ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่ากระทู้ไม่เหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้คะ
กลุ่มคนโลกสวย , กลุ่มคนยังไม่มีประสบการณ์มีแฟน แล้วโลกสวย , กลุ่มคนที่พึ่งมีแฟนและกำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น , กลุ่มผู้ชายที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวและยังไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้ ,
กลุ่มผู้ชายที่หลงตัวเอง , กลุ่มสาวๆที่หลงตัวเอง , กลุ่มผู้ชายที่ลุ่มหลงกับอะไรสักอย่างและไม่สามารถจะปรับตัวเป็นสามีที่ดีได้
และจะเหมาะที่สุดสำหรับสาวที่มีตัวเลือกเข้ามาเยอะ
ขอเกริ่นเลยนะคะ ว่าเราเองคือไม่รู้ว่าแรดหรือเปล่า แต่มีประสบการณ์ผู้ชายมาเยอะ ว่าง่ายๆคือก็ไม่อยากจะชมตัวเองนะคะ แต่ตัวเองค่อนข้างสวย (มีแต่คนชม 555) มีคนจีบมากมาย จึงกลายเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้ถูกเลือกคะ คบเป็นแฟนมามากมาย เจ็บมาก็มากมาย จนในที่สุดก็ได้ดีสักทีและคนปัจจุบันที่คบอยู่ก็คบมาเกิน 7 ปีแล้วคะไม่รวมช่วงเป็นแฟน แล้วก็แต่งงานแล้ว ชีวิตมีความสุขมากมาย ไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะโชคดีอะไรขนาดนี้ แม้จะผ่านฝันร้ายจนเอียนผู้ชายจนแทบอยากจะเป็นโสดตลอดชีวิตมาแล้ว
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลย เพราะอยากจะแบ่งปันให้กับคนที่กำลังเลือกแฟน และ คนที่จะแต่งงานด้วย ถ้าหากยังไม่แต่งเราก็ยังมีโอกาสเลือกได้อยู่นะคะสาวๆ จะบอกว่าผู้ชายที่ดีๆ แล้วโสด เหมาะเป็นสามี ยังมีอีกเยอะ แค่เราต้องใช้เวลาค้นหาเท่านั้นคะ ต้องยอมรับตัวเราเองก็แต่งงานตอนอายุค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ถ้าสาวๆได้อ่านกระทู้นี้ ถือว่าสาวๆโชคดีมากคะ เพราะชีวิตคู่ที่ดีจะเริ่มก่อนเราเสียอีก
ที่จริงเราคบมาหลายคนมาก แต่บางคนก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคะ จะเลือกมาเล่าบางคนนะคะ
เริ่มที่ คนแรกก่อนเลยคะ คนนี้จำได้ดีเลยคะ เพราะคบตอนสมัยเรียน ม.ปลาย อย่างที่บอกว่าตัวเองเป็นดาวคะ ก็ต้องคู่กับเดือนชิมิ 555 นั่นละคะ เราเองก็ได้คว้าเดือนเด่นหนุ่มหล่อประจำรุ่นมาเลยคะ บ้านค่อนข้างรวยสำหรับหนุ่มคนนี้ แรกๆ ทุกอย่างดีหมด เป็นคู่ที่ใครต่อใครอิจฉาเลยทีเดียว แต่ก็ต้องจบลงเนื่องจากความหล่อ perfect รวย เป็นต้นเหตุที่สาวๆเข้ามาตลอดเวลา เราก็ไม่ไหวคะ ต้องมาคอยระแวง ระวังตลอดเวลา คือสาวๆก็พร้อมจะแข่งขันกันมาก เนื่องจาก ทั้ง หล่อ หุ่นดี เป็นนักบาสโรงเรียน แต่สุดท้ายที่รับไม่ได้คือ เราจับได้ว่ามีกิ๊กคะ ไม่ใช่ครั้งเดียว หลายครั้งด้วย และก็ชอบบังคับเราทำโน่น นี่ หลังจากที่จีบเราติดแล้ว ก็หนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย เราทนไม่ไหวก็เลิกไป
คนที่ 2 เราก็คบตอนม.ปลายอีกเช่นกันคะ เราก็ยังคงเลือกคนหล่อเช่นเคย ก็ได้หนุ่มหล่อหน้าใหม่เข้ามาในชีวิตอีกคน คนนี้ไม่เจ้าชู้ด้วยคะ เพราะไปกับเราตลอดเลย ไม่เคยเห็นกิ๊กกับใคร แต่มันติดที่บ้านเขาไม่ค่อยมีเงินตอนเข้ามาจีบใหม่ๆ พาเราไปเลี้ยงโน่น นั่น นี่ พอเป็นแฟนสักพักออกอาการ ให้เราออกให้บ้าง ยืมเงินเราบ้าง ไม่ค่อยจะเลี้ยงอ้างว่าไม่มีตัง เรียนกลางๆ ไม่ค่อยขยันคะ คนนี้คบจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้เลิกลาด้วยนิสัยที่แบบงกมาก เข้าใจว่าไม่มีเงินแต่ยังมาเบียดเบียนเราอีก และไม่คิดที่จะกระตืนรือร้นให้ชีวิตดีขึ้น เข้ามหาวิทยาลัยก็แน่นอนคะ
