆเราก็เตรียมไปตั้งแต่เมืองไทย saved ไว้ก่อนเลย หรือยังไงก็ดูจาก Offine map เอาค่ะ ลุ้นๆ)
พอดีเรามาถึงเร็วไปหน่อยนะคะ เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ก่อนยังไม่ถึงเวลา Check-in ค่ะ
จากนั้นก็ไปสถานี Hakata เพื่อจองรถไฟในวันถัดๆไป ข้างในสถานีคนเยอะวุ่นวายพอตัวเลยนะคะ
ระหว่างทางแวะซื้อ Croissant เจ้าดังก่อน ร้าน il forno del mignon ตอนเช้าๆคนไม่ค่อยเยอะนะคะ มีรสOriginal, Chocolate, มันเทศค่ะ
ส่วนในใจก็ท่อง Yufuin no mori ไปเรื่อยๆ ตั้งใจอยากนั่งมาก Printed ตารางจาก Hyperdia มาได้นั่งชัว มีตั้งหลายเที่ยว
แต่เมื่อเดินมาถึง JR Ticket Office ปรากฎว่ามีกระดานตั้งอยุ่เขียนว่าเต็ม เต็ม เต็ม ไปอีก 3วัน
เพราะงั้น สุดท้ายรับประทานแห้วไปตามระเบียบค่ะ จากเดิมที่จะวิ่ง 4 เที่ยว แต่ทำม้ายทำไมเหลือเที่ยวเดียวหล่ะคุณน้อง
ใจพี่เสียเลย แต่เนื่องจากพรุ่งนี้ยังไงก้ต้องไป Yufuin เพราะจองเรียวกังไว้แล้ว เราจึงตัดใจขึ้นขบวนอื่นแทน
แต่บอกคุณแม่ไว้แล้วจะพามาแก้มือ จริงๆท่านใดที่อยากนั่งนะคะ คิดว่าถ้าไม่มาจองแบบวันนี้พรุ่งนี้เดินทางเนี่ยน่าจะมีโอกาสได้นั่ง
ประมาณว่าเที่ยวย้อนไป Nagasaki ก่อนแบบนี้อ่ะค่ะ น่าจะเวิร์คอยู่นะ
จองตั๋วรถไฟก็ง่ายๆค่ะ หากท่านใดมีตารางเที่ยวรถไฟที่เตรียมมา เราก็ลอกแล้วก็ยื่นใบให้พนักงานที่เคาน์เตอร์
พร้อมกับ Passport ได้เลย หรือหากใครไม่ได้เตรียมมา ตรงบริเวณนั้นจะมีตารางรถไฟที่เป็นกระดาษอยู่ก็สามารถดูเที่ยวรถไฟได้
หรือหากใครงงอะไรก็ถามพนักงานใจดีแถวๆนั้นได้เลยค่ะ
เกริ่นยาวจริงเชียว ออกเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
ที่แรกที่เราไปกันคือ Dazaifu Tenmangu Shrine นะคะ
How to go: จาก Hakata ไป Tenjin (KUKO LINE สายสีส้ม)
WALK: ไปทางห้าง Parco ตามป้ายที่เขียนว่า Nishitesu ขึ้นไปชั้น 2F
จะเจออีกทางเข้าของสถานี Nishitetsu Fukuoka Station
TRAIN: Nishitetsu Tenjin-Omuta Line Exp. ควรขึ้นExpress
จาก NishitetsuFukuoka(Tenjin) ลง Nishitetsufutsukaichi
TRAIN: Nishitetsufutsukaichi ลง Dazaifu (Dazaifu Line)
ทางเดินไปศาลเจ้าเป็นถนนคนเดินนะคะ มีเสาโทริอิไปตลอดทางเลยค่ะ
มีขนมดังคือ โมจิไส้ถั่วแดงปิ้งร้อนๆ (Umegae Mochi) มีประมาณสิบกว่าร้าน เราก็เข้าร้านที่คนต่อแถวยาวๆ
เผื่ออร่อยกว่า แต่ถ้าคนไม่ชอบหวานก็อาจจะรู้สึกว่าหวานแบบญี่ปุ่นปกติ
อ้อระหว่างทางมีร้าน Starbucks ที่ติดอันดับ1ใน25ร้าน Starbucksสวยทั่วโลกนะคะ
สวยทั้งข้างในและข้างนอกจริงๆ ร้านหรือนางงาม ร้านค่ะร้าน
พอเดินเข้ามาถึงทางเข้าศาลเจ้าจะเจอรูปปั้นวัวหัวทองค่ะ ไม่ใช่วัวฝรั่งแต่อย่างใด
เนื่องจากคนญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าได้ลูบหัววัวแล้วจะเรียนหนังสือเก่ง เพราะศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงด้านการศึกษาค่ะ
หลังจากต่อแถวลูบหัววัวเสร็จเราก็เดินผ่านข้ามสะพานแดงเข้ามาถึงบริเวณตัวศาลเจ้าค่ะ
ด้านหน้าจะมีให้ล้างมือชำระร่างกายและจิตใจก่อนเข้าศาลเจ้านะคะ
เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในพบว่า วันนี้มีคนมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่ สวยงามมากเลยค่ะ
สงสัยวันนี้จะเป็นวันดีนะคะ มีคนมาจัดงานแต่งงาน แถมภายในตัวศาลเจ้ามีพระกำลังทำพิธีอยู่ด้วยค่ะ คนต่อแถวเพื่อเข้าไปนั่งทำพิธีด้านในเพียบเลยค่ะ
เมื่อเดินเลยไปด้านหลังศาลเจ้า ก็จะมีทางเดินไปเรื่อยๆไปห้องน้ำ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งค่ะ
จริงๆเดินตามทางเลยไปด้านหลัง จะพบกับเสาโทริอิสีแดงเล็กๆเรียงตัวกันขึ้นไป ด้านบนจะพบกับศาลเจ้าเล็กๆขึ้นไปขอพรกันได้ค่ะ
[CR] มือใหม่หัดเที่ยวเอง : Northern KYUSHU 9 วัน ตอน “กล้าก้าวเล็กๆมาถึงFukuoka”
**อาจจะเป็นเรื่องเล่าซะเยอะ และรูปตามใจเจ้าของกล้องหน่อยๆ ขอโทษด้วยนะคะ แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากออกเดินทางนะคะ**
มีเสียงแว่วมาจากผู้มีพระคุณล้นฟ้าบอกว่า “แม่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นเองบ้าง คนนั้นคนนี้(เอ่ยชื่อคนรู้จัก) ก็ยังไปเองได้ ทำไมน้องพาแม่ไปไม่ได้บ้าง”
“แล้วคุณแม่อยากไปไหน”
“ฟุคุโอกะ มันธรรมชาติดี แม่ว่าสวยนะดูจากหนังสือ”
“ภูฏานธรรมชาติไม่พอหร๋อคะ”
“มันคนละแบบ”
“โอ่ย”
จบบทสนทนาทั้งหมดไปในวันนี้
จากนั้นฉันก็มานั่งคิดเออนั่นสิ แต่ไปเที่ยวเองมันยากจะตาย ตั้งแต่เกิดมาไปทัวร์ตล๊อด ก้าวขาแรกไปทำอะไรที่ไม่ชินมันยากนะ แต่ฉันก็คิดว่า “เอาวะค่ะ ไหนๆก็ไหนๆโตมาได้ขนาดนี้ ลองสักทีละกัน เผื่อมีคราวหน้า555”
งั้นเริ่มกันเลยนะคะ เรารวบลัดตัดตอนมาถึงตอนเดินทางเลยแล้วกัน เพราะก่อนหน้านั้นทรหดจริงๆ วันๆไม่ทำอะไรเลยค่ะคุณผู้อ่าน ถ้าไม่นับชีวิตประจำวันที่ต้องทำ ก็นั่งอ่านรีวิวไปเที่ยวกันจนตาแฉะ เปิดกันไปสิเว็บนั้นเว็บนี้ หนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ เล่มไหนดีเอ้าเปิดดู แต่ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆนะคะ ทั้งหมดนี้จึงเป็นหนึ่งในกำลังใจที่อยากกลับมาตอบแทนผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน
สำหรับตารางเที่ยวเป็นดังนี้นะคะ
Day 1: BANGKOK - FUKUOKA
Day 2: FUKUOKA - YUFUIN
Day 3 : YUFUIN - BEPPU
Day 4 : BEPPU - ASO - KUMAMOTO
Day 5 : KUMAMOTO - NAGASAKI
Day 6 : NAGASAKI
Day 7 : NAGASAKI - SAGA - FUKUOKA
Day 8 : FUKUOKA
Day 9 : FUKUOKA - BANGKOK
เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉันและครอบครัวเราสามคน เดินทางไปถึงสุวรรณภูมิตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง วนหาที่จอดรถสักพักคิดว่าไม่มี
