ประมาณบ่ายโมง ผมต้องออกไปทำธุระ แต่จะอ่านผ่าน tablet แล้วมา 'แสดงความรู้สึก' และ 'แสดงความเห็นเป็นระยะๆ นะครับ
0. โดยสรุป นิวคาสเซิ่ลเล่นตั้งรับได้ดี โดยมีโอกาสสวนเป็นระยะๆ แต่ยิงพลาดเองบ้าง ติดเดเกอาบ้าง
แมนฯยูแม้จะคุมเกมได้เหนือกว่าเยอะ แต่จังหวะเข้าทำยังค่อนข้างช้า ยากจะฝ่ากำแพงของนิวคาสเซิ่ลได้ โดยลูกที่เสียมาจากความขยันของรูนีย์ที่จากลูกทุ่ม เข้ากดดันจนกองหลังนิวคาสเซิ่ลต้องจ่ายคืนประตู (ครูล์) ที่พยายามเตะออกให้พ้นรัศมีรูนีย์ แต่ก็เข้าทางยังฉวยโอกาสยิงเข้าเสาแรกไปได้
แมทช์นี้ ยังคงแสดงให้เห็นว่า LVG ยังไม่สามารถให้ทีมสามารถทำเกมรุกที่ดีได้ ความเร็วของการเข้าทำช้าไปตลอด การเปลี่ยนตัวยานาไซจ์แทนดิมาเรียที่ทำเกมได้ไม่ดี เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่การเปลี่ยนมาต้าใน 8 นาทีสุดท้ายของเกม (เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน) ถือเป็นเวลาน้อยไปสำหรับการส่ง play maker มาเปลี่ยนเกม ซึ่งปกติ ถ้าต้องการเปลี่ยนเกมจะส่ง play maker มาสัก 15 นาทีขึ้นไป โดยในช่วงที่เวลาเหลือน้อย โค้ชมักจะส่งกองหน้า (ฟัลเกา) หรือตัว cross บอลลงไปเพิ่มโอกาสทำประตูมากกว่า
Worst of the Match ยกให้ดิมาเรียเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน แม้จะเล่นดีกว่าเกมก่อน แต่ยังคงจ่ายบอลพลาดบ่อยๆ แต่ยานาไซจ์ที่ลงมาแทนก็ไม่ได้เปลี่ยนเกมได้เหมือนเกมก่อน แผงรุกยังทำเกมได้ไม่ดีนัก นอกจากนั้น แผงหลังก็แก้ไขลูกโด่งได้ไม่ดี ทำให้
ผมยก Man of the Match ให้เดเกอาที่ซุปเปอร์เซฟ 2-3 ครั้ง ไม่อย่างนั้น ถ้าโดนนำไปจะทำให้เกมยากขึ้นไปอีก
1. เริ่มเกม แมนฯยูมาในระบบ 4-2-3-1 โดยมีเดเกอาเป็นประตู แบ็คซ้ายเป็นโรโฮ แบ็คขวาเป็นวาเลนเซีย เซ็นเตอร์คือ สมอลลิ่งกับอีแวนส์ กลางเป็นบลิ้นท์กับเออร์ไรร่า ฮาล์ฟซ้ายเป็นยัง ฮาล์ฟขวาเป็นดิมาเรีย กลางรุกคือเฟไลนี่ มีรูนีย์เป็นหน้าเป้า ส่วนนิวคาเซิ่ลมาในระบบ 4-4-2
2. นาทีที่ 6 แมนฯยูเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ดี นิวคาสเซิ่ลมีโอกาสซ้ำ แต่ออกกรอบไป
3. นาทีที่ 10 แมนฯยูมีโอกาสบ้าง รูนีย์ตบกลับให้เออร์ไรร่ายิงออกนอกกรอบไปเล็กน้อย
4. นาที 27 ยังจ่ายให้รูนีย์พลิกบอลในกรอบเขตโทษ ยิงหลุดเสาสอง
5. นาที 31 กองหลังนิวคาสเซิ่ลลื่นล้มในกรอบเขตโทษ ดิมาเรีย cross ให้รูนีย์ยิงเข้ามือประตู
6. นาที 40 วาเลนเซีย cross บอลจากเสาสอง เฟไลนี่ได้โหม่งเต็มๆ แต่ประตูนิวคาสเซิ่ลปัดทิ้งได้
7. นาที 44 นิวคาสเซิ่ลสวนกลับ มีโอกาสยิง แต่เดเกอาเซฟไว้ได้
