สวัสดีค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
นี่คือกระทู้แรกของเราาาา ผิดถูกยังไงขออภัยไว้ด้วยน้าาา
อ่ะ ตามชื่อกระทู้เลยละกัน
พอพูดถึงชื่อ ตะลุมพุก เราเชื่อว่าหลายคนรู้จักชื่อนี้จากหนังเรื่องตะลุมพุก และเรื่องราวเกี่ยวกับมหันตภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น
เราจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนละกันนะ ตะลุมพุก เป็นแหลมซึ่งอยู่ฝั่งอ่าวไทยของประเทศไทย อยู่ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งในปี พ.ศ.2505 เนี่ย แหลมตะลุมพุก เกิดพายุโซนร้อนพัดเข้าเต็มพื้นที่ เป็นมหาตภัยที่เลวร้ายที่สุดอย่างหนึ่งในประเทศเราเลยก็ว่าได้
จากการเกิดพายุครั้งนั้น ทำให้มีคนตายและสูญหายมากกว่า 1000 คน จนมีการสร้างเป็นหนังเรื่อง ตะลุมพุก ขึ้นมา (พระเอกคนที่เป็นแฟนยุ้ยตอนนี้อ่ะ) ทำให้เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตะลุมพุกเพิ่มขึ้น (มั้งแก)
ส่วนเรา ไปเกี่ยวอะไรกับตะลุมพุก 5555555 เราเป็นนักศึกษา ซึ่งที่คณะเรามีการลงพื้นที่ สำรวจและพัฒนาชุมชน อาจารเราก็เลยพาไปลงพื้นที่
ที่ตะลุมพุกเลย ซึ่งพอเรารู้ตัวว่าต้องไปตะลุมพุก สิ่งแรกที่เราๆ ทำกันก็คือ หารูปการรีวิว สถานที่ท่องเที่ยว ด้วยความที่เราและผองเพื่อนเป็นชะนีที่ชอบถ่ายรูป ลำดับความสำคัญในการไปคือถ่ายรูปอย่างแรก และงานมาที่หลัง 55555555555 แต่พอเราเสิร์ชหาข้อมูล หรือรูปภาพ เราก็จะเจอแต่รูปแบบนี้
หรือรูปแบบนี้
โอเคครับ รูปเกี่ยวกับทะเลสวยๆ วิวสวยๆ แทบไม่มีเลย นั่นทำให้เราต้องไปลุ้นกันเองมาสิ่งที่เรากำลังจะเจอข้างหน้าเป็นยังไง เราไม่รู้เลย ก็แอบหวั่นๆ ตามประสาชะนีกลัวไม่มีที่ถ่ายรูป มันไม่น่าไปเลยหว่ะแกร้
ไปกันเลยดีกว่า แต่เอ้ออออเราจะไม่มีการจำกัดงบตามรีวิวอื่นๆ ละกัน เราคิดว่าถ้าเราจะเสียตังเยอะ แต่ได้สิ่งที่มันสวยเราว่าเราก็เสียตังไปซื้อธรรมชาติ ซื้อวิวที่ในกรุงเทพไม่มีอ่ะ เน้อะ55555555555
เราเดินทางด้วยรถทัวร์ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 12 ชม. ไม่ขาดไม่เกิน รถออก 18.00 ถึงนครศรีธรรมราช 6.00 พอดีเป๊ะ พอเราไปถึง ทางคณะเราก็พาไปอาบน้ำที่โรงแรมนครการ์เด้นก่อนเลย โรงแรมโอเคมากกกกกกกกกกกก คืนละ 445 บาท แต่โอเคมากสุกมากจิง ไม่เว่อวังใดๆ
พอเสร็จภารกิจเราก็มุ่งหน้าเข้าแหลมตะลุมพุกกันเลยตอน 7.00 เช้า ตื่นเต้นนนนนนนนนนนนนนน (ก็ได้ อือ กูตื่นเต้นก็ได้)5555555 ทริปนี้เรามีหน้าที่ไปตีซี้ชาวบ้าน ดูวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ทุกสิ่งจิงกาเบล จากโรงแรมถึงแหลมใช้เวลาประมาน 20 นาทีเองมั้ง พอถึงแหลมปุ้ปอาจารก้อให้กินข้าวก่อน สิ่งแรกที่เห็นคือเด็กตะลุมพุก คือ ไม่ใส่รองเท้า แบบรองเท้าอ่ะ ไม่ใส่เลย สักคน สักคนเลย แล้วก้อร่าเริงมาก มากจิงๆ มาก พูดเก่งมาก และเอ่อ ภาษาใต้... และเอ่อ กู ฟัง ไม่ ทัน
คือคนที่นี่เป็นมิตรมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือ

มากขนาดนั้นจิงๆ เว่ย แบบผู้ใหญ่ เด็ก คนแก่ สตรี บุรุษ หมา แมว ไก่ กา คือน่ารักมาก คือทุกคนแบบคุยเป็นกันเองมากกกกกกกกกกกกก เดินไปบ้านไหนชวนกินนู่นนี่ แล้วก้อแบบอยากดูอะไรคือพาไปดูเลย คือปลื้มมาก นี่ยังไม่ทันเห็นวิวอะไรเลยนะ ก้อรักตะลุมพุกไป 50% แล้วจิง ภารกิจแรกของเราสำรวจชุมชน เก็บแมททีเรียล พร้อมสเกตภาพ เริ่มได้!
