ทำไมค่าเทอมภาคอินเตอร์ถึงแพงกว่าหลักสูตรปกติ(มากกกกก) สงสัยจริงๆ

คือสอบติด BBA TU แล้วค่ะ แต่บังเกิดความสงสัยว่าทำไม้ทำไมทั้งๆที่หลักสูตรเหมือนกันกับบัญชีสี่ปี
ต่างกันที่การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ แต่ราคาค่าเทอมกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ค่าเทอมภาคไทย(บัญชีสี่ปี) ประมาณหมื่นกว่าบาทไม่เกินสองหมื่น ไม่แน่ใจ
ค่าเทอม BBA 81000 บาท

อยากรู้ว่าทำไมมันถึงแตกต่าง มีปัจจัยที่สำคัญๆอะไรที่ถีบค่าเทอมได้พุ่งกระฉูดได้ขนาดนี้
ถ้าไม่แตกต่างกันมากก็อยากจะช่วยครอบครัวปประหยัดค่ะ
ขอบคุณที่ให้คำตอบนะคะ จุ๊บๆ

ปล.ถ้ามีข้อมูลอะไรอยากจะเพิ่มเติมหรือแก้ไขให้ก็ยินดีจ้าา
ปล.2 แท็กห้องสยาม สีลม และก็สินธร เผื่อใครที่จบจากคณะเหล่านี้จะได้ช่วยตอบค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ แสดงว่าที่ราคาสูงเนี่ย ไม่ได้จากปัจจัยอะไรเป็นหลัก แต่เป็นที่ทางมหาลัยตั้งขึ้นมาเองใช่ม้ายยย
Facepalm
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 47
ขอตอบในฐานะคนที่เคยเรียนทั้งภาคไทยและ BBA ที่ธรรมศาสตร์นะครับ (สงสัยก็ส่งข้อความมาถามรหัสนักศึกษาได้นะครับ จำได้ทั้ง 2 อัน)

ขอพูดถึงภาคไทยสั้นๆ นะครับเพราะเรียนแค่ปีเดียว ภาคไทยมีคุณภาพอยู่แล้วครับ ตามที่เรารู้ๆกัน ผมไม่คิดว่าง่ายกว่าภาคอินเตอร์ เพราะเนื้อหามันมีความยากของมันอยู่ เพื่อนร่วมรุ่นล้วนเก่งและมีความสามารถ บางคนมีความสามารถทางภาษาอังกฤษเท่าๆกับเพื่อนผมที่เรียน BBA ด้วยซ้ำ บางคนติด BBA แต่ไม่เอามาเรียนภาคไทยก็มี จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่

ส่วน BBA ก่อนอื่นต้องบอกเลยครับว่า ผมภูมิใจมากที่ได้เรียนที่นี่ หลังจากต้องพยายามอยู่ถึง 3 ครั้ง BBA ไม่ได้เข้าง่ายครับ ผมซิ่วแต่ละครั้งผม (รวม 3 ครั้ง) ติดทั้งภาคไทยและอินเตอร์ของ ม.รัฐ ที่อื่นๆ แต่ผมอยากเรียนที่นี่มากที่สุด คงอยากเอาชนะตัวเองมั้งครับ

- ภาษา
คนชอบคิดว่าเรียน BBA แตกต่างแค่ได้ภาษา ภาษาได้แน่นอนครับ ได้ดีด้วย เพราะเพื่อนๆทุกคน คือคนที่เก่งภาษามาแล้ว ไม่ใช่โครงการอินเตอร์ที่รับเด็กมาเพื่อพัฒนาภาษา แต่ที่นี่รับเด็กที่ทางโครงการมั่นใจแล้วว่ามีความสามารถทางภาษาที่จะเรียนเป็นภาษาอังกฤษได้ ภาษาผมดีมาระดับนึง แล้วก็ดีขึ้นมากๆ หลังจากเรียนจบ

- อาจารย์
ในสมัยที่ผมเรียนมีอาจารย์ที่สอนทั้งภาคไทยและภาคอินเตอร์สอน และก็มีอาจารย์ชาวต่างขาติจำนวนพอสมควร มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างประเทศมาสอนตอน Summer สองส่วนหลังนี้ถ้าเรียนภาคไทยก็จะไม่มีโอกาสตรงนี้ ถามว่าแล้วมันดียังไง ผมขอยกไปอธิบายในหัวข้อถัด

- วิชาการ เนื้อหา และสไตล์การสอน
นี่คือจุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ BBA ธรรมศาสตร์แตกต่างจากที่อื่นๆ คำว่านานาชาติที่ BBA คือการสอนให้นักศึกษาแข่งขันในตลาดแรงงานได้ในระดับนานาชาติครับ อาจารย์ทั้งไทยและต่างชาติและปลูกฝังแนวคิดที่กว้างไกล เคสต่างๆที่เราศึกษามาจากทั่วโลก อาจารย์ต่างชาติก็นำองค์ความรู้ต่างๆที่เราไม่เห็นไม่พบในเมืองไทย อาจารย์ใช้วิธิการสอนที่ทำให้เราคิดวิเคราะห์เป็น รู้จักตั้งคำถามและกล้าแสดงออก กล้าที่จะลองผิดเพื่อจะได้ทำให้ถูก ข้อนี้ที่ไหนๆก็ claim ได้ แต่ที่ผมมั่นใจว่าที่นี่ทำได้จริงๆ คือเมื่อผมได้มาเรียนโทที่เมืองนอกแล้วรู้ว่าวิธีการสอนที่นี่เหมือนกับที่ BBA และผมไม่ได้นั่งเงียบเหมือนเด็กเอเชี่ยนทั่วๆไป ตัวโครงการเองก็จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และส่งเสริม professionalism ได้เป็นอย่างดี มีส่งไปแข่งขันที่เมืองนอกได้รางวัลมาเยอะแยะ สนับสนุนให้นักศึกษาไปแลกเปลี่ยน และไม่ใช่ใครมีตังค์ก็ไปได้นะครับ เกรดเกิน 3.00 และต้องมี TOEFL ในระดับที่ใช่สมัคร ป. โท อเมริกาหลายๆมหาลัยเลยที่เดียว แต่ก็มีคนได้ไป เฉลี่ยเกือบๆครึ่งรุ่นอยู่ดีครับในสมัยผม ยิ่งรุ่นหลังๆ โครงการยิ่งมีความพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆ

- สังคมเพื่อน
จุดเด่นของเพื่อนใน BBA ไม่ใช่แค่ลูกหลานคนมีตังค์อย่างที่หลายๆความเห็นค่อนแคะ แต่คือการที่ทุกคนมุ่งมั่น ที่จะก้าวหน้า ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ ไม่มีใครสักคนที่คิดว่าจะจบไปแล้วได้แค่เงินเดือนขั้นต่ำ (12000 รึป่าวไม่รู้ในสมัยนั้น) เพราะว่าที่บ้านให้ใช้แต่ละเดือนก็อาจจะมากกว่านั้นแล้วครับ แต่ข้อดีของสิ่งนี้คืออะไรครับ คือทุกคนทำงานอย่างหนักครับ ตั้งใจเรียน ทำให้เราที่เป็นเด็กกลางๆ ต้องถีบตัวเองขึ้นมาให้ทันเพื่อน

- ชีวิตหลังเรียนจบ
ไม่รู้ประวัติของเพื่อนทุกคน แต่ที่สนิทกันทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดีครับ ตัวผมเองที่จบมาด้วยเกรดอับดับที่ 4 นับจากท้ายในรุ่นที่จบ งานแรกที่ทำได้เงินเดือนเกิน 25000 มานิดๆ ผมเชื่อว่าภาคไทยของธรรมศาสตร์ก็มีคนทำได้แบบนี้ครับ แต่รุ่นพี่ผม 1 ปี มีคนได้เงินเดือน 6 หลักเป็นงานที่เมืองไทยครับ แต่เขาก็เก่งมากๆเลยเช่นกัน ปี 57 เงินเดือนเฉลี่ย ของเด็ก BBA คือประมาณ 27,000 (ที่มา http://www.unigang.com/Article/20536) แต่งานสายธุรกิจเงินเดือนจะขึ้นตอนเป็น mid level เร็วและสูงกว่านี้มากครับ มีเพื่อนบางส่วนได้ทำงานที่ต่างประเทศครับ คนที่ไม่ทำงานทางธุรกิจเลยก็มีพอสมควรครีบ ตอนนี้เพื่อนๆหลายคนก็เรียนต่อโทครับ ใครๆก็เรียนได้ใช่ไหมครับ แต่เด็ก BBA เวลาเรียนโท ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ มหาลัยระดับต้นๆในทั้งในและต่างประเทศครับ ตัวผมเองจบโทแล้วครับ จากเด็กห่วยๆในรุ่น แต่ก็คว้าโทจากหนึ่งใน Ivy League มาได้ (แต่ผมไม่ได้เรียนต่อด้านธุรกิจนะครับ บอกไว้ก่อน เผื่อมีคนจะขอคำปรึกษา) ผมมอบเครดิต BBA นะครับที่ทำให้ผมมีวันนี้

