“เราไม่ได้วัดประสิทธิภาพของคนจากขนาดของสมอง แต่เราวัดกันด้วยขนาดของความคิด”
จากหนังสือ “คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก”
สวัสดีครับออกตัวล้อฟรีเลยว่า ผมไม่เคยเขียนกระทู้ หรือ บทความที่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย แต่ก็ดูบอล ชื่นชอบฟุตบอลตลอด แน่นอนคนับเด็กหงส์ไร้เดียงสาผู้ตั้งหน้าตั้งตารอแชมป์ลีก ชาตินี้จะมาไหม๊หรือจะให้ชาติหน้า ก็ไม่เป็นไรครับ ความสำเร็จเป็นสิ่งเสพติด เมื่อได้แล้วอยากได้อีก เอาอีก เอามา ๆๆ จะลงแดงสิ้นชีพก็ให้มันรู้ไป
การกลับมาที่ช้าไปของหงส์แดง อาจไม่มีค่าในแง่ของแชมป์ลีก คงต้องรอกันต่อไป ในฤดูกาลหน้าครับ แต่อย่างน้อยคงเป็นสีสันในช่วงท้ายๆกันพื้นที่ยุโรปยิ่งต้องแข่งขันกับทีมอริ ตลอดกาลแล้ว ยิ่งทำให้ทวีรสชาติ อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เดอะค๊อปหลายคนรวมทั้งผม คงฝันหวานว่าจะพิชิต ยัดเยียดความปราชัยให้สาวกผี ในแดงเดือดครั้งหน้า และ บรรจงจูบด้วยตาปลาของรองเท้าที่เรียกว่า ปุ่มสตั๊ด เข้าที่หน้าผากอันสวยงามของอสูรแดง ให้ลงไปอยู่อันดับที่ต่ำกว่าในนัดนั้นให้ได้ แต่ว่าทุกอย่างมีความไม่แน่นอนของมันเสมอ (ผมคงไม่ท้าจะแก้ผ้าถ้าแพ้ผีหรอก ไม่กล้า แต่มั่นใจ)
กลับมาเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนกระทู้บอลครั้งแรก คือ กัปตันคนใหม่อย่าง เฮนโด้ จอร์แดน แฮนเดอร์สัน จากเกมส์เมื่อวาน (ชนะเบิร์นลี 2-0) ผมไม่ได้ดูเกมส์นะครับ ดูไฮไลต์แล้วมามโนเขียนอวยกันว่างั้นเถอะ ผมรู้สึกว่า ผมเห็นความกระหาย ที่แอบซ่อนอยู่มานานจากเด็กผมเนี๊ยบคนนี้ คนๆนึงที่อยู่ภายใต้ กัปตันตำนานอย่าง เจอร์จาร์ด ความสมบูรณ์แบบของกัปตันที่คอยกดดัน จอร์แดน อยู่และยังส่งต่อภาระอันยิ่งใหญ่ ที่เจิดทำไว้ตลอดชีวิต ผ่านต่อมาให้ บัคหรรม เฮนโด้ แน่นอน แค่ความขยันที่เค้ามี มันไม่พอ !!!!
จอร์แดน วันนี้แสดงให้เห็นถึงความกระหายที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง จุดอ่อนที่โดนเหยียดหยามมาตลอดชีวิต คือการทำประตู!!!!!
จริงเหรอ ……
ย้อนกลับไปเมื่อสัก 3-4 ปี ตอนที่เจ้าผมเนี๊ยบย้ายมาจากทีมตะวันแดง ประสบการณ์ของผมเนี๊ยบเจิดจรัสในฐานะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ถูก ดัลกลิช ซื้อมาด้วยค่าตัวมหาศาล กับคำถามที่ว่า เอามาทำไม
แน่นอนด้วยแผนการเล่น ตัวผู้เล่น และปัจจัยล้านแปดแสนข้อ ทำให้เฮนโด้ และพลพรรค ดัลกลิชบอย ทำผลงานให้สาวก ทั้งเดอะคอปและ ทีมอื่นเห็นแล้วน้ำลายไหล (เสียงดัง “ถุ๊ย”) ต้องแตกกระจายขายไปอย่างกับขี้ มันยิ่งเจ็บปวดใจเพิ่มขึ้นเมื่อก้อนเงินที่ใช้ซื้อมาจากการขายเจ้าชายของทีมอย่างตอเรสด้วยแล้ว มันคือตัวแทนของหายนะอย่างหลีกเลี่ยงเสียไม่ได้
BR มาถึงลิเวอร์พูล พร้อมกระดาษเช็ดตูดและชักโครก กระทำชำเรา ดัลกลิชบอย ด้วยการขายทอดตลาด เลหลัง ลดแลก แจก แถม ทุกวิธีการที่จะกำจัดกากเดนออกไป แต่ขี้ก้อนสุดท้าย ที่ไม่ไปไหน “จอร์แดน”
ผ่านเรื่องราวอันน่าเศร้าที่ทุกคนคงทราบดี ใช้ความมานะ พยายามอย่างสุดยอด กับการพิสูจน์ตัวเอง ผมคงไม่เล่าซ้ำว่าเค้าทำอะไรมาบ้าง ตลอดฤดูกาลที่แล้ว ชายผู้เป็นแผ่นทองคำเปลวอันบอบบางติดแปะอยู่หลังองค์ปฏิมาที่สวยงาม แม้จะมีฟอร์มที่ดีแต่ก็ยังอยู่ใต้ชายคา
ตำนานอย่าง เจิด และ สมบัติอันล้ำค่าอย่าง ซัวเรส ดาวรุ่งอนาคตไกลอย่าง สเตอร์ริ่ง หรือแม้แต่ พ่อมด คูตินโย่ เฮนเดอร์สัน ถูกกล่าวถึงเพียงแค่เบี้ยตัวที่เติมเต็มระบบเท่านั้น ยิ่งคนดูบอลผ่านๆอย่างผมด้วยแล้ว
การขาดไปของเฮนเดอร์สันในบางนัดไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเลยเมื่อเทียบกับการขาดไปของ ซัวเรส เจิด หรือ สเตอร์ริง “เฮนเดอร์สัน เหรอ ไม่ลงก็ได้ โจอัลเลนก็ยังอยู่นิ ลูคัสก็ได้ไม่ต่างกัน” นี่คือเสียงสะท้อนออกมา การจบอันดับที่สอง ปีที่แล้วไม่ได้คิดอะไรเลยมัวแต่ดีใจกับผลงานที่สุดยอด โดยลืมไปเลยว่า ช่วงท้ายฤดูกาล เราขาดใครไป
จากเบื้องหลังสู่เบื้องหน้า จาก คนไร้ค่าสู่ “กัปตัน”(อวยครับอวยกันเห็นๆ)
จากหนังสือ “คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก”
สวัสดีครับออกตัวล้อฟรีเลยว่า ผมไม่เคยเขียนกระทู้ หรือ บทความที่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย แต่ก็ดูบอล ชื่นชอบฟุตบอลตลอด แน่นอนคนับเด็กหงส์ไร้เดียงสาผู้ตั้งหน้าตั้งตารอแชมป์ลีก ชาตินี้จะมาไหม๊หรือจะให้ชาติหน้า ก็ไม่เป็นไรครับ ความสำเร็จเป็นสิ่งเสพติด เมื่อได้แล้วอยากได้อีก เอาอีก เอามา ๆๆ จะลงแดงสิ้นชีพก็ให้มันรู้ไป
การกลับมาที่ช้าไปของหงส์แดง อาจไม่มีค่าในแง่ของแชมป์ลีก คงต้องรอกันต่อไป ในฤดูกาลหน้าครับ แต่อย่างน้อยคงเป็นสีสันในช่วงท้ายๆกันพื้นที่ยุโรปยิ่งต้องแข่งขันกับทีมอริ ตลอดกาลแล้ว ยิ่งทำให้ทวีรสชาติ อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เดอะค๊อปหลายคนรวมทั้งผม คงฝันหวานว่าจะพิชิต ยัดเยียดความปราชัยให้สาวกผี ในแดงเดือดครั้งหน้า และ บรรจงจูบด้วยตาปลาของรองเท้าที่เรียกว่า ปุ่มสตั๊ด เข้าที่หน้าผากอันสวยงามของอสูรแดง ให้ลงไปอยู่อันดับที่ต่ำกว่าในนัดนั้นให้ได้ แต่ว่าทุกอย่างมีความไม่แน่นอนของมันเสมอ (ผมคงไม่ท้าจะแก้ผ้าถ้าแพ้ผีหรอก ไม่กล้า แต่มั่นใจ)
กลับมาเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนกระทู้บอลครั้งแรก คือ กัปตันคนใหม่อย่าง เฮนโด้ จอร์แดน แฮนเดอร์สัน จากเกมส์เมื่อวาน (ชนะเบิร์นลี 2-0) ผมไม่ได้ดูเกมส์นะครับ ดูไฮไลต์แล้วมามโนเขียนอวยกันว่างั้นเถอะ ผมรู้สึกว่า ผมเห็นความกระหาย ที่แอบซ่อนอยู่มานานจากเด็กผมเนี๊ยบคนนี้ คนๆนึงที่อยู่ภายใต้ กัปตันตำนานอย่าง เจอร์จาร์ด ความสมบูรณ์แบบของกัปตันที่คอยกดดัน จอร์แดน อยู่และยังส่งต่อภาระอันยิ่งใหญ่ ที่เจิดทำไว้ตลอดชีวิต ผ่านต่อมาให้ บัคหรรม เฮนโด้ แน่นอน แค่ความขยันที่เค้ามี มันไม่พอ !!!!
จอร์แดน วันนี้แสดงให้เห็นถึงความกระหายที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง จุดอ่อนที่โดนเหยียดหยามมาตลอดชีวิต คือการทำประตู!!!!!
จริงเหรอ ……
ย้อนกลับไปเมื่อสัก 3-4 ปี ตอนที่เจ้าผมเนี๊ยบย้ายมาจากทีมตะวันแดง ประสบการณ์ของผมเนี๊ยบเจิดจรัสในฐานะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ถูก ดัลกลิช ซื้อมาด้วยค่าตัวมหาศาล กับคำถามที่ว่า เอามาทำไม
แน่นอนด้วยแผนการเล่น ตัวผู้เล่น และปัจจัยล้านแปดแสนข้อ ทำให้เฮนโด้ และพลพรรค ดัลกลิชบอย ทำผลงานให้สาวก ทั้งเดอะคอปและ ทีมอื่นเห็นแล้วน้ำลายไหล (เสียงดัง “ถุ๊ย”) ต้องแตกกระจายขายไปอย่างกับขี้ มันยิ่งเจ็บปวดใจเพิ่มขึ้นเมื่อก้อนเงินที่ใช้ซื้อมาจากการขายเจ้าชายของทีมอย่างตอเรสด้วยแล้ว มันคือตัวแทนของหายนะอย่างหลีกเลี่ยงเสียไม่ได้
BR มาถึงลิเวอร์พูล พร้อมกระดาษเช็ดตูดและชักโครก กระทำชำเรา ดัลกลิชบอย ด้วยการขายทอดตลาด เลหลัง ลดแลก แจก แถม ทุกวิธีการที่จะกำจัดกากเดนออกไป แต่ขี้ก้อนสุดท้าย ที่ไม่ไปไหน “จอร์แดน”
ผ่านเรื่องราวอันน่าเศร้าที่ทุกคนคงทราบดี ใช้ความมานะ พยายามอย่างสุดยอด กับการพิสูจน์ตัวเอง ผมคงไม่เล่าซ้ำว่าเค้าทำอะไรมาบ้าง ตลอดฤดูกาลที่แล้ว ชายผู้เป็นแผ่นทองคำเปลวอันบอบบางติดแปะอยู่หลังองค์ปฏิมาที่สวยงาม แม้จะมีฟอร์มที่ดีแต่ก็ยังอยู่ใต้ชายคา
ตำนานอย่าง เจิด และ สมบัติอันล้ำค่าอย่าง ซัวเรส ดาวรุ่งอนาคตไกลอย่าง สเตอร์ริ่ง หรือแม้แต่ พ่อมด คูตินโย่ เฮนเดอร์สัน ถูกกล่าวถึงเพียงแค่เบี้ยตัวที่เติมเต็มระบบเท่านั้น ยิ่งคนดูบอลผ่านๆอย่างผมด้วยแล้ว
การขาดไปของเฮนเดอร์สันในบางนัดไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเลยเมื่อเทียบกับการขาดไปของ ซัวเรส เจิด หรือ สเตอร์ริง “เฮนเดอร์สัน เหรอ ไม่ลงก็ได้ โจอัลเลนก็ยังอยู่นิ ลูคัสก็ได้ไม่ต่างกัน” นี่คือเสียงสะท้อนออกมา การจบอันดับที่สอง ปีที่แล้วไม่ได้คิดอะไรเลยมัวแต่ดีใจกับผลงานที่สุดยอด โดยลืมไปเลยว่า ช่วงท้ายฤดูกาล เราขาดใครไป