นี่คือที่แรกที่ไป คือวิวแบบนี้จะอยู่หลังบ้านของชาวบ้าน ถ้าอยากเห็นต้องถามชาวบ้าน เค้าจะพาไปดูทุกที่เลย อยากดูอะไร อยากรู้อะไร ถามได้หมด สภาพแวดล้อมของที่นี่จะติดทะเล แล้วก้อมีป่าชายเลน มีน้ำกร่อย และที่เด็ดที่สุดของที่นี่คือ ยุง ค่ะ ใช่ค่ะ ยุง มีเยอะกว่าที่กรุงเทพประมาน 184 เท่า มีทุกที่ ทุกเวลาทั้งกลางวัน และกลางคืน แล้วเราก้อตะลุยกันไปทุกซอกทุกมุมของชุมชนเลยค่ะ (ทุกซอกทุกมุมก้อมียุง)
คือ ชาวบ้านที่นี่ 90% ทำประมงค่ะ ค้าขายกันเองในชุมชน จากการสอบถามนะค่ะ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ่อย ทุกวันเลย แต่ว่าที่ชุมชนจะไม่ค่อยอิงกับโลกภายนอกเยอะ เลยไม่ค่อยมีการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ที่พัก หรือร้านค้าของฝาก ผลิตภัณ แพคเกจจิ้งต่างๆ เลยเป็นแบบชาวบ้านกันเอง ไม่ค่อยเป็นสากล ซึ่งจุดนี้เองทำให้เกิดโครงการในคณะเราขึ้นมา ชาวบ้านที่นี่น่ารัก มีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว ทำให้พัฒนาต่อไม่อยาก
หลังจากผ่านไปครึ่งวันเช้า เราก้อกลับมากินอาหารที่โรงเรียนของชุมชนค่ะ อาหารนี่ทางคณะเราซื้อแล้วให้ชาวบ้านทำให้พวกเรากินทุกมื้อเลย อร่อย และอิ่ม และอร่อย และอิ่ม และอร่อย และอิ่ม และพอเถอะ5555555555555
อยู่นี่ไม่มีอดตาย ชะนีสบายใจ 7-11 ไม่สำคัญอีกต่อไป
พอตอนเย็น อาจารก้อมีการจัด Party เล็ก ให้กับเหล่านักศึกษาที่น่ารักในทริปนี้ ด้วยการจัดปิ้งย่างริมชายหาด ในหัวเราก้อมโนไปอีก ชายหาดที่มีร่ม เก้าอี้ชายหาด ส้มตำ คน ฝรั่ง ตูดฝรั่ง คือเรามโนว่ามันต้องใกล้เคียงบางแสนอะไรเทือกๆ นั้น เพราะตั้งแต่มาเรายังไม่เห็นทะเลเลย จะเห็นก้อแต่ปากอ่าวเล็กๆ ที่ชาวบ้านขี่เรือพาไปดู ก้อตื่นเต้นไปอีก ลุ้นสิครับงานนี้
และนี่คือสิ่งที่เราเจอเมื่อลงจากรถ
คือ สิ่งมีชีวิตทั้งหาด ถ้าไม่นับหอย กับปลา ก้อพวกกูเนี่ยแหละค่ะ เอ้ย ลั่น ก้อพวกเราเนี่ยแหละค่ะ ไม่มีใครเลย หาดเงียบมาก บริสุทมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือมันเป็น shock space อ่ะแกนึกออกป้ะ เห็นแล้วแบบ ต้องถ่ายอ่ะ คือมันทไวไลท์ คือมันทั้งหาด ที่ยาวมาก ไม่มีคนเลย เหมือนตรงนี้ไม่ใช่ที่สำหรับเล่นน้ำ แล้วด้วยความที่มันเป็นฝั่งอ่าวไทย น้ำก้อจะไม่ค่อยสวยเหมือนฝั่งอันดามัน แต่ที่เด็ดสุดคือตรงที่มันไม่มีใครเนี่ยแหละแกเข้าใจป้ะ สู้ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นอ่ะ
จัดดิครับ รอ

ไรอีกละ..
และนี่คือกิจกรรมในคืนนั้น
ไม่ได้จะเผาทะเลนะ เรารอบกองไฟกันเว่ย เล่นกีตาร์ ร้องเพลง กินปิ้งย่าง แกนึกออกป้ะ คือ

โคตรฟินเว่ย แล้วแบบ สเปเชี่ยลของที่นี่คือไรรู้ป้ะ ปกติเราจะรอดูพระอาทิตย์ตกดินกันช้ะ ที่นี่ เรารอพระจันทร์ขึ้นค่ะ คือเราถ่ายรูปไม่ติดอ่ะ เสียใจมาก

สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พระจันทร์สีส้มอันใหญ่ๆ ค่อยๆ ขึ้นจากทะเล ไปบนฟ้าอ่ะ คือสวย โรแมนติก นี่ถ้าใครไปกับแฟนนะ ตรงนั้นเลยอ่ะ เออ 555555555555555555
แต่! อย่าลืมไปอย่างนึงนะ คือ ยุง ยุง ยุง ยุง ยุง ยุง ประมาน 90876512748 ล้านตัวจะมาหาแกเว่ย นึกออกป้ะ แบบนี้อ่ะ
อุ่ยลั่น ..
อ่ะ คืนนั้นเรานอนที่โรงแรมในตัวเมืองกัน เนื่องจากแผนเดิมที่วางไว้คือนอนที่โรงเรียนในชุมชน แต่น้ำครับ น้ำมันไม่ไหล และ ยุงครับ มันเยอะมากจิงๆ
วันที่สอง เราก้อจักกิจกรรมตามแผนที่เราวางไว้ จัดนิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนอะไรไปเรื่องตามประสาคนมาทำงาน ครึ่งวัน อีกครึ่งวันเราก้อจัดกิจกรรมตามประสาคนมาเที่ยว55555555555555555555 วันนี้อาจารพาไปเที่ยวแหลมอ่ะ คือแหลมตะลุมพุกเลย คือพาไปตรงแหลมเลย ตรงอันที่มันแหลมที่สุดเลย นั้นแหละ คือถ้าเชคอินก้อจะขึ้นแบบนี้เลย
แหลมเลยครับ
การที่จะไปแหลมได้เนี่ย จิงๆ เราจะนั่งรถไปลงตรงหาด เสร็จปึ๊ป ตรงเดินต่ออีก 7 กิโล ถึงจะถึงแหลมจิงๆ แต่ ด้วยความที่เรามีแก้งมาด้วยอีก 30 กว่าคน ชาวบ้านเลยใจดี ขับรถกระบะไปส่ง ไอ่ตอนแรกเนี่ย ก้อคิดว่ามันก้อเป็นทรายแหลมๆ กับทะเลอ่ะแหละ แต่นี่คือสิ่งที่เราเจอระหว่างทาง
ป่าสนทไวไลท์อีกแล้วครับ คือธรรมชาติแบบหาที่สุดไม่ได้ คือดีงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สวยยยยตลอดทางเลยยยยยย แบบเก็บความทรงจำไม่หมดอ่ะแก้ และอากาศในทางคือมันไม่ร้อนเลย ลมแบบเย็นเฟ่อออออ แล้วพอเราถึงแหลม มันก้อ แหลมอ่ะ แหลมจิงๆ ด้วย แต่
สวยกว่าที่คิดหว่ะ
เราต้องเดินลุยน้ำต่ออีกหน่อย เพื่อให้ถึงจุดที่แหลมที่สุด
และจุดที่แหลมที่สุดก้อมาถึง
อะ ไม่ใช่ นี่ตะหากแหลมสุด 5555555555
หวังว่าการรีวิวครั้งนี้ จะช่วยให้ใครหลายคนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตะลุมพุกไปนะ เรารักตะลุมพุกจิงๆ
[SR] "ตะลุมพุก" ความสวยงามที่ซ่อนอยู่ใต้คำว่ามหันตภัย.
