[CR] # ^_^ # แบกเป้ลุยกาญจนบุรี - สังขละบุรี 2 คืน 3 วัน ประทับใจไม่รู้ลืม

กระทู้รีวิว
นอนมองฟ้าใสๆ ฟังเสียงคลืน มองทะเลสีเขียวมรกตอยู่ดีๆ ก็อยากไปนอนเล่นริมแม่น้ำ ใช้ชีวิตช้าๆ ขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ว่าจะไปที่ไหนดี ......หาข้อมูลอยู่ 1 วัน เราต้องไปกาญจนบุรี เฮ้ย!!!!! คิดไวไปไหนนี่  ช้าไม่ได้แล้ว ไอ้เรามันคนชอบเที่ยว ตั้งโปรแกรมมากเดี๋ยวไม่ได้ไป จัดกระเป๋าอยู่ 3 ชม.  นึกในใจเราต้องไปแบบคลาสสิคหน่อย ตอบโจย์ให้ตัวเองได้ไม่อยาก ต้องรถไฟปรู๊นปรู๊นนนนนนน  กะฉึกกะฉัก  ( ต้องไปขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นรถไฟหัวกระสุน #_#!!!!!!  ฝันกลางวันอีกและ ) โปรแกรมคราวๆที่ตั้งไว้ จะนั่งรถไฟหวานเย็นไปลงสถานีกาญจนบุรี เช่ามอเตอร์ไซร์ไปถ่ายรูปต้นจามจรีย์ ที่มีอายุ 100 กว่าปี ต้องไปเคารพผู้มีอายุสูงสุดของจังหวัดก่อน เอาฤกษ์เอาชัยให้ตัวเองก่อน อิอิ และจะไป Check in ที่บ้านกกกอด  ตื่นเช้ามาจะนังงรถตู้ไปลงสังขละบุรี ค้าง 1 คืนและจะขึ้นรถกลับ พัทยา. เที่ยวครั้งนี้ลุยสุดๆๆๆๆ หลังจากกลับจากไปเที่ยวมาเลยทำให้รู้ว่าเราเริ่มจะอายุเยอะแล้ว......^_^!!!!! งั้นมาลุยกันเลย GO


เรามาขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรีคะ ^_^ ตื่นเต้นแฮะ

ยื่นบัตรประชาชน ได้ตั๋วฟรี ลงสถานีกาญจนบุรี แชะรูปนิ๊ดนึ่ง ต้องถ่ายไว้ก่อนของฟรีหายาก ^_^ ในตั๋วรถออกเวลา 7.50น.
วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ ก็ดีไปอีกแบบ รถไปเคลื่อนขบวนเวลา 8.00 น.

นั่งมองท้องทุ่งนาไปเรื่อยๆ ฟินเหมือนกันแฮะ มีของมาขายเยอะแยะเลย เสียงรถไฟ กับเสียงคนขายของเสียงดังพอกัน ไม่เจอบรรยากาศแบบนี้นานแล้ว มีความสุขตั้งแต่เริ่มเดินทางเลย รถไฟมาถึงสถานีกาญจนบุรีประมาณเที่ยง  ลงจากรถไปปุ๊บ รถไปก็เริ่มเคลื่อนขบวน ยืนรอจนรถไฟหายลับไปกับตา พร้อมกับความประทับใจ รถไฟสะอาดนายตรวจตั๋วยิ้มแย้มแจ่มใส  นั่งรถไฟผ่านมาหลายสถาานี พนักงานโบกธงยิ้มแย้ม แม้ว่าอากาศจะร้อน ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคนต่างชาติถึงอยากมาเที่ยวประเทศไทย บรรยายซะไกลเลย .....แล้วเราจะไปเช่ามอไซร์ได้ที่ไหน สุดท้ายก็ต้องนั่งสองแถว 80 บาทไปลงตลาด

เราเช่ามอไซร์ร้านนี้คะ เจ้าของร้านใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ค่าเช่า 250 / วัน ได้แผ่นที่มา 1 แผ่น นั่งดูแผ่นที่ไปนั่งดูแผนที่มา อยากไปวัดถ้ำเสือ จะช้าอยู่ใย จัดซิคร๊าบบบบ ^_^ ฝ่าความร้อนไปทั้งที่แดดเปี้ยงๆ *^*