ที่เขียนแบบนี้ ไม่ได้จะโอ้อวดแต่ประการใดครับ แต่ในเมื่อมีคำถามว่าค่าเรียนคุ้มไหม นี่คือความคุ้มค่าที่ผมได้รับในวันนี้ ผมเชื่ออีกครับว่า ไม่ต้องเรียน BBA ธรรมศาสตร์ ก็ทำให้ทุกอย่างข้างต้นที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด สุดแล้วแต่ท่านจะประเมินเอา แต่ผมคิดว่า BBA เป็นพื้นฐานที่ดีครับ สิ่งที่ยกมาทั้งหมดอาจไม่มีคุณค่าอะไรเลยสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้ครับ ดังนั้นคงต้องถามตัวเองว่าต้องการอะไรในชีวิต

แต่ถ้าให้ผมแนะนำเจ้าของกระทู้นะครับ อย่าเรียนเลยครับ มีแนวโน้มสูงว่าคุณจะคอยเทียบเงินที่จ่ายกับสิ่งที่คุณได้รับตลอดเวลา และคุณจะผิดหวังครับเพราะคุณจะไม่ได้รับอะไรเลยระหว่างที่คุณเรียนนอกจาก การได้เรียนในมหาลัยเก่าๆ กับหลักสูตรที่หาได้ในราคาได้ถูกกว่า และความรู้สึกผิดที่ว่าคุณไม่สามารถข่วยเหลือครอบครัวได้ทั้งที่มีโอกาสประหยัด เพราะความคุ้มค่านี้คุณจะเห็นได้ชัดหลังจาก 4 ปีใน BBA ครับ
ความคิดเห็นที่ 10
สังคมหรูกว่าแหละครับ ถ้าไม่ลำบากเรื่องค่าเทอมหรือพ่อแม่ support ก็เรียนอินเตอร์ไปเหอะ ได้ connection คือ ถ้ามองโลกไม่สวย ก็ภาคอินเตอร์ส่วนมากฐานะดีกว่าภาคปกติ พ่อแม่แต่ละคนเจ้าของกิจการทั้งนั้น เพื่อนอินเตอร์บางคนก็แนวคิดโคตรเจ๋ง เพราะครอบครัวเค้าปลูกฝังมาแบบนั้น ไปอยู่กับเพื่อนดีๆเหล่านี้เราก็ซึบซับได้แหละ อย่าคิดแต่ว่าเด็กอินเตอร์ต้องเที่ยวผับ ผลาญเงินไปวันๆ คนดีๆก้าวหน้าก็มีเยอะ รวมทั้งบางกิจกรรมก็สงวนไว้ให้แค่อินเตอร์ อย่าง ฬ พวกแข่งเคสนี่อินเตอร์เท่านั้น  แต่ก็ต้องทำใจว่าการใช้ชีวิตมันก็หรุกว่าภาคปกติแหละ จัดงานวันเกิดบางทีก็ไปจัดข้างนอก ค่าเทอมก็แพงแต่ก้มีไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ก็ถ้าที่บ้านไม่ขัดสนก็เลือกอินเตอร์แหละครับ ดีกว่าในหลายๆด้าน แต่ถ้ากลัวรับสังคมในนั้นไม่ไหวก็ภาคปกติ แต่ผมแนะนำอินเตอร์ #จากเด็กที่เรียนภาคปกติ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่