เหตุการณ์ต่อไปนี้ ขอให้ใช้วิจารณญาน ในการรับอ่าน ...
มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ออฟฟิศที่ชอบหนีเจ้านายเที่ยวอีกคนนึงบนโลกใบนี้ ^^"
และเชื่อว่ามันจะมีสาระซ่อนอยู่ในสิ่งที่ไร้สาระเสมอ!! (หรือบางทีอาจจะไม่เจอสาระ ... ก็เป็นได้)
ครั้งนี้เราไปพร้อมเงื่อนไขว่าจะไม่พกกล้องไปแน่ๆ เพราะเรามี concept ว่าต้องไป
ดำน้ำ และ ดาบหน้า!!
การตามล่าเรือบินหางแดงกับ
โปรโมชั่น 0 บาท! ในการเดินทางไปหาดใหญ่ คือ ภารกิจแรกของเรา
เราเน้นจองแต่ตั๋วกลับอย่างเดียวเพราะเราไม่รู้ว่าจะไปวันไหน แต่เรารู้ว่าจะกลับกันวันนี้ล่ะ 555+
(จริงๆ แล้วได้โปรฯตั๋วกลับมาถูกง่ะ แต่ตั๋วไปมันแพงเลยไม่จอง ... กะไปตายเอาดาบหน้า

)
เมื่อเวลาเดินทางผ่านข้ามปีมาเป็นที่เรียบร้อยใกล้วันกลับเข้าไปทุกที เลยต้องตัดสินใจจองวันไปแล้ว 555+
ดังนั้นสรุปได้คือไปวันที่ 1 กลับวันที่ 3 เหลือวันที่ 4 ที่เป็นวันหยุดมาฆบูชาเอาไว้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย กลับมาทำบุญให้ชีวิตดี๊ดี กับที่บ้าน
----------------------------------------------------------------------------------------
วันแรก - วันที่ 1 ไม่ใช่วันที่ 2 และยังไม่ใช่วันที่ 3 และคิดว่าควรจะเลิกเล่นได้ละ

เริ่มตื่นเต้นกันตั้งแต่สนามบิน เมื่อนักเดินทางรุ่นพี่ ได้มาถึงสนามบิน เช็คของเรียบร้อยแต่เพิ่งค้นพบว่า ลืมตัวสินะ หยิบครีม และสิ่งอื่นๆ
ที่หน้าตาออกมาเป็น
3 ขวดใหญ่ที่บรรจุของเหลว เดินเข้าประตูมาด้วย
จึงเกิดมาเป็นที่มาของสวยเลือกได้ทันที ... 3 ทางเลือก - ทิ้ง! ฝาก! ส่ง!
คำเตือน (ถือว่าย้ำอีกครั้ง) ท่านผู้โดยสายโปรดทราบ ... หากท่านคิดจะเดินทาง / คิดจะหิ้วกระเป๋าติดตัว และ
ไม่คิดจะโหลด
อย่า!!! ได้นำของเหลว ใดๆ ที่บรรจุภัณฑ์เขียนข้างขวดเกิน 100 ml มาเป็นเด็ดขาด ... แม้ในนั้นจะเหลือแค่ 0.999... ml ก็ห้ามหิ้วขึ้น
ไม่งั้นจะต้องกลายเป็นคนที่สวย (ต้อง) เลือกได้ทันที
ทีนี้สำหรับคนที่เลือกฝากไว้ที่สนามบินก็จะมีการคิดค่าฝากประมาน 70 ++ บาทต่อวัน กรณีนี้สำหรับขวดทั้งสามนั้นนะจ๊ะ!
แต่ถ้าเป็นสิ่งของอื่นๆ เช็คหน้างานอีกทีจ้า ส่วนส่งไปรษณีย์กลับไปบ้านเลยก็สะดวกและถูกดีสำหรับกรณีนี้ ^o^
หรือถ้าคิดว่าฉันสวยและรวยมากก็เลือกทิ้งมันไปออกจากชีวิตเราซะเลย 555+
และนี่คือสาเหตุที่ทำให้รุ่นพี่เกือบตกเครื่อง ก็คือ ... มันเกิดปรากฎการณ์ final call ในช่วงระหว่างที่เอาของไปจัดการ
บอกไว้เลยว่าสิ่งเลวร้ายนี้ ผ่านพ้นไปด้วยการวิ่ง ไม่ว่าจะลีลาใด ก็คือวิ่งเท่านั้น เรียกได้ว่า เมื่อถึง gate หอบ แดร๊ก กันเลยทีเดียว

ส่วนรุ่นน้องนั้นก็คอยอัพเดทกับแอร์ฯสาว

และลุ้นพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของรุ่นพี่ที่หิ้วมาให้ก่อน
ประมานว่าถ้ารุ่นพี่ตกเครื่องเมื่อไหร่ คงได้โยนกระเป๋าคืนลงบนรันเวย์แน่ ... อุ๊บส์
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า ... อย่าตัวติดกัน ใครเข้าไปได้ก่อน เช็คอินก่อน รอก่อน แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยว่าคนที่มากับเราอยู่ตรงไหนแล้ว รีบโทรบอกสถานะของเครื่องบินให้เพื่อนเรารู้ เพราะ ณ ที่แห่งนั้น บอกเลยว่ายากมากที่จะได้ยินเสียงประกาศใดๆ จากเจ้าหน้าที่
และใครอยากมาสาย / ติดธุระต้องฝึกวิ่งมาก่อนนะ ให้เร็วที่สุด ถ้าจิตไม่แข็งพอ ตอนวิ่งอาจจะวืดได้!!!!!
เมื่อเราหลับจนมาถึงสนามบินหาดใหญ่ พอตื่นแล้วก็เดินงัวเงียออกมาหารถสองแถวสีฟ้าในตำนานที่จอดรอผู้กล้าอยู่ที่สนามบิน ...

ตามธรรมเนียมการนั่งแล้วต้องเสีย
คนละ 30 บาท ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
หากไม่แน่ใจไม่อยากลุ้น

ก่อนขึ้นก็บอกพี่คนขับว่าจะไปตลาดเกษตร หรือขนส่งที่ 2
แต่ถ้าอยากโชว์เหนือที่ใต้! โดยการแกล้งเนียนเป็นว่าฉันรู้ (จริงๆ ไม่รู้ 555+) ก็สังเกตโลตัสให้ดี

คือเมื่อถึงโลตัสแล้วก็ถึงตลาดเกษตรที่เป็นวินรถตู้น่ะแหละจ้า
ปล. หากวันใดโลตัสเจ๊งไป เราคงไม่มี landmark แล้วสินะ 555+
เมื่อถึงแล้วรถตู้ที่จะไปปากบารานั้น เราสามารถเดินไปซื้อตั๋วได้ในราคา
คนละ 110 บาทที่ช่องหมายเลข 9
รถออกทุก 45 นาที แต่ลุงคนขายบอกไว้ว่าถ้าเต็มก่อนก็ออกก่อนจ้า …
ไม่ต้องคิดว่าจะซื้อล่วงหน้าแล้วไปเดินเล่นกลับมาให้ทันรถออกนะ เพราะลุงคนขายบอกเลยไม่ขาย
แต่ก็เข้าใจน่ะแหล่ะ ว่าถ้าคนเต็มแล้วจะต้องมานั่งรอเพื่อออกตรงเวลาก็ยังไงอยู่ 555+
***สังเกตุได้ว่าตั้งแต่เล่ามา ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องตั๋วเรือและที่พัก ...
เพราะว่าเราไปตายกันดาบหน้าจริงๆ จ้า 555+

คือเป็นการเล่าตามสถานการณ์จริงค่ะ ดังนั้นไม่แนะนำอย่างแรงสำหรับคนที่มีเวลานะ วางแผนกันได้ ก็วางแผนกันเหอะ เผื่อชีวิตจะดีกว่านี้
ประหยัดกว่า ทางเลือกเยอะกว่า ได้อะไรมากกว่า 555+
แต่เพื่อความปลอดภัยอีกนิดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีข้อมูลของพวกขอตายเอาดาบหน้าอย่างเรา ...
...
โทรศัพท์แบบฉลาด/วิ-ฟิ และอากู๋ ช่วยท่านได้เสมอ ...
ดังนั้นเราจึงจิ้มได้
THE BEST RESORT ระหว่างที่นั่งกินไก่ทอด (KFC) หาดใหญ่ 555+ (มีแต่คนบอกว่าโคตรสิ้นคิด ^^”) …
แต่ confirm ว่ารสชาติเหมือน กทม. จริงๆ นะ
---- ขอแทรกเพิ่มข้อมูลหน่อยนะ ^^ -----
รายละเอียดที่พัก ... จะบอกว่าเป็นรีสอร์ทที่ใกล้กับท่าเรือปากบาราอย่างมากจ้า สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพียงก้าวไม่กี่ก้าว
ท่านก็จะถึงท่าเรือทันทีภายใน 5 นาที อาจจะนานกว่านั้นหน่อยถ้าก้าวช้าหรือขาสั้นก็ต้องขยันซอยเอาเน้อ ห้องธรรมดาปกติช่วงนี้ ราคาประมาณ 500 ++

---- แทรกเสร็จแล้วววววววววววว ^^ ----
เมื่อหลับอีกรอบจนใกล้ถึงปากบารา ก็ตื่นมาแลซ้ายมองขวา ไม่เห็นใครในรถแล้ว และก็ยังคิดไม่ออกว่าเราจะข้ามเรือกันพรุ่งนี้ได้ไงหว่าเพราะใกล้จะมืดแล้วคงไม่มีใครเปิดบริษัทรอเราจอง ... ทันใดนั้น!! คิดได้ว่าลุงคนขับต้องช่วยได้ ... นั่นล่ะเป้าหมายของเรา! จากที่นั่งเบาะท้ายๆ ก็แทบจะปีนข้ามมาขี่คอลุงกันเลยทีเดียว เพื่อถามหาทัวร์ / เรือ / ตั๋ว ไปที่เกาะ ... ณ จุดนี้ลุงใจดีมาก พาขับ พาคุย อธิบายไปตลอดทาง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวว่าถ้าไม่ตอบไอ้นี่จะขี่คอจิงๆ หรือเปล่าน่ะสิ ^o^
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า ... หากคิดจะไปตายดาบหน้า ช่วยเดินทางแต่เช้าจ้า

... จะได้สวยเลือกได้ ตัดสินใจได้
เพราะเมื่อเราไปถึงปลายทางสาย หรือเย็นแล้ว ... สำนักงานหรือสถานที่ต่างๆ เค้าแทบจะปิดไม่รับแขกกันหมดละ เหอๆ...
แต่อันนี้ไม่รู้ว่าลุงพาไปหาเพื่อนลุงหรือยังไง ลุงแกก็ใจดีช่วยตะโกนเรียกคนขายตั๋วออกมาจากห้องให้เรา

ถึงแม้ลุงจะได้หัวคิวหรือไม่ได้

ก็นั่นแหละสวยต้องเลือกได้เสมอ แต่ครั้งนี้ที่เป็นแบบนี้สวยไม่มีทางเลือกจริงๆ ลุงแวะไหนก็ต้องเอานั่นแหละ
เพราะหันไปดู มันเกินกว่ามืดแปดด้าน ต้องเรียกว่ามืด 360 องศามันเหมาะมากจริงๆ ...
มีเรื่องเม้าท์เพิ่มว่า วันที่เดินทางไปเป็นวันอาทิตย์ ก่อนถึงปากบาราจะมีตลาด 18 ล้าน

ในช่วงตอนเย็น
แม่ค้าพ่อค้ามาขายของบริเวณจุดชมวิวทางเดียวกับที่ไปท่าเรือปากบารา คล้ายๆ กับตลาดนัด มีของกิน ของใช้ มารวมตัวกัน หึหึ ...

บอกเลยว่าไม่พลาดแน่นอน มื้อค่ำนี้ของเราต้องที่นี่เท่านั้น !!! รอดตายแล้วววววว
ซึ่งเราก็เช่ามอ’ไซค์ของทาง resort เพื่อแว้นไปหาตลาดในทันใดที่เก็บของเสร็จ

(บอกเลยว่าเรื่องกินเรื่องใหญ่ ณ จุดนี้ 555+)

++ ไม่เข้าใจว่าทำไม สายไหมปากบาราก้อนกลมมาก ^^ น่ารักดี เหมือนลูกบอลเลย ++
++ แอบเม้าท์ว่าร้านนี้น่ารัก เห็นเราถ่ายรูปอยู่เลยเอาขนมมาจัดให้ดีๆ วางให้ได้มุมด้วยอ่ะ ++
***
ที่มาของตลาด 18 ล้าน ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่า “
18 ร้านs” แบบว่าน่ารักเนอะขายกันจุ๊กจิ๊กๆ ยิบๆย่อยๆ ตั้งร้านน้อยๆ 18 ร้านเอง แต่จริงๆ มันมีที่มาจากที่คนแถวนั้นเค้าประชดตะหากล่ะ! เพราะมันคือพื้นที่ๆ เป็นตลาดโดยใช้งบประมาณสร้างถึง
18 ล้านบาทนั่นเอง
กลับมาตอนซื้อตั๋วเรือ - - - - ในที่สุดได้ตั๋วเรือสปีดโบ๊ทไป – กลับปากบารา – หลีเป๊ะ
ราคา 1,200 บาท/คน
ตรงนี้อยากให้ทำความเข้าใจเลยว่าตั๋วนี้มันเป็นไป – กลับ อย่างเดียวจริงๆ ไม่มีเที่ยวไหน ...
แม้ตอนแรกพี่คนขายบอกว่ามีแวะให้
แต่เค้าก็โทรมาหาเราทีหลังว่าจริงๆ แล้วไม่มี ... พร้อมกับคำแนะนำ (บอกเค้าทำไมตอนนี้ ????

