(8/3/2015) คุณหนูชูใจได้เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อหาอะไรทาน
กลับต้องไปสะดุดตากับสินค้าบางอย่างที่ไม่เคยสังเกตว่าได้เริ่มวางขาย
ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ทำให้เกิดคำถามต่างๆ มากมายกับสินค้านั้น

'คุณหนูชูใจ' ไม่รีรอที่จะหาคำตอบให้กับตัวเอง ด้วยการหยิบสินค้าแล้วเดิน
ตรงเข้าไปจ่ายเงินทันที

สินค้านั้นเป็นสินค้าที่ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นกาแฟสำเร็จรูปเช่นเดียวกับกาแฟ
แบรนด์ต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย แต่ที่ทำให้สนใจก็เพราะ ARABUS อาราบัส
เป็นกาแฟในเครือ Dutch Mill ที่มักคุ้นเคยว่าเป็นแบรนด์ของนมเปรี้ยว
ที่อยู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลานาน

ARABUS เป็นกาแฟที่มีหลายรส แต่ที่ผมเลือกที่จะซื้อมาเป็น LATTE
วางไว้บนชั้นด้านข้างของนมเปรี้ยว Dutch Mill และเป็นชั้นที่เต็มไป
ด้วยนมยี่ห้อต่างๆ ที่วางเรียงรายเป็นจำนวนมาก
บรรจุภัณฑ์ของ ARABUS นั้นแตกต่างไปจากกาแฟกระป๋อง เป็นแก้ว
ที่มีขนาดใกล้เคียงกระป๋องมาก วัสดุที่นำมาใช้เป็นพลาสติกแข็ง เช่นเดียว
กับแก้วกาแฟสดของแบรนด์ต่างๆ ตามท้องตลาด ด้านบนมีฝาปิดลักษณะใส
มองเห็นฟรอยที่ปิดแก้วเอาไว้ เมื่อดูแล้ววัสดุที่ปิดแก้วก็เป็นเหมือนกับที่ปิด
ในผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตของ Dutch Mill ฝาที่ใสนั้นมีรูสำหรับเสียบหลอดเอาไว้ด้วย
ส่วนด้านข้างมีหลอดติดไว้เหมือนกับนมกล่อง เมื่อดึงหลอดออกมาแล้ว ก็พบว่า
หลอดมีขนาดสั้นแต่สามารถยืดให้ยาวได้ และเมื่อนำมาเจาะในรูที่ฝาปิดแล้ว
ก็สามารถดื่มได้โดยสะดวก ทั้งหมดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูดีมาก

สำหรับราคาตั้งเอาไว้อยู่ที่ 39 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาแพงพอสมควร เมื่อเทียบกับ
กาแฟสดแบรนด์ต่างๆ จึงเกิดคำถามขึ้นทันทีว่า ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามนั้นทำให้
ราคาแพงขึ้นใช่หรือไม่ มีอะไรอย่างอื่นอีกหรือไม่ที่เป็นจุดเด่นของกาแฟแบรนด์
น้องใหม่นี้

เมื่อดูด้านข้างก็มีข้อความว่า “เราคัดสรรกาแฟสายพันธุ์ อาราปิก้า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น
ราชาของกาแฟ จากแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำของโลก เช่น บราซิล” มีข้อความภาษาอังกฤษ
ว่า 100% COFFEE BEAN FROM BRAZIL”
นอกจากนั้น ยังมี “DRIP COFFEE พิถีพิถันแต่ละขั้นตอนอย่างเต็มที่ด้วยกรรมวิธีการ “ดริป”
ศาสตร์แห่งการชงกาแฟที่เชื่อว่า สามารถดึงรสชาติที่ดีที่สุดของกาแฟออกมาได้
เริ่มต้นด้วยการนำน้ำร้อนที่อุณหภูมิเฉพาะ รินผ่านผงกาแฟบดใหม่อย่างช้าๆ รอจนน้ำ
กาแฟสกัดไหลลงจนหยุดสุดท้าย ผสานด้วยนมคุณภาพ ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ละมุนละไม
หอม กลมกล่อมไม่บาดลิ้น และเข้มข้นด้วยปริมาณกาแฟต่อแก้วที่มีมากกว่า”
โห... คุณหนูชูใจ ได้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟเพิ่มเติมจากฉลากข้างแก้ว
ที่ไม่เคยอ่านเลยสักครั้ง แล้ว และด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้กาแฟแบรนด์นี้
จึงมีราคาสูง

คราวนี้ก็มาถึงรสชาติกันบ้าง ‘คุณหนูชูใจ’ ทดลองดื่มแล้ว ก็ยังรู้สึกขัดใจ
เป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคา รสชาติดีทีเดียว แต่ก็ยังไม่สมดุล
กับราคาที่ 39 บาท ซึ่งสำหรับ ‘คุณหนูชูใจ’ ยอมจ่ายเงินให้กับกาแฟที่รสชาติดี
ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ก็สู้ แต่ราคากาแฟสดที่เป็นกาแฟตลาดที่เป็นที่นิยมใน
ปั้มน้ำมันที่ราคาจะอยู่ที่ 50 บาท (เพิ่มเงินอีก 11 บาทเท่านั้น) สำหรับกาแฟ
ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษตกแก้วละ 80 บาท (ทานเป็นประจำ) ราคาสูงกว่าเกือบเท่าตัว

แต่เมื่อเทียบกับรสชาติแล้ว ความเห็นส่วนตัวของ ‘คุณหนูชูใจ’ กาแฟแบรนด์นี้
ยังไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะทำให้ ‘คุณหนูชูใจ’ ควักกระเป๋าซื้อมาทานได้ในครั้งต่อไป

ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด Dutch Mill จึงก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจกาแฟเช่นนี้ แต่น่าสนใจทีเดียว
สำหรับการศึกษาผลของการตัดสินใจดังกล่าวนี้

‘คุณหนูชูใจ’ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่คิดเปลี่ยนแปลงรูปแบบของผลิตภัณฑ์ ที่ทำให้
ผู้บริโภคได้มีทางเลือกเพิ่มกับผลิตภัณฑ์คุณภาพใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา... ด้วยครับ

                                                                   ECO AkinDA by คุณหนูชูใจ