เมื่อเดือนมิถุนายน ปี2012
จากกรณีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา 2 พี่น้อง คือ น.ส.โนเอมิ อายุ 26 ปี และ น.ส.ออเดรย์ เบเลนเจอร์ อายุ 20 ปี เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังพบว่าทั้งคู่มีอาการอาเจียน และลำตัวเล็บมือเล็บเท้าเขียวคล้ำ เหตุเกิดภายในห้องพัก ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่หลายฝ่ายระบุว่า การเสียชีวิตน่าจะมาจากการกินสารที่มีพิษเข้าไป ล่าสุดได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. คณะแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติเวช นำเครื่องมือวิทยาศาสตร์ครบชุด ลงพื้นที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยได้เข้าตรวจสอบห้องพัก เก็บตัวอย่างต่างๆ ภายในห้องพักอย่างละเอียด เพื่อหาสารที่ตกค้างตามที่นอน ห้องน้ำ ช่องแอร์ พื้นห้อง นำมาเป็นหลักฐานเทียบเคียงกับสารในร่างกายของศพที่จะเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิตได้
ลิงค์ข่าว
http://www.thairath.co.th/content/269515
แหล่งข่าวชุดสืบสวน ระบุว่า 2 สาวพี่น้องอาจมีการใช้สารบางประเภทเสพกระตุ้นจนเกินขนาดทำให้มีอาการอาเจียนและเสียชีวิต
ลิงค์ข่าว
http://www.thairath.co.th/content/270054

ล่าสุดวันที่ 7 มีนาคม 2015
สองพี่น้องชาวแคนาดาที่ถูกพบเป็นศพในห้องพักโรงแรมบนเกาะพีพีในปี 2012 อาจจะถูกฆ่าโดยฟอสฟีนซึ่งเป็นสารเคมีร้ายแรงที่ใช้ในการฆ่าตัวเรือดหรือ bedbugs,
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฟอสฟีนเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเป็นทางการในโรงแรมไทย แต่อาจจะถูกนำมาใช้อย่างผิดกฏหมายในการรมควัน
การชันสูตรศพพบรอยโรคในสมองที่เกิดจากการขาดรุนแรงของออกซิเจนซึ่งสอดคล้องกับพิษฟอสฟีน
"Phosphine เป็นยาฆ่าแมลงที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด" เป็นสารเคมีที่มีราคาถูกและสามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของมอนทรีออล,ควิเบก เคยระบุ สารไล่แมลงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ตรงข้ามวกับการชันสูตรศพของไทยซึ่งดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2012
การชันสูตรศพของไทยดำเนินการในกรุงเทพฯบอกว่าสองสาวเสียชีวิตหลังจากดื่มค๊อกเทลที่เสิร์ฟในถังพลาสติก, เครื่องดื่มที่มียาแก้ไอโคล่า และกระท่อมยาเสพติดที่ไม่รุนแรง
ทำให้ ออเดรย์, 20, และ Noemi, 25, ล้มป่วยลงหลังจากเห็นพวกเขาบนเกาะพีพีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2012 และไม่ได้เห็นอีกเลยจนกระทั่งแม่บ้านที่โรงแรมพบร่างไร้ชีวิตของพวกเขาในห้องพักของพวกเขาในสองวันต่อมา
ดร Roussel บอกว่าไม่พบระดับของสารเสพติดในกระแสเลือดของเหยื่อ และการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาที่ดำเนินการในมอนทรีออก็ไม่พบสารกระท่อมแต่อย่างใด ซึ่งการทดสอบ ได้ทดสอบกับสารเสพติดกว่า 800 ชนิด ในห้องปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของแคนาดารายงานว่า 20 นักท่องเที่ยวตะวันตกส่วนใหญ่ที่ตายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สาพศพคล้ายคลึงกันทั้งหมดและฟอสฟีน เป็นสาเหตุของการตาย รวมไปถึงชาวนอร์เวย์และชาวอเมริกันที่เสียชีวิตบนเกาะพีพีในปี 2009
เหตุการณ์นี้ไปความคล้ายคลึงกันกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่,ซึ่งหลังเกิดเหตุโรงแรมที่ได้รื้อถอนทิ้งทันทีเพื่อทำลายหลักฐาน ดร. Roussel เชื่อว่าเป็นเพราะสารฟอสฟีน
รายงานของเธอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในควิเบกให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว เกี่ยวกับความอันตรายร้ายแรงที่เกิดจากสารกำจัดศัตรูพืชบางอย่างและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบอาการของพิษและรักษามันก่อนที่จะสายเกินไป
ผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสอง กล่าวว่า "เรารู้จักลูกสาวของเราดี เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ใช้ยาเสพติด."
ลิงค์ข่าว
http://bangkokpost.com/news/general/491093/bedbug-spray-blamed-again
คำถาม ::
1. จขกท.เคยไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกระบี่ คืนละ 1,500 บาท กลางดึก รู้สึกเหมือนมีอะไรกัดที่แขนและขา คล้ายยุงกัด
แต่ห่มผ้าอยู่ เลยต้องลุกขึ้นมาเปิดไฟดู พบตัวเรือดเป็นสิบ อยู่บนเตียง รีบลงไปถามที่รีเซปชั่น ให้สเปรย์มา 1 กระป๋อง
เจ้าหน้าที่เฉยมาก เหมือนรู้อยู่แล้ว ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ เพราะบนร่างกายมีรอยแผลจ้ำเดียวเล็กๆเท่านั้น ขอเปลี่ยนห้อง ก็บอกว่าเต็ม ขึ้นไปตรวจสอบเตียง ดึงผ้าปูออก พบว่าเตียงเก่ามาก สรุปไม่ได้นอน เลยอยากรู้ว่าโรงแรม ไม่มีหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องพวกนี้เลยหรือ?
2. ตัวเรือด มีเยอะมากในโรงแรม ทำให้บางโรงแรมรมควันด้วยสารฟอสฟีน แล้วถ้าสารดังกล่าวตกค้างภายในห้องพัก แล้วเราจะทราบได้อย่างไร?
3. ปล.คนไทยคงลืมข่าวนี้ไปแล้ว แต่ชาวแคนาดาเค้ายังไม่ลืม
3 ปียังไม่หยุดค้นหา ทราบแล้วสาเหตุการตายสองพี่น้องแคนาดาที่เกาะพีพี
จากกรณีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา 2 พี่น้อง คือ น.ส.โนเอมิ อายุ 26 ปี และ น.ส.ออเดรย์ เบเลนเจอร์ อายุ 20 ปี เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังพบว่าทั้งคู่มีอาการอาเจียน และลำตัวเล็บมือเล็บเท้าเขียวคล้ำ เหตุเกิดภายในห้องพัก ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่หลายฝ่ายระบุว่า การเสียชีวิตน่าจะมาจากการกินสารที่มีพิษเข้าไป ล่าสุดได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. คณะแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติเวช นำเครื่องมือวิทยาศาสตร์ครบชุด ลงพื้นที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยได้เข้าตรวจสอบห้องพัก เก็บตัวอย่างต่างๆ ภายในห้องพักอย่างละเอียด เพื่อหาสารที่ตกค้างตามที่นอน ห้องน้ำ ช่องแอร์ พื้นห้อง นำมาเป็นหลักฐานเทียบเคียงกับสารในร่างกายของศพที่จะเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิตได้
ลิงค์ข่าว http://www.thairath.co.th/content/269515
แหล่งข่าวชุดสืบสวน ระบุว่า 2 สาวพี่น้องอาจมีการใช้สารบางประเภทเสพกระตุ้นจนเกินขนาดทำให้มีอาการอาเจียนและเสียชีวิต
ลิงค์ข่าว http://www.thairath.co.th/content/270054
ล่าสุดวันที่ 7 มีนาคม 2015
สองพี่น้องชาวแคนาดาที่ถูกพบเป็นศพในห้องพักโรงแรมบนเกาะพีพีในปี 2012 อาจจะถูกฆ่าโดยฟอสฟีนซึ่งเป็นสารเคมีร้ายแรงที่ใช้ในการฆ่าตัวเรือดหรือ bedbugs,
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฟอสฟีนเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเป็นทางการในโรงแรมไทย แต่อาจจะถูกนำมาใช้อย่างผิดกฏหมายในการรมควัน
การชันสูตรศพพบรอยโรคในสมองที่เกิดจากการขาดรุนแรงของออกซิเจนซึ่งสอดคล้องกับพิษฟอสฟีน
"Phosphine เป็นยาฆ่าแมลงที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด" เป็นสารเคมีที่มีราคาถูกและสามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของมอนทรีออล,ควิเบก เคยระบุ สารไล่แมลงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ตรงข้ามวกับการชันสูตรศพของไทยซึ่งดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2012
การชันสูตรศพของไทยดำเนินการในกรุงเทพฯบอกว่าสองสาวเสียชีวิตหลังจากดื่มค๊อกเทลที่เสิร์ฟในถังพลาสติก, เครื่องดื่มที่มียาแก้ไอโคล่า และกระท่อมยาเสพติดที่ไม่รุนแรง
ทำให้ ออเดรย์, 20, และ Noemi, 25, ล้มป่วยลงหลังจากเห็นพวกเขาบนเกาะพีพีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2012 และไม่ได้เห็นอีกเลยจนกระทั่งแม่บ้านที่โรงแรมพบร่างไร้ชีวิตของพวกเขาในห้องพักของพวกเขาในสองวันต่อมา
ดร Roussel บอกว่าไม่พบระดับของสารเสพติดในกระแสเลือดของเหยื่อ และการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาที่ดำเนินการในมอนทรีออก็ไม่พบสารกระท่อมแต่อย่างใด ซึ่งการทดสอบ ได้ทดสอบกับสารเสพติดกว่า 800 ชนิด ในห้องปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของแคนาดารายงานว่า 20 นักท่องเที่ยวตะวันตกส่วนใหญ่ที่ตายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สาพศพคล้ายคลึงกันทั้งหมดและฟอสฟีน เป็นสาเหตุของการตาย รวมไปถึงชาวนอร์เวย์และชาวอเมริกันที่เสียชีวิตบนเกาะพีพีในปี 2009
เหตุการณ์นี้ไปความคล้ายคลึงกันกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่,ซึ่งหลังเกิดเหตุโรงแรมที่ได้รื้อถอนทิ้งทันทีเพื่อทำลายหลักฐาน ดร. Roussel เชื่อว่าเป็นเพราะสารฟอสฟีน
รายงานของเธอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในควิเบกให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว เกี่ยวกับความอันตรายร้ายแรงที่เกิดจากสารกำจัดศัตรูพืชบางอย่างและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบอาการของพิษและรักษามันก่อนที่จะสายเกินไป
ผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสอง กล่าวว่า "เรารู้จักลูกสาวของเราดี เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ใช้ยาเสพติด."
ลิงค์ข่าว http://bangkokpost.com/news/general/491093/bedbug-spray-blamed-again
คำถาม ::
1. จขกท.เคยไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกระบี่ คืนละ 1,500 บาท กลางดึก รู้สึกเหมือนมีอะไรกัดที่แขนและขา คล้ายยุงกัด
แต่ห่มผ้าอยู่ เลยต้องลุกขึ้นมาเปิดไฟดู พบตัวเรือดเป็นสิบ อยู่บนเตียง รีบลงไปถามที่รีเซปชั่น ให้สเปรย์มา 1 กระป๋อง
เจ้าหน้าที่เฉยมาก เหมือนรู้อยู่แล้ว ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ เพราะบนร่างกายมีรอยแผลจ้ำเดียวเล็กๆเท่านั้น ขอเปลี่ยนห้อง ก็บอกว่าเต็ม ขึ้นไปตรวจสอบเตียง ดึงผ้าปูออก พบว่าเตียงเก่ามาก สรุปไม่ได้นอน เลยอยากรู้ว่าโรงแรม ไม่มีหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องพวกนี้เลยหรือ?
2. ตัวเรือด มีเยอะมากในโรงแรม ทำให้บางโรงแรมรมควันด้วยสารฟอสฟีน แล้วถ้าสารดังกล่าวตกค้างภายในห้องพัก แล้วเราจะทราบได้อย่างไร?
3. ปล.คนไทยคงลืมข่าวนี้ไปแล้ว แต่ชาวแคนาดาเค้ายังไม่ลืม