)
ว่าต้องซื้อ one day trip นะหนูๆ ถึงจะได้เที่ยวด้วย
เพิ่มเงิน
เพียง 790 บาทเองนะจ๊ะ เพราะหนูมีเวลาเที่ยววันเดียว มันคุ้มแสนคุ้ม...ล้านคุ้ม (หึหึ) ...

ฟังแล้วแอบอึน มึน งง ฟีลลิ่งประมาณว่า หืมมม โดนไปหนึ่งดอกแล้วสิเรา!
อุตส่าห์ดีใจว่าเฮ้ยยยยยย มันดีอ่า ไป – กลับ พร้อมแวะ ราคาแค่เนี้ยยย
แบบว่า ณ จุดนี้ใครมึนใครเงิบไม่รู้ หรือคนเราฟังไม่เข้าใจ หรือยังไง... รู้แต่ว่านอยด์ ...
เมื่อได้ฟังดังนั้นเราต้องยอมจ่ายเพิ่มแน่นอน ... แต่เดี๋ยวก่อน!!! ระหว่างที่คุยกับคนขาย
เหมือนมีความโชคดีบนความโชคร้าย มีแสงสว่างทะลุแสงทไวไลท์ ณ ตอนโพล้เพล้
... เพราะมีคนมาได้ยินแล้วแอบบอกรุ่นพี่เราว่า เค้าซื้อได้ 1,790 บาท/คนนะ!

เมื่อเราได้ยินเสียงนั้นก็เฮ้ยยยยย ไม่ได้การละ เดี๋ยวโทรกลับนะคะพี่ พร้อมฟังให้แน่ใจ
แล้วโทรกลับไปหาพี่เค้าอีกครั้งว่าขอลดราคานะ ซึ่งเค้าโอเคเป็น 1,800 ได้ แต่เราแบบว่าไม่ยอมอ่ะ
จะเอา 1,790 ง่า 
เราอาจจะส่งเสียงราวกับเด็กบ้าที่อยากได้ของเล่นเหมือนลูกบ้านข้างๆ อ่ะ แบบหนูจะเอาๆๆๆ
ซึ่งพี่เค้าก็ใจดีนะ (หรือรำคาน?)

ยอมให้ๆ แบบคงคิดว่า ไอ้น้องบ้าเอ๊ยกล้าขอ 10 บาทพี่ก็กล้าให้ฟระ!
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (1) ... ตั้งใจฟัง หาข้อมูล ให้เรียบร้อย ... ถ้าเกิดเจอคนไม่ดีตั้งใจเอาเปรียบเรา คงแย่! อย่ามัวมึน อึน งง
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (2) ... แพ็คเก็จทัวร์ตาม ensogo / groupon / อื่นๆ ที่ไว้ใจได้ ซื้อล่วงหน้าได้ โทรจองไว้ ก็ประหยัดนะ
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (3) ... หากเป็น one day trip แล้วอยากนอนเกาะ ไม่นอนฝั่ง ซื้อแพ็คฯ 2 วัน 1 คืน อาจถูกกว่าจ้า
ปล. สำหรับเงิบ 3 ยกเว้นแต่ว่าจะไปหานอนตามซอย walking street ก็ได้
แค่เพียงเริ่มเพียง
คืนละ 600 ++ 
(อารมณ์แบบนอนตามซ.ข้าวสาร เดินขึ้นไปเป็นห้องเช่าเล็กๆ ชั้นสอง ลักษณะเพิ่งเปิดใหม่)
ว่าด้วยเรื่องของแพ็คเกจ ตามปกติแล้ว ทัวร์ one day trip ของหลีเป๊ะ จะมีสองรอบจ้า รอบในกับรอบนอก หรือโซนในโซนนอกนั่นเอง 555+
แต่จะมีทัวร์พิเศษรูปแบบอื่นๆ หลายหลากด้วยนะ เช่นทัวร์ตกปลา ทัวร์ดูพระอาทิตย์ขึ้น – ตก ทัวร์เรียนดำน้ำ ฯลฯ