คนละมหาวิทยาลัยด้วยความที่เขาเรียนไม่เก่ง ส่วนเราก็เข้ามหาวิทยาลัยรัฐคะ คือเราคิดถึงอนาคตไว้ก่อนอะคะ พอเดาได้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้แค่หน้าตาหล่อ พออายุมากขึ้นความหล่อก็กินไม่ได้แล้วคะ และทนไม่ไหวในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่เรื่องงก เรื่องเงินเนี่ยละคะ ก็เป็นอันจบไปสำหรับคนนี้ เข้าใจนะคะว่าเขาไม่ใช่คนเลว แค่ไม่มีเงิน คือถ้าหากไม่มียิ่งต้องกระตือรือร้น ยิ่งถ้ารักเราจริง ก็ต้องอยากให้เราสบายสิ พูดตรงๆ เราไม่ยอมกัดก้อนเกลือกินคะ มันไม่ใช่ยุคโบราณ หรือหนังน้ำเน่า และที่สำคัญเรายังเลือกได้อยู่ เขามักจะมีคนมาจีบเรื่อยๆอยู่แล้วคะ เพราะหน้าตาเขาหล่อคะ
แต่จากที่เราได้เล่าไปแล้ว เราก็ขอบายเลยคะ
คนที่ 3 ตอนนั้นก็ยังคงปลงคนหล่อ แต่ก็ยังหาอยู่ แต่สุดท้ายมีคนนึงเข้ามาจีบ หน้าตาไม่ค่อยดี บ้านก็ไม่มีมีเงินมาก ก็ฐานะธรรมดาคนระดับกลางคะ แต่เรียนเก่งมาก ไม่เจ้าชู้ คือคนนี้ตามจีบเราอยู่นานมาก เพราะเราไม่โอกับหน้าตา แต่ว่าเขาช่วยเราทำรายงาน และเป็นที่รักของเพื่อนๆ เพราะเขามักจะชอบทำอะไรให้เพื่อนๆฟรีไปหมด และเราด้วย เนื่องจากความสามารถเขานั้นหลากหลาย
เขาเรียนคนละคณะกับเรานะคะ เขาอยู่วิศวะ คอม คะ จึงทำคอมเก่งมาก ช่วยเราได้เยอะ เราจึงใจอ่อน และเป็นครั้งแรกที่เรามาคบกับคนหน้าตาที่ไม่ดีซะเลย ไม่ใช่สเปก คบกันจนจบ จนทำงาน เขาไม่มีเงินนะ จึงไม่ค่อยมีของอะไรมาSurprise สักเท่าไร
แต่เขาก็ไม่ได้ให้เราเลี้ยงหรือขอเงินนะคะ ก็ยังช่วยงานเราอยู่ ถ้าเราขอให้ช่วยอะไรด้านคอม เขาก็จะช่วยเสมอ จะบอกว่าคนนี้เราคบนานที่สุดก่อนที่จะแต่งงานคะ
แต่พอเราทำงาน อยู่วัยทำงาน สังคม และ โลกก็เปลี่ยนไป เงินกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเราคิดถึงอนาคตเราเอง และลูกในอนาคต เราก็บอกให้เขาออกมาทำกิจการ โดยในเมื่อเขาจบวิศวะ คอม ก็ออกมาทำเกี่ยวกับคอม เพราะเงินเดือนมันค่อนข้างน้อย และ เราอยากได้ชีวิตที่ดี เที่ยวต่างประเทศปีะล 2-3 หน มีบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านสังคมดีๆ เขาก็เชื่อฟังดีคะ เขาก็ลาออกมาเปิดบริษัทเขียนsoftware และขายอุปกรณ์คอม และทำพวก SEO คะ เราก็โอเคนะ แม้รายได้จะน้อยกว่าตอนที่ทำบริษัทอีก เพราะหาลูกค้ายาก 555
แต่เขาบอกว่า เดี๋ยวจะหาลูกค้าให้มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น เราก็รอคะ รอมา 2 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้า เขาบอกทำงานหนัก แต่เราเห็นเกือบทุกเสาร์ อาทิตย์นี่อย่างว่าง ไปเที่ยวกับเพื่อนๆประจำ เราเองก็ไม่อยากชวนเขาไปเที่ยวมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นช่วงตั้งตัว อยากให้มุ่งไปที่ธุรกิจที่เขาพึ่งเริ่มทำ
แต่เพื่อนเขานี่สิจะชวนเที่ยวทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์มาค้างด้วย จึงทำให้เวลาทำงานเหลือแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมันก็ไม่พออยู่แล้ว เพราะไม่สามารถหาลูกค้าเพิ่มได้ เนื่องจากงานที่ทำอยู่ก็แทบจะทำไม่ทัน เราเห็นจากเพื่อนๆที่ทำเขากิจการ เขาแทบไม่มีวันหยุด เพราะมันเป็นช่วงเริ่มต้น เราเอามาเทียบกับแฟนเรา เราเองก็เคยคุยกับเขา ปรากฏว่าเขาก็บอกว่า มันเหนื่อยเกินไปถ้าจะทำอะไรทุกวัน ให้รอวันเวลา เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
แต่คือนี่ 2 ปีแล้วยังไม่มีอะไร เราก็ให้โอกาสคะ ทนมาจนปีที่ 3 เราบอกเลิกเลยคะ เขาก็สัญญาว่าจะทำงานหนัก แต่ท้ายสุดเหมือนเดิมคะ เพื่อนเขาเยอะ มาชวนเที่ยวตลอด แล้วเขาก็ไป เพราะเขาติดเที่ยว ติดสังสรรค์ เราเลยคิดว่าผู้ชายคนนี้ความคิดเด็กเกินที่จะบริหารธุรกิจได้ และเราเองก็ไม่ใช่ว่าเลือกผู้ชายไม่ได้ ชีวิตตอนนั้นเราเองไม่มีอะไรเลย กินข้าวก็ต้องประหยัด จะซื้อของก็ต้องคิดอย่างดี นานๆทีจะได้กินดีๆทีนึง
เที่ยวต่างประเทศก็ต้องรอโปรสุดๆ โรงแรมก็ต้องเลือกถูกๆ เลือกแล้วเลือกอีก คือประมาณว่า ชีวิตเราทำไมต้องมาลำบากตามเขาไปด้วย แล้วถ้าแต่งงานมีลูก เขาจะเป็นพ่อของลูก เป็นผู้นำที่ดีได้มั้ย จะส่งเสียลูกเรียนดีๆได้มั้ย เลี้ยงดูพ่อ แม่เราได้มั้ย แล้วถ้าครอบครัวเรา หรือเราเอง หรือเขา ป่วย ไม่มีเงินรักษาดีๆจะทำอย่างไร คือผู้ชายในความคิดเราต้องเป็นผู้นำคะ เดี๋ยวต้องมีคนบอกว่าทำไมเราไม่ช่วยทำมาหากิน ก็เราเลือกได้หนิคะ แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ใช่ไม่ช่วยเลย เราก็ทำงานของเรา บางทีก็มาช่วยเหมือนเป็นเลขา 555
บางทีอุกรณ์คอมที่เขาเอามาขาย เราก็ช่วยคุยกับผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง บางทีค่าเงินลง เขาก็จัดซื้อไม่ทันการกำไรหด เขาเล่นหุ้นด้วยนะคะ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนไม่สนใจข่าวสาร บ้านเมือง ก็ตัวแดงเต็มport เลยคะ
และกิจการเขาไม่มีแนวโน้มโตขึ้นเลย มีแต่ลมปากว่าเดี๋ยวก็ดีๆ เรารอไม่ได้แล้วคะ ก่อนความสวยของเราจะหมด ก็เลิกลาไป หาใหม่คะ
คนที่ 4 อันที่จริงระหว่างคนที่ 3 ก็มีหนุ่มหน้าตาหล่อ สเปกเลย ฐานะกลางๆ เข้ามาจีบ แต่เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว จนเขารู้ว่าเราเลิกแล้ว เขาก็เข้ามา เราก็โอเคเลยลองคบดูเพราะหน้าตาหล่อคะ หุ่นดี ทำงานเงินเดือนคะ เป็นพนักงานบริษัทการเงินใหญ่แห่งหนึ่ง คบไปคบมา ปรากฏว่า เราเองก็ยังไม่ได้สนองความต้องการของตัวเองอยู่ดี คือ ประหยัด อยากไปเที่ยว กินดีๆ ก็ไม่ได้ไป แฟนไม่มีเวลา ต้องรอวันหยุด และก็ยังต้องไปเที่ยวแบบประหยัดอยู่ดี ไม่ต้องถามว่าไปยุโรป กับอเมริกาหรือยัง ไม่ได้คะ เพราะถ้าไปดีๆมันแพงมาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของกิจการรุ่งๆ ก็คงไปยาก เราคิดไปคิดมา คนนี้ไม่มีอะไรผิดคะ แต่เราแค่ถามตัวเองว่าเราน่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ได้ เราจึงให้เขาพยายามทำกิจการเอง เขาไม่ยอม เขาบอกว่าเสี่ยง วั้นก็เป็นอันจบกัน คือคนที่อ่านต้องบอกว่าเราหน้าเงินมาก จะว่างั้นก็ช่าย เพราะสิ่งที่เราต้องการ ความมั่นคงในชีวิตมันต้องใช้เงินทั้งสิ้น เราไปรักษาหมอดีๆ เขายังคิดเงินเราเลยถูกมั้ย อย่างที่บอกไม่เหมาะกับพวกกลุ่มดังที่กล่าวไปแล้ว และเราก็รู้สึกว่าเราน่าจะหาได้ดีกว่านี้คะ
ปล. เราไม่เคยผ่านมาประเภทเดียว คือ หล่อ หุ่นดี perfect และรวย ในช่วงชีวิตวัยทำงาน เพราะเราเท่าที่เห็นส่วนมากเจ้าชู้ และยังไม่เจอดีๆจริงๆเข้ามาจีบ มีแต่พ่อเสือหนุ่มมาทั้งนั้นเลย ประมาณลูกคนมีเงิน แต่เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ เลยคบแบบผ่านๆ ยังไม่นับเป็นแฟนเพราะหนีก่อน ไม่ได้ว่าทุกคนนะคะ แต่ว่า หล่อ หุ่นดี รวย และดีๆ ไม่เจ้าชู้นั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในแม่น้ำ 555
คนที่ 5 คนนี้เป็นคนสุดท้ายจนถึงปัจจุบันคะ คือหน้าตาจัดว่าดี แต่หุ่นไม่ค่อยดีเท่าไร (เตี้ยมาก 555) แต่เราเอาที่หน้าตาก็เลยโอเค 555 คือบ้านเขาไม่ได้รวยนะคะ แต่ออกมาทำกิจการเองทำคล้ายๆกับคนที่ 3 แต่ว่าเขาทุ่มเทกับงานมาก และก็แทบไม่มีเวลาพาเราไปเที่ยวซึ่งเราก็เข้าใจ เราคบกับเขาตั้งแต่เขาทำงานที่บ้าน ไม่มีพนักงานเลยสักคน นิสัยเขาเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้คะ ออกต๊องนิดหน่อย ซึ่งเราก็ชอบ หน้าตาก็น่ารักๆ ขนาดตัวพกพาสะดวก 555 วกมาที่งานเขาคะ บริษัทเขาเติบโตแทบจะทุก 4-6 เดือนเลย ภายใน 1 ปีเริ่มมีพนักกงาน เราก็เห็นแววละ และอดทนคะ ประหยัดเหมือนเคย ของขวัญดีๆแทบไม่ต้องคิดจะได้ เขาส่วนใหญ่ให้เวลากับงานมากกว่าเรา แต่เราเข้าใจ เขาขอเวลาเราพิสูจน์ตัวเอง 3 ปีคะ เราเองก็คิดว่านานไป แต่ก็ทนมาเรื่อยๆคะ เพราะความเติบโตของเขา ปีที่ 2 เขามีออฟฟิตอย่างจริงจัง พนักงานมีเกิน 10 คนรายได้ หลักแสนต้นๆ ต่อเดือน เริ่มมีของขวัญให้เรา พาเราไปกินดีๆ จริงๆนะ เราคิดตั้งแต่ตอนนั้นละว่าคนนี้แหละ เหมาะเป็นสามีของเราที่สุด จนมาปีที่ 3 เขาสำเร็จมากคะรายได้ครึ่งล้าน-ล้านต่อเดือน ชีวิตเราดีมากคะ จุดนั้นนี้ผู้ญ เข้ามาตรึมมาจีบหนักยิ่งกว่าคนหล่อ perfect ซะอีกคะ เราก็ตอนนั้นคิดว่าเขารวยแล้วจะทิ้งเรามั้ย ต้องหาใหม่อีกแล้วมั้งเรา == แต่แม้สาวจะเข้ามาเยอะเท่าไร เขาไม่สนใจเลย และบอกก่อนเราตอนขอแต่งงานว่า “เราเป็นคนที่เข้ามาตอนเขาไม่มีอะไร และทนกับเขามาถึง 3 ปี เขาไม่ทิ้งเราและจะดูแลเราและครอบครัวประดุจดังเจ้าหญิง “ เรานี่น้ำตาตกในอย่างแรง คือแบบว่าไม่ตอบตกลงเราก็โง่เกินแกงละ แล้วเขาก็ทำอย่างว่าจริงๆคะ เขาดูแลเราดีมาก และบริษัทเขาอยู่ตัวแล้ว มีเวลาพาเราเที่ยว ตปท ตลอด กระเป๋าแบรนเนม ไม่ต้องพูดถึงอยากได้ย่ห้อ Hermes เขายังจัดมาให้เลย ตอนนี้มีความสุขมาหลายปีมากคะ ตอนนี้มีลูก 2 คน เรียนนานาชาติคู่คะ
สรุปนะคะ กว่าจะได้ อย่างที่บอกมาว่า เราผ่านมาเยอะมากกว่าจะได้คนสุดท้าย เราอยากจะแนะนำว่า อย่าไปสนรูปร่างหน้าตามากคะ เชื่อเรา เพราะสิ่งพวกนี้กินไม่ได้เลย และเหี่ยวยานตามกาลเวลา เลือกคนที่ดูมีอนาคตเอาไว้คะ ได้เจ้าของกิจการยิ่งดี และถ้าเจอคนที่กำลังตั้งต้นแล้วเราดูทิศทางลักษณะการทำงาน และโครงการเขา ถ้าดูมีอนาคต ไม่เจ้าชู้ เป็นคนดี ยิ่งดีคะ เพราะเขาจะไม่ทอดทิ้งเรา และเมื่อเขารวยจะมีสาวๆมารุมเขาก็จะไม่สนใจ (ส่วนใหญ่) ของเราโชคดีหน่อย คนที่ได้มาหน้าตาดีด้วย น่ารักๆ อย่าไปเลือกคนไม่มีอนาคตคะ ประเภทนี้ลาขาดได้เลย เพราะบั้นปลายชีวิตเราจะลำบากมาย้อนเสียใจว่าทำไมต้องเลือกไอนี่มาเป็นแฟน
ขอแบ่งปันเท่านี้นะคะ
ขอแชร์และแบ่งปันประสบการณ์วิธีเลือกแฟนหนุ่มมาเป็นสามีที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากๆคะสาวๆต้องอ่านเลยคะ ไม่อ่านจะเสียใจ
กลุ่มคนโลกสวย , กลุ่มคนยังไม่มีประสบการณ์มีแฟน แล้วโลกสวย , กลุ่มคนที่พึ่งมีแฟนและกำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น , กลุ่มผู้ชายที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวและยังไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้ ,
กลุ่มผู้ชายที่หลงตัวเอง , กลุ่มสาวๆที่หลงตัวเอง , กลุ่มผู้ชายที่ลุ่มหลงกับอะไรสักอย่างและไม่สามารถจะปรับตัวเป็นสามีที่ดีได้
และจะเหมาะที่สุดสำหรับสาวที่มีตัวเลือกเข้ามาเยอะ
ขอเกริ่นเลยนะคะ ว่าเราเองคือไม่รู้ว่าแรดหรือเปล่า แต่มีประสบการณ์ผู้ชายมาเยอะ ว่าง่ายๆคือก็ไม่อยากจะชมตัวเองนะคะ แต่ตัวเองค่อนข้างสวย (มีแต่คนชม 555) มีคนจีบมากมาย จึงกลายเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้ถูกเลือกคะ คบเป็นแฟนมามากมาย เจ็บมาก็มากมาย จนในที่สุดก็ได้ดีสักทีและคนปัจจุบันที่คบอยู่ก็คบมาเกิน 7 ปีแล้วคะไม่รวมช่วงเป็นแฟน แล้วก็แต่งงานแล้ว ชีวิตมีความสุขมากมาย ไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะโชคดีอะไรขนาดนี้ แม้จะผ่านฝันร้ายจนเอียนผู้ชายจนแทบอยากจะเป็นโสดตลอดชีวิตมาแล้ว
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลย เพราะอยากจะแบ่งปันให้กับคนที่กำลังเลือกแฟน และ คนที่จะแต่งงานด้วย ถ้าหากยังไม่แต่งเราก็ยังมีโอกาสเลือกได้อยู่นะคะสาวๆ จะบอกว่าผู้ชายที่ดีๆ แล้วโสด เหมาะเป็นสามี ยังมีอีกเยอะ แค่เราต้องใช้เวลาค้นหาเท่านั้นคะ ต้องยอมรับตัวเราเองก็แต่งงานตอนอายุค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ถ้าสาวๆได้อ่านกระทู้นี้ ถือว่าสาวๆโชคดีมากคะ เพราะชีวิตคู่ที่ดีจะเริ่มก่อนเราเสียอีก
ที่จริงเราคบมาหลายคนมาก แต่บางคนก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคะ จะเลือกมาเล่าบางคนนะคะ
เริ่มที่ คนแรกก่อนเลยคะ คนนี้จำได้ดีเลยคะ เพราะคบตอนสมัยเรียน ม.ปลาย อย่างที่บอกว่าตัวเองเป็นดาวคะ ก็ต้องคู่กับเดือนชิมิ 555 นั่นละคะ เราเองก็ได้คว้าเดือนเด่นหนุ่มหล่อประจำรุ่นมาเลยคะ บ้านค่อนข้างรวยสำหรับหนุ่มคนนี้ แรกๆ ทุกอย่างดีหมด เป็นคู่ที่ใครต่อใครอิจฉาเลยทีเดียว แต่ก็ต้องจบลงเนื่องจากความหล่อ perfect รวย เป็นต้นเหตุที่สาวๆเข้ามาตลอดเวลา เราก็ไม่ไหวคะ ต้องมาคอยระแวง ระวังตลอดเวลา คือสาวๆก็พร้อมจะแข่งขันกันมาก เนื่องจาก ทั้ง หล่อ หุ่นดี เป็นนักบาสโรงเรียน แต่สุดท้ายที่รับไม่ได้คือ เราจับได้ว่ามีกิ๊กคะ ไม่ใช่ครั้งเดียว หลายครั้งด้วย และก็ชอบบังคับเราทำโน่น นี่ หลังจากที่จีบเราติดแล้ว ก็หนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย เราทนไม่ไหวก็เลิกไป
คนที่ 2 เราก็คบตอนม.ปลายอีกเช่นกันคะ เราก็ยังคงเลือกคนหล่อเช่นเคย ก็ได้หนุ่มหล่อหน้าใหม่เข้ามาในชีวิตอีกคน คนนี้ไม่เจ้าชู้ด้วยคะ เพราะไปกับเราตลอดเลย ไม่เคยเห็นกิ๊กกับใคร แต่มันติดที่บ้านเขาไม่ค่อยมีเงินตอนเข้ามาจีบใหม่ๆ พาเราไปเลี้ยงโน่น นั่น นี่ พอเป็นแฟนสักพักออกอาการ ให้เราออกให้บ้าง ยืมเงินเราบ้าง ไม่ค่อยจะเลี้ยงอ้างว่าไม่มีตัง เรียนกลางๆ ไม่ค่อยขยันคะ คนนี้คบจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้เลิกลาด้วยนิสัยที่แบบงกมาก เข้าใจว่าไม่มีเงินแต่ยังมาเบียดเบียนเราอีก และไม่คิดที่จะกระตืนรือร้นให้ชีวิตดีขึ้น เข้ามหาวิทยาลัยก็แน่นอนคะ
คนละมหาวิทยาลัยด้วยความที่เขาเรียนไม่เก่ง ส่วนเราก็เข้ามหาวิทยาลัยรัฐคะ คือเราคิดถึงอนาคตไว้ก่อนอะคะ พอเดาได้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้แค่หน้าตาหล่อ พออายุมากขึ้นความหล่อก็กินไม่ได้แล้วคะ และทนไม่ไหวในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่เรื่องงก เรื่องเงินเนี่ยละคะ ก็เป็นอันจบไปสำหรับคนนี้ เข้าใจนะคะว่าเขาไม่ใช่คนเลว แค่ไม่มีเงิน คือถ้าหากไม่มียิ่งต้องกระตือรือร้น ยิ่งถ้ารักเราจริง ก็ต้องอยากให้เราสบายสิ พูดตรงๆ เราไม่ยอมกัดก้อนเกลือกินคะ มันไม่ใช่ยุคโบราณ หรือหนังน้ำเน่า และที่สำคัญเรายังเลือกได้อยู่ เขามักจะมีคนมาจีบเรื่อยๆอยู่แล้วคะ เพราะหน้าตาเขาหล่อคะ
แต่จากที่เราได้เล่าไปแล้ว เราก็ขอบายเลยคะ
คนที่ 3 ตอนนั้นก็ยังคงปลงคนหล่อ แต่ก็ยังหาอยู่ แต่สุดท้ายมีคนนึงเข้ามาจีบ หน้าตาไม่ค่อยดี บ้านก็ไม่มีมีเงินมาก ก็ฐานะธรรมดาคนระดับกลางคะ แต่เรียนเก่งมาก ไม่เจ้าชู้ คือคนนี้ตามจีบเราอยู่นานมาก เพราะเราไม่โอกับหน้าตา แต่ว่าเขาช่วยเราทำรายงาน และเป็นที่รักของเพื่อนๆ เพราะเขามักจะชอบทำอะไรให้เพื่อนๆฟรีไปหมด และเราด้วย เนื่องจากความสามารถเขานั้นหลากหลาย
เขาเรียนคนละคณะกับเรานะคะ เขาอยู่วิศวะ คอม คะ จึงทำคอมเก่งมาก ช่วยเราได้เยอะ เราจึงใจอ่อน และเป็นครั้งแรกที่เรามาคบกับคนหน้าตาที่ไม่ดีซะเลย ไม่ใช่สเปก คบกันจนจบ จนทำงาน เขาไม่มีเงินนะ จึงไม่ค่อยมีของอะไรมาSurprise สักเท่าไร
แต่เขาก็ไม่ได้ให้เราเลี้ยงหรือขอเงินนะคะ ก็ยังช่วยงานเราอยู่ ถ้าเราขอให้ช่วยอะไรด้านคอม เขาก็จะช่วยเสมอ จะบอกว่าคนนี้เราคบนานที่สุดก่อนที่จะแต่งงานคะ
แต่พอเราทำงาน อยู่วัยทำงาน สังคม และ โลกก็เปลี่ยนไป เงินกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเราคิดถึงอนาคตเราเอง และลูกในอนาคต เราก็บอกให้เขาออกมาทำกิจการ โดยในเมื่อเขาจบวิศวะ คอม ก็ออกมาทำเกี่ยวกับคอม เพราะเงินเดือนมันค่อนข้างน้อย และ เราอยากได้ชีวิตที่ดี เที่ยวต่างประเทศปีะล 2-3 หน มีบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านสังคมดีๆ เขาก็เชื่อฟังดีคะ เขาก็ลาออกมาเปิดบริษัทเขียนsoftware และขายอุปกรณ์คอม และทำพวก SEO คะ เราก็โอเคนะ แม้รายได้จะน้อยกว่าตอนที่ทำบริษัทอีก เพราะหาลูกค้ายาก 555
แต่เขาบอกว่า เดี๋ยวจะหาลูกค้าให้มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น เราก็รอคะ รอมา 2 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้า เขาบอกทำงานหนัก แต่เราเห็นเกือบทุกเสาร์ อาทิตย์นี่อย่างว่าง ไปเที่ยวกับเพื่อนๆประจำ เราเองก็ไม่อยากชวนเขาไปเที่ยวมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นช่วงตั้งตัว อยากให้มุ่งไปที่ธุรกิจที่เขาพึ่งเริ่มทำ
