สามีขอหย่า แต่ยังอยู่ด้วยกัน

เรื่องก็มีอยู่ว่า เราสองคนคบกันตั้งแต่ ปวช.เจอกันเพราะบ้านเค้ากับหอเราอยู่ใกล้กัน และเพื่อนเรา ก็เป็นเพื่อนกับเค้า
ตอนปิดเทอมก็ไปดูทีวีบ้านเค้า นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เค้าเข้ามาในชีวิต
ตอนเรียน ป.ตรี เราขึ้นไปเรียนที่ กทม. แล้วเค้าก็ตามขึ้นไปอีกปีให้หลัง เพราะเค้าจบหลังเรา 1 ปี
แล้วตอนปี 2 เราก็ย้ายไปอยู่กับเค้าที่คอนโดของเค้า ซึ่งไกลจาก มหาลัยเรามาก พ่อแม่เค้ารับรู้ตลอด เพราะลูกชายไม่มีอะไรเสียหาย แต่ฝ่ายเราไม่มีใครรู้
พอเรียนจบทำงาน สักพัก เราบอกแม่ แม่เลยให้เราแต่งงาน เค้าก็โอเค แต่งงานกัน ตอนนี้ก็แต่งได้ 9 ปี แล้ว แต่ยังไม่มีลูก เพราะแรก ๆ เค้าไม่อยากมี
ในใจลึก ๆ เราก็ไม่อยากมี เพราะไม่อยากมีภาระ เราเป็นคนจริงจังกับชีวิตตลอด (เครียดกับทุกสิ่งอยาก อยากให้เพอเฟคร์ ทั้ง ๆที่ไม่มีอะไรเพอเฟคร์เลย)
อีกอย่างคือปัญหาการเงิน
สามีเป็นคนที่มีชีวิตแบบลูกคนพอมีพอกินคนนึง ที่ไม่เดือดร้อนอะไร และอยากได้อะไรก็ต้องได้แบบไม่สนใจเลยว่าจะมีเงินหรือไม่ ตอนทำงานเลยมีหนี้บัตรเครดิตเยอะมาก ส่วนเราก็ต้องตามใจไปด้วยบ่นไปด้วย ใส่อารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ตามใจ เมื่อเป็นหนี้เยอะขึ้น พ่อสามีเลยบอกว่าอยู่ กทม. เงินไม่เหลือเลย (เหตุผลอีกอย่างคือ สามีมีกิ๊ก เราเลยตัดสินใจไม่ยากที่จะกลับ ตจว.) แล้วพ่อสามีก็เปิดร้านเล็ก ๆ ให้ และให้ลาออกจากงาน เลยต้องกลับไปทำธุรกิจที่เล็กมาก ๆ ที่บ้าน ตจว.ช่วงแรก ๆ ธุรกิจไปได้ดีมาก รายได้เดือนนึงก็ เกือบ ๆ 60000 ซึ่งเยอะสำหรับเราเพราะตอนทำงานได้สองคนรวมกันไม่ถึง 30000 เลย ใช้กันสองคนเหลือเยอะค่ะ แต่ก็หมดไปกับของต่าง ๆ ที่สามีอยากได้ และเราก็ผิดตรงเก็บเงินไม่เก็บ แอบเก็บไม่เป็น มีเท่าไหร่บอกสามีหมด ไม่มีมุบมิบเลย และก็ยังเริงร่าอยู่เพราะเงินเยอะในแต่ล่ะเดือน อยากไปเที่ยวก็ได้ไป ปิดสัปดาห์นึงยังไม่กระทบไรเลย แต่ 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเริ่มอิ่มตัว ถึงทางตัน เงินค่อย ๆ น้อยลง ๆ แล้วก็ยังมีหนี้บัตรเครดิตอยู่เรื่อย ๆ มีปัญหาการเงินตลอดมา จนมาต้นปีนี้ สามีเริ่มมีปัญหามากขึ้น และขอหย่าในที่สุด

แต่ก็ไม่ได้โทษสามีว่าผิดอยู่คนเดียวน่ะค่ะ เพราะเราจะเล่านิสัยส่วนตัวเราให้ฟังค่ะ
- - ----ชอบวีนเหวี่ยง เครียดตลอดเวลา เจออะไรนิดหน่อยก็นอยด์ หน้าบูดบึ้ง นั่งเฉย ๆ ยังบึ้งเลย ยิ้มยากมาก ไม่สนใจร่าเริ่ง รู้สึกตัวเองมีปัญหาชีวิตหนักเหลือเกิน เป็นคนเก็บกด แววตาเศร้า ไม่รู้สึกว่าชีวิตจะสุขได้อย่างได้ ถ้าไม่มีเงิน (คิดแต่ว่าเงินคือปัจจัยที่ทำให้มีความสุข)
------- ชอบขึ้นเสียงกับสามี เพราะคิดเสมอว่าสามีไม่ทำอะไรเลยงานบ้านก็ไม่ช่วย เราต้องทำงานที่ร้านแล้วก็ต้องทำงานบ้านด้วย จัดบ้านก็ไม่ได้ สามีด่าบอกจะจัดทำไม เดี๋ยวหาของไม่เจอ
--------เราเป็นคนเข้าสังคมไม่เป็น อึดอัด ทำตัวไม่ถูก เวลาเข้าสังคม ชอบหลบตา ไม่กล้าสบสายตาใครเลย พูดก็ไม่เก่ง เพราะไม่มีเรื่องไรจะพูด
-------ชอบทำหน้าบึ้งใส่สามี เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เพราะไม่ทำอะไรเลยวัน ๆ เล่นแต่เกมส์ เล่นแต่มือถือ
-------ชอบนำเรื่องชาวบ้านมาเล่าให้สามีฟัง (สามีไม่ชอบ) แต่ที่เล่าเพราะเรามีแค่เค้าคนเดียวไม่รู้จะคุยกับใคร เพื่อนก็ไม่มีเลย เพราะแยกย้ายกันไปหมดเลย มีแค่เพื่อนในเฟส
-------แล้วนิสัยเราก็คือ เป็นคนไม่เก่งไม่ถนัดอะไรก็จะไม่สนใจ ไม่ถนัด อะไรสักอย่าง ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง สามีถามไรมาก็บอก ไม่รู้ไม่ได้เรียนมา (นี่เค้าเกลียดมากคำนี้ เค้าบอกมา) เค้าบอกไม่มีการขวบขวายหาความรู้ แล้วจะสอนลูกได้ยังไง
        แต่ส่วนดี ๆ ของเราก็มีน่ะ (ไม่รู้คิดไปเองป่าว นอกจากเรื่องตามใจเรื่องซื้อของแล้ว)  ก็มีเรื่องการเอาใจ เราทำกับข้าว ถ้าไม่ทำก็ซื้อแล้วก็จัดใส่จานแล้วก็ยกไปให้เค้ากินบนห้องนอน เหมือนมีลูกคนนึงเลยค่ะ(เพราะข้างล้างเป็นร้าน) และทุกวันนี้ก็ทำอยู่คือประเคนถึงที่อ่ะค่ะ
อันนี้ส่วนน้อยน่ะค่ะนิสัยแย่ ๆ ของเรา

***ส่วนนี่นิสัยสามีค่ะ
        สามีเป็นคนยิ้มง่าย เข้ากับคนง่าย เก่งไปซะทุกเรื่อง ถามไรตอบได้หมด เหล้าไปไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ น่ารักที่สุดเลยสามีเรา
        ส่วนเรื่องนิสัยแย่ ๆ คิดเราคิดก็คือ เค้าหาเงินไม่เก่ง ไม่ทำงาน เล่นแต่เกมส์ ชอบออกไปดูบอลลีกส์ไทย เค้ามีชมรมเชียร์ด้วย (เราก็ต้องเฝ้าร้านไปไม่ได้) ส่วนเรื่องงานบ้าน ไม่ต้องพูดถึง ไม่ทำเลย

