เพราะความชุ่ยของ พนง.ส่งไปรษณีย์ บวกกับความละโมภของ พนง.Big C. เกือบทำให้เราเสียเครดิตกับลูกค้า

เรื่องของเรื่อง เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา  เราได้ไปส่งหินสีให้ลูกค้า  โดยส่งแบบ จดหมายลงทะเบียน ปลายทางคือ สบตุ๋ย  จ.ลำปาง  
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร

จนเมื่อ 3 วันก่อน  ลูกค้าได้ inbox ในเฟสมาถามเราว่า ทำไมเค้าถึงยังไม่ได้ของเลย  เราตกใจนะ  เพราะมันล่วงเลยมาเกือบ 10วันแล้ว  ของควรจะถึงมือลูกค้านานแล้ว กลัวน้องจะสงสัยว่าเราไม่ซื่อรึเปล่า
วันต่อมาเรารีบไปรอไปรษณีย์เปิดแต่เช้า แล้วขอให้เขาเช็คสถานะให้ ตกลงว่า ของมีคนรับแล้วตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. เป็นพนักงาน  

อ้าววววว.....แล้วของมันไปไหนล่ะ





หลังจากเราส่งข้อมูลให้ลูกค้าเรียบร้อย  ทางนั้นได้มีการไปทวงถามไปรษณีย์  ว่าไปส่งที่ไหนกันแน่  เพราะที่ บ.ลูกค้า ไม่มีพนักงานชื่อนี้  ได้รับคำอธิบายว่า ไปส่งที่ห้าง Big C.ซึ่งมีเลขที่อยู่ใกล้เคียงกัน

ของลูกค้าคือ 65/1  ของ Big C.คือ 65  ที่แย่คือ จากคำอธิบาย นอกจากไม่ขอโทษที่ทำหน้าที่บกพร่อง เลินเล่อจนเกิดความเสียหายต่อผู้ใช้บริการแล้ว  พนง.ไปรษณีย์คนนั้น ยังกล่าวโทษลูกค้าว่า เป็นเพราะไม้ให้ชื่อบริษัทเราจ่ายหน้าซองมา  ไม่งั้นเขาก็ส่งไม่พลาดแล้ว..........อ้าว  เริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงซะแล้ว

ครั้งแรกที่ส่ง ก็ใช้เพียงเลขที่อยู่เท่านั้น  มันก็ยังไม่มีปัญหาอะไร   เราเพิ่งรู้ว่า การใส่เลขที่ ที่อยู่ แต่ไม่ใส่ชื่อบริษัทคือความบกพร่องของผู้ใช้บริการก็คราวนี้แหละ
แบบนี้ ถ้าเราจะส่ง จม.ถึงบริษัทไหนๆ  หรือใครๆที่น่าจะเป็นที่รู้จักเราจ่าหน้าซองแค่ชื่อ/ชื่อบริษัท ตำแหน่ง แล้วก้อ อำเภอ จังหวัดก็พอมั๊ง  ถ้าเลขที่มันไม่ใช่ตัวบ่งบอกสถานที่จุดหมายปลายทาง

.......คราวนี้  มาถึงคิว พนง.ผู้แสนละโมบบ้าง   หลังจากที่ลูกค้าไปตามหาของที่ Big c. หนแรกได้รับการปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นกับของชิ้นนี้  พอคาดคั้นหนักๆ บอกว่ามีหลักฐานที่เซ็นเอาไว้ชัดเจน  ถึงได้มีการยอมรับ  แต่ก็ยังคงบอกว่าแค่รับเฉยๆแล้วใส่กล่องสำหรับเอกสารของพนง. ไม่รู้ไม่เห็นว่าใครเอาไป

จนเริ่มพูดคุยในระดับที่จะเอาเรื่องเอาราว  หัวหน้าพนง.ถึงยอมรับปากว่าจะเปิดวงจรปิดดูให้.....เรื่องนี้จะไม่แย่ขนาดนี้  ถ้า พนง.คนที่เอาของไป จะรู้สึกละอายสักนิดว่า ของที่เค้าจะหยิบไป  ไม่ใช่ของๆตัวเอง ซึ่งแน่นอน เขา หรือเธอ คนนั้นย่อมรู้แก่ใจ  แค่ชื่อก็ไม่ใช่แล้ว  ที่อยู่ยิ่งไม่ใช่ใหญ่

สำหรับ พนง.ไปรษณีย์  นี่ถือว่าเป็นความชุ่ย ความพลาดที่ไม่สมควรพลาด  เนื่องจากเราจ่าหน้าซอง ตัวใหญ่ เขียนชัดเจน ไม่ได้โย้เย้ต้องเพ่งสายตาอะไร
สิ่งที่น่ารังเกียจ และทำให้รู้สึกแย่มากที่สุด  คือแทนที่จะขอโทษในความผิดพลาดของตัวเอง  กลับโทษผู้ใช้บริการ ที่ไม่ใส่ชื่อบริษัท  ทั้งๆที่มันไม่ใช่บริบทสำคัญ  แค่ส่งให้ถูกตามเลขที่บ้าน ที่จ่าหน้าเอาไว้ก็หมดปัญหาแล้ว


เรื่องนี้ ยังดีที่ เราได้เก็บเอกสารการส่งไปรษณีย์เอาไว้  โชคดีที่เราส่งแบบลงทะเบียน สามารถเช็คสถานะได้ ว่ามีการส่งแล้วจริง

ถ้าหากเราส่งแบบธรรมดา  หรือว่าลืมเก็บหมายเลขไว้ เนื่องจากคิดว่า ลูกค้าได้รับของเเล้ว  คนที่เน่าที่สุดคือเราแน่ๆ  ใครจะรับประกันให้ได้ว่า เราส่งสินค้าไปแล้วจริงๆ  ถามใคร ทุกคนล้วนโบ้ยว่าไม่รู้ไม่เห็นทั้งนั้น.....

สุดท้าย ไม่รู้ว่าจะสรุปจบแบบไหน  จะได้ของคืนหรือเปล่า  เราเองก็รอข่าวอยู่  กำไลหินอาจราคาไม่สูงมากมายนัก  แต่มันเป็นของที่เราตั้งใจทำ ลูกค้าตั้งใจรอ  ไม่ควรจะต้องมาสะดุดเพราะความชุ่ย และความละโมบของคนแค่สองคนนั่น  

เราอาจจะทำเส้นใหม่ที่ราคาไม่สูงส่งไปปลอบใจน้องเค้า   แต่เราจะแน่ใจได้ยังไง  ว่าคราวนี้เหตุการนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก  เพราะที่อยู่ก็ยังคงเป็นที่เดิม ?

..........................นี่แน่ใจนะ ว่าปรับปรุงแล้วเรื่องบริการ  หือ....ไปรษณีย์ไทย    แล้ว Big C. คุณมีหัวหน้าที่คอยปกป้องลูกน้องที่ทุจริต ขี้ลัก ขี้ฉ้อไว้ที่ทำงาน  แน่ใจนะว่า  สิ่งที่ถูกขโมยไป จะมีแค่กำไลหินนี่เพียงอย่างเดียว  สินค้าหรืออะไรที่จะพอเบียดบังได้ แน่ใจหรือว่าจะไม่โดนทุจริต ลักลอบเอาไปหลายอย่างแล้ว

ขอบคุณพื้นที่ พันทิปค่ะ  ที่ให้เราได้ระบายออกบ้าง  อัดอั้นตันใจจริงๆ  อยู่ดีๆเกือบได้เป็นแม่ค้าขี้โกงซะแล้ว  เฮ้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่