"เจริญ-ซีพี-BTS" ชิงไฮสปีด ดอดพบ "ประจิน" ขอร่วมทุน
updated: 09 มี.ค. 2558 เวลา 15:14:57 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
3 เจ้าสัว "ซี.พี.-ไทยเบฟ-บีทีเอส" ซุ่มเงียบเจรจา รมว.คมนาคม ลงทุนรถไฟความเร็วสูง"กรุงเทพ-หัวหิน, กรุงเทพ-ระยอง" ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์-อสังหาฯ รับเออีซี "บิ๊กจิน" คาดสิ้นปีเคาะรูปแบบสัมปทาน PPP บิ๊กบีทีเอส-คีรี กาญจนพาสน์ ลั่นพร้อมลงทุนผ่านอินฟราสตักเจอร์ฟันด์ จับตาต่อรองเรตดอกเบี้ยเงินกู้รถไฟไทย-จีน มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ศึกษาแนวทางการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรน เส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพฯกับแหล่งท่องเที่ยว เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา โดยสร้างคู่ขนานกับรถไฟราง 1 เมตร และรถไฟทางคู่ราง 1.435 เมตร โดยเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เชิญเอกชนทั้งในและต่างประเทศที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมลงทุน โดยเฉพาะภาคเอกชนของไทยที่รวยเยอะ ๆ ได้เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
"เรามีที่ดินอยู่ ถ้าเศรษฐีไทยมาร่วมลงทุน และต่างประเทศมาร่วมหุ้นบ้างน่าจะดี ซึ่งไทยมีโอกาสสูงที่จะก่อสร้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ซี.พี.-ไทยเบฟฯ-บีทีเอสสนใจ
ล่าสุด พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีภาคเอกชนไทย 3 ราย ได้แก่ กลุ่ม ซี.พี. หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ให้ความสนใจร่วมลงทุนโครงการรถไฟ และอยู่ระหว่างขอข้อมูลเพื่อไปศึกษารายละเอียด ทั้งรถไฟทางคู่ราง 1 เมตร รถไฟราง 1.435 เมตร วิ่งความเร็วปานกลาง (มินิไฮสปีดเทรน) 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถไฟความเร็วสูง วิ่งความเร็ว 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
"หลังนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดอยากให้บริษัทเอกชนไทยที่มีศักยภาพมาร่วมลงทุน ก็มีเอกชนมาขอข้อมูลและขอทราบว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนงานที่ชัดเจนเรื่องระบบขนส่งทางรางโดยรวมยังไง ซึ่งได้แลกเปลี่ยนข้อมูลว่ามียุทธศาสตร์โครงข่ายที่วางไว้อย่างไร และก็มีบางส่วนให้เขาไปศึกษามา โดยมอบให้รองปลัดคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวหน้าชุดในส่วนของกระทรวง เพื่อประสานงานร่วมกับบริษัทเอกชนทั้ง ซี.พี. ไทยเบฟฯ และบีทีเอส"
ตั้งหัวหน้าทีม ปลัด-รองปลัด
พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า แผนลงทุนรถไฟราง 1.435 เมตร ความเร็ว 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในยุทธศาสตร์มีประมาณ 3,000 กิโลเมตร ได้แก่ 1.หนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กิโลเมตร 2.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 700 กิโลเมตร 3.กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 1,000 กิโลเมตร
4.เส้นระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก ด้านบนจากแม่สอด-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-มุกดาหาร 900 กิโลเมตร ด้านล่างจากบ้านพุน้ำร้อน-กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ และกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง เชื่อมขนส่งท่าเรือทวายกับแหลมฉบัง และด้านใต้ท่าเรือปากบารา-ท่าเรือสงขลา 150 กิโลเมตร เป็นแลนด์บริดจ์สำคัญข้ามมายังอ่าวไทยตอนบนกับจีนตอนใต้
สำหรับรถไฟความเร็วสูง มอบให้ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาแนวทางลงทุน 2 เส้นทาง ได้แก่ สายกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ รวมถึงจะเชิญทางรัฐบาลญี่ปุ่นมาหารือด้วย
"จะเชิญเอกชนมาหารือข้อตกลงในหลักการ เส้นทาง หลักการจะคล้ายกับรถไฟไทย-จีน แต่คงจะเร่งรัดเร็วมากไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎกติกา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2556" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานะรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน 211 กิโลเมตร ลงทุน 98,399 ล้านบาท อยู่ระหว่างขออนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ส่วนกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง เพิ่งศึกษาเสร็จ 196 กิโลเมตร ลงทุน 152,000 ล้านบาท