และปัญหามันก็ก่อตัวมาทีล่ะเล็ก ๆ  จากเมื่อก่อนที่เราขึ้นเสียงหรือบ่น สามีเงียบ ไม่หือไม่อือ เราจัดบ้าน ไม่ด่าไม่ว่า (เคยได้ยินคนอื่นบ่นบอกเค้าจัดบ้านไม่ได้เลย สามีด่า) เราก็เจอมาแล้ว เมื่อก่อนรู้สึกโชคดีมากที่ไม่โดนด่าเวลาจัดบ้าน แต่ตอนนี้ ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรก้ไม่ได้ โดนด่าตลอด โดนเหวี่ยงใส่แรง ๆ เข้าไปหอม ยังรำคาญเลย
แล้วเราสองคนก็ไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย เราพูดเสนออะไรไป สามีจะปฏิเสธทันที โดยไม่คิด อย่าบอกว่า ชอบรองเท้าสีนี้จัง สามีก็บอกว่า สีนี้สวยกว่า และมีอีกอย่างเรื่องหลายอย่าง ที่ไม่ตรงกันเลย ไม่เหมือนกันเลย (เวลาที่เราพูดไรไปแล้วตรงกันกับสามี เราโคตรดีใจเลย)
บอกเดี๋ยวกินข้าวร้านนี้ได้มั้ย บอก ไม่มีที่จอดรถ จอดรถลำบาก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงร้านข้าวเลย ยังไม่รู้เลยว่าที่จอดว่างมั้ย น่าจะให้ไปถึงก่อนป่ะ ถ้าไม่มีที่จอดก็ไม่กินก็ได้ เพราะเราเป็นคนที่ง่ายมาก ๆๆๆๆๆยอมให้หมดเพราะ สามีเวลาโมโหนี่แรงส์คูณสองเท่า คงซึมซับนิสัยแย่ ๆ มาจากเราตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จนต้นปีนี้ สามีขอหย่าอย่างเป็นทางการ บอกถ้าไม่จากเป็นก็จากตาย แต่ก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน เค้าคงรอวันที่จะไปไหนก็ได้โดยไม่ต้องมีภาระหนัก ๆ อย่างเรา แล้วเค้าบอกอยากมีลูกแล้ว ตอนแรกวางแผนกันว่าจะมีปีนี้ แต่จนแล้วก็ไม่รอด เค้าบอกไม่อยากมีแม่ของลูกนิสัยแบบนี้
และคงจะไปหย่าสิ้นเดือนนี้  เรายอมแบบฝืนใจตัวเองอ่ะ เพราะต้องยอมตามใจเพื่อให้เค้าเป็นอิสระแล้ว(เรื่อง ผญ. เราไม่รู้หรอกว่ามีหรือเปล่า โลกส่วนตัว โลกออนไลน์เค้า เราไม่มีส่วนเข้าไปได้เลย)
เราคงชินชาแล้ว เพราะส่วนที่เราโดนกระทำจากสามี  ก็คงเป็นส่วนที่สามีโดนกระทำจากเราเหมือนกัน
แต่ความรู้สึกของมนุษย์เมียคนนึง ที่รู้สึกว่าสามีไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ตามใจ ดุด่า ขัดทุกคำพูด ไม่เห็นด้วยทุกการกระทำและความคิด และรู้สึก สัมผัสได้มานานมากแล้วว่าสามีไม่รักเราเลย และพยายามเรียกร้องในสิ่งที่เราเคยได้ (ช่วงโปรโมชั่น) จนกลายเป็นความไปบีบบังคับให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าเคยทำ และละลาย จนมาวันนี้สุดทางแล้วของชีวิตคู่ที่ล้มเหลว
ออ สามีเค้าเรียนจบ ป.โท น่ะค่ ะตอนนี้กำลังสมัครสอบราชการอยู่ ถ้าสอบติดที่ไหนสักแห่ง เราคงจะห่างกันจริง ๆ โดยเรายังไม่รู้จะหันไปทางไหนดี
เพราะเราไม่มีงานทำ มีเพียงธุรกิจตัวนี้ที่ทำมา จะสิบปีแล้วและกำลังจะไปไม่รอด เราคิดจะเปิดร้านอาหาร ไปเรียนมาแล้วด้วย เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก  ๆ แต่ต้องไปเช่าร้านอยู่เพราะบ้านอยู่ท้ายซอย ขายคงไม่ได้กำไรอะไร แต่นี่ก็เป็นอีกอย่างที่สามีไม่ถนัด และขัดไม่อยากให้ทำ
ก่อนหน้านี้สามีเค้าอยากเปิดสตูดิโอเวดดิ้ง เค้าชอบถ่ายรูป แต่ความคิดเราคือ เราไม่มีความถนัด เราแต่งหน้าทำผม ไม่เป็น ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง นี่ก็ความเห็นไม่ตรงกัน สามีก็ไม่พอใจนักที่เรา ไม่อยากทำ  และเค้าก็ยังอยากให้ทำร้านกาแฟด้วย แต่เราทำไม่เป็นจะให้ทำยังไง เราชอบทำอะไรเราก้ไปเรียนไปศึกษา เราก็ได้มา แต่กลับไม่มีที่ให้เปิด (อีกอย่างคือเราเฝ้าร้านดึกมาก ตั้งแต่เช้าถึง ตี 2-3 ทุกวัน โดยสามีไม่ช่วยเลย เมื่อก่อนก็ช่วยน่ะ ตอนนี้เค้าเตรียมสอบราชการเพื่ออนาคตของเค้า เลยไม่ช่วยเลย แต่เรามีหน้าที่ทำงานหาเงิน โดยเค้าไม่เครียดเลยว่าจะมีเงินหรือไม่ นี่กลางเดือนนี้ก็ต้องขึ้น กทม. ไปสอบอีก เงินก็จวนตัวมาก มีใช้ไปวัน ๆ ) แต่เค้าก็บอกถ้าไม่มีเงินก็รูดบัตร อีกแล้วค่ะ เบื่อมากกับหนี้ มีอีกเยอะค่ะ ทั้งดีทั้งไม่ดี คิดอะไรได้ก็พิมพ์ไป ไม่ค่อยจะต่อเนื่องเท่าไหร่ ปัญหาชีวิตคู่ ที่คนหนึ่งอยากอยู่ต่อ แต่อีกคนไม่อยากอยู่แล้ว จุดจบก็คงต้องปล่อยไป ทั้งที่ใจไม่อยาก แต่คิดแล้วว่าเพื่อเค้าจะได้สบายใจ ตามใจปล่อยเค้าเป็นอิสระ ส่วนเรา ก็เฮ้ออออไม่รู้จะพูดยังไง เพราะหย่าแล้วก็ยังดีที่ยังได้ตื่นมาแล้วยังได้เห็นหน้าเค้าอยู่ (แต่ดึก ๆ สามียังเค้ามากอดมาหอม โอ้ย สับสนค่ะ แต่ไม่มีอะไรกันน่ะค่ะ แค่มาคลอเคลียร์ให้เรารู้สึกอบอุ่น แล้วก็สามีบอกว่าไม่รู้เรื่อง คงละเมอ ใช่เหรอค่ะ)

ถ้าจะด่ากันก็อย่าแรงมากน่ะค่ะ เพราะทุกวันนี้เฝ้าร้านไป ตามบวมทุกวันเลย
ก็แค่อึดอัดอยากระบาย และอยากรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดกับเรายังไงจากนิสัยบางส่วนที่เราเล่าให้ฟัง ว่าเราเป็นคนเลวมากขนาดไหน ถึงทำให้คนข้าง ๆ ตีจาก

ขอบคุณอ่านน่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความคิดเห็นต่าง ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่