ก็สามารถหาดูได้ที่ walking street น่ะแหละ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์

หรือแม้กระทั่งถ้ามีเวลาอยู่เกาะได้นานๆ
แล้วคิดจะไปซื้อแพ็คเกจบนเกาะก็ยังได้ เพราะที่เกาะขาย
โซนในแค่ 550 บาท/คน เท่านั้นจ้า แต่เป็นเรือชาวเล
[CR] แค่หลีเป๊ะ ... ไม่ไป ... ต้องไป ... ไม่รู้ ... ต้องลอง ตอน สู้ๆ นะสองสาวววว ^o^
มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ออฟฟิศที่ชอบหนีเจ้านายเที่ยวอีกคนนึงบนโลกใบนี้ ^^"
และเชื่อว่ามันจะมีสาระซ่อนอยู่ในสิ่งที่ไร้สาระเสมอ!! (หรือบางทีอาจจะไม่เจอสาระ ... ก็เป็นได้)
ครั้งนี้เราไปพร้อมเงื่อนไขว่าจะไม่พกกล้องไปแน่ๆ เพราะเรามี concept ว่าต้องไป ดำน้ำ และ ดาบหน้า!!
การตามล่าเรือบินหางแดงกับโปรโมชั่น 0 บาท! ในการเดินทางไปหาดใหญ่ คือ ภารกิจแรกของเรา
เราเน้นจองแต่ตั๋วกลับอย่างเดียวเพราะเราไม่รู้ว่าจะไปวันไหน แต่เรารู้ว่าจะกลับกันวันนี้ล่ะ 555+
(จริงๆ แล้วได้โปรฯตั๋วกลับมาถูกง่ะ แต่ตั๋วไปมันแพงเลยไม่จอง ... กะไปตายเอาดาบหน้า
เมื่อเวลาเดินทางผ่านข้ามปีมาเป็นที่เรียบร้อยใกล้วันกลับเข้าไปทุกที เลยต้องตัดสินใจจองวันไปแล้ว 555+
ดังนั้นสรุปได้คือไปวันที่ 1 กลับวันที่ 3 เหลือวันที่ 4 ที่เป็นวันหยุดมาฆบูชาเอาไว้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย กลับมาทำบุญให้ชีวิตดี๊ดี กับที่บ้าน
----------------------------------------------------------------------------------------
วันแรก - วันที่ 1 ไม่ใช่วันที่ 2 และยังไม่ใช่วันที่ 3 และคิดว่าควรจะเลิกเล่นได้ละ
เริ่มตื่นเต้นกันตั้งแต่สนามบิน เมื่อนักเดินทางรุ่นพี่ ได้มาถึงสนามบิน เช็คของเรียบร้อยแต่เพิ่งค้นพบว่า ลืมตัวสินะ หยิบครีม และสิ่งอื่นๆ
ที่หน้าตาออกมาเป็น 3 ขวดใหญ่ที่บรรจุของเหลว เดินเข้าประตูมาด้วย
จึงเกิดมาเป็นที่มาของสวยเลือกได้ทันที ... 3 ทางเลือก - ทิ้ง! ฝาก! ส่ง!
คำเตือน (ถือว่าย้ำอีกครั้ง) ท่านผู้โดยสายโปรดทราบ ... หากท่านคิดจะเดินทาง / คิดจะหิ้วกระเป๋าติดตัว และไม่คิดจะโหลด
อย่า!!! ได้นำของเหลว ใดๆ ที่บรรจุภัณฑ์เขียนข้างขวดเกิน 100 ml มาเป็นเด็ดขาด ... แม้ในนั้นจะเหลือแค่ 0.999... ml ก็ห้ามหิ้วขึ้น
ไม่งั้นจะต้องกลายเป็นคนที่สวย (ต้อง) เลือกได้ทันที
ทีนี้สำหรับคนที่เลือกฝากไว้ที่สนามบินก็จะมีการคิดค่าฝากประมาน 70 ++ บาทต่อวัน กรณีนี้สำหรับขวดทั้งสามนั้นนะจ๊ะ!
แต่ถ้าเป็นสิ่งของอื่นๆ เช็คหน้างานอีกทีจ้า ส่วนส่งไปรษณีย์กลับไปบ้านเลยก็สะดวกและถูกดีสำหรับกรณีนี้ ^o^
หรือถ้าคิดว่าฉันสวยและรวยมากก็เลือกทิ้งมันไปออกจากชีวิตเราซะเลย 555+