จุดพลุ 2 เส้นไปพัทยา-หัวหิน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดจะให้เจ้าสัวเมืองไทยมาร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูง มีความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ซี.พี. ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ และไทยเบฟเวอเรจ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่มาขอข้อมูลรายละเอียดโครงการไปศึกษา
ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสภาพัฒน์ ได้แจ้งในที่ประชุมคณะหนึ่งว่า ทางนายกรัฐมนตรีเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา ให้เจ้าสัวของประเทศไทยพิจารณาว่าจะร่วมลงทุนหรือไม่
"รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โมเดลที่น่าจะเป็นไปได้คือรัฐและเอกชนร่วมกันลงทุน โดยเอกชนมีเงินมากจะลงทุนไปก่อน อาจจะไม่ก่อสร้างเอง หลังจากนั้นให้รัฐบาลชำระภายหลัง ทั้ง ซี.พี.และไทยเบฟฯมีธุรกิจในเครือเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า มีศูนย์กระจายสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ สามารถต่อยอดโครงการได้"
คีรีแบไต๋พร้อมร่วมทุน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผยว่า สนใจลงทุนโครงการรถไฟตามนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพราะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท อะไรที่เป็นโอกาสก็เริ่มศึกษา เนื่องจากมีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้ามา 16 ปี บุคลากรก็พร้อม ฐานะการเงินเข้มแข็งน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระรัฐบาลได้
"บริษัทจะลงทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรทที่ตั้งมาได้ 2-3 ปี ซึ่งเราเตรียมเม็ดเงินที่จะลงทุนไว้พร้อม" นายคีรีกล่าวย้ำ
เปิดพอร์ต ซี.พี.-ไทยเบฟฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่ม ซี.พี. มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บมจ.ซี.พี.แลนด์ ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ศูนย์การค้าฟอร์จูน ออฟฟิศให้เช่า ซี.พี.ทาวเวอร์ และโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน แผนธุรกิจปี 2557-2559 จะลงทุนออฟฟิศ 10 โครงการ ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ใช้งบฯกว่า 3.7 พันล้านบาท เช่น ย่านนอร์ธปาร์ค วิภาวดี, พิษณุโลก, ขอนแก่น, อุดรธานี, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี ฯลฯ กับลงทุนคอนโดฯในต่างจังหวัดต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอสังหาฯของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี คือ 1.กลุ่มทีซีซี ลงทุนโรงแรม ค้าปลีก ในกรุงเทพฯและจังหวัดหัวเมือง 2.บมจ.ยูนิเวนเจอร์, บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ และ บจ.แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ ทำออฟฟิศ บ้าน คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามแนวรถไฟฟ้าและชุมชนโดยเจ้าสัวเจริญสะสมที่ดินไว้มากมายทั่วประเทศ หนึ่งในแปลงใหญ่คือที่ดินชะอำใกล้หาดปึกเตียนร่วม 1 หมื่นไร่ มีแผนแบ่งเฟสแรก 1 พันไร่ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่อยู่อาศัยเชิงอนุรักษ์
คืบหน้ารถไฟไทย-จีน
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กิโลเมตร แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 3 วันที่ 10-11 มีนาคมนี้ จะหารือจีนด้านการเงินและรูปแบบการลงทุน
ทั้งนี้ ข้อเสนอทางการเงินนั้น ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เห็นด้วยกับอัตราเงินกู้ผ่อนปรนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน (ไชน่าเอ็กซิมแบงก์) ที่ให้อัตรา 2% เมื่อเทียบกับองค์กรเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) กับเงินกู้ในประเทศแล้วใกล้เคียงกัน ทั้งอัตราระยะปลอดหนี้และชำระคืน แต่จะขอเพิ่มเวลาปลอดหนี้ จากเดิมจีนให้ 5 ปี เป็น 6 ปี และชำระคืน 20 ปี
อีกทั้งขอให้จีนใช้อนุญาโตตุลาการเป็นสากล เช่น เกาะฮ่องกง ให้เกิดความเป็นกลาง หากได้ข้อสรุปจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) เพื่อเดินหน้าในรายละเอียดต่อไป
ที่มา
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1425888956
"เจริญ-ซีพี-BTS" ชิงไฮสปีด ดอดพบ "ประจิน" ขอร่วมทุน
updated: 09 มี.ค. 2558 เวลา 15:14:57 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
3 เจ้าสัว "ซี.พี.-ไทยเบฟ-บีทีเอส" ซุ่มเงียบเจรจา รมว.คมนาคม ลงทุนรถไฟความเร็วสูง"กรุงเทพ-หัวหิน, กรุงเทพ-ระยอง" ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์-อสังหาฯ รับเออีซี "บิ๊กจิน" คาดสิ้นปีเคาะรูปแบบสัมปทาน PPP บิ๊กบีทีเอส-คีรี กาญจนพาสน์ ลั่นพร้อมลงทุนผ่านอินฟราสตักเจอร์ฟันด์ จับตาต่อรองเรตดอกเบี้ยเงินกู้รถไฟไทย-จีน มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ศึกษาแนวทางการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรน เส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพฯกับแหล่งท่องเที่ยว เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา โดยสร้างคู่ขนานกับรถไฟราง 1 เมตร และรถไฟทางคู่ราง 1.435 เมตร โดยเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เชิญเอกชนทั้งในและต่างประเทศที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมลงทุน โดยเฉพาะภาคเอกชนของไทยที่รวยเยอะ ๆ ได้เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
"เรามีที่ดินอยู่ ถ้าเศรษฐีไทยมาร่วมลงทุน และต่างประเทศมาร่วมหุ้นบ้างน่าจะดี ซึ่งไทยมีโอกาสสูงที่จะก่อสร้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ซี.พี.-ไทยเบฟฯ-บีทีเอสสนใจ
ล่าสุด พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีภาคเอกชนไทย 3 ราย ได้แก่ กลุ่ม ซี.พี. หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ให้ความสนใจร่วมลงทุนโครงการรถไฟ และอยู่ระหว่างขอข้อมูลเพื่อไปศึกษารายละเอียด ทั้งรถไฟทางคู่ราง 1 เมตร รถไฟราง 1.435 เมตร วิ่งความเร็วปานกลาง (มินิไฮสปีดเทรน) 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถไฟความเร็วสูง วิ่งความเร็ว 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
"หลังนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดอยากให้บริษัทเอกชนไทยที่มีศักยภาพมาร่วมลงทุน ก็มีเอกชนมาขอข้อมูลและขอทราบว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนงานที่ชัดเจนเรื่องระบบขนส่งทางรางโดยรวมยังไง ซึ่งได้แลกเปลี่ยนข้อมูลว่ามียุทธศาสตร์โครงข่ายที่วางไว้อย่างไร และก็มีบางส่วนให้เขาไปศึกษามา โดยมอบให้รองปลัดคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวหน้าชุดในส่วนของกระทรวง เพื่อประสานงานร่วมกับบริษัทเอกชนทั้ง ซี.พี. ไทยเบฟฯ และบีทีเอส"
ตั้งหัวหน้าทีม ปลัด-รองปลัด
พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า แผนลงทุนรถไฟราง 1.435 เมตร ความเร็ว 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในยุทธศาสตร์มีประมาณ 3,000 กิโลเมตร ได้แก่ 1.หนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กิโลเมตร 2.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 700 กิโลเมตร 3.กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 1,000 กิโลเมตร
4.เส้นระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก ด้านบนจากแม่สอด-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-มุกดาหาร 900 กิโลเมตร ด้านล่างจากบ้านพุน้ำร้อน-กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ และกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง เชื่อมขนส่งท่าเรือทวายกับแหลมฉบัง และด้านใต้ท่าเรือปากบารา-ท่าเรือสงขลา 150 กิโลเมตร เป็นแลนด์บริดจ์สำคัญข้ามมายังอ่าวไทยตอนบนกับจีนตอนใต้
สำหรับรถไฟความเร็วสูง มอบให้ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาแนวทางลงทุน 2 เส้นทาง ได้แก่ สายกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ รวมถึงจะเชิญทางรัฐบาลญี่ปุ่นมาหารือด้วย
"จะเชิญเอกชนมาหารือข้อตกลงในหลักการ เส้นทาง หลักการจะคล้ายกับรถไฟไทย-จีน แต่คงจะเร่งรัดเร็วมากไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎกติกา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2556" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานะรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน 211 กิโลเมตร ลงทุน 98,399 ล้านบาท อยู่ระหว่างขออนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ส่วนกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง เพิ่งศึกษาเสร็จ 196 กิโลเมตร ลงทุน 152,000 ล้านบาท
จุดพลุ 2 เส้นไปพัทยา-หัวหิน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดจะให้เจ้าสัวเมืองไทยมาร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูง มีความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ซี.พี. ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ และไทยเบฟเวอเรจ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่มาขอข้อมูลรายละเอียดโครงการไปศึกษา
ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสภาพัฒน์ ได้แจ้งในที่ประชุมคณะหนึ่งว่า ทางนายกรัฐมนตรีเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา ให้เจ้าสัวของประเทศไทยพิจารณาว่าจะร่วมลงทุนหรือไม่
"รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โมเดลที่น่าจะเป็นไปได้คือรัฐและเอกชนร่วมกันลงทุน โดยเอกชนมีเงินมากจะลงทุนไปก่อน อาจจะไม่ก่อสร้างเอง หลังจากนั้นให้รัฐบาลชำระภายหลัง ทั้ง ซี.พี.และไทยเบฟฯมีธุรกิจในเครือเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า มีศูนย์กระจายสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ สามารถต่อยอดโครงการได้"
คีรีแบไต๋พร้อมร่วมทุน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผยว่า สนใจลงทุนโครงการรถไฟตามนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพราะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท อะไรที่เป็นโอกาสก็เริ่มศึกษา เนื่องจากมีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้ามา 16 ปี บุคลากรก็พร้อม ฐานะการเงินเข้มแข็งน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระรัฐบาลได้
"บริษัทจะลงทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรทที่ตั้งมาได้ 2-3 ปี ซึ่งเราเตรียมเม็ดเงินที่จะลงทุนไว้พร้อม" นายคีรีกล่าวย้ำ
เปิดพอร์ต ซี.พี.-ไทยเบฟฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่ม ซี.พี. มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บมจ.ซี.พี.แลนด์ ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ศูนย์การค้าฟอร์จูน ออฟฟิศให้เช่า ซี.พี.ทาวเวอร์ และโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน แผนธุรกิจปี 2557-2559 จะลงทุนออฟฟิศ 10 โครงการ ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ใช้งบฯกว่า 3.7 พันล้านบาท เช่น ย่านนอร์ธปาร์ค วิภาวดี, พิษณุโลก, ขอนแก่น, อุดรธานี, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี ฯลฯ กับลงทุนคอนโดฯในต่างจังหวัดต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอสังหาฯของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี คือ 1.กลุ่มทีซีซี ลงทุนโรงแรม ค้าปลีก ในกรุงเทพฯและจังหวัดหัวเมือง 2.บมจ.ยูนิเวนเจอร์, บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ และ บจ.แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ ทำออฟฟิศ บ้าน คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามแนวรถไฟฟ้าและชุมชนโดยเจ้าสัวเจริญสะสมที่ดินไว้มากมายทั่วประเทศ หนึ่งในแปลงใหญ่คือที่ดินชะอำใกล้หาดปึกเตียนร่วม 1 หมื่นไร่ มีแผนแบ่งเฟสแรก 1 พันไร่ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่อยู่อาศัยเชิงอนุรักษ์
คืบหน้ารถไฟไทย-จีน
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กิโลเมตร แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 3 วันที่ 10-11 มีนาคมนี้ จะหารือจีนด้านการเงินและรูปแบบการลงทุน
ทั้งนี้ ข้อเสนอทางการเงินนั้น ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เห็นด้วยกับอัตราเงินกู้ผ่อนปรนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน (ไชน่าเอ็กซิมแบงก์) ที่ให้อัตรา 2% เมื่อเทียบกับองค์กรเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) กับเงินกู้ในประเทศแล้วใกล้เคียงกัน ทั้งอัตราระยะปลอดหนี้และชำระคืน แต่จะขอเพิ่มเวลาปลอดหนี้ จากเดิมจีนให้ 5 ปี เป็น 6 ปี และชำระคืน 20 ปี
อีกทั้งขอให้จีนใช้อนุญาโตตุลาการเป็นสากล เช่น เกาะฮ่องกง ให้เกิดความเป็นกลาง หากได้ข้อสรุปจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) เพื่อเดินหน้าในรายละเอียดต่อไป
ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1425888956