เรื่องมีอยู่ว่า ผมแต่งงานแล้ว เนื่องจากผมเป็นคนจีน แฟนของผมจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านผม เรา 2 คนมีลูกสาวด้วยกัน น่ารักครับ และเรา 2 คนไปทำงานกันปกติ ช่วงเช้า กลับบ้านประมาณ 18.00 น. ระหว่างวัน คุณแม่และคุณพ่อจะดูแลให้ ทีแรกแฟนของผมไม่มีปัญหากับคุณแม่ แต่มีปัญหากับน้องสาวของผมและทะเลาะกันเรื่อยมา ถึงขั้นที่น้องสาวของผมด่าพ่อด่าแม่ของแฟน จึงทำให้แฟนเลิกคุยกับน้องสาว เพราะนิสัยของแฟนผมถ้าได้เกลียดใครแล้ว จะเกลียดเข้าไส้ และแฟนของผมรักแม่รักพ่อมากๆ (ผมว่าใครๆ ก็รักพ่อแม่ของตัวเองแหล่ะครับ) แล้วทีนี้น้องสาวของผมไปพูดอะไรกับคุณแม่ไม่ทราบ จึงทำให้คุณแม่ไม่ชอบแฟนผม ผมเห็นผิดสังเกต เลยเข้าไปถามคุณแม่ คุณแม่ก็ตอบว่าแฟนผมหยิ่งไม่ยอมคุยกับน้องสาว ผมก็อธิบายให้คุณแม่เข้าใจ รวมทั้งเรื่องที่ทะเลาะกัน และด่าคุณพ่อคุณแม่ของแฟน แต่คุณแม่บอกว่า แฟนของผมเป็นคนนอกบ้าน ต้องเข้ากับคนในบ้านให้ได้ ซึ่งผมก็บอกว่า งั้นก็ต้องให้คนในบ้านปรับตัวด้วยสิ แต่แฟนผมไม่อยากจะปรับตัวแล้ว เพราะเจอลูกไม้นี้เข้าไป และน้องสาวก็ไม่ยอมปรับตัวเช่นกัน ผมก็เลยหาทางออกโดยการย้ายออกไปอยู่หอพักนอกบ้าน ใจจริงอยากอยู่คอนโดหรือซื้อบ้าน แต่ด้วยความที่ต้องพาลูกเข้าเรียน และมีค่าใช้จ่าย/หนี้สินค่อนข้างเยอะ คุณพ่อก็เลยคัดค้านว่า ไม่ให้ไป เพราะมีบ้านอยู่ดีๆ อยู่แล้วจะไปทำไม ตามสไตล์คนจีนนะครับ (แต่แฟนผมกับคุณพ่อไม่ผิดใจกันนะครับ) ผมก็จะไปให้ได้ คุณพ่อก็เลยบอกว่า ผมเป็นคนเนรคุณ คุณแม่อุตส่าห์เลี้ยงลูกมาให้ตลอด ถ้าอยากจะย้ายก็ย้ายกันไปแค่ 2 คน ไม่ต้องเอาลูกไป ปล่อยให้คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยง ผมคิดไว้แล้วว่าอย่างไรผมก็จะเอาลูกไปเลี้ยงด้วย แต่คุณพ่อไม่ให้ และดูท่าทางโกรธผมมาก ส่วนแฟนของผมก็รู้สึกไม่ดีกับคุณแม่ที่คุณแม่เปลี่ยนไป โดยที่ไม่คุยกับแฟน และไม่สนใจใยดีอีกเลย แต่กับผมยังปกติอยู่ ทำให้ผมอึดอัดใจจริงๆ เพราะเหตุนี้ผมจึงคิดอยากจะย้ายออก เพราะจะได้ตัดปัญหาตรงนี้ซักที
ประเด็นที่อยากจะถาม
1. แฟนผมผิดหรือว่าน้องสาวผมผิด
2. ที่คุณแม่ของผมบอกว่า แฟนของผมเป็นคนนอก ต้องเข้ากับคนในบ้านให้ได้ จริงหรือเปล่า อย่างไร
3. ผมย้ายไปอยู่หอพักนอกบ้าน ผมคิดถูกหรือเปล่า ในกรณีที่ผมตังค์น้อยแต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งหอพักที่ผมหาได้ถูกสุดใกล้ที่ทำงานของแฟนและที่เรียนของลูกราคา 4500 (ไม่รวมน้ำไฟ) รายได้ของแฟนและผมรวมกัน 37,500 หนี้สินของผมและแฟนรวมกัน (ผ่อนต่อเดือนทั้งหมด) 18,000 ส่วนมากเป็นสาเหตุมาจากที่บ้านของแฟน เพราะน้องชายของแฟนไปสร้างหนี้สินไว้ จำเป็นต้องไถ่บ้านด้วย และจำพวกบัตรต่างๆ รวมกันทั้งหมด 8 บัตร เป็นจำนวนขั้นต่ำอย่างที่บอกครับ และค่าเทอมของลูกอีก 20,000 บาท และยังมีให้ค่ากับข้าวคุณแม่อีก 4,000 บาท และฝั่งของแฟนอีก 4,000 บาท ซึ่งแฟนของผมขอถือไว้เอง เพราะที่บ้านแฟนมีเรื่องจำเป็นต้องใช้จ่ายมากหลายเรื่อง ทุกวันนี้ผมไปทำงานเฉลี่ยใช้เงินตกวันละ 50-70 บาท
4. ผมมีพี่ชาย 1 คนและน้องชาย 1 คน พี่ชายแต่งงานและเลิกกันไปแล้ว และไปมีคนใหม่พร้อมกับไปซื้อบ้านที่อื่น และไปอยู่ที่อื่น แต่คุณพ่อไม่ว่าอะไร และน้องชายของผม เรียนอยู่ปี 4 ใกล้บ้าน แต่ไปอยู่หอพัก คุณพ่อก็ไม่ว่าอะไร แต่พอผมจะไปอยู่ข้างนอกบ้างคุณพ่อไม่ให้ เขาเรียกว่าลำเอียงหรือเปล่า หรือเขาเป็นห่วงเรา หรือเขาหลงหลาน (คุณพ่อและคุณแม่ยังไม่ทราบว่าผมและแฟนมีหนี้สิน)
5. นอกจากย้ายออกแล้ว ยังพอมีวิธีอื่นไหมครับ ในเมื่อคนทะเลาะกันไม่ยอมคุยกัน ผมเองก็ช่วยคุยกับแฟนและคุณแม่กับน้องสาว ประมาณว่า เรื่องแล้วก็แล้วต่อกัน จนกระทั่ง น้องสาวกับคุณแม่ก็ว่าผม ว่าเชื่อแฟน ให้ท้ายแฟน ส่วนแฟนก็ว่าผม ว่าไม่ยอมปกป้องแฟน ทำให้ผมอึดอัดใจมาก เรื่องปัญหาโลกแตกแหล่ะครับ
ปรึกษาปัญหาเรื่องครอบครัว
ประเด็นที่อยากจะถาม
1. แฟนผมผิดหรือว่าน้องสาวผมผิด
2. ที่คุณแม่ของผมบอกว่า แฟนของผมเป็นคนนอก ต้องเข้ากับคนในบ้านให้ได้ จริงหรือเปล่า อย่างไร
3. ผมย้ายไปอยู่หอพักนอกบ้าน ผมคิดถูกหรือเปล่า ในกรณีที่ผมตังค์น้อยแต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งหอพักที่ผมหาได้ถูกสุดใกล้ที่ทำงานของแฟนและที่เรียนของลูกราคา 4500 (ไม่รวมน้ำไฟ) รายได้ของแฟนและผมรวมกัน 37,500 หนี้สินของผมและแฟนรวมกัน (ผ่อนต่อเดือนทั้งหมด) 18,000 ส่วนมากเป็นสาเหตุมาจากที่บ้านของแฟน เพราะน้องชายของแฟนไปสร้างหนี้สินไว้ จำเป็นต้องไถ่บ้านด้วย และจำพวกบัตรต่างๆ รวมกันทั้งหมด 8 บัตร เป็นจำนวนขั้นต่ำอย่างที่บอกครับ และค่าเทอมของลูกอีก 20,000 บาท และยังมีให้ค่ากับข้าวคุณแม่อีก 4,000 บาท และฝั่งของแฟนอีก 4,000 บาท ซึ่งแฟนของผมขอถือไว้เอง เพราะที่บ้านแฟนมีเรื่องจำเป็นต้องใช้จ่ายมากหลายเรื่อง ทุกวันนี้ผมไปทำงานเฉลี่ยใช้เงินตกวันละ 50-70 บาท
4. ผมมีพี่ชาย 1 คนและน้องชาย 1 คน พี่ชายแต่งงานและเลิกกันไปแล้ว และไปมีคนใหม่พร้อมกับไปซื้อบ้านที่อื่น และไปอยู่ที่อื่น แต่คุณพ่อไม่ว่าอะไร และน้องชายของผม เรียนอยู่ปี 4 ใกล้บ้าน แต่ไปอยู่หอพัก คุณพ่อก็ไม่ว่าอะไร แต่พอผมจะไปอยู่ข้างนอกบ้างคุณพ่อไม่ให้ เขาเรียกว่าลำเอียงหรือเปล่า หรือเขาเป็นห่วงเรา หรือเขาหลงหลาน (คุณพ่อและคุณแม่ยังไม่ทราบว่าผมและแฟนมีหนี้สิน)
5. นอกจากย้ายออกแล้ว ยังพอมีวิธีอื่นไหมครับ ในเมื่อคนทะเลาะกันไม่ยอมคุยกัน ผมเองก็ช่วยคุยกับแฟนและคุณแม่กับน้องสาว ประมาณว่า เรื่องแล้วก็แล้วต่อกัน จนกระทั่ง น้องสาวกับคุณแม่ก็ว่าผม ว่าเชื่อแฟน ให้ท้ายแฟน ส่วนแฟนก็ว่าผม ว่าไม่ยอมปกป้องแฟน ทำให้ผมอึดอัดใจมาก เรื่องปัญหาโลกแตกแหล่ะครับ