พฤติกรรมของเราเป็นแบบนี้ เราผิดไหม๊?

เราไม่รู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ของเราเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปไหม๊?
คือ เราไม่สามารถทนฟังเรื่องเดิมๆหรือปัญหาเดิมๆเรื่องงานของแฟนเราได้เลย ..

ส่วนตัวเราถามว่าเวลาทำงานเราเหนื่อยไหม๊ เรามีปัญหาไหม๊ เราท้อไหม๊ มันก็ต้องมีเหมือนกัน
แต่เราเลือกที่จะไม่เล่าให้อีกฝ่ายรับรู้เลย เพราะเราคิดว่าเหมือนเป็นการเอาปัญหาส่วนตัวมาเป็นประเด็นของส่วนรวม
บางทีเราอยู่เงียบๆของเราเอง หรือระบายให้คนอื่นที่เขารู้เรื่องสายงานเดียวกับเราได้ฟัง อาจจะเข้าใจมากกว่า
(หรือว่าเราเอาตัวเราเป็นบรรทัดฐานมากเกินไป)

พอแฟนเรามาบ่นเรื่องงานทีไร เรารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง เราปิดประตูใจกับเรื่องนี้ไปเลย
แล้วเราคิดว่าปัญหาที่เขาเจอมันเป็นปัญหาหยุ๋มหยิ๋ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
แค่เขาปรับใจตัวเองให้รู้จักยอมรับกับมันแล้วเขาจะอยู่ได้ถึงแม้ไม่มีความสุข แต่ก็คงไม่ถึงกับทุกข์มากเกินไป

..แต่เวลาที่แฟนเราโทรหาเราทีไร ขึ้นต้นมาก็พูดแต่เรื่องพวกนี้ตลอด (คือตลอดจริงๆ)
จนเรารู้สึกว่า เรื่องเดิมๆของเธอมันยังไม่จบอีกหรอ?
รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนั้น ก็ยังจะเอามาใส่ใจอีกทำไม
ในเมื่อเธอไม่ปลงกับคนแบบนั้น เธอเก็บเอาเขามาใส่ใจแล้วเอามาบ่นให้เราฟังอีก
ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า เขาก็เป็นแบบนั้นของเขาอยู่แล้ว ??

เรายอมรับว่าเราหงุดหงิดมากที่ได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อยๆ (บ่อยมากๆ)
เราเคยคุยกันแล้ว เรื่องงาน อย่างเราก็มีปัญหา แต่ไม่เคยจะพูดให้เขาฟังเลย
เพราะถ้าเราพูดเรื่องงานกับเขาทีไร เขามักจะตอบว่า "อันนี้ก็ไม่รู้เหือนกัน ก็แล้วแต่ตัดสินใจ"
เราก็เลยเลือกที่จะไม่พูดกับเขา แล้วเราคิดว่าการพูดปัญหาซ้ำๆ บ่อยๆ
มันเหมือนเป็นการตอกย้ำเรื่องไม่สบายใจ ให้วนอยู้แต่ในหัว รกสมอง ไม่จบซักที

กับเขา เราก็พูดแบบนี้ ให้เขาทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น
ยอมรับความต่างของบุคคล เพราะไม่ว่าจะทำงานที่ไหน ก็มันจะพบเจอฝ่ายที่คิดตรงข้ามเสมอ
พอเขาพูดปัญหาเดิมๆกับเราแบบนี้บ่อยๆ เราหงุดหงิดมาก เราตัดสายเขาทิ้งไปแบบไม่มีมารยาทเลย

เราผิดไหม๊ที่ไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนที่เป็นแฟน? ..
เราใจแคบไปหรือเปล่า ..
คนรักกัน ต้องฟังความทุกข์ของอีกฝ่ายด้วยใช่ไหม๊?

ปล. กระทู้แรกนะคะ อาจจะเขียนวนๆไปบ้าง ขออภัยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่