8. เริ่มครึ่งหลัง LVG ยังไม่เปลี่ยนตัว ใช้ระบบ 4-2-3-1 เช่นเดิม นาที 49 นิวคาสเซิ่ลได้ฟรีคิกส์ โยนและโหม่งตั้งให้กองหน้าเข้าชาร์จ แต่เดเกอาสามารถปกป้องได้
9. นาทีที่ 54 วาเลนเซีย cross บอลจากให้เฟไลนี่พักอกแล้วยิงแต่ครูลเซฟไปทางยังเสาสอง จับจังหวะหนึ่งให้เข้าขวา ทำให้ครูลเซฟไว้ได้ 2 ครั้งติด
10. นาที 59 LVG เปลี่ยนดิมาเรียออกให้ยานาไซจ์ลงแทน แต่เกมนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดเหมือนเกมก่อนหน้า โดยนิวคาสเซิ่ลก็เปลี่ยนตัวเช่นกัน
11. นาที 60 เออร์ไรร่าโดนกระแทกเสียบอลให้นิวคาสเซิ่ลโต้กลับ แต๋ซิลเซ่ยิงหลุดกรอบไป
12. นาที 74 ยังลากจากฝั่งซ้าย เปิดโด่งไปเสา 2 ให้รูนีย์โหม่งตรงกรอบ แต่ครูลปัดไว้ได้
13. นาทีที่ 89 จากลูกทุ่ม รูนีย์ไล่แย่งบอลเจ้าถิ่นในกรอบเขตโทษ กดดันให้ส่งกลับให้ครูล ซึ่งก็โดนรูนีย์กดดัน ให้เคลียร์ (แต่เบาไป) เข้าทางยังจับบอล (อีกหล่ะ) เข้าเท้าขวายิงเบียดเสาแรกเข้าไป
14. จากการทำเกมริมเส้นด้านขวา กองหลังแมนฯยูปล่อยให้กองหน้านิวคาสเซิ่ลเทคตัวโหม่งเดี่ยวๆ แต่เดเกอาพุ่งปัดได้ทัน
15. โดยสรุป แมนฯยูอาศัยความขยันของรูนีย์ และความเหนียวหนึบของเดเกอา ทำให้เก็บ 3 แต้มที่สำคัญไปได้หวุดหวิด
แต่ฟอร์มแบบนี้ ซึ่งกำลังต้องเจออาร์เซน่อลใน FA Cup และต่อด้วยสเปอร์ส ลิเวอร์พูล คั่นด้วยวิลล่า ต่อด้วยแมนฯซิตี้ และเชลซี จะอาศัย 'ดวง' เพียงอย่างเดียวในการทำประตู คงจะไม่สามารถทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์ FA Cup และยึดพื้นที่ไปเล่น UCL ไปได้ง่ายๆ
[กระทู้สนทนาผีแดง 2015-03-05] มาสนทนาหลังแมทช์นิวคาสเซิ่ล 0-1 แมนฯยูไนเต็ดกัน
0. โดยสรุป นิวคาสเซิ่ลเล่นตั้งรับได้ดี โดยมีโอกาสสวนเป็นระยะๆ แต่ยิงพลาดเองบ้าง ติดเดเกอาบ้าง
แมนฯยูแม้จะคุมเกมได้เหนือกว่าเยอะ แต่จังหวะเข้าทำยังค่อนข้างช้า ยากจะฝ่ากำแพงของนิวคาสเซิ่ลได้ โดยลูกที่เสียมาจากความขยันของรูนีย์ที่จากลูกทุ่ม เข้ากดดันจนกองหลังนิวคาสเซิ่ลต้องจ่ายคืนประตู (ครูล์) ที่พยายามเตะออกให้พ้นรัศมีรูนีย์ แต่ก็เข้าทางยังฉวยโอกาสยิงเข้าเสาแรกไปได้
แมทช์นี้ ยังคงแสดงให้เห็นว่า LVG ยังไม่สามารถให้ทีมสามารถทำเกมรุกที่ดีได้ ความเร็วของการเข้าทำช้าไปตลอด การเปลี่ยนตัวยานาไซจ์แทนดิมาเรียที่ทำเกมได้ไม่ดี เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่การเปลี่ยนมาต้าใน 8 นาทีสุดท้ายของเกม (เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน) ถือเป็นเวลาน้อยไปสำหรับการส่ง play maker มาเปลี่ยนเกม ซึ่งปกติ ถ้าต้องการเปลี่ยนเกมจะส่ง play maker มาสัก 15 นาทีขึ้นไป โดยในช่วงที่เวลาเหลือน้อย โค้ชมักจะส่งกองหน้า (ฟัลเกา) หรือตัว cross บอลลงไปเพิ่มโอกาสทำประตูมากกว่า
