เรื่องชีวิตจริง EP.1 มัธยม

ช่วงแรกกำลังเรียนประถมผมถูกตามใจมาตลอด เพราะผมเป็นลูกคนสุดท้อง และสุดท้ายที่น่ารักที่สุดในบ้านมีแต่คนเอาใจ
ผมเกิดมาอยู่ในฐานะปานกลาง ที่ผมจำความได้ตั้งแต่ประถมผมมีเพื่อนอยู่คนนึงเป็นผู้หญิงน่าตาน่ารัก ความที่เป็นเด็กเลยพูดอะไรตรง ว่าชอบเค้า ซึ่งด้วยความบังเอิญเค้าเป็นลูกสาวของคนรู้จักพ่อ ผมเลยรีบกลับบ้านเลยทันทีเพราะกลัว อีกวันนึงเลยกายเป็นเพื่อนสนิทมันเป็นไปได้เพราะมันเด็ก พออยู่ ป.5 ผมเป็นคนที่ชอบอวดรวยอวดโน้นอวดนี้ นู้นก็ไอ้นี่ก็มีจนทุกคนเป็นเพื่อนกับผมเพราะเงิน แต่เพื่อนที่ไม่คิดอย่างงั้นก็มี เค้าเลยกายเป็นเพื่อนสนิทผม มีอยู่วันนึงอาการอวดรวยด้วยความที่เป็นเด็กเลยไปขโมยเงินพอแม่ ไปซื้อการ์ดยูกิ และซัมเมอเนอร์ทุกคงคงรู้จัก ยิ้ม โดนแม่จำได้โดนบ่นยาวเลย ก่อนจะขึ้นปอ6แม่ให้ย้ายห้องไปอยู่ห้องที่ดีที่สุด พอปอ6ก็ทำอีก แล้วก็เลิก แล้วก็มีปัญหากับตัวเอง เพื่อนชอบล้อว่าอ้วน น่าตาน่าเกลียดน่าตาก็ไม่ดี พี่ชาย พี่สาวน่าตาดีทำไมแกน่าตาเป็นอย่างงี้ ผมก็ยังไม่สนใจเฉยๆไปก่อน  เพราะผมไม่ค่อยคิดมากเพราะผมมีเพื่อนเยอะอันนี้สนิทไม่ได้จากเงินลืมบอกผมเป็นเด็กเรียบร้อยมาก ไหว้ครู สวัสดีครู กระทั้งพาโรง ผมอยู่โรงเรียนนี้ตั้งแต่อนุบาลเลยรู้จักเยอะไปหน่อย  
  พอมัธยมชีวิตของผมก็เปลี่ยนไป ผมอยู่โรงเรียนแทบจะดีที่สุดของจังหวัดก็ว่าได้ คือ สาธิต มน. หรือสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร  ค่าเทอมแพงนึกว่าอยู่มหาลัย 5555ยิ้ม มอ1 ผมก็มีเพื่อนเยอะอีกตามเคย แต่เพราะนิสัย วาจาท่าทางการพูด ผมเรียนๆเล่นๆไปเรื่อยไม่เคยสนใจอะไรสักเท่าไหร่จนผลการเรียนออก มี15วิชา ติดตัวI 13 ผมคิดในใจ อุ๊ต่ะยิ้มแหละ ติดเยอะขนาดนี้เตี่ยกับแม่บ่นแน่ๆเลย แล้วก็บ่นจริงๆเป็นเรื่องปกติของพ่อแม่  พอเทอมต่อไปผมเลยลดน้อยลงจาก15 เหลือ2วิชามันก็ดีน่ะ แต่เกรดไม่สวยเลยโดนบังคับเรียนกวดวิชาวันละ8ชั่วโมง ด้วยความที่ผมโคตระเบื่อ เลยขึ้นรถตุ๊กๆไปเที่ยวนู้นนี่นั้นกับเพื่อน ผมโคตรเสี้ยมเพื่อนบอกเลยหัวเราะ แล้วก็โดนแม่จับได้เหมือนเคยในสายตาของผู้ใหญ่ผมทำตัวดีมากจนผู้ใหญ่เอ็นดู