แต่เพื่อนเขานี่สิจะชวนเที่ยวทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์มาค้างด้วย จึงทำให้เวลาทำงานเหลือแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมันก็ไม่พออยู่แล้ว เพราะไม่สามารถหาลูกค้าเพิ่มได้ เนื่องจากงานที่ทำอยู่ก็แทบจะทำไม่ทัน เราเห็นจากเพื่อนๆที่ทำเขากิจการ เขาแทบไม่มีวันหยุด เพราะมันเป็นช่วงเริ่มต้น เราเอามาเทียบกับแฟนเรา เราเองก็เคยคุยกับเขา ปรากฏว่าเขาก็บอกว่า มันเหนื่อยเกินไปถ้าจะทำอะไรทุกวัน ให้รอวันเวลา เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
แต่คือนี่ 2 ปีแล้วยังไม่มีอะไร เราก็ให้โอกาสคะ ทนมาจนปีที่ 3 เราบอกเลิกเลยคะ เขาก็สัญญาว่าจะทำงานหนัก แต่ท้ายสุดเหมือนเดิมคะ เพื่อนเขาเยอะ มาชวนเที่ยวตลอด แล้วเขาก็ไป เพราะเขาติดเที่ยว ติดสังสรรค์ เราเลยคิดว่าผู้ชายคนนี้ความคิดเด็กเกินที่จะบริหารธุรกิจได้ และเราเองก็ไม่ใช่ว่าเลือกผู้ชายไม่ได้ ชีวิตตอนนั้นเราเองไม่มีอะไรเลย กินข้าวก็ต้องประหยัด จะซื้อของก็ต้องคิดอย่างดี นานๆทีจะได้กินดีๆทีนึง
เที่ยวต่างประเทศก็ต้องรอโปรสุดๆ โรงแรมก็ต้องเลือกถูกๆ เลือกแล้วเลือกอีก คือประมาณว่า ชีวิตเราทำไมต้องมาลำบากตามเขาไปด้วย แล้วถ้าแต่งงานมีลูก เขาจะเป็นพ่อของลูก เป็นผู้นำที่ดีได้มั้ย จะส่งเสียลูกเรียนดีๆได้มั้ย เลี้ยงดูพ่อ แม่เราได้มั้ย แล้วถ้าครอบครัวเรา หรือเราเอง หรือเขา ป่วย ไม่มีเงินรักษาดีๆจะทำอย่างไร คือผู้ชายในความคิดเราต้องเป็นผู้นำคะ เดี๋ยวต้องมีคนบอกว่าทำไมเราไม่ช่วยทำมาหากิน ก็เราเลือกได้หนิคะ แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ใช่ไม่ช่วยเลย เราก็ทำงานของเรา บางทีก็มาช่วยเหมือนเป็นเลขา 555
บางทีอุกรณ์คอมที่เขาเอามาขาย เราก็ช่วยคุยกับผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง บางทีค่าเงินลง เขาก็จัดซื้อไม่ทันการกำไรหด เขาเล่นหุ้นด้วยนะคะ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนไม่สนใจข่าวสาร บ้านเมือง ก็ตัวแดงเต็มport เลยคะ
และกิจการเขาไม่มีแนวโน้มโตขึ้นเลย มีแต่ลมปากว่าเดี๋ยวก็ดีๆ เรารอไม่ได้แล้วคะ ก่อนความสวยของเราจะหมด ก็เลิกลาไป หาใหม่คะ
คนที่ 4 อันที่จริงระหว่างคนที่ 3 ก็มีหนุ่มหน้าตาหล่อ สเปกเลย ฐานะกลางๆ เข้ามาจีบ แต่เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว จนเขารู้ว่าเราเลิกแล้ว เขาก็เข้ามา เราก็โอเคเลยลองคบดูเพราะหน้าตาหล่อคะ หุ่นดี ทำงานเงินเดือนคะ เป็นพนักงานบริษัทการเงินใหญ่แห่งหนึ่ง คบไปคบมา ปรากฏว่า เราเองก็ยังไม่ได้สนองความต้องการของตัวเองอยู่ดี คือ ประหยัด อยากไปเที่ยว กินดีๆ ก็ไม่ได้ไป แฟนไม่มีเวลา ต้องรอวันหยุด และก็ยังต้องไปเที่ยวแบบประหยัดอยู่ดี ไม่ต้องถามว่าไปยุโรป กับอเมริกาหรือยัง ไม่ได้คะ เพราะถ้าไปดีๆมันแพงมาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของกิจการรุ่งๆ ก็คงไปยาก เราคิดไปคิดมา คนนี้ไม่มีอะไรผิดคะ แต่เราแค่ถามตัวเองว่าเราน่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ได้ เราจึงให้เขาพยายามทำกิจการเอง เขาไม่ยอม เขาบอกว่าเสี่ยง วั้นก็เป็นอันจบกัน คือคนที่อ่านต้องบอกว่าเราหน้าเงินมาก จะว่างั้นก็ช่าย เพราะสิ่งที่เราต้องการ ความมั่นคงในชีวิตมันต้องใช้เงินทั้งสิ้น เราไปรักษาหมอดีๆ เขายังคิดเงินเราเลยถูกมั้ย อย่างที่บอกไม่เหมาะกับพวกกลุ่มดังที่กล่าวไปแล้ว และเราก็รู้สึกว่าเราน่าจะหาได้ดีกว่านี้คะ