Worst of the Match ยกให้ดิมาเรียเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน แม้จะเล่นดีกว่าเกมก่อน แต่ยังคงจ่ายบอลพลาดบ่อยๆ แต่ยานาไซจ์ที่ลงมาแทนก็ไม่ได้เปลี่ยนเกมได้เหมือนเกมก่อน แผงรุกยังทำเกมได้ไม่ดีนัก นอกจากนั้น แผงหลังก็แก้ไขลูกโด่งได้ไม่ดี ทำให้
ผมยก Man of the Match ให้เดเกอาที่ซุปเปอร์เซฟ 2-3 ครั้ง ไม่อย่างนั้น ถ้าโดนนำไปจะทำให้เกมยากขึ้นไปอีก
1. เริ่มเกม แมนฯยูมาในระบบ 4-2-3-1 โดยมีเดเกอาเป็นประตู แบ็คซ้ายเป็นโรโฮ แบ็คขวาเป็นวาเลนเซีย เซ็นเตอร์คือ สมอลลิ่งกับอีแวนส์ กลางเป็นบลิ้นท์กับเออร์ไรร่า ฮาล์ฟซ้ายเป็นยัง ฮาล์ฟขวาเป็นดิมาเรีย กลางรุกคือเฟไลนี่ มีรูนีย์เป็นหน้าเป้า ส่วนนิวคาเซิ่ลมาในระบบ 4-4-2
2. นาทีที่ 6 แมนฯยูเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ดี นิวคาสเซิ่ลมีโอกาสซ้ำ แต่ออกกรอบไป
3. นาทีที่ 10 แมนฯยูมีโอกาสบ้าง รูนีย์ตบกลับให้เออร์ไรร่ายิงออกนอกกรอบไปเล็กน้อย
4. นาที 27 ยังจ่ายให้รูนีย์พลิกบอลในกรอบเขตโทษ ยิงหลุดเสาสอง
5. นาที 31 กองหลังนิวคาสเซิ่ลลื่นล้มในกรอบเขตโทษ ดิมาเรีย cross ให้รูนีย์ยิงเข้ามือประตู
6. นาที 40 วาเลนเซีย cross บอลจากเสาสอง เฟไลนี่ได้โหม่งเต็มๆ แต่ประตูนิวคาสเซิ่ลปัดทิ้งได้
7. นาที 44 นิวคาสเซิ่ลสวนกลับ มีโอกาสยิง แต่เดเกอาเซฟไว้ได้
8. เริ่มครึ่งหลัง LVG ยังไม่เปลี่ยนตัว ใช้ระบบ 4-2-3-1 เช่นเดิม นาที 49 นิวคาสเซิ่ลได้ฟรีคิกส์ โยนและโหม่งตั้งให้กองหน้าเข้าชาร์จ แต่เดเกอาสามารถปกป้องได้
9. นาทีที่ 54 วาเลนเซีย cross บอลจากให้เฟไลนี่พักอกแล้วยิงแต่ครูลเซฟไปทางยังเสาสอง จับจังหวะหนึ่งให้เข้าขวา ทำให้ครูลเซฟไว้ได้ 2 ครั้งติด
10. นาที 59 LVG เปลี่ยนดิมาเรียออกให้ยานาไซจ์ลงแทน แต่เกมนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดเหมือนเกมก่อนหน้า โดยนิวคาสเซิ่ลก็เปลี่ยนตัวเช่นกัน
11. นาที 60 เออร์ไรร่าโดนกระแทกเสียบอลให้นิวคาสเซิ่ลโต้กลับ แต๋ซิลเซ่ยิงหลุดกรอบไป
12. นาที 74 ยังลากจากฝั่งซ้าย เปิดโด่งไปเสา 2 ให้รูนีย์โหม่งตรงกรอบ แต่ครูลปัดไว้ได้
13. นาทีที่ 89 จากลูกทุ่ม รูนีย์ไล่แย่งบอลเจ้าถิ่นในกรอบเขตโทษ กดดันให้ส่งกลับให้ครูล ซึ่งก็โดนรูนีย์กดดัน ให้เคลียร์ (แต่เบาไป) เข้าทางยังจับบอล (อีกหล่ะ) เข้าเท้าขวายิงเบียดเสาแรกเข้าไป
14. จากการทำเกมริมเส้นด้านขวา กองหลังแมนฯยูปล่อยให้กองหน้านิวคาสเซิ่ลเทคตัวโหม่งเดี่ยวๆ แต่เดเกอาพุ่งปัดได้ทัน
15. โดยสรุป แมