ปกติสิงอยู่ห้องอื่น แต่วันนี้รู้สึกคับข้องใจมากเลยอยากระบายผ่านสังคมออนไลน์บ้าง เพราะที่บ้านเองก็ไม่มีใครรับฟังเรา
ผมกับแฟนคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาได้ ถึงจะมีปัญหาทะเลาะกันบ้างแต่ก็พยายามประคับประคองนาวาไปให้ถึงฝั่ง เพราะเราสองคนคิดจะแต่งงานกัน และคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ ขอเมคมันนี่ก่อน
ตลอด 8 ปี สิ่งหนึ่งที่ผมไม่พอใจในตัวแฟนคือ เขาเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องรอบข้างเลยนอกจากการทำงาน ผมกับเขาออกมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน หารค่าเช่าร่วมกัน แต่เขาไม่ใส่ใจทำงานบ้านเลย เสื้อผ้าที่ห้องกองไว้เรี่ยราดมาก ไม่เคยคิดเอาไปซัก ยกเว้นผมที่ต้องเอาไปซักเองเพราะมีเสื้อที่ต้องซักเหมือนกัน
กินอาหารจานชามก็ไม่ล้าง แก้วกี่ใบชงกาแฟเสร็จก็ทิ้งไว้ให้ผมกลับจากที่ทำงานมาล้างให้ มีบางครั้งผมไปทำงานนอกหลายวัน กลับมาจานกองพะเนิน แก้วนี่แมงหวี่บินเต็มไปหมด นึกสภาพแล้วผมอยากจะเป็นลมต้องมานั่งล้างให้ท่ามกลางแมงหวี่และกลิ่นเหม็น (เคยถึงขนาดหุงข้าวแล้วปล่อยให้มันขึ้นราทั้งหม้อ ผมเปิดเจอนี่แทบอ้วก)
แฟนผมทำงานขายของออนไลน์ อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน เวลามีของมาลงก็วางเรี่ยราดแบบไม่เป็นระเบียบ รวมๆกับพวกกล่องพัสดุและอุปกรณ์ต่างๆพวกกรรไกร สกอตเทป ถังขยะซื้อมาผมใส่ถุงดำวางไว้ให้เรียบร้อย ไม่ทันไรขยะเต็ม และก็ไม่คิดเอาไปทิ้งด้วยถ้าเกิดผมไม่เอาไปทิ้งให้
ที่ผ่านมาผมเคยพูดกับเขาหลายครั้งว่าให้ทำงานบ้านบ้างสิ ให้กลับมาล้างเช็ดคนเดียวมันเหนื่อย พูดดีดีด้วยนะ เขาบอกว่าไม่ว่าง ต้องทำงานตอบลูกค้า ซึ่งอันนี้ผมพยายามทำความเข้าใจมาตลอด แต่พอมานึกอีกที แฟนผมมันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนั้นนี่หว่า เพราะเห็นบางทียังนั่งแชทกับเพื่อน หรือลุกไปกินข้าวเองได้ (ผมซื้อข้าวให้เขากินตลอดเลยนะเวลากลับจากที่ทำงาน ไม่เคยลงไปซื้อเองเลย ทั้งที่ 7-11 หรือพวกร้านอาหารก็อยู่ข้างล่างแท้ๆ แม้แต่ส่งของหรือไปเอาของจากร้านอื่นๆก็ต้องขี่รถไปเอาให้ตลอด ไม่ใช่เรื่องเลยแท้ๆ)
จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายก็มาถึง เมื่อตอนผมกลับมาจากที่ทำงานแล้วเจอราวตากผ้าที่เป็นเสาค้ำยันร่วงลงมาบนเตียง แต่แทนที่เขาจะเก็บหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันเรียบร้อย เขากลับปล่อยไว้เฉยๆ ให้มันนอนอยู่บนเตียงพาดขวางทางเกะกะ บวกกับสภาพห้องที่ผมเล่ามาทั้งหมด แค่นั้นแหละ สิ่งที่ผมอดทนมาตลอดก็ระเบิดขึ้น ผมอาละวาดแล้วถือกระเป๋าออกจากห้อง ขี่มอไซค์ไปตามทางเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง แต่แฟนผมก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเหมือนเดิม
ที่ผ่านมา ผมเองก็ใช่ว่าจะดีอะไรมากมาย เคยทำผิดนอกใจไปแหล่งอโคจร แต่พอเริ่มสำนึกตัวและรู้สึกผิดกับแฟน เลยตัดสินใจไม่ทำอีก สารภาพบาป แล้วกลับมาเป็นคนปกติทำงานหาเงินรับผิดชอบสิ่งที่เรามีร่วมกันทั้งห้องพักทั้งข้าวของเครื่องใช้ แต่แฟนผมก็เป็นแบบนี้มาตลอด สนใจแต่เรื่องการงานของตัวเอง หาเงิน แต่ไม่มีสัญชาติญาณความเป็นแม่บ้านเลย ผ่านมา 8 ปี ผมอดทนเพราะคิดว่าเขาคงจะดีขึ้นแต่เปล่าเลย ย้ายห้องมา 3 ที่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมคือผมต้องตามล้างตามเช็ดทำนู่นทำนี่ให้เหมือนเดิม จนคิดว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไรวะ แล้วเขาจะดูแลพ่อแม่เรา หรือผม หรือลูกของเราได้ไง ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้เรียกร้องถึงขนาดต้องให้มาทำกับข้าวให้กินเหมือนคนอื่นหรือเหมือนแม่ผม แต่อยากให้ใส่ใจกับอนาคตและชีวิตคู่กันบ้าง
ทะเลาะกันหนล่าสุด เขาพูดออกมาประโยคหนึ่ง บอกว่าเขาเป็นลูกคนเดียว เกิดมาตัวคนเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดูแลคนอื่นด้วย นั่นทำให้ผมรู้สึกสับสนมากว่าควรจะเอาอย่างไรต่อไปดี จะปรึกษาที่บ้านก็ยังไงอยู่เพราะพ่อแม่ผมก็เหนื่อยจากการทำงานมาหมด ไม่อยากให้เขาเครียด อีกอย่างเป็นปัญหาของตัวเองด้วย ควรจะจัดการเองมากกว่า แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ไม่รู้จะเอายังไง ส่วนแฟนผมตอนนี้ก็ยังไม่ได้สำนึกอะไร แถมยังเอาเรื่องความผิดเก่าๆของผมมาพูด รวมถึงหนี้ที่ผมติดไว้ ผมบอกว่ายังไม่มีจ่ายเพราะเงินยังไม่ออก เขาบอกไม่สนใจ ที่ผ่านมา 8 ปี คงไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย
พอแค่นี้แหละครับ พิมพ์มายาวมากแล้ว ขอบคุณที่รับฟังครับ ส่วนผมจะลองคิดดูอีกทีว่าจะเอายังไงเพราะขืนยังเป็นแบบนี้ ไม่ปรับตัวเข้าหาผม ทั้งที่ผมก็ปรับให้เขามาหลายอย่างแล้ว ผมคงไม่มีความสุขอีกต่อไป
ผมงี่เง่าเกินไปไหม ทะเลาะกับแฟนเพราะเขาไม่มีความเป็นแม่บ้าน
ผมกับแฟนคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาได้ ถึงจะมีปัญหาทะเลาะกันบ้างแต่ก็พยายามประคับประคองนาวาไปให้ถึงฝั่ง เพราะเราสองคนคิดจะแต่งงานกัน และคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ ขอเมคมันนี่ก่อน
ตลอด 8 ปี สิ่งหนึ่งที่ผมไม่พอใจในตัวแฟนคือ เขาเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องรอบข้างเลยนอกจากการทำงาน ผมกับเขาออกมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน หารค่าเช่าร่วมกัน แต่เขาไม่ใส่ใจทำงานบ้านเลย เสื้อผ้าที่ห้องกองไว้เรี่ยราดมาก ไม่เคยคิดเอาไปซัก ยกเว้นผมที่ต้องเอาไปซักเองเพราะมีเสื้อที่ต้องซักเหมือนกัน
กินอาหารจานชามก็ไม่ล้าง แก้วกี่ใบชงกาแฟเสร็จก็ทิ้งไว้ให้ผมกลับจากที่ทำงานมาล้างให้ มีบางครั้งผมไปทำงานนอกหลายวัน กลับมาจานกองพะเนิน แก้วนี่แมงหวี่บินเต็มไปหมด นึกสภาพแล้วผมอยากจะเป็นลมต้องมานั่งล้างให้ท่ามกลางแมงหวี่และกลิ่นเหม็น (เคยถึงขนาดหุงข้าวแล้วปล่อยให้มันขึ้นราทั้งหม้อ ผมเปิดเจอนี่แทบอ้วก)
แฟนผมทำงานขายของออนไลน์ อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน เวลามีของมาลงก็วางเรี่ยราดแบบไม่เป็นระเบียบ รวมๆกับพวกกล่องพัสดุและอุปกรณ์ต่างๆพวกกรรไกร สกอตเทป ถังขยะซื้อมาผมใส่ถุงดำวางไว้ให้เรียบร้อย ไม่ทันไรขยะเต็ม และก็ไม่คิดเอาไปทิ้งด้วยถ้าเกิดผมไม่เอาไปทิ้งให้