นี่คือกระทู้แรกของเราาาา ผิดถูกยังไงขออภัยไว้ด้วยน้าาา
อ่ะ ตามชื่อกระทู้เลยละกัน
พอพูดถึงชื่อ ตะลุมพุก เราเชื่อว่าหลายคนรู้จักชื่อนี้จากหนังเรื่องตะลุมพุก และเรื่องราวเกี่ยวกับมหันตภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น
เราจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนละกันนะ ตะลุมพุก เป็นแหลมซึ่งอยู่ฝั่งอ่าวไทยของประเทศไทย อยู่ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งในปี พ.ศ.2505 เนี่ย แหลมตะลุมพุก เกิดพายุโซนร้อนพัดเข้าเต็มพื้นที่ เป็นมหาตภัยที่เลวร้ายที่สุดอย่างหนึ่งในประเทศเราเลยก็ว่าได้
จากการเกิดพายุครั้งนั้น ทำให้มีคนตายและสูญหายมากกว่า 1000 คน จนมีการสร้างเป็นหนังเรื่อง ตะลุมพุก ขึ้นมา (พระเอกคนที่เป็นแฟนยุ้ยตอนนี้อ่ะ) ทำให้เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตะลุมพุกเพิ่มขึ้น (มั้งแก)
ส่วนเรา ไปเกี่ยวอะไรกับตะลุมพุก 5555555 เราเป็นนักศึกษา ซึ่งที่คณะเรามีการลงพื้นที่ สำรวจและพัฒนาชุมชน อาจารเราก็เลยพาไปลงพื้นที่
ที่ตะลุมพุกเลย ซึ่งพอเรารู้ตัวว่าต้องไปตะลุมพุก สิ่งแรกที่เราๆ ทำกันก็คือ หารูปการรีวิว สถานที่ท่องเที่ยว ด้วยความที่เราและผองเพื่อนเป็นชะนีที่ชอบถ่ายรูป ลำดับความสำคัญในการไปคือถ่ายรูปอย่างแรก และงานมาที่หลัง 55555555555 แต่พอเราเสิร์ชหาข้อมูล หรือรูปภาพ เราก็จะเจอแต่รูปแบบนี้
หรือรูปแบบนี้
โอเคครับ รูปเกี่ยวกับทะเลสวยๆ วิวสวยๆ แทบไม่มีเลย นั่นทำให้เราต้องไปลุ้นกันเองมาสิ่งที่เรากำลังจะเจอข้างหน้าเป็นยังไง เราไม่รู้เลย ก็แอบหวั่นๆ ตามประสาชะนีกลัวไม่มีที่ถ่ายรูป มันไม่น่าไปเลยหว่ะแกร้
ไปกันเลยดีกว่า แต่เอ้ออออเราจะไม่มีการจำกัดงบตามรีวิวอื่นๆ ละกัน เราคิดว่าถ้าเราจะเสียตังเยอะ แต่ได้สิ่งที่มันสวยเราว่าเราก็เสียตังไปซื้อธรรมชาติ ซื้อวิวที่ในกรุงเทพไม่มีอ่ะ เน้อะ55555555555
เราเดินทางด้วยรถทัวร์ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 12 ชม. ไม่ขาดไม่เกิน รถออก 18.00 ถึงนครศรีธรรมราช 6.00 พอดีเป๊ะ พอเราไปถึง ทางคณะเราก็พาไปอาบน้ำที่โรงแรมนครการ์เด้นก่อนเลย โรงแรมโอเคมากกกกกกกกกกกก คืนละ 445 บาท แต่โอเคมากสุกมากจิง ไม่เว่อวังใดๆ
พอเสร็จภารกิจเราก็มุ่งหน้าเข้าแหลมตะลุมพุกกันเลยตอน 7.00 เช้า ตื่นเต้นนนนนนนนนนนนนนน (ก็ได้ อือ กูตื่นเต้นก็ได้)5555555 ทริปนี้เรามีหน้าที่ไปตีซี้ชาวบ้าน ดูวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ทุกสิ่งจิงกาเบล จากโรงแรมถึงแหลมใช้เวลาประมาน 20 นาทีเองมั้ง พอถึงแหลมปุ้ปอาจารก้อให้กินข้าวก่อน สิ่งแรกที่เห็นคือเด็กตะลุมพุก คือ ไม่ใส่รองเท้า แบบรองเท้าอ่ะ ไม่ใส่เลย สักคน สักคนเลย แล้วก้อร่าเริงมาก มากจิงๆ มาก พูดเก่งมาก และเอ่อ ภาษาใต้... และเอ่อ กู ฟัง ไม่ ทัน
คือคนที่นี่เป็นมิตรมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือ
นี่คือที่แรกที่ไป คือวิวแบบนี้จะอยู่หลังบ้านของชาวบ้าน ถ้าอยากเห็นต้องถามชาวบ้าน เค้าจะพาไปดูทุกที่เลย อยากดูอะไร อยากรู้อะไร ถามได้หมด สภาพแวดล้อมของที่นี่จะติดทะเล แล้วก้อมีป่าชายเลน มีน้ำกร่อย และที่เด็ดที่สุดของที่นี่คือ ยุง ค่ะ ใช่ค่ะ ยุง มีเยอะกว่าที่กรุงเทพประมาน 184 เท่า มีทุกที่ ทุกเวลาทั้งกลางวัน และกลางคืน แล้วเราก้อตะลุยกันไปทุกซอกทุกมุมของชุมชนเลยค่ะ (ทุกซอกทุกมุมก้อมียุง)
คือ ชาวบ้านที่นี่ 90% ทำประมงค่ะ ค้าขายกันเองในชุมชน จากการสอบถามนะค่ะ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ่อย ทุกวันเลย แต่ว่าที่ชุมชนจะไม่ค่อยอิงกับโลกภายนอกเยอะ เลยไม่ค่อยมีการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ที่พัก หรือร้านค้าของฝาก ผลิตภัณ แพคเกจจิ้งต่างๆ เลยเป็นแบบชาวบ้านกันเอง ไม่ค่อยเป็นสากล ซึ่งจุดนี้เองทำให้เกิดโครงการในคณะเราขึ้นมา ชาวบ้านที่นี่น่ารัก มีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว ทำให้พัฒนาต่อไม่อยาก
หลังจากผ่านไปครึ่งวันเช้า เราก้อกลับมากินอาหารที่โรงเรียนของชุมชนค่ะ อาหารนี่ทางคณะเราซื้อแล้วให้ชาวบ้านทำให้พวกเรากินทุกมื้อเลย อร่อย และอิ่ม และอร่อย และอิ่ม และอร่อย และอิ่ม และพอเถอะ5555555555555
อยู่นี่ไม่มีอดตาย ชะนีสบายใจ 7-11 ไม่สำคัญอีกต่อไป
พอตอนเย็น อาจารก้อมีการจัด Party เล็ก ให้กับเหล่านักศึกษาที่น่ารักในทริปนี้ ด้วยการจัดปิ้งย่างริมชายหาด ในหัวเราก้อมโนไปอีก ชายหาดที่มีร่ม เก้าอี้ชายหาด ส้มตำ คน ฝรั่ง ตูดฝรั่ง คือเรามโนว่ามันต้องใกล้เคียงบางแสนอะไรเทือกๆ นั้น เพราะตั้งแต่มาเรายังไม่เห็นทะเลเลย จะเห็นก้อแต่ปากอ่าวเล็กๆ ที่ชาวบ้านขี่เรือพาไปดู ก้อตื่นเต้นไปอีก ลุ้นสิครับงานนี้
และนี่คือสิ่งที่เราเจอเมื่อลงจากรถ
คือ สิ่งมีชีวิตทั้งหาด ถ้าไม่นับหอย กับปลา ก้อพวกกูเนี่ยแหละค่ะ เอ้ย ลั่น ก้อพวกเราเนี่ยแหละค่ะ ไม่มีใครเลย หาดเงียบมาก บริสุทมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือมันเป็น shock space อ่ะแกนึกออกป้ะ เห็นแล้วแบบ ต้องถ่ายอ่ะ คือมันทไวไลท์ คือมันทั้งหาด ที่ยาวมาก ไม่มีคนเลย เหมือนตรงนี้ไม่ใช่ที่สำหรับเล่นน้ำ แล้วด้วยความที่มันเป็นฝั่งอ่าวไทย น้ำก้อจะไม่ค่อยสวยเหมือนฝั่งอันดามัน แต่ที่เด็ดสุดคือตรงที่มันไม่มีใครเนี่ยแหละแกเข้าใจป้ะ สู้ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นอ่ะ
จัดดิครับ รอ
และนี่คือกิจกรรมในคืนนั้น
ไม่ได้จะเผาทะเลนะ เรารอบกองไฟกันเว่ย เล่นกีตาร์ ร้องเพลง กินปิ้งย่าง แกนึกออกป้ะ คือ
แต่! อย่าลืมไปอย่างนึงนะ คือ ยุง ยุง ยุง ยุง ยุง ยุง ประมาน 90876512748 ล้านตัวจะมาหาแกเว่ย นึกออกป้ะ แบบนี้อ่ะ
อุ่ยลั่น ..
อ่ะ คืนนั้นเรานอนที่โรงแรมในตัวเมืองกัน เนื่องจากแผนเดิมที่วางไว้คือนอนที่โรงเรียนในชุมชน แต่น้ำครับ น้ำมันไม่ไหล และ ยุงครับ มันเยอะมากจิงๆ
วันที่สอง เราก้อจักกิจกรรมตามแผนที่เราวางไว้ จัดนิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนอะไรไปเรื่องตามประสาคนมาทำงาน ครึ่งวัน อีกครึ่งวันเราก้อจัดกิจกรรมตามประสาคนมาเที่ยว55555555555555555555 วันนี้อาจารพาไปเที่ยวแหลมอ่ะ คือแหลมตะลุมพุกเลย คือพาไปตรงแหลมเลย ตรงอันที่มันแหลมที่สุดเลย นั้นแหละ คือถ้าเชคอินก้อจะขึ้นแบบนี้เลย
แหลมเลยครับ
การที่จะไปแหลมได้เนี่ย จิงๆ เราจะนั่งรถไปลงตรงหาด เสร็จปึ๊ป ตรงเดินต่ออีก 7 กิโล ถึงจะถึงแหลมจิงๆ แต่ ด้วยความที่เรามีแก้งมาด้วยอีก 30 กว่าคน ชาวบ้านเลยใจดี ขับรถกระบะไปส่ง ไอ่ตอนแรกเนี่ย ก้อคิดว่ามันก้อเป็นทรายแหลมๆ กับทะเลอ่ะแหละ แต่นี่คือสิ่งที่เราเจอระหว่างทาง
ป่าสนทไวไลท์อีกแล้วครับ คือธรรมชาติแบบหาที่สุดไม่ได้ คือดีงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สวยยยยตลอดทางเลยยยยยย แบบเก็บความทรงจำไม่หมดอ่ะแก้ และอากาศในทางคือมันไม่ร้อนเลย ลมแบบเย็นเฟ่อออออ แล้วพอเราถึงแหลม มันก้อ แหลมอ่ะ แหลมจิงๆ ด้วย แต่
สวยกว่าที่คิดหว่ะ
เราต้องเดินลุยน้ำต่ออีกหน่อย เพื่อให้ถึงจุดที่แหลมที่สุด
และจุดที่แหลมที่สุดก้อมาถึง
อะ ไม่ใช่ นี่ตะหากแหลมสุด 5555555555
หวังว่าการรีวิวครั้งนี้ จะช่วยให้ใครหลายคนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตะลุมพุกไปนะ เรารักตะลุมพุกจิงๆ