*** คดีสะเทือนขวัญในวังหลวง ***

กระทู้สนทนา


เมื่อจุลศักราช1159 ปีมะเส็ง เดือนยี่ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่1
ในคืนนั้นเองท่ามกลางความมืดมิดภายในเขตพระราชฐานชั้นใน
ขณะที่เหล่านางใน ข้าหลวงรวมไปถึงพระราชวงศ์กำลังนอนหลับกันอยู่นั้น
ใครที่ยังไม่ง่วงก็มักจะเดินออกมาเอาน้ำลูบเนื้อลูบตัว
บ้างก็แอบมานั่งอ่านเพลงยาวกันตามประสาหญิงสาวชาววัง
ปรากฏว่ามีชายหนุ่มนิรนามปีนเข้ามาในกำแพงวังแอบซุ่มอยู่ตามพุ่มไม้
ครั้งพอได้จังหว่ะนางในคนไหนเดินผ่านมาก็จะอาศัยความมืดย่องเข้าด้านหลัง
แล้วใช้มือจับไปที่ทรวงอกแล้ววิ่งหนีหายไป....

ครั้นถึงรุ่งเช้าในเขตพระราชฐานชั้นในก็เป็นข่าวใหญ่โตต่างก็ร่ำลือกันไปต่างๆนาๆ
ว่าเมื่อคืนมีผู้ชายลอบเข้ากำแพงวังชั้นใน บ้างก็ลือว่าคนนั้นโดนแล้ว
บ้างก็ลือว่าคนนี้เกือบโดน จึงสร้างความหวาดกลัวกันไปตามๆกัน
เพราะการต้องมือชายเพียงปลายเล็บในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
หญิงสาวแรกรุ่นเมื่อได้ยินบ้างก็กลัวจนต้องทูลลากลับไปอยู่บ้าน
แต่บางคนได้ยินก็มีกริยาเหนียมอายหน้าแดงบ้างตามประสาดรุณีแรกรุ่น

จนกระทั่งคืนต่อมาหม่อมทองข้าหลวงในตำหนักหนึ่งต้องขึ้นไปนอนอยู่เวรบนพระมหามณเฑียร
ในขณะหลับอยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีเงาของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆกับมุ้งของตน
จึงพยายามเพ่งสายตามองดูว่านั่นเป็นเงาผีหรือคน เมื่อเงานั้นเข้ามาใกล้ตนจึงประจักษ์แก่สายตา
ว่านั่นเป็นชายหนุ่มร่างสันทัดที่นั่งอยุ่กำลังจะมุดมุ้งเข้ามา
หม่อมทองจึงตระโกนจนสุดเสียงว่า”ช่วยด้วยๆ ช้วยด้วยเจ้าข้า”
เสียงของหม่อมดังก้องไปทั่วพระบรมหาราชวังจนบรรดาเจ้านายพระราชวงศ์ข้าหลวงตื่นกันหมด

ทหารตำรวจวังจึงพากันออกค้นหาแต่ก็ไม่พบ
หม่อมทองจึงโดนทำโทษข้อหาสร้างความตกใจเสียงดังในยามวิกาล
โดนเฆี่ยนไปเน้นๆ30ที พวกข้าหลวงนางในก็หาว่าหม่อมทองละเมอบ้าง
มโนจิตคิดไปเองบ้าง โดนผีหลอกบ้าง
จนต่อมาอีกคืนหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวบังเอิญทอดพระเนตรเห็นชายคนหนึ่ง
แอบซุ่มอยู่ในพระราชมณเฑียร ชายผู้นั้นจึงรีบกระโดดข้ามหน้าต่างไป
พระองค์จึงสั่งให้ออกดักจับคนร้าย สุดท้ายก็สามารถจับตัวคนร้ายได้สำเร็จ พบว่าคนร้ายชื่อ"อ้ายมา"

อ้ายมาได้ให้การว่า.....ได้ข่าวว่าในวังหลวงน่าสนุก
จึงลอบเข้าไปในวังโดยใช้เชือกโยนคล้องกับใบเสมากำแพงวังแล้วไต่เชือกขึ้นไป
เดินลัดเลาะไปจนถึงพระราชมณเฑียร พบเจ้าจอมนางหนึ่งงามมาก
ตนจึงเฝ้าตามหาที่หลับนอนของเจ้าจอมท่านนั้น แต่ดันไปเจอเจ้าจอมอีกท่านหนึ่งหน้าตาคล้ายๆกัน
จึงมุดไปกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ คืนต่อมาอ้ายมาก็กลับมาหาเจ้าจอมคนเดิมอีก
แต่คราวนี้เปิดมุ้งไปเจอหม่อมทอง แต่หม่อมทองไม่ยอมจึงโวยวายเสียงดังเป็นยกใหญ่
จึงโดนเฆี่ยนข้อหาสร้างความแตกตื่นยามวิกาลภายในพระบรมหาราชวัง...

จากนั้นจึงทำการสอบสวนต่อไปว่าเจ้าจอมที่โดนอ้ายมาข่มขืนนั้นเป็นใคร

ก็ปรากฎว่าเป็นเจ้าจอมอิ่ม เจ้าจอมอิ่มรับสารภาพว่าตนเองตื่นมาก็เจออ้ายมาคร่อมอยู่บนตัว
แล้วบอกว่าถ้าตนไม่ยอมให้กระทำจะฆ่าให้ตาย เจ้าจอมอิ่มจึงต้องยอมให้อ้ายมาข่มขืน
พอเสร็จกิจแบบไม่เต็มใจแล้ว เจ้าจอมอิ่มจึงออกอุบายไปเข้าห้องน้ำ
แล้วก็หนีไปโดยไม่ได้เล่าเรื่องนี้ใครฟังด้วยความอาย
พระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าเจ้าจอมอิ่มมิได้เต็มใจแต่ก็ตกอยู่ในภาวะจำยอม
จึงโปรดให้ถอดยศจากการเป็นสนมและส่งตัวกลับบ้านไป ส่วนหม่อมทองที่โดนเฆี่ยนฟรีนั้น
พระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานค่าทำขวัญเป็นการปลอบใจที่โดนฆี่ยน
ส่วนอ้ายมาถูกข้อหาข่มขืนชำเราสุดท้ายต้องโทษประหารชีวิต

วงกลมสีแดงคือใบเสมาบนกำแพงวังที่อ้ายมาใช้เชือกมัดแล้วปีนไต่ขึ้นมาเข้าวัง
ที่มา:เรื่องเล่าชาววัง โดยเวนิสา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ข้อมูล

คลังประวัติศาสตร์ไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่