ที่ผ่านมาผมเคยพูดกับเขาหลายครั้งว่าให้ทำงานบ้านบ้างสิ ให้กลับมาล้างเช็ดคนเดียวมันเหนื่อย พูดดีดีด้วยนะ เขาบอกว่าไม่ว่าง ต้องทำงานตอบลูกค้า ซึ่งอันนี้ผมพยายามทำความเข้าใจมาตลอด แต่พอมานึกอีกที แฟนผมมันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนั้นนี่หว่า เพราะเห็นบางทียังนั่งแชทกับเพื่อน หรือลุกไปกินข้าวเองได้ (ผมซื้อข้าวให้เขากินตลอดเลยนะเวลากลับจากที่ทำงาน ไม่เคยลงไปซื้อเองเลย ทั้งที่ 7-11 หรือพวกร้านอาหารก็อยู่ข้างล่างแท้ๆ แม้แต่ส่งของหรือไปเอาของจากร้านอื่นๆก็ต้องขี่รถไปเอาให้ตลอด ไม่ใช่เรื่องเลยแท้ๆ)
จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายก็มาถึง เมื่อตอนผมกลับมาจากที่ทำงานแล้วเจอราวตากผ้าที่เป็นเสาค้ำยันร่วงลงมาบนเตียง แต่แทนที่เขาจะเก็บหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันเรียบร้อย เขากลับปล่อยไว้เฉยๆ ให้มันนอนอยู่บนเตียงพาดขวางทางเกะกะ บวกกับสภาพห้องที่ผมเล่ามาทั้งหมด แค่นั้นแหละ สิ่งที่ผมอดทนมาตลอดก็ระเบิดขึ้น ผมอาละวาดแล้วถือกระเป๋าออกจากห้อง ขี่มอไซค์ไปตามทางเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง แต่แฟนผมก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเหมือนเดิม
ที่ผ่านมา ผมเองก็ใช่ว่าจะดีอะไรมากมาย เคยทำผิดนอกใจไปแหล่งอโคจร แต่พอเริ่มสำนึกตัวและรู้สึกผิดกับแฟน เลยตัดสินใจไม่ทำอีก สารภาพบาป แล้วกลับมาเป็นคนปกติทำงานหาเงินรับผิดชอบสิ่งที่เรามีร่วมกันทั้งห้องพักทั้งข้าวของเครื่องใช้ แต่แฟนผมก็เป็นแบบนี้มาตลอด สนใจแต่เรื่องการงานของตัวเอง หาเงิน แต่ไม่มีสัญชาติญาณความเป็นแม่บ้านเลย ผ่านมา 8 ปี ผมอดทนเพราะคิดว่าเขาคงจะดีขึ้นแต่เปล่าเลย ย้ายห้องมา 3 ที่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมคือผมต้องตามล้างตามเช็ดทำนู่นทำนี่ให้เหมือนเดิม จนคิดว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไรวะ แล้วเขาจะดูแลพ่อแม่เรา หรือผม หรือลูกของเราได้ไง ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้เรียกร้องถึงขนาดต้องให้มาทำกับข้าวให้กินเหมือนคนอื่นหรือเหมือนแม่ผม แต่อยากให้ใส่ใจกับอนาคตและชีวิตคู่กันบ้าง
ทะเลาะกันหนล่าสุด เขาพูดออกมาประโยคหนึ่ง บอกว่าเขาเป็นลูกคนเดียว เกิดมาตัวคนเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดูแลคนอื่นด้วย นั่นทำให้ผมรู้สึกสับสนมากว่าควรจะเอาอย่างไรต่อไปดี จะปรึกษาที่บ้านก็ยังไงอยู่เพราะพ่อแม่ผมก็เหนื่อยจากการทำงานมาหมด ไม่อยากให้เขาเครียด อีกอย่างเป็นปัญหาของตัวเองด้วย ควรจะจัดการเองมากกว่า แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ไม่รู้จะเอายังไง ส่วนแฟนผมตอนนี้ก็ยังไม่ได้สำนึกอะไร แถมยังเอาเรื่องความผิดเก่าๆของผมมาพูด รวมถึงหนี้ที่ผมติดไว้ ผมบอกว่ายังไม่มีจ่ายเพราะเงินยังไม่ออก เขาบอกไม่สนใจ ที่ผ่านมา 8 ปี คงไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย
พอแค่นี้แหละครับ พิมพ์มายาวมากแล้ว ขอบคุณที่รับฟังครับ ส่วนผมจะลองคิดดูอีกทีว่าจะเอายังไงเพราะขืนยังเป็นแบบนี้ ไม่ปรับตัวเข้าหาผม ทั้งที่ผมก็ปรับให้เขามาหลายอย่างแล้ว ผมคงไม่มีความสุขอีกต่อไป