และนี่คือสาเหตุที่ทำให้รุ่นพี่เกือบตกเครื่อง ก็คือ ... มันเกิดปรากฎการณ์ final call ในช่วงระหว่างที่เอาของไปจัดการ
บอกไว้เลยว่าสิ่งเลวร้ายนี้ ผ่านพ้นไปด้วยการวิ่ง ไม่ว่าจะลีลาใด ก็คือวิ่งเท่านั้น เรียกได้ว่า เมื่อถึง gate หอบ แดร๊ก กันเลยทีเดียว
ส่วนรุ่นน้องนั้นก็คอยอัพเดทกับแอร์ฯสาว
ประมานว่าถ้ารุ่นพี่ตกเครื่องเมื่อไหร่ คงได้โยนกระเป๋าคืนลงบนรันเวย์แน่ ... อุ๊บส์
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า ... อย่าตัวติดกัน ใครเข้าไปได้ก่อน เช็คอินก่อน รอก่อน แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยว่าคนที่มากับเราอยู่ตรงไหนแล้ว รีบโทรบอกสถานะของเครื่องบินให้เพื่อนเรารู้ เพราะ ณ ที่แห่งนั้น บอกเลยว่ายากมากที่จะได้ยินเสียงประกาศใดๆ จากเจ้าหน้าที่
และใครอยากมาสาย / ติดธุระต้องฝึกวิ่งมาก่อนนะ ให้เร็วที่สุด ถ้าจิตไม่แข็งพอ ตอนวิ่งอาจจะวืดได้!!!!!
เมื่อเราหลับจนมาถึงสนามบินหาดใหญ่ พอตื่นแล้วก็เดินงัวเงียออกมาหารถสองแถวสีฟ้าในตำนานที่จอดรอผู้กล้าอยู่ที่สนามบิน ...
ตามธรรมเนียมการนั่งแล้วต้องเสียคนละ 30 บาท ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
หากไม่แน่ใจไม่อยากลุ้น
แต่ถ้าอยากโชว์เหนือที่ใต้! โดยการแกล้งเนียนเป็นว่าฉันรู้ (จริงๆ ไม่รู้ 555+) ก็สังเกตโลตัสให้ดี
ปล. หากวันใดโลตัสเจ๊งไป เราคงไม่มี landmark แล้วสินะ 555+
เมื่อถึงแล้วรถตู้ที่จะไปปากบารานั้น เราสามารถเดินไปซื้อตั๋วได้ในราคาคนละ 110 บาทที่ช่องหมายเลข 9
รถออกทุก 45 นาที แต่ลุงคนขายบอกไว้ว่าถ้าเต็มก่อนก็ออกก่อนจ้า …
ไม่ต้องคิดว่าจะซื้อล่วงหน้าแล้วไปเดินเล่นกลับมาให้ทันรถออกนะ เพราะลุงคนขายบอกเลยไม่ขาย
แต่ก็เข้าใจน่ะแหล่ะ ว่าถ้าคนเต็มแล้วจะต้องมานั่งรอเพื่อออกตรงเวลาก็ยังไงอยู่ 555+
***สังเกตุได้ว่าตั้งแต่เล่ามา ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องตั๋วเรือและที่พัก ... เพราะว่าเราไปตายกันดาบหน้าจริงๆ จ้า 555+
คือเป็นการเล่าตามสถานการณ์จริงค่ะ ดังนั้นไม่แนะนำอย่างแรงสำหรับคนที่มีเวลานะ วางแผนกันได้ ก็วางแผนกันเหอะ เผื่อชีวิตจะดีกว่านี้
ประหยัดกว่า ทางเลือกเยอะกว่า ได้อะไรมากกว่า 555+
แต่เพื่อความปลอดภัยอีกนิดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีข้อมูลของพวกขอตายเอาดาบหน้าอย่างเรา ...
... โทรศัพท์แบบฉลาด/วิ-ฟิ และอากู๋ ช่วยท่านได้เสมอ ...
ดังนั้นเราจึงจิ้มได้ THE BEST RESORT ระหว่างที่นั่งกินไก่ทอด (KFC) หาดใหญ่ 555+ (มีแต่คนบอกว่าโคตรสิ้นคิด ^^”) …
แต่ confirm ว่ารสชาติเหมือน กทม. จริงๆ นะ
---- ขอแทรกเพิ่มข้อมูลหน่อยนะ ^^ -----
รายละเอียดที่พัก ... จะบอกว่าเป็นรีสอร์ทที่ใกล้กับท่าเรือปากบาราอย่างมากจ้า สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพียงก้าวไม่กี่ก้าว
ท่านก็จะถึงท่าเรือทันทีภายใน 5 นาที อาจจะนานกว่านั้นหน่อยถ้าก้าวช้าหรือขาสั้นก็ต้องขยันซอยเอาเน้อ ห้องธรรมดาปกติช่วงนี้ ราคาประมาณ 500 ++
---- แทรกเสร็จแล้วววววววววววว ^^ ----
เมื่อหลับอีกรอบจนใกล้ถึงปากบารา ก็ตื่นมาแลซ้ายมองขวา ไม่เห็นใครในรถแล้ว และก็ยังคิดไม่ออกว่าเราจะข้ามเรือกันพรุ่งนี้ได้ไงหว่าเพราะใกล้จะมืดแล้วคงไม่มีใครเปิดบริษัทรอเราจอง ... ทันใดนั้น!! คิดได้ว่าลุงคนขับต้องช่วยได้ ... นั่นล่ะเป้าหมายของเรา! จากที่นั่งเบาะท้ายๆ ก็แทบจะปีนข้ามมาขี่คอลุงกันเลยทีเดียว เพื่อถามหาทัวร์ / เรือ / ตั๋ว ไปที่เกาะ ... ณ จุดนี้ลุงใจดีมาก พาขับ พาคุย อธิบายไปตลอดทาง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวว่าถ้าไม่ตอบไอ้นี่จะขี่คอจิงๆ หรือเปล่าน่ะสิ ^o^
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า ... หากคิดจะไปตายดาบหน้า ช่วยเดินทางแต่เช้าจ้า
เพราะเมื่อเราไปถึงปลายทางสาย หรือเย็นแล้ว ... สำนักงานหรือสถานที่ต่างๆ เค้าแทบจะปิดไม่รับแขกกันหมดละ เหอๆ...
แต่อันนี้ไม่รู้ว่าลุงพาไปหาเพื่อนลุงหรือยังไง ลุงแกก็ใจดีช่วยตะโกนเรียกคนขายตั๋วออกมาจากห้องให้เรา
ก็นั่นแหละสวยต้องเลือกได้เสมอ แต่ครั้งนี้ที่เป็นแบบนี้สวยไม่มีทางเลือกจริงๆ ลุงแวะไหนก็ต้องเอานั่นแหละ
เพราะหันไปดู มันเกินกว่ามืดแปดด้าน ต้องเรียกว่ามืด 360 องศามันเหมาะมากจริงๆ ...
มีเรื่องเม้าท์เพิ่มว่า วันที่เดินทางไปเป็นวันอาทิตย์ ก่อนถึงปากบาราจะมีตลาด 18 ล้าน
แม่ค้าพ่อค้ามาขายของบริเวณจุดชมวิวทางเดียวกับที่ไปท่าเรือปากบารา คล้ายๆ กับตลาดนัด มีของกิน ของใช้ มารวมตัวกัน หึหึ ...
บอกเลยว่าไม่พลาดแน่นอน มื้อค่ำนี้ของเราต้องที่นี่เท่านั้น !!! รอดตายแล้วววววว
ซึ่งเราก็เช่ามอ’ไซค์ของทาง resort เพื่อแว้นไปหาตลาดในทันใดที่เก็บของเสร็จ
++ ไม่เข้าใจว่าทำไม สายไหมปากบาราก้อนกลมมาก ^^ น่ารักดี เหมือนลูกบอลเลย ++
++ แอบเม้าท์ว่าร้านนี้น่ารัก เห็นเราถ่ายรูปอยู่เลยเอาขนมมาจัดให้ดีๆ วางให้ได้มุมด้วยอ่ะ ++
***ที่มาของตลาด 18 ล้าน ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่า “18 ร้านs” แบบว่าน่ารักเนอะขายกันจุ๊กจิ๊กๆ ยิบๆย่อยๆ ตั้งร้านน้อยๆ 18 ร้านเอง แต่จริงๆ มันมีที่มาจากที่คนแถวนั้นเค้าประชดตะหากล่ะ! เพราะมันคือพื้นที่ๆ เป็นตลาดโดยใช้งบประมาณสร้างถึง 18 ล้านบาทนั่นเอง
กลับมาตอนซื้อตั๋วเรือ - - - - ในที่สุดได้ตั๋วเรือสปีดโบ๊ทไป – กลับปากบารา – หลีเป๊ะ ราคา 1,200 บาท/คน
ตรงนี้อยากให้ทำความเข้าใจเลยว่าตั๋วนี้มันเป็นไป – กลับ อย่างเดียวจริงๆ ไม่มีเที่ยวไหน ...
แม้ตอนแรกพี่คนขายบอกว่ามีแวะให้
แต่เค้าก็โทรมาหาเราทีหลังว่าจริงๆ แล้วไม่มี ... พร้อมกับคำแนะนำ (บอกเค้าทำไมตอนนี้ ????
ว่าต้องซื้อ one day trip นะหนูๆ ถึงจะได้เที่ยวด้วย
เพิ่มเงินเพียง 790 บาทเองนะจ๊ะ เพราะหนูมีเวลาเที่ยววันเดียว มันคุ้มแสนคุ้ม...ล้านคุ้ม (หึหึ) ...
ฟังแล้วแอบอึน มึน งง ฟีลลิ่งประมาณว่า หืมมม โดนไปหนึ่งดอกแล้วสิเรา!
อุตส่าห์ดีใจว่าเฮ้ยยยยยย มันดีอ่า ไป – กลับ พร้อมแวะ ราคาแค่เนี้ยยย
แบบว่า ณ จุดนี้ใครมึนใครเงิบไม่รู้ หรือคนเราฟังไม่เข้าใจ หรือยังไง... รู้แต่ว่านอยด์ ...
เมื่อได้ฟังดังนั้นเราต้องยอมจ่ายเพิ่มแน่นอน ... แต่เดี๋ยวก่อน!!! ระหว่างที่คุยกับคนขาย
เหมือนมีความโชคดีบนความโชคร้าย มีแสงสว่างทะลุแสงทไวไลท์ ณ ตอนโพล้เพล้
... เพราะมีคนมาได้ยินแล้วแอบบอกรุ่นพี่เราว่า เค้าซื้อได้ 1,790 บาท/คนนะ!
เมื่อเราได้ยินเสียงนั้นก็เฮ้ยยยยย ไม่ได้การละ เดี๋ยวโทรกลับนะคะพี่ พร้อมฟังให้แน่ใจ
แล้วโทรกลับไปหาพี่เค้าอีกครั้งว่าขอลดราคานะ ซึ่งเค้าโอเคเป็น 1,800 ได้ แต่เราแบบว่าไม่ยอมอ่ะ จะเอา 1,790 ง่า
เราอาจจะส่งเสียงราวกับเด็กบ้าที่อยากได้ของเล่นเหมือนลูกบ้านข้างๆ อ่ะ แบบหนูจะเอาๆๆๆ
ซึ่งพี่เค้าก็ใจดีนะ (หรือรำคาน?)
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (1) ... ตั้งใจฟัง หาข้อมูล ให้เรียบร้อย ... ถ้าเกิดเจอคนไม่ดีตั้งใจเอาเปรียบเรา คงแย่! อย่ามัวมึน อึน งง
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (2) ... แพ็คเก็จทัวร์ตาม ensogo / groupon / อื่นๆ ที่ไว้ใจได้ ซื้อล่วงหน้าได้ โทรจองไว้ ก็ประหยัดนะ
เงิบนี้สอนให้รู้ว่า (3) ... หากเป็น one day trip แล้วอยากนอนเกาะ ไม่นอนฝั่ง ซื้อแพ็คฯ 2 วัน 1 คืน อาจถูกกว่าจ้า
ปล. สำหรับเงิบ 3 ยกเว้นแต่ว่าจะไปหานอนตามซอย walking street ก็ได้
แค่เพียงเริ่มเพียงคืนละ 600 ++
(อารมณ์แบบนอนตามซ.ข้าวสาร เดินขึ้นไปเป็นห้องเช่าเล็กๆ ชั้นสอง ลักษณะเพิ่งเปิดใหม่)
ว่าด้วยเรื่องของแพ็คเกจ ตามปกติแล้ว ทัวร์ one day trip ของหลีเป๊ะ จะมีสองรอบจ้า รอบในกับรอบนอก หรือโซนในโซนนอกนั่นเอง 555+
แต่จะมีทัวร์พิเศษรูปแบบอื่นๆ หลายหลากด้วยนะ เช่นทัวร์ตกปลา ทัวร์ดูพระอาทิตย์ขึ้น – ตก ทัวร์เรียนดำน้ำ ฯลฯ
ก็สามารถหาดูได้ที่ walking street น่ะแหละ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์
แล้วคิดจะไปซื้อแพ็คเกจบนเกาะก็ยังได้ เพราะที่เกาะขายโซนในแค่ 550 บาท/คน เท่านั้นจ้า แต่เป็นเรือชาวเล