เอ้าโชคดีมีว่างอยู่ที่นึงชั้น 5 ด้วย เราก็จอด เมื่อไปถึงตัวอาคารผู้โดยสาร พระเจ้าคนเยอะมากไปไหนกันเนี่ย
เรายืนกันอยู่สักพักตรงเคาน์เตอร์ J ที่คนล้นออกมา
สายตาเหลือบไปเห็นป้ายการบินไทย ไป พูซาน ญี่ปุ่น เชิญเคาน์เตอร์ C “ซอรี่ฟอยัวอินคอนวิเนียน” จะรออะไรหล่ะคะ รีบเดินไปเลยค่ะ
พอเดินมาถึงเคาน์เตอร์ C ก็คนอีกแหล่ะค่ะ แต่ดีกว่าเมื่อกี้หน่อย รอไปสักพักก็เช็คอินเสร็จ ไปเลาจน์ รองท้องก่อนขึ้นเครื่อง
เที่ยวบินวันนี้ TG 648 BKK-FUK Boeing 747 Dreamliner เครื่องขึ้นนิ่มมาก เสียงเครื่องยนต์เบาสุดๆ
ถ้าชอบดูวิวสวยๆแนะนำริมหน้าต่างเลยนะคะ กระจกใสมากสงสัยเครื่องใหม่
เครื่องออกตอนตีหนึ่งนะคะ ขึ้นเครื่องปุ๊ปก็นอกเอาแรงเลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดหนัก
ก่อนเครื่องลงก็มีอาหารเช้าร้อนๆมาเสิร์ฟมันชั่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีจริงๆ
เรามาถึงสนามบินนานาชาติฟุคุโอะตอนแปดโมงเช้าผ่าน Immigration และรับกระเป๋ารวมๆประมาณ 30 นาที
เย่! ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ ไกด์พร้อม (บอกตัวเองค่ะ) ลูกทีมดูน่าจะพร้อม เราก็เดินเหร๋อๆหราๆ
ออกจากประตูไปสัมผัสอากาศเย็นม้าก แล้วก็หันหลังเดินกลับเข้าอาคาร พร้อมหยิบโพยทั้งหมดออกมา
เดี๋ยวต้องไปทำอะไรบ้าง
- อย่าลืม! แวะ Tourist information เอาเอกสารรายละเอียดต่างๆ
- เคาน์เตอร์ตรงข้ามเป็นที่ซื้อตั๋วรถบัส Nishitetsu
ตารางเที่ยววันนี้เราจะไป ดาไซฟุและเที่ยวเมืองด้วย ค่าตั๋ว One-day pass 1340Y/Person
พอซื้อตั๋วเสร็จเราก็เดินออกมารอด้านนอก ป้ายเบอร์ 2 ดูรอบรถ แล้วก็มายืนรอตรงแถวตามเส้นที่เขียนว่า Hakata
เดี๋ยวรถที่จะมารับเราประมาณ 9.30น. เพื่อไปสถานี Hakata เพราะเราจองโรงแรมไว้แถวๆนั้น
คืนนี้เรานอนที่ Hakata Green No.2 Hotel เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บก่อนค่ะ แล้วค่อยออกเที่ยว
ทุกวันจะเป็นเป็นแบบนี้ค่ะ คือเมื่อไปถึงเมืองไหนๆเราจะเอากระเป๋าใหญ่ไปเก็บก่อน
เพราะคุณแม่ไม่ยอมใช้บริการแมวดำ เนื่องจาก Shopping เยอะมากตลอดทางกลัวไม่มีกระเป๋าเก็บของเลยยอมแบกๆลากๆเอาค่ะ
(ส่วนเบอร์ 1 จะเป็นบัสฟรี ไป Domestic Terminal ค่ะ(อันนี้ถ้าใครจะไปSubwayมารอบัสตรงนี้ได้เลยค่ะ)
บนรถบัสมีที่ว่างสำหรับางกระเป๋าได้นะคะ แต่อาจต้องยืนกันๆหน่อย มันจะเลื่อนไปมาตอนรถวิ่ง
ระหว่างอยู่บนรถดูวิวไปพลางๆและก็ดูที่หน้าจอรถบัสนะคะ พอเห็นเขียน Hakata Staion เราก็ลงได้เลยค่ะ
ฝั่งที่ลงรถนี้น่าจะเป็นด้านหลังสถานีนะคะ ซึ่งโรมแรมก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ เดินนิดเดียว แต่พอดีกว่านี้วันแรก อยากชมเมือง ไม่ใช่!
คือพอลงรถแล้วก็เปิด Map ที่เป็นกระดาษ และ Offline map บนมือถือดูเลยทำให้เดินอ้อมไปเล็กน้อย
แต่จริงๆเมื่อลงจากรถบัสแล้วเดินทะลุตึกนิดเดียวถึงหน้าโรงแรมเลยค่ะ ใกล้สถานีรถไฟมาก
(ไม่ได้เช่า Pocket - Wifiไปนะคะ เพราะเคยไปเที่ยวแล้วเมื่อโทรศัพท์มีเน็ตถ่ายรูปเสร็จอัพ แชท วันๆเลยไม่ทำอะไรเลยค่ะ
คราวนี้เลยตั้งใจว่าจะไปเที่ยวแบบสงบ กลับมาใช้เน็ตที่โรงแรมเท่านั้น เพราะไม่มีคุณไกด์พาเดินแล้วเราต้องเดินเอง
ส่วนเรื่องใช้เน็ตหาแผนที่ รอบรถไฟ หรือพวกข้อต่างๆเราก็เตรียมไปตั้งแต่เมืองไทย saved ไว้ก่อนเลย หรือยังไงก็ดูจาก Offine map เอาค่ะ ลุ้นๆ)
พอดีเรามาถึงเร็วไปหน่อยนะคะ เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ก่อนยังไม่ถึงเวลา Check-in ค่ะ
จากนั้นก็ไปสถานี Hakata เพื่อจองรถไฟในวันถัดๆไป ข้างในสถานีคนเยอะวุ่นวายพอตัวเลยนะคะ
ระหว่างทางแวะซื้อ Croissant เจ้าดังก่อน ร้าน il forno del mignon ตอนเช้าๆคนไม่ค่อยเยอะนะคะ มีรสOriginal, Chocolate, มันเทศค่ะ
ส่วนในใจก็ท่อง Yufuin no mori ไปเรื่อยๆ ตั้งใจอยากนั่งมาก Printed ตารางจาก Hyperdia มาได้นั่งชัว มีตั้งหลายเที่ยว
แต่เมื่อเดินมาถึง JR Ticket Office ปรากฎว่ามีกระดานตั้งอยุ่เขียนว่าเต็ม เต็ม เต็ม ไปอีก 3วัน
เพราะงั้น สุดท้ายรับประทานแห้วไปตามระเบียบค่ะ จากเดิมที่จะวิ่ง 4 เที่ยว แต่ทำม้ายทำไมเหลือเที่ยวเดียวหล่ะคุณน้อง
ใจพี่เสียเลย แต่เนื่องจากพรุ่งนี้ยังไงก้ต้องไป Yufuin เพราะจองเรียวกังไว้แล้ว เราจึงตัดใจขึ้นขบวนอื่นแทน
แต่บอกคุณแม่ไว้แล้วจะพามาแก้มือ จริงๆท่านใดที่อยากนั่งนะคะ คิดว่าถ้าไม่มาจองแบบวันนี้พรุ่งนี้เดินทางเนี่ยน่าจะมีโอกาสได้นั่ง
ประมาณว่าเที่ยวย้อนไป Nagasaki ก่อนแบบนี้อ่ะค่ะ น่าจะเวิร์คอยู่นะ
จองตั๋วรถไฟก็ง่ายๆค่ะ หากท่านใดมีตารางเที่ยวรถไฟที่เตรียมมา เราก็ลอกแล้วก็ยื่นใบให้พนักงานที่เคาน์เตอร์
พร้อมกับ Passport ได้เลย หรือหากใครไม่ได้เตรียมมา ตรงบริเวณนั้นจะมีตารางรถไฟที่เป็นกระดาษอยู่ก็สามารถดูเที่ยวรถไฟได้
หรือหากใครงงอะไรก็ถามพนักงานใจดีแถวๆนั้นได้เลยค่ะ
เกริ่นยาวจริงเชียว ออกเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
ที่แรกที่เราไปกันคือ Dazaifu Tenmangu Shrine นะคะ
How to go: จาก Hakata ไป Tenjin (KUKO LINE สายสีส้ม)
WALK: ไปทางห้าง Parco ตามป้ายที่เขียนว่า Nishitesu ขึ้นไปชั้น 2F
จะเจออีกทางเข้าของสถานี Nishitetsu Fukuoka Station
TRAIN: Nishitetsu Tenjin-Omuta Line Exp. ควรขึ้นExpress
จาก NishitetsuFukuoka(Tenjin) ลง Nishitetsufutsukaichi
TRAIN: Nishitetsufutsukaichi ลง Dazaifu (Dazaifu Line)
ทางเดินไปศาลเจ้าเป็นถนนคนเดินนะคะ มีเสาโทริอิไปตลอดทางเลยค่ะ
มีขนมดังคือ โมจิไส้ถั่วแดงปิ้งร้อนๆ (Umegae Mochi) มีประมาณสิบกว่าร้าน เราก็เข้าร้านที่คนต่อแถวยาวๆ
เผื่ออร่อยกว่า แต่ถ้าคนไม่ชอบหวานก็อาจจะรู้สึกว่าหวานแบบญี่ปุ่นปกติ
อ้อระหว่างทางมีร้าน Starbucks ที่ติดอันดับ1ใน25ร้าน Starbucksสวยทั่วโลกนะคะ
สวยทั้งข้างในและข้างนอกจริงๆ ร้านหรือนางงาม ร้านค่ะร้าน
พอเดินเข้ามาถึงทางเข้าศาลเจ้าจะเจอรูปปั้นวัวหัวทองค่ะ ไม่ใช่วัวฝรั่งแต่อย่างใด
เนื่องจากคนญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าได้ลูบหัววัวแล้วจะเรียนหนังสือเก่ง เพราะศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงด้านการศึกษาค่ะ
หลังจากต่อแถวลูบหัววัวเสร็จเราก็เดินผ่านข้ามสะพานแดงเข้ามาถึงบริเวณตัวศาลเจ้าค่ะ
ด้านหน้าจะมีให้ล้างมือชำระร่างกายและจิตใจก่อนเข้าศาลเจ้านะคะ
เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในพบว่า วันนี้มีคนมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่ สวยงามมากเลยค่ะ
สงสัยวันนี้จะเป็นวันดีนะคะ มีคนมาจัดงานแต่งงาน แถมภายในตัวศาลเจ้ามีพระกำลังทำพิธีอยู่ด้วยค่ะ คนต่อแถวเพื่อเข้าไปนั่งทำพิธีด้านในเพียบเลยค่ะ
เมื่อเดินเลยไปด้านหลังศาลเจ้า ก็จะมีทางเดินไปเรื่อยๆไปห้องน้ำ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งค่ะ
จริงๆเดินตามทางเลยไปด้านหลัง จะพบกับเสาโทริอิสีแดงเล็กๆเรียงตัวกันขึ้นไป ด้านบนจะพบกับศาลเจ้าเล็กๆขึ้นไปขอพรกันได้ค่ะ