อัดอั้นมานาน กับเรื่องทำบุญของคนในบริษัทมาก ทำไมจึงมีแนวความคิดได้ขนาดนั้น
ขณะที่ผมนั่งทำงาน ก็มีน้องจากแผนกบัญชี เอารายชื่อ พนักงานบริษัทมาให้เซ็น ซึ่งผมก็อ่านเป็นประมาณทำบุญจัดสร้างอุโบสถของวัด โดย บริษัทที่ผมทำ เป็นเจ้าภาพ
อ่านไปถึงรายชื่อ ประธาน รองประธาน อ้าวทำไมมีชื่อผมเป็นกรรมการ ทำไมเอาชื่อเรามาใส่เลยเนี่ยนะ ถามซักคำก็ไม่มี
อะไม่เป็นไร ก็เซ็นชื่อ พร้อมตัวเลขเงินบริจาคที่จะหักในเงินเดือนงวดหน้า น้องที่เอามาให้เซ็นก็บอก "แค่นี้เหรอ เป็นถึงกรรมการ ให้น้อยกว่าคนที่ไม่ได้เป็นกรรมการเลยนะคะ"
ผมก็คิดในใจ "อ้าว ผมไปสมัครเป็นกรรมการตอนไหนเนี่ย" แล้วอาจเพราะผมลงตัวเลขน้อยกว่าทุกครั้ง เนื่องจากต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะมีภาระเยอะขึ้นเลยบริจาคน้อยลง แต่ผมก็ไม่ได้ตอบน้องเค้า
หลายวันต่อมา ผมโดนนินทา ว่าเป็นตำแหน่งถึง....... ให้แค่นี้นะ ลูกน้องแกยังให้เยอะกว่าเลย เฮ้ย เอาจริงดิ นี่ผมผิดมากเลยเหรอเนี่ย
แล้วไม่ใช่เป็นแค่ครั้งสองตรั้ง แทบจะทุกครั้ง ที่ผมบริจาคน้อยกว่าที่คนในบริษัทคิดว่าควรจะเป็น ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ละ มันไม่ใช่การทำบุญแล้ว ครั้งถัดมาผมไม่บริจาคเลย เท่านั้นแหละ โดนเม้ากันสนุกปากเลย
ทั้งที่เวลาทำงาน ใตรเดือดร้อนขอยืมตังก้ให้ยืม ได้คืนบ้าง ไม่ได้คืนบ้าง ก็ไม่ติดใจอะไร แต่ไม่นึกเลยว่าคนเราจะมองเรื่องทำบุญที่ควรจะเป็นไปตามความสมัครใจ เป็นเรื่องที่ต้องรักษาหน้าตัวเอง ต้องทำเยอะให้เหมาะกับตำแหน่ง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ซึ่งค่านิยมนี้ไม่ได้เป็นแค่ในบริษัทผม ผมว่ามันชักจะลามไปเรื่อย ในหมู่บ้าน ผมก็โดนนินทาเวลาที่ผมใส่ซองน้อย แล้วการนินทาชักจะลามปามหนักข้อ ไปถึงลูกเมียด้วย ซึ่งผมโคตรเซ็งเลย
ก็เลยมาตั้งกระทู้ในพันทิพว่า เพื่อนๆพี่ๆ มีแนวคิดยังไงกับการทำบุญสมัยนี้ครับ
ทำบุญเดี๋ยวนี้มองกันอย่างนี้แล้วเหรอครับ
ขณะที่ผมนั่งทำงาน ก็มีน้องจากแผนกบัญชี เอารายชื่อ พนักงานบริษัทมาให้เซ็น ซึ่งผมก็อ่านเป็นประมาณทำบุญจัดสร้างอุโบสถของวัด โดย บริษัทที่ผมทำ เป็นเจ้าภาพ
อ่านไปถึงรายชื่อ ประธาน รองประธาน อ้าวทำไมมีชื่อผมเป็นกรรมการ ทำไมเอาชื่อเรามาใส่เลยเนี่ยนะ ถามซักคำก็ไม่มี
อะไม่เป็นไร ก็เซ็นชื่อ พร้อมตัวเลขเงินบริจาคที่จะหักในเงินเดือนงวดหน้า น้องที่เอามาให้เซ็นก็บอก "แค่นี้เหรอ เป็นถึงกรรมการ ให้น้อยกว่าคนที่ไม่ได้เป็นกรรมการเลยนะคะ"
ผมก็คิดในใจ "อ้าว ผมไปสมัครเป็นกรรมการตอนไหนเนี่ย" แล้วอาจเพราะผมลงตัวเลขน้อยกว่าทุกครั้ง เนื่องจากต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะมีภาระเยอะขึ้นเลยบริจาคน้อยลง แต่ผมก็ไม่ได้ตอบน้องเค้า
หลายวันต่อมา ผมโดนนินทา ว่าเป็นตำแหน่งถึง....... ให้แค่นี้นะ ลูกน้องแกยังให้เยอะกว่าเลย เฮ้ย เอาจริงดิ นี่ผมผิดมากเลยเหรอเนี่ย
แล้วไม่ใช่เป็นแค่ครั้งสองตรั้ง แทบจะทุกครั้ง ที่ผมบริจาคน้อยกว่าที่คนในบริษัทคิดว่าควรจะเป็น ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ละ มันไม่ใช่การทำบุญแล้ว ครั้งถัดมาผมไม่บริจาคเลย เท่านั้นแหละ โดนเม้ากันสนุกปากเลย
ทั้งที่เวลาทำงาน ใตรเดือดร้อนขอยืมตังก้ให้ยืม ได้คืนบ้าง ไม่ได้คืนบ้าง ก็ไม่ติดใจอะไร แต่ไม่นึกเลยว่าคนเราจะมองเรื่องทำบุญที่ควรจะเป็นไปตามความสมัครใจ เป็นเรื่องที่ต้องรักษาหน้าตัวเอง ต้องทำเยอะให้เหมาะกับตำแหน่ง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ซึ่งค่านิยมนี้ไม่ได้เป็นแค่ในบริษัทผม ผมว่ามันชักจะลามไปเรื่อย ในหมู่บ้าน ผมก็โดนนินทาเวลาที่ผมใส่ซองน้อย แล้วการนินทาชักจะลามปามหนักข้อ ไปถึงลูกเมียด้วย ซึ่งผมโคตรเซ็งเลย
ก็เลยมาตั้งกระทู้ในพันทิพว่า เพื่อนๆพี่ๆ มีแนวคิดยังไงกับการทำบุญสมัยนี้ครับ