ขับรถมาได้สักพักเจอสุสานสัมพันธมิตร จอดดดดดด

และแล้วก็มาถึงวัดถ้ำเสือ ขับรถมาประมาณ ครึ่งชั่วโมง มองบรรไดแล้ว.......สู้สู้

ข้างบนอากาศค่อยเย็นขึ้นมาหน่อย







กราบพระขอพร ถ่ายรูป อยู่ประมาณ 1 ชม. ก็ได้เวลาเดินทางไปต้นจามจุรีย์แล้ว  ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงรู้สึกเป้ที่แบกทำไม่มันหนักขึ้น......
ขับมอไซร์ฝ่าความร้อนมาสัก 1กม. เห็นมังกรอยู่ไกลๆ แวะอีกซิครับผ่านไปใย


เราต้องเดินรอดตัวมังกรเข้าไปคะ ผนังทางเดินมีประวัตรความเป็นมาของวัด ........อ่านกันไป
เราใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงกับวัดนี้ คือว่า......ไม่ได้ขึ้นไปไหว้เจย์ดีด้านบนคะ ยอมรับว่าเดินไม่ไหวจริงๆ เราเข้าไปไหว้พระขอพรนิดหน่อย เขาบอกว่าสักสิทธิ์ เลยขอไปเยอะหน่อย อิอิอิ เดินทางต่อ...

สุดท้ายก็มาถึงต้นจามจุรีย์ยักษ์สมความตั้งใจ ต้องไปขัดๆถูๆสักหน่อย ^_^ ไม่ได้ขอหวยนะ !!!!!!ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว จะได้แบกเป้เที่ยวไปอีกนานๆ

ต้นใหญ่มาก...... เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็ต้องไปที่พักแล้ว ซึ่งต้องขับมอไซร์ไปอีกประมาณ 50 กม. เฮ้อออออออไม่อยากจะบอกว่าแสบหน้ามาก ปวดหลังด้วย  อากาศร้อนสุดๆๆๆๆๆ แต่ก็สู้สู้

เรามาถึงบ้านกกกอดเวลาประมาณ 4 โมงเย็น  เจ้าของบ้านใจดีมาก ไม่ผิดหวังที่เลือกพักที่นี่ เราพักเป็นบ้าน ราคา 1200 บาท เป็นห้องน้ำรวมคะ ไปดูบรรยากาศกัน

บ้านหลังนี้เลย ชื่อบ้านกอดเดือน ชื่อน่ารักดี

อยากจะทิ้งตัวลงนอนเลย

เป็นห้องน้ำรวมแยกชายหญิง แต่สะอาดมากคะ









ได้เวลานอนแล้ว.......เช้าจะเก็บบรรยากาศมาให้ดู หมดแรง Zzzzzzz

ตื่น 6 โมงเลย กาแฟสักแก้ว นั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น

บรรยากาศดีมาก ....อยากจะหยุดเวลาไว้ที่นี่เลย










นั่งกินบรรยากาศจนแดดเริ่มร้อน ท้องเริ่มร้อง  เราก็เลยเดินมาทานของเช้ากัน อาหารเช้าน่าทานจัง จัดไป  9.00 ก็ได้เวลาโบกมือลาบ้านกกกอด บ้านแห่งความอบอุน ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีความสะดวกสบาย แต่มีรอยยิ้ม ความอบอุ่น ธรรมชาติงามตา ทิวทัศน์งามใจ  เหมาะแก่การพักผ่อน แล้วจะกลับมาอีกครั้งคะ  เราออกจากบ้านกกกอดประมาณ 9.00 น. ขับมอไซร์ อีก 40 กม. เข้าตัวจังหวัด

