วันนี้ปจด.มาวันแรกค่ะ เราก็ปวดท้องแต่เช้าเลย ปวดแบบมากๆๆ ==* ผู้ญทุกคนน่าจะเข้าใจดี แล้วมันก็เป็นๆหายๆ เราก็เลยไม่สนใจอะไรมาก คือ ไอ่ปวดท้องปจด.เนี่ยเรานานๆเป็นทีค่ะ ไม่ได้เป็นทุกเดือน ก็ขึ้นรถลงเรือขึ้นรถไฟฟ้าได้ตามปกติ ด้วยเวลาที่รถไฟฟ้าจากสถานีเราไปถึงปลายทางมันประมาณครึ่งชั่วโมงได้มั้ง เราก็เลยหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านพร้อมโหนราวไปด้วย คือจะสอบแล้วไง -.-// 5555 (กลับมาก็เหนื่อยอ่ะ สมองยังไม่พร้อมรับความรู้ <อ้างไปเรื่อยย ) มันก็เอียงซ้ายเอียงขวาตามประสารถด่วนมันนั่นแหละค่ะ
จนถึงสะพานตากสิน จู่ๆก็เย็นวูบจากปลายเท้าขึ้นมามั้งมันรู้สึกชาๆ แล้วมันก็ร้อนขึ้นมาเฉยๆ แบบร้อนมาก ทั้งที่ปกติทุกวันคนแน่นยิ่งกว่าหนอนขนาดไหนเราก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ เหงื่อนี่ออกเลย แทบอยากถอดเสื้อคลุม แต่ก็คิดว่าไหวแหละ อีกไม่กี่สถานีเองก็จะถึงจุดหมายละ แต่...
ระหว่างทางนั้นเราก็ต้องยืนทนทุกข์ทรมานกับอาการมึนๆ แบบตาเริ่มพร่า มองไปทางไหนก็เริ่มมืดๆ เหมือนดูผ่านทีวีจอขาวดำแล้วมันซ่าๆยังไงยังงั้นเลยค่ะ แต่หูเรายังดีอยู่นะ(ที่จริงกลัวเลยป้าย --*) ก็หยิบหนังสือที่อ่านนั่นแหละแต่เลิกอ่านแล้วมาพัดแทน เหงื่อซึมไปหมดทั้งตัวเลย ดีที่อยู่ข้างๆเสาร์เราก็โหนบ้างพิงบ้างนิดหน่อย กลัวล้มพับไปกองกับพื้นมากบอกตรงๆ 55555 มันยิ่งร้อนอึดอัดไปใหญ่เลย ถ้าเราไปนอนเอาหน้าแนบตรงนั้นอ่ะนะ
และแล้วเราก็ถึงจุดหมายของเรา ก็คือ ช่องนนทรีนี่แหละค่ะ ถึงประมาณ 7.30 น.ได้ เราดูเวลากะไว้อยู่ก่อนจะเกิดอาการ ก็พยายามเบียดๆแทรกๆตามแรงเฮือกสุดท้ายมาค่ะ ออกมาปุ๊บ โอยยย ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็ร้อนอยู่ดีแหละ T^T
เรามองหาที่นั่งรอแต่มันไม่เจอ คือตอนนั้นตาเรามันซ่าๆไปหมดแล้วอ่ะ ก็เลยกลั้นใจเดินลงบันไดไปเกาะราวไป ดึ๊บๆ ตาอ่ะมองเห็น แต่ไหงเท้าเรามันประสาทสัมผัสไม่เข้ากันซะนี่ แบบเดินเหมือนสะดุดไม่มีแรงเลย แถมท้องก็โคต รปวด ลงทีสะเทือนทีปวดไปหมด TT จนเดินมาถึงทางแยกไปลงช่องต่างๆค่ะ เราก็เกาะราวยืนรับลมหวังว่ามันจะหาย ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่มากจนเจอพี่ที่รุ้จักเข้าเขาก็เลยเดินมาช่วยทัน เขาตกใจเห็นเราหน้าซีดๆ ก็เลยมาช่วยเอายาดมให้แล้วก็ช่วยพัด เรายืนนานๆก็ไม่ไหวอ่ะเลยนั่งยองๆเท่านั้นไปค่ะ ไม่ไหวจริงๆ ฮะๆ แบบ พอคิดถึงบันไดที่ต้องลง แล้วสะเทือนไปยังมดลูกแล้วไม่ไหวเคลียร์แล้วว T^T
แล้วชอทเด็ดก็ยู่ตรงนี้ค่ะ มีพี่ที่ไม่รู้จักเราผู้ญ ถามกะพี่ที่รุ้จักว่าเราเป็นลมหรอ? แล้วเขาก็ให้ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว เหมือนจะแกะใหม่ให้เลยด้วย พี่ที่รุ้จักบอก เพราะเรามัวแต่ก้มๆอยู่ คือมองได้แวบเดียวเท่านั้นเอง มันยังอื้ออึง ตาพร่าอยู่ ก็เลยไม่ทันได้ขอบคุณพี่....ไป เขาบอกให้เอาเจ้านี่แตะทาเยอะๆตรงจมูก ขมับ เราก็ทำตาม แล้วก็ดีขึ้น พอหายเราก็ไม่เจอพี่เขาแล้ว จำหน้าไม่ได้ด้วย 555
ยังไงก็................
ขอบคุณมากนะคะ ไว้เจออีกจะซื้อยาหม่องน้ำคืนนะคะ แล้วก็ต้องขอบคุณพี่ที่รุ้จักเรามากกๆๆด้วยแหละ(อีกที) ไม่งั้นแย่แน่เลย 5555 กว่าจะเดินลงบันไดกันมาได้ สุดๆ เจ็บปวดดด TTOTT!!!! เดินเร็วก็ไม่ได้ด้วย เราถือเป็นทานน้ำใจใหญ่หลวงมากเลยค่ะ สังคมมันยิ่งน่าอยู่เพราะคนเราช่วยเหลือกันและกันและมีน้ำใจต่อกันนี่แหละค่ะ น่าประทับใจจริงๆ 5555 นี่คือสิ่งที่เราอยากเวิ้นค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ปล.สาเหตุที่เราเป็นอาการนี้คือ
1. นอนดึกและตื่นเช้า มันคงสะสมอ่าค่ะ
2.ปจด.วันแรกเดือนนี้เราโคตรปวดท้องมากเลย โชคดีได้ยาพี่รุ้จักไปเลยหายไปเกือบทั้งวัน
3. เราอ่านหนังสือบนรถ จุ่ๆมันตาพร่าลาย
4. เรายังไม่ได้กินข้าวเช้าค่ะ? มันเกี่ยวมั้ย เรามากินเมื่อถึงจุดหมายแล้วอ่าค่ะ 55555
ใครเคยถูกช่วยเหลือ/ช่วยเหลือใครก็มาแชร์กันได้นะคะ ^^
[กระทู้อยากขอบคุณพี่...ค่ะ] ณ ช่องนนทรี 7.30 น. กับยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว
จนถึงสะพานตากสิน จู่ๆก็เย็นวูบจากปลายเท้าขึ้นมามั้งมันรู้สึกชาๆ แล้วมันก็ร้อนขึ้นมาเฉยๆ แบบร้อนมาก ทั้งที่ปกติทุกวันคนแน่นยิ่งกว่าหนอนขนาดไหนเราก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ เหงื่อนี่ออกเลย แทบอยากถอดเสื้อคลุม แต่ก็คิดว่าไหวแหละ อีกไม่กี่สถานีเองก็จะถึงจุดหมายละ แต่...