ปล. เราไม่เคยผ่านมาประเภทเดียว คือ หล่อ หุ่นดี perfect และรวย ในช่วงชีวิตวัยทำงาน เพราะเราเท่าที่เห็นส่วนมากเจ้าชู้ และยังไม่เจอดีๆจริงๆเข้ามาจีบ มีแต่พ่อเสือหนุ่มมาทั้งนั้นเลย ประมาณลูกคนมีเงิน แต่เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ เลยคบแบบผ่านๆ ยังไม่นับเป็นแฟนเพราะหนีก่อน ไม่ได้ว่าทุกคนนะคะ แต่ว่า หล่อ หุ่นดี รวย และดีๆ ไม่เจ้าชู้นั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในแม่น้ำ 555
คนที่ 5 คนนี้เป็นคนสุดท้ายจนถึงปัจจุบันคะ คือหน้าตาจัดว่าดี แต่หุ่นไม่ค่อยดีเท่าไร (เตี้ยมาก 555) แต่เราเอาที่หน้าตาก็เลยโอเค 555 คือบ้านเขาไม่ได้รวยนะคะ แต่ออกมาทำกิจการเองทำคล้ายๆกับคนที่ 3 แต่ว่าเขาทุ่มเทกับงานมาก และก็แทบไม่มีเวลาพาเราไปเที่ยวซึ่งเราก็เข้าใจ เราคบกับเขาตั้งแต่เขาทำงานที่บ้าน ไม่มีพนักงานเลยสักคน นิสัยเขาเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้คะ ออกต๊องนิดหน่อย ซึ่งเราก็ชอบ หน้าตาก็น่ารักๆ ขนาดตัวพกพาสะดวก 555 วกมาที่งานเขาคะ บริษัทเขาเติบโตแทบจะทุก 4-6 เดือนเลย ภายใน 1 ปีเริ่มมีพนักกงาน เราก็เห็นแววละ และอดทนคะ ประหยัดเหมือนเคย ของขวัญดีๆแทบไม่ต้องคิดจะได้ เขาส่วนใหญ่ให้เวลากับงานมากกว่าเรา แต่เราเข้าใจ เขาขอเวลาเราพิสูจน์ตัวเอง 3 ปีคะ เราเองก็คิดว่านานไป แต่ก็ทนมาเรื่อยๆคะ เพราะความเติบโตของเขา ปีที่ 2 เขามีออฟฟิตอย่างจริงจัง พนักงานมีเกิน 10 คนรายได้ หลักแสนต้นๆ ต่อเดือน เริ่มมีของขวัญให้เรา พาเราไปกินดีๆ จริงๆนะ เราคิดตั้งแต่ตอนนั้นละว่าคนนี้แหละ เหมาะเป็นสามีของเราที่สุด จนมาปีที่ 3 เขาสำเร็จมากคะรายได้ครึ่งล้าน-ล้านต่อเดือน ชีวิตเราดีมากคะ จุดนั้นนี้ผู้ญ เข้ามาตรึมมาจีบหนักยิ่งกว่าคนหล่อ perfect ซะอีกคะ เราก็ตอนนั้นคิดว่าเขารวยแล้วจะทิ้งเรามั้ย ต้องหาใหม่อีกแล้วมั้งเรา == แต่แม้สาวจะเข้ามาเยอะเท่าไร เขาไม่สนใจเลย และบอกก่อนเราตอนขอแต่งงานว่า “เราเป็นคนที่เข้ามาตอนเขาไม่มีอะไร และทนกับเขามาถึง 3 ปี เขาไม่ทิ้งเราและจะดูแลเราและครอบครัวประดุจดังเจ้าหญิง “ เรานี่น้ำตาตกในอย่างแรง คือแบบว่าไม่ตอบตกลงเราก็โง่เกินแกงละ แล้วเขาก็ทำอย่างว่าจริงๆคะ เขาดูแลเราดีมาก และบริษัทเขาอยู่ตัวแล้ว มีเวลาพาเราเที่ยว ตปท ตลอด กระเป๋าแบรนเนม ไม่ต้องพูดถึงอยากได้ย่ห้อ Hermes เขายังจัดมาให้เลย ตอนนี้มีความสุขมาหลายปีมากคะ ตอนนี้มีลูก 2 คน เรียนนานาชาติคู่คะ
สรุปนะคะ กว่าจะได้ อย่างที่บอกมาว่า เราผ่านมาเยอะมากกว่าจะได้คนสุดท้าย เราอยากจะแนะนำว่า อย่าไปสนรูปร่างหน้าตามากคะ เชื่อเรา เพราะสิ่งพวกนี้กินไม่ได้เลย และเหี่ยวยานตามกาลเวลา เลือกคนที่ดูมีอนาคตเอาไว้คะ ได้เจ้าของกิจการยิ่งดี และถ้าเจอคนที่กำลังตั้งต้นแล้วเราดูทิศทางลักษณะการทำงาน และโครงการเขา ถ้าดูมีอนาคต ไม่เจ้าชู้ เป็นคนดี ยิ่งดีคะ เพราะเขาจะไม่ทอดทิ้งเรา และเมื่อเขารวยจะมีสาวๆมารุมเขาก็จะไม่สนใจ (ส่วนใหญ่) ของเราโชคดีหน่อย คนที่ได้มาหน้าตาดีด้วย น่ารักๆ อย่าไปเลือกคนไม่มีอนาคตคะ ประเภทนี้ลาขาดได้เลย เพราะบั้นปลายชีวิตเราจะลำบากมาย้อนเสียใจว่าทำไมต้องเลือกไอนี่มาเป็นแฟน
ขอแบ่งปันเท่านี้นะคะ