แวะสะพานข้ามแม่น้ำแควนิ๊ดนึง ยังไงเราก็เป็นจอมแวะอยู่แล้วนี่...... เราขับมอไซร์มาคืนที่ร้านเวลาปนะมาณ 10 โมง เติมน้ำมันไป 180 บาท และให้พี่เจ้าของร้านไปส่งที่ท่ารถตู้ เสียตัง 50 บาท เราได้ตั๋วรถตู้เวลา 10.50 น. ตั๋วราคา 175 บาท  นั่งยาวกันไป 4 ชม. สองข้างทางเป็นสีน้ำตาล เพราะเป็นน่าแล้ง แต่ก็มีดอกตะแบกสีชมพู (ชื่อนี้เปล่าไม่รู้) ออกดอกสีชมพูแซมภูเขาสีน้ำตาลสวยแปลกตา ในความแห้งแล้งก็ยังมีความแข็งแกร่งที่สวยงามซ่อนอยู่ อิอิ คิดไปไกล..... 4 ชั่วโมงนี่ชั่งยาวนานเหลือเกิน นั่งมองวิวไปเพลินๆก็ได้ว่ะ  ......ง่ะ เห็นไฟไหม้เขา ต้นเหตุอยู่นี่เองที่ทำให้โลกร้อน (ใช่เปล่าไม่รู้ตอนนั้นโทษไว้ก่อน ^___^) เห็นไฟไหม้เขานึกถึงกลอนบทหนึ่งขึ้นมาเลย จำไม่ได้ว่าอ่านจากที่ไหน
"ธรรมชาติคาดหวังในสิ่งผิด
พรหมลิขิตนำฝาก ยากจักฝื่น
แด่ดวงใจที่ไขว่คว้าหาจุดยืน
พร้อมโต้คลื่นชะตาฟ้าบัดดล
กับชีวิตที่เหลือเพื่อวันนี้
คงจะมีคุณค่าท่าสงสาร
ยอมรับรู้ความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคกาล
เป็นสื่อผ่านธารน้ำใจ ในสังคม ...................."
นั่งปวดขาอยู่ 4 ชม. และแล้วก็ถึงสังขละเวลาประมาณบ่าย 2 ลงมายืนเด๋อเด๋อด๋าด๋าอยู่พักนึง ไม่รู้จะไปทางไหน ต้องถามเจ้าถิ่นซะแล้ว นั่นคือพี่วินมอไซร์ ได้ความว่าท่าจะเช่ามอไซร์ต้องไปที่ พี. เกสต์เฮ้าส์ งั้นไปเลยพี่ ค่ารถ 20 บาท สุดท้ายก็ได้ห้องพักที่นี่ด้วย ราคา 300 เช่ารถอีก200
วิวจากห้องที่พัก สวยใช่ย่อย มองเห็นแม่น้ำซองกาเลียด้วย  เดี๋ยวค่อยมาดื่มดำกับบรรยากาศ ตอนนี้ต้องไปเที่ยวแล้ว จะบ่าย3 แล้ว ลุย ลุย เอาแบบไม่พักกันเลย

ระหว่างทางมองเห็นสะพานแล้ว

มากราบหลวงพ่ออุตตมะ.......ปลื้มใจจังเลยที่ได้มากราบท่าน

เจดีย์พุทธคยา เราเหมาเรือจากที่นี่เพื่อจะไปวัดวัดใต้น้ำ  หรือวัดวังก์วิเวการามเดิม ค่าเหมาเรือ 500 บาท


ระหว่างทางไปลงเรือ เห็นเด็กนักเรียนกลับบ้าน มาถึงไม่นานก็หลงมนต์เสน่ห์ของ อ. สังขละเสียแล้ว





มองเห็นวัดแล้ว....ใจเต้นตึกๆๆๆๆ

ความมีน้ำใจของเด็กๆที่เข้ามาช่วยดึงเรือ ....รู้สึกหัวใจพองโต เด็กๆที่นี่น่ารักมาก ^___^
ง่ะ ......ว่าจะเขียนให้จบเลย แต่พิมพ์ข้อความไม่ได้แล้ว   งั้นมีต่อคะ
ชื่อสินค้า:   กาญจนบุรี สังขละบุรี แม่น้ำซองกาเลีย สะพานมอญ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่