ระหว่างทางนั้นเราก็ต้องยืนทนทุกข์ทรมานกับอาการมึนๆ แบบตาเริ่มพร่า มองไปทางไหนก็เริ่มมืดๆ เหมือนดูผ่านทีวีจอขาวดำแล้วมันซ่าๆยังไงยังงั้นเลยค่ะ แต่หูเรายังดีอยู่นะ(ที่จริงกลัวเลยป้าย --*) ก็หยิบหนังสือที่อ่านนั่นแหละแต่เลิกอ่านแล้วมาพัดแทน เหงื่อซึมไปหมดทั้งตัวเลย ดีที่อยู่ข้างๆเสาร์เราก็โหนบ้างพิงบ้างนิดหน่อย กลัวล้มพับไปกองกับพื้นมากบอกตรงๆ 55555 มันยิ่งร้อนอึดอัดไปใหญ่เลย ถ้าเราไปนอนเอาหน้าแนบตรงนั้นอ่ะนะ
และแล้วเราก็ถึงจุดหมายของเรา ก็คือ ช่องนนทรีนี่แหละค่ะ ถึงประมาณ 7.30 น.ได้ เราดูเวลากะไว้อยู่ก่อนจะเกิดอาการ ก็พยายามเบียดๆแทรกๆตามแรงเฮือกสุดท้ายมาค่ะ ออกมาปุ๊บ โอยยย ...[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรามองหาที่นั่งรอแต่มันไม่เจอ คือตอนนั้นตาเรามันซ่าๆไปหมดแล้วอ่ะ ก็เลยกลั้นใจเดินลงบันไดไปเกาะราวไป ดึ๊บๆ ตาอ่ะมองเห็น แต่ไหงเท้าเรามันประสาทสัมผัสไม่เข้ากันซะนี่ แบบเดินเหมือนสะดุดไม่มีแรงเลย แถมท้องก็โคต รปวด ลงทีสะเทือนทีปวดไปหมด TT จนเดินมาถึงทางแยกไปลงช่องต่างๆค่ะ เราก็เกาะราวยืนรับลมหวังว่ามันจะหาย ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่มากจนเจอพี่ที่รุ้จักเข้าเขาก็เลยเดินมาช่วยทัน เขาตกใจเห็นเราหน้าซีดๆ ก็เลยมาช่วยเอายาดมให้แล้วก็ช่วยพัด เรายืนนานๆก็ไม่ไหวอ่ะเลยนั่งยองๆเท่านั้นไปค่ะ ไม่ไหวจริงๆ ฮะๆ แบบ พอคิดถึงบันไดที่ต้องลง แล้วสะเทือนไปยังมดลูกแล้วไม่ไหวเคลียร์แล้วว T^T
แล้วชอทเด็ดก็ยู่ตรงนี้ค่ะ มีพี่ที่ไม่รู้จักเราผู้ญ ถามกะพี่ที่รุ้จักว่าเราเป็นลมหรอ? แล้วเขาก็ให้ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว เหมือนจะแกะใหม่ให้เลยด้วย พี่ที่รุ้จักบอก เพราะเรามัวแต่ก้มๆอยู่ คือมองได้แวบเดียวเท่านั้นเอง มันยังอื้ออึง ตาพร่าอยู่ ก็เลยไม่ทันได้ขอบคุณพี่....ไป เขาบอกให้เอาเจ้านี่แตะทาเยอะๆตรงจมูก ขมับ เราก็ทำตาม แล้วก็ดีขึ้น พอหายเราก็ไม่เจอพี่เขาแล้ว จำหน้าไม่ได้ด้วย 555
ยังไงก็................ ขอบคุณมากนะคะ ไว้เจออีกจะซื้อยาหม่องน้ำคืนนะคะ แล้วก็ต้องขอบคุณพี่ที่รุ้จักเรามากกๆๆด้วยแหละ(อีกที) ไม่งั้นแย่แน่เลย 5555 กว่าจะเดินลงบันไดกันมาได้ สุดๆ เจ็บปวดดด TTOTT!!!! เดินเร็วก็ไม่ได้ด้วย เราถือเป็นทานน้ำใจใหญ่หลวงมากเลยค่ะ สังคมมันยิ่งน่าอยู่เพราะคนเราช่วยเหลือกันและกันและมีน้ำใจต่อกันนี่แหละค่ะ น่าประทับใจจริงๆ 5555 นี่คือสิ่งที่เราอยากเวิ้นค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ปล.สาเหตุที่เราเป็นอาการนี้คือ
1. นอนดึกและตื่นเช้า มันคงสะสมอ่าค่ะ
2.ปจด.วันแรกเดือนนี้เราโคตรปวดท้องมากเลย โชคดีได้ยาพี่รุ้จักไปเลยหายไปเกือบทั้งวัน
3. เราอ่านหนังสือบนรถ จุ่ๆมันตาพร่าลาย
4. เรายังไม่ได้กินข้าวเช้าค่ะ? มันเกี่ยวมั้ย เรามากินเมื่อถึงจุดหมายแล้วอ่าค่ะ 55555
ใครเคยถูกช่วยเหลือ/ช่วยเหลือใครก็มาแชร์กันได้นะคะ ^^