   พอจะขึ้นมอ2ผมกินยาลดความอ้วนจาก90เหลือ65 เพื่อนเลยถามว่า แกทำไมผอมลงว่ะดูดีวะมีแต่คนทัก ครูบาอาจารย์ทักหมด เลยปลื้มว่าเราต้องผอมต้องน่าตาดีคนจะได้ปลื้มและชมเรา แล้วมีอยู่วนไปเจอเพื่อนขี้อวด เราเลยอวดซึ่งเรามีจริงตอนนั้นจำความได้ที่บ้านมีรถ5คัน รถเบ๊น3 รถตู้เบ๊นวีโต้1 รถกะบะ1คัน แต่ใครจะเชื่อเพราะเรานั่งรถรับส่ง รถประจำทาง เรียนเสร็จก็กับรถเมย์รถไฟ มีอยู่วันนึงที่บ้านเอารถเบ๊นมารับเพื่อนตกกระใจ ผู้ปกครองก็ตกกระใจว่ามารับใคร ผมนี้จากคอสั้นกายเป็นคอยาวเลยจ้า นึกถึงวันนั้นทีไรก็ขำทุกที ทุกคนเลยเรียกผมว่าเสี่ย ผมได้เงินต่อวัน วันละ200 ซึ่งทุกคนบอกว่าเยอะกว่ากูอีกอ่าเอามาแบ่งบ้าง ผีเสี่ยเข้าสิงเลย แล้วด้วยความที่ตัวเราไม่ค่อยได้กินอะไรเพราะลดความอ้วน เลยเหลือตังต่อเดือน4000 ส่วนที่หายไปเลี้ยงเพื่อน ชอบให้เพื่อนยืมตังแล้วแม้งก็ไม่คืนเพราะสงสาร พอมอ3 ด้วยความที่เราอยากเป็นคนสบบูรณ์แบบเหมือนคุณชายจุฑาเทพ ( งานมโนต้องมา ) เลยผอมเหลือ59 แล้วผมคิดว่าเราต้องมีเงิน ต้องเป็นสุภาพบุรุษ เข้ากับทุกคนได้ จนติดไปถึงสันดาร ผมเลยไม่เคยมีแฟน มีแต่คนคิดว่า “ก็นิสัยดีน่ะเว้ยดูพึ่งพาได้ทุกเรื่อง เรียนก็ได้ เศร้าก็ได้อยู่ข้างทุกคนมาตลอด สุภาพบุรุษทุกอย่างทำไมไม่คิดจะมีแฟนบ้างว่ะ” เพราะเคยชอบคนๆนึงแล้วเค้าไม่ชอบผม แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีคนชอบผมน่ะ แต่คนเราก็ต้องลองคุยกันก่อนทั้งนั้นครับ ถ้ายังไม่รู้สึกก็แปลว่าไม่ใช่ ทนไปบางวันเราอาจจะทำอะไรหักหารน้ำใจเค้าสักวันเพราะเราไม่ได้แคร์ ( นี้แค่ตอนมัธยมต้น ) เพื่อนเลยบอกว่านิ่เหตุผลตลอด แคคนอื่นอย่าลืมแคตัวเอง  มีอยู่วันนึงผมมีปํญหากับเพื่อน เรื่องเรียนงานในกลุ่ม คือผมเป็นคนขี้ลืม เพื่อนก็ทวงทุกวัน 5555  แล้ววันนึงก็เปิดประเด็นจนได้ มันกับผมก็ทะเลาะกันผมเหมือนต้องเป็นคนง้อตลอด ผมเลยต้องการใครสักคนเพื่อระบาย แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเรื่องใหญ่ ผมก็บอกเพื่อนอีกคนว่าคือกูรู้ว่ากูผิดแต่ทำไมต้องทำเป็นเรื่องด้วยว่ะ เพื่อนหลายคนก็ถามมันเลยเป็นเรื่องใหญ่เพราะสิ่งที่เราเข้าใจ กับคนอื่นเข้าใจต่างกัน มันคนละความรู้สึก อีกวันเหมือนจะคุยปกติ  แต่มันค่อยคุยกับผมน้อยลงแล้วมันก็ทิ้งผมท่านข้าวกับคนอื่น  ถามว่ารู้จักไหม รู้จักแต่ไม่สนิท ไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน  แล้วมันไปกินกับคนอื่นคือไรคับ แล้วไม่ใช่แค่มันที่เป็นอย่างงี้คนอื่นก็เป็นผมดูผิดมากเลยช่ายไหมครับ จุดสำคัญคือผมไม่เข้าใจว่าอะไรก็เปลี่ยนหมดเลย คือเหมือนมีคนจับตามองตลอดเลย ผมเครียดเรื่องเรียนอยู่แล้ว ผมยังจะมาเครียดเรื่องแบบนี้อีกหรอ เรื่องแบบนี้ที่ว่ากลายเป็นว่าสำคัญมากที่สุดสำหรับผม ผมยอมทุกอย่างที่จะได้ทุกอย่างกลับคืนเพราะดีไม่พอใช่มั้ยคับ  เพราะเลยเก็บ กฎ มาตลอดจนวันนึงมันทนไม่ไหวร้องไห้ในห้องน้ำหน้าห้องสมุด พอผมหยุดร้อง ก็มีเพื่อนผู้หญิงกลุ่มนึงรู้จักกันมาตั้งแต่ประถมสนิทด้วย คิดอยู่ในใจ นี่เพื่อนกูจริงๆใช่มั้ย เค้าพูดกับอาจารย์ว่าไม่ต้องไปปลอบเค้าหรอก  ปล่อยไปเหาะ มันชอบอวดร่ำอวดรวย ชอบอวดนู้นอวดนี้  ชอบเป็นสุภาพบุรษ   ชอบพูดจาดีดูโตเป็นผู้ใหญ่  ผมอยากตระโกนออกไปว่าที่พวกพูดอ่าไม่ชอบรึ่ไง ผมค่อยได้เค้าเรียนเลยต้องแต่วันนั้น ถึงเรียนก็ต้องแอบไปร้องไห้บ่อยๆ มันทรมานน่ะสำหรับเด็กมัธยม ผมชอบนั่งบนดาดฟ้า มันรู้สึกสบายใจอ่า  ผมเรื่มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือโลกส่วนตัว  จนวันนึงอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นห่วงเลยต้องขึ้นมาแต่ผมลงไปพอดีเลยไม่เจอกัน ผมเลยไปกวาดห้องเรียนเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่อยู่ผมไม่ชอบความกดดัน ผมกลายเป็นสิ่งน่าลำคานของคนในห้อง มันก็ดีน่ะคนเรามันจะต่ำก็ต่ำจนส่ะ ไม่รู้จะไปทางไหน ปลอบคนอื่น แคร์คนอื่น จนลืมปลอบตัวเอง และแคร์ตัวเองนั้นเป็นอย่างไง ดูเหมือนจะเข้าใจโลกที่สุดในอายุเ14 15  แต่ต้องเข้าใจว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ นี่คือชีวิต ไหนๆผมก็ไม่มีอะไรดีสำหรับ โรงเรียนนี้ และความทรงจำ ก็ย้ายโรงเรียนเลยแล้วกัน
  ม.4 ขึ้น มัธยมปลาย ผมไปอยู่โรงเรียนที่พึ่งเปิดหลักสูตร มัธยมปลาย กางเกงน้ำเงินดูดีเชียว 555 ผมก็ยังมีนิสัยเดิมอยู่คือกลัว แต่ผมคุยกับผู้หญิงเก่ง เลยมีคนนินทาบ้าง วันนึงมันเยอะไป ผมดูเบาะบาง ร้องอีกแล้วจ้า  พออีกวันนึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเพื่อนรับสิ่งที่เป็นผมได้ ดูเหมือนจะใส่ใจก็ไม่ใช่ แต่มีแค่ 4-5 คน ผมพูดชื่อแล้วกันน่ะ  แชม ก้อง นิว  บี  ผมรู้สึกว่าเค้าดูแคผมเข้าใจผม บีเป็นผู้หญิงที่ทุกคนต้องสยบ ก็ไม่เชิงหรอก แต่เพราะบุคลิกห้าวๆของเธอ แหละคำพูดที่เป็นกันเอง และไม่เคยเอาเปรียบเพื่อนและผมเลย  แชมเป็นผู้ชายที่ตอนแรกผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ แต่มันนิสัยดีน่ะ แคร์เพื่อนชอบจีบผู้หญิง ชอบคิดว่าตัวเองเหมือนณเดช 5555  นิว เป็นเพื่อนผมที่สนิทเกือบที่สุด ขี้น้อยใจกับคนอื่นห้ามพูดอะไร แต่ผมพูดอะไรก็ได้  ไปไหนไปกัน ก้องเพื่อนรักที่สุด มันนิสัยดี มันพูดแซวผม เวลาผมเครียด พวกนี้แป็นนักบาสหมดเลย ยกเว้น บีน่ะคับ  ผมมีความสุขขึ้นมาเมื่อได้เล่าตอนมัธยมปลาย  ก้อง นิว แชม มันจะถามผมตลอดว่าจะไปไหน เดี๋ยวกูไปด้วยตามกันแจเลย ผมเป็นพวกชอบเดิน เวลาจะไปตลาดไปเรียนก็เดินประหยัดตังดี ผมบอกมันไปอย่างงี้ ทุกคนมีมอไซร์หมดยกเว้นก้อง ตอนแรกไม่กล้าเพราะเกรงใจ แต่สิ่งที่เพื่อนพูดกับผมคือไรรู้มั้ย ชอบพูดบอกคนอื่นว่าอย่าเกรงใจเราไม่ต้องเกรงใจ  แต่ลืมพูดกับตัวเองรึ่ป่าว  ผมเลยยิ้ม พอนานไป ไปไหนก็มีแต่พวกนี้ จนที่บ้านรู้จัก พอเทอม2 ก้องมีรถมอไซเว้ยดีใจ สิ่งที่มันเคยพูดบอกว่ากูจะให้นั่งเป็นคนแรกเลย มันคือเรื่องจริงผมได้นั่งเป็นคนแรก ฮามาก สัญญาตรงไปป่าว เวลาผมไปไหนคนเดียวมันเป็นห่วงผมกันตลอด ไม่เคยหวังว่าจะได้อะไรจากผม มีอยู่วันนึงผมมีเรื่องเครียดนิดหน่อยอยากอยู่คนเดียว เลยบอกพวกมันไปว่าไปเรียนก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไปพวกมันก็เลยไปรอที่เรียน พอเย็นเค้าเรื่อยๆ มือถือแบตหมด แล้วผมก็เดินจาก รร. ถึงที่เรียน ประมาณ 10กว่าโล พลังงานโคตรเยอะ เพื่อนก็บอกว่าทำไมไม่โทรให้กูไปรับ มันดูอารมเสียกันมากทำไมทำแบบนี้ไปไหนมา ที่ผมรักพวกมันเพราะพวกมันเป็นแบบนี้ คนที่เค้าแค่คนอื่นเค้าก็ต้องการให้คนอื่นแค่เค้าเหมือนกัน
ม.5 ผมได้อยู่ห้องที่แยกจากเพื่อน ก้องไปอยู่ห้องเด็กเก่ง ผมอยู่กับแชมคือเกรดไม่ดี  ผมเลยเริ่มสนิทกับแชม เลยรู้จักเพื่อนใหม่อีกหลายคน เลยกลายเป็นคนมั่นใจมากขึ้นมาเรื่อยๆว่าเรามีเพื่อน  ส่วนก้องได้เพื่อนใหม่จาก รร.อื่นมาเพิ่มเลยผมรู้สึกไปเองว่าห่างเหิน นิว ย้ายไปเรียนสายวิทย์มหาลัยอื่น เลยไม่เคยได้เจอ ส่วนบีก็อยู่ห้องเดียวกับก้อง  แต่ผมอยู่ห้องกับแชมได้เพื่อนสนิทใหม่ คือเช็กกี้ เค้าดูเป็นคนแว๊นหน่อยๆ เด็กไม่ดี แต่จริงคนที่รู้จักเค้า เค้ารักเพื่อนมาก แต่เค้าเป็นคนมีเหตุผล เหมือนผม แต่สิ่งที่เค้าไม่เหมือนผมคือ การเข้าใจผู้หญิง  เค้าชอบมาปรึกษาผม อีกคนคือออย กับ ก๊ป นิสัยคล้ายๆกันเลย กลายเป็นเพื่อนสนิทผมขึ้นเรื่อยๆ  ผมได้เป็นหัวหน้าห้องด้วยน่ะ เพื่อนบอกว่าเหมาะที่สุดคือเอาใจอาจารย์เก่ง 5555 ซึ่งมันเลือกเพราะตรงนี้ อาจารย์ไม่ค่อยว่าผม  ส่วนก้องกับผมมันเริ่มห่างเรื่อยมีทักบ้างแซวบ้าง ผมงอนมันตรงที่ว่ามีเพื่อนใหม่แล้วลืมผม เลยมีคุยบ้างแซวบ้างแต่ไม่ได้ไปไหนด้วยกัน  ได้ไปแต่กับแชมกับรัตน์  แล้วก็ออย มีอยู่วันได้คุยกับรุ่นน้องผู้ชาย คุยกันถูกคอ เลยคบกันเป็นผู้ชายคนแรกที่คบกันดูน่ากลัวเนอะ 5555  ผมก็เริ่มมีกลุ่มหลายกลุ่มคือ กลุ่มผู้หญิง กลุ่มผู้ชาย กลุ่มบีห้องเด็กเก่ง กลุ่มผู้ชายคละกับผู้ฆญิง สนิทไปเรื่อย  แล้วผมก็เลิกกับน้องคนนั้นพอคบได้สักพัก  ผมเลยรู้สึกว่า เราชอบผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ได้ จากนนั้นกายเป็นคนตลกขึ้นมาเลย กายเป็นมีเสน่มากกว่าเดิม ผมเปลี่ยนคนคบบ่อยมากเพื่อนสนิท หรือคนไหนก็ไม่มีใครรู้  ทั้งชายทั้งหญิง  แต่ส่วนใหญ่ ใน รร.จะคิดว่า ผู้เค้าเป็น อีกคนบอกว่าไม่เป็น ก็สนุกดีโดนนินทาเรื่องแบบนี้
ม.6 จบแล้วเว้ยต่างคนต่างไป ผมติด ม.ชินนวัตร เอกชน ได้ทุน ได้กันทุกคน ม.แม่ฟ้าหลวง อินเตอร์ 2ภาษา คณะเทคโนโลยี่สารสนเทศ  อีกที่คือ ม.เกบตร ประมง ซึ่งก็ไม่เอาสักอย่า ง เลยมาเรียนเอแบค  เพราะพี่สาวกับพี่ชาย เรียน ม.กรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ แต่ตัว Major  คนละตัว บอกว่าจบมาแล้วไม่ดี แล้วเลือกกันทำไม  แต่ผมคิดว่าผมอยากเรียนนิเทศ ม.กรุงเทพ พ่อแม่ไม่เคยฟัง ฟังแม้งแต่พี่ชายซึ่งตอนนี้ยังหงุดอยู่เลยตอนพิมพ์ ผมเลยคิดว่ามหาลัยอื่นก็ได้สรุป ห้ามมหาลัยไท่พอยังห้ามคณะอีกอะไรว่ เลยสุดท้ายเค้าอยากให้เราเรียนดีที่สุดเลยเอาแม้งเอแบค คณะบริหารธุรกิจ อังกฤษผมนี้ได้แต่แกรมม่าล้วน ไม่มีอะไรผสมเลย แต่ผมเลือกน่ะ ผมจะต้องเรียนที่นี้ให้ได้ผมอะไรรู้มั้ย  เพราะมันเหลือมหาลัยสุดท้ายที่มีชื่อเสียงที่สุด แล้วดีอยากให้เรียนดีๆเอาแม้งดีเลยแล้วกัน เรียนแย่เลยเทอมแรก 1กว่าเกรดออกมาเครียดเลย คือไม่ได้เรียนในสิ่งที่ชอบมันรู้สึกกดดันตัวเอง กายเป็นปัญหา
( อันนี้คือเรื่องจริงของผมแต่ยังไม่ละเอียด เรื่องที่บ้านเป็นอีกตอนหนักหนามาก )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่