เครื่องยนต์ดับ ?

กระทู้สนทนา
GDP = C + I + G + (X-M)

Consumption หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 83% เมื่อเทียบกับ GDP  คนชั้นกลางส่วนใหญ่เป็นหนี้  แล้วจะเอากำลังซื้อจากไหน  เดือนๆ ต้องกันเงินไว้ใช้หนี้สถานบันการเงิน  แถมมาเจอกระทรวงการคลังมารีดเงินจากกระเป๋าประชาชนซ้ำเติมอีก  กำลังซื้อยิ่งอ่อนแรงลงไปอีก

Investment  การส่งออกก็ไม่ดี  แถมการบริโภคภายในประเทศก็ซบเซา  กำลังการผลิตเหลือ  แล้วจะลงทุนไปทำไม

Government Spending  เงินงบประมาณค้างท่อเพียบ  ผ่านไปเกือบครึ่งปีงบประมาณ  ใช้ไปไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์  และการลงทุนภาครัฐก็รอไปถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อย

Export  เป็นพระเอกที่ดัน GDP ของไทยในอดีตให้โตในระดับสูงมาตลอด  จนมาเจอช่วง 2-3 ปีนี้ที่การส่งออกแทบจะเติบโตเป็นศูนย์  ปีนี้ไม่น่าเกินความคาดหมาย  คือติดลบ

หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปอย่างนี้  โดยไม่มีจุดเปลี่ยน  โอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีสูงครับ

หากไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย  ตลาดหุ้นคงไม่ต้องไม่หวัง All time high แบบประเทศอื่นๆ  เอาแค่มาลุ้นไม่ต่ำพันจุดก็ดีมากแล้ว

นักวิเคราะห์ก็อย่าไปเชื่อมากนัก  วันนี้อ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์หนึ่ง  บอก Forward PE ของไทยจะอยู่ที่ 14 เท่าตอนสิ้นปี 2558  จากตอนนี้อยู่ที่ 22 เท่า  2 ปีที่ผ่านมาเห็นนักวิเคราะห์บอก Forward PE ของไทยจะต่ำลงๆ  แต่ในความเป็นจริงมันสูงขึ้นๆ  เพราะ E มันลด  ขณะที่ราคาหุ้นแทบจะไม่ได้ลดลง

มองระยะยาวไกลออกไปอีก

ไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก 20 ปีข้างหน้า  เราจะมีประชากรผู้สูงอายุถึง 1 ใน 3 ของประชากร  ตรงนี้เป็นจุดที่ผู้บริหารประเทศต้องคิดให้หนัก  เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณใครจะเป็นคนดูแลพวกเขา  เดือนละ 600 บาท  กินข้าวไม่ถึง 10 วัน  หรือค่าเช่าห้องยังไม่ถึง 1 เดือน  

การไปเก็บภาษีสารพัดกับประชาชนเยอะๆ  ถามว่าเงินพวกนี้จะกลับมาเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนในยามทำงานไม่ไหวหรือไม่ ?  หรือว่าปล่อยตามกำลังของแต่ละคน  ใครมีมากก็สบาย  ใครมีน้อยถือว่าเป็นกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน

จุดนี้รัฐต้องคิดทบทวนให้รอบครอบ  ว่าจะทำยังไงให้เขามีเงินที่พอจะเลี้ยงดูตัวเองยามแก่  การขึ้น  และเก็บสารพัดภาษีเป็นหลักประกันอะไรบ้าง  มันต้องชัดเจน  และควรจะส่งเสริมการออมให้ประชาชนควบคู่กันไปด้วย

การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ  จะทำให้ประเทศไทยขาดกำลังแรงงานจำนวนมากที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างอดีตที่ผ่านมา  ตรงนี้รัฐต้องมียุทธศาศตร์ที่ชัดเจนว่าไทยจะยืนอยู่ตรงตำแหน่งไหน  การเป็นแค่มือปืนรับจ้าง (ผลิต)  อย่างเดียว  เราก็ได้แค่เงินค่าจ้าง  ส่วนนายทุนได้กำไร  สุดท้ายเราแก่ตัวก็หมดประโยชน์  เปรียบได้กับหมาล่าเนื้อที่ไม่สามารถออกล่าเนื้อได้อีก  นายทุนต่างชาติก็ทิ้ง  แล้วไปแสวงหาแรงงานวัยหนุ่มสาวประเทศอื่นแทน  ที่เห็นชัดเจนตอนนี้ก็พม่า  ที่มีแรงงานวัยหนุ่มสาวกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด

หากไทยยังหวังจะเติบโต  โดยที่ยังก้าวไม่พ้นจากจากสถานะมือปืนรับจ้าง  ไปเป็นนายทุน  ผู้สร้างนวตกรรม  และสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง  เราก็ต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน  ซึ่งทุกวันนี้แรงงานจากพม่าก็เข้าไปหลายล้านคนแล้ว  เราต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าสร้างผลผลิต  กับต้องแลกมาด้วยปัญหาสังคมมันจะคุ้มกันไหม ?

ความคิดส่วนตัวผม  ตลาดหุ้นไทยเหมือนกับตะวันที่กำลังตกดินครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่