แชร์ประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้าของตัวเอง

สวัสดค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน

วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์โรคซึมเศร้าที่เกิดกับคนจำนวนมากในสังคม แต่อาจจะไม่รู้ตัวหรือไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

ขอเกริ่นก่อนว่าตอนนี้เรากำลังเรียนปริญญาโทที่ ม. รัฐแห่งหนึ่งโดยได้ทุนการศึกษาอุดหนุนการวิจัยเพื่อการตีพิมพ์ผลงานวิชาการในระดับนานาชาติ

ตอนเราเรียน ป. ตรี เราเรียนที่อีกมหาวิทยาลัยหนึ่งค่ะ แล้วพอดีในช่วงปีสี่มีอ. คนหนึ่งมาเสนอทุนให้เราพร้อมข้อเสนออีกมากมาย

เราจึงตัดสินใจเรียนโท แต่เมื่อเรียนไปแล้วกลับพบว่าข้อเสนอต่างๆ ที่ อ. คนนั้นพูดไม่เป็นความจริง ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิทยานิพนธ์และ อ. ที่ปรึกษาใหม่ ในขณะที่ทุนที่เราได้ก็เป็นเหมือนห่วงผูกคอให้เราไปไหนไม่ได้

เราตัดสินใจไปพบจิตแพทย์เมื่อเดือน มิ.ย ปีที่แล้ว เนื่องจากเราพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก เพราะเรามีปัญหาทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว

หลังจากพบจิตแพทย์ คุณหมอลงความเห็นว่าเราเป็น depressive and anxiety disorder

ยาที่เราได้มาคือ floxetine, clonazepam 0.5 mg แต่เมื่อทำการรักษาไปเรื่อยๆ พบว่ายาไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นมากนัก เพราะร่างกายเราต่อต้านยา

เราเปลี่ยนยาจำพวก antidepressive มาหมดทุกกลุ่ม ทั้ง SSRI TCA จนที่สุดร่างกายเราเริ่มตอบสนองกับยากลุ่ม SNRI คือ Efexor 150 mg

ส่วนยากลุ่มที่ช่วยให้เรานอนหลับเราใช้ clonazepam เป็นตัวหลัก เริ่มจาก 0.5 mg จนตอนนี้เพิ่มเป็น 5 mg ควบกับ xanax 0.75 mg

นอกจากนี้คุณหมอยังเริ่มให้เราทำ cognitive behavior therapy (CBT) ซึ่งตัวนี้ทำให้เรารู้สึกควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น

เดือนที่ผ่านมาทุกอย่างมันก็เหมือนเริ่มจะดีขึ้น แต่เรารู้สึกแย่ตรงที่ทุกครั้งเวลาเราไปมหาลัย เรารู้สึกเจ็บลึกๆ อยู่ข้างใน เราต้องเสียเวลาไป1 ปีเต็ม มาเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์ใหม่ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่คืบหน้า

ล่าสุดมีบริษัท Recruitment จาก US เมล์มาเรียกตัวเราไปทำงาน เราอยากไปมาก อยากไปให้พ้นจากสถานที่นี้ แต่ติดเรื่องสัญญาทุน

เรารู้สึกว่าชีวิตมันตลกดีจัง เราเริ่มกลับมามีอาการเศร้าอีกครั้ง แม้จะไม่หนักเท่าครั้งก่อน แต่ก็ทำให้เราหมดแรงบันดาลใจในการทำงานไปเลย

นอกจากนี้ผลข้างเคียงจากยาทำให้เรารู้สึกแย่มาหลายครั้ง คือ
- ความจำเราเริ่มแย่ลง จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้บ่อยครั้ง ขี้หลงขี้ลืม ซึ่งแต่ก่อนเราไม่เคยเป็น
- ตอนลืมกิน Efexor เรามีอาการทรมาน หายใจไม่ออก ใจสั่น วูบบ่อย เหมือนคนลงแดง ทรมานเหมือนกับจะตาย

เราอยากหายจากโรคนี้นะ เราให้ความร่วมมือกับหมอทุกอย่าง แต่สถานที่ที่เราต้องไปทุกวันมันตอกย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงแรกมันแย่ถึงขั้นว่าเราอ่ารเปเปอร์ไม่ได้ เห็นเปเปอร์แล้วร้องไห้ พอมาอ่านได้ก็ไม่เข้าหัว พออ่านเข้าหัวก็เอามาเขียนไม่ได้อีก

เราอยากเรียนให้จบๆ แล้วไปให้พ้นจากสถานที่นี้สักที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่