เห็นด้วยหรือไม่ครับ
http://www.oknation.net/blog/black/2015/03/09/entry-1
นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาประกาศไม่ให้ข้าราชการ “อบรมดูงานต่างประเทศ” เป็นข่าวระดับนโยบายที่มีความสำคัญระดับชาติทีเดียว
เพราะเป็นประเด็นที่อยู่ในใจของผู้เสียภาษีไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเกิดข้อสงสัยว่าการไป “ดูงานต่างประเทศ” สำหรับข้าราชการนั้นได้ประโยชน์อะไรกับประเทศชาติจริง ๆ บ้าง และแยกแยะอย่างไรระหว่าง “อบรม” กับ “ดูงาน” และ “ไปเที่ยว”
นายกฯพูดอย่างนี้ทางทีวีเมื่อวันศุกร์ก่อน
“การอบรมดูงานต่างประเทศ วันนี้ผมไม่ให้ไปนะ ไม่อยากให้ไปดูงานต่างประเทศ เว้นไปติดตามราชการ ไปประชุมนี้ได้ ผมว่าถ้าจะไปดูงานต่างประเทศ จัดประชุมในประเทศไทย สัมมนาประเทศไทย แล้วเชิญคนที่จะไปดูมาบรรยาย ใช้งบประมาณถูกกว่านะ หรือเอาภาพยนตร์ เอาวีดีทัศน์ เอาอะไรมาดู เอาตำรา เอาเอกสารมาดู ผมว่าความรู้เราเยอะแยะไป มันอยู่ที่ว่าทำได้หรือเปล่า ตั้งใจจะทำไหม เท่านั้นแหละ ไปหาวิทยากรมาบรรยายในประเทศไทย ต้นทุกที่ถูกกว่า ไปดูงานไว้วันหลัง มีรัฐบาลเลือกตั้งแล้วค่อยไปดู ผมไม่รู้ ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ให้ไป แล้วก็ขอชื่นชมนะครับ ถ้าใครทำอย่างนี้อยู่แล้ว ก็เวลาเขามา เขาจะได้มาเห็นประเทศไทยด้วยเลยไง วิทยากรเขาจะได้มาเห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อโซเชียลมีเดียบางสื่อ บางคนรายงานออกไป ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เขาจะได้ชื่นชมนะ...”
http://hilight.kapook.com/view/117016
รัฐบาลร่อนหนังสือแจ้งข้าราชการ งดบินดูงานต่างประเทศ
รัฐบาลส่งหนังสือแจ้งข้าราชการทุกภาคส่วน งดบินไปดูงานที่ต่างประเทศ พร้อมให้กระทรวงการคลังแก้ระเบียบให้บินชั้นประหยัด เพื่อลดภาระงบประมาณ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2558 นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังส่วนราชการต่าง ๆ เรื่องการเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ที่ต่างประเทศ โดยเพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณ ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาจึงมีมติให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติดังนี้
1. ให้หัวหน้าส่วนราชการ (กระทรวง/กรม) หรือเทียบเท่าผู้บริหารส่วนราชการ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น กรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลที่รัฐถือหุ้น งดเว้นการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศในช่วงปีงบประมาณ 2558 ยกเว้นกรณีเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนาตามพันธกรณี ข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือหลักสูตรการศึกษาที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยหากมีความจำเป็นให้ขออนุมัติรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นรายกรณี และให้รวบรวมเสนอ ครม.ทราบเป็นรายเดือน และขอความร่วมมือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ สนช. สปช. ปฏิบัติในแนวทางเดียวกันด้วย
2. หากหน่วยงานเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาดูงาน อบรม หรือสัมมนา ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการศึกษาดูงานภายในประเทศแทน โดยเฉพาะการศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ หรือให้พิจารณาเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาบรรยาย ซึ่งจะประหยัดงบประมาณมากขึ้น
3. ให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดให้ข้าราชการเดินทางด้วยเครื่องบินในชั้นโดยสาร ดังนี้
- ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง อธิบดีหรือเทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการ เอกอัครราชทูต รองปลัดกระทรวง ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ ให้เดินทางภายในประเทศในชั้นประหยัด และเดินทางต่างประเทศในชั้นธุรกิจ
- ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ให้เดินทางทั้งภายในและต่างประเทศในชั้นประหยัด
ทั้งนี้ในระหว่างที่กระทรวงการคลังดำเนินการปรับปรุงระเบียบ ให้ข้าราชการถือปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติ
คำสั่งนายกฯยกเลิก ‘อบรมดูงาน’ต่างประเทศสั่นสะเทือนวงราชการ
http://www.oknation.net/blog/black/2015/03/09/entry-1
นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาประกาศไม่ให้ข้าราชการ “อบรมดูงานต่างประเทศ” เป็นข่าวระดับนโยบายที่มีความสำคัญระดับชาติทีเดียว
เพราะเป็นประเด็นที่อยู่ในใจของผู้เสียภาษีไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเกิดข้อสงสัยว่าการไป “ดูงานต่างประเทศ” สำหรับข้าราชการนั้นได้ประโยชน์อะไรกับประเทศชาติจริง ๆ บ้าง และแยกแยะอย่างไรระหว่าง “อบรม” กับ “ดูงาน” และ “ไปเที่ยว”
นายกฯพูดอย่างนี้ทางทีวีเมื่อวันศุกร์ก่อน
“การอบรมดูงานต่างประเทศ วันนี้ผมไม่ให้ไปนะ ไม่อยากให้ไปดูงานต่างประเทศ เว้นไปติดตามราชการ ไปประชุมนี้ได้ ผมว่าถ้าจะไปดูงานต่างประเทศ จัดประชุมในประเทศไทย สัมมนาประเทศไทย แล้วเชิญคนที่จะไปดูมาบรรยาย ใช้งบประมาณถูกกว่านะ หรือเอาภาพยนตร์ เอาวีดีทัศน์ เอาอะไรมาดู เอาตำรา เอาเอกสารมาดู ผมว่าความรู้เราเยอะแยะไป มันอยู่ที่ว่าทำได้หรือเปล่า ตั้งใจจะทำไหม เท่านั้นแหละ ไปหาวิทยากรมาบรรยายในประเทศไทย ต้นทุกที่ถูกกว่า ไปดูงานไว้วันหลัง มีรัฐบาลเลือกตั้งแล้วค่อยไปดู ผมไม่รู้ ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ให้ไป แล้วก็ขอชื่นชมนะครับ ถ้าใครทำอย่างนี้อยู่แล้ว ก็เวลาเขามา เขาจะได้มาเห็นประเทศไทยด้วยเลยไง วิทยากรเขาจะได้มาเห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อโซเชียลมีเดียบางสื่อ บางคนรายงานออกไป ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เขาจะได้ชื่นชมนะ...”
http://hilight.kapook.com/view/117016
รัฐบาลร่อนหนังสือแจ้งข้าราชการ งดบินดูงานต่างประเทศ
รัฐบาลส่งหนังสือแจ้งข้าราชการทุกภาคส่วน งดบินไปดูงานที่ต่างประเทศ พร้อมให้กระทรวงการคลังแก้ระเบียบให้บินชั้นประหยัด เพื่อลดภาระงบประมาณ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2558 นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังส่วนราชการต่าง ๆ เรื่องการเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ที่ต่างประเทศ โดยเพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณ ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาจึงมีมติให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติดังนี้
1. ให้หัวหน้าส่วนราชการ (กระทรวง/กรม) หรือเทียบเท่าผู้บริหารส่วนราชการ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น กรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลที่รัฐถือหุ้น งดเว้นการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศในช่วงปีงบประมาณ 2558 ยกเว้นกรณีเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนาตามพันธกรณี ข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือหลักสูตรการศึกษาที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยหากมีความจำเป็นให้ขออนุมัติรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นรายกรณี และให้รวบรวมเสนอ ครม.ทราบเป็นรายเดือน และขอความร่วมมือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ สนช. สปช. ปฏิบัติในแนวทางเดียวกันด้วย
2. หากหน่วยงานเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาดูงาน อบรม หรือสัมมนา ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการศึกษาดูงานภายในประเทศแทน โดยเฉพาะการศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ หรือให้พิจารณาเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาบรรยาย ซึ่งจะประหยัดงบประมาณมากขึ้น
3. ให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดให้ข้าราชการเดินทางด้วยเครื่องบินในชั้นโดยสาร ดังนี้
- ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง อธิบดีหรือเทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการ เอกอัครราชทูต รองปลัดกระทรวง ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ ให้เดินทางภายในประเทศในชั้นประหยัด และเดินทางต่างประเทศในชั้นธุรกิจ
- ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ให้เดินทางทั้งภายในและต่างประเทศในชั้นประหยัด
ทั้งนี้ในระหว่างที่กระทรวงการคลังดำเนินการปรับปรุงระเบียบ ให้ข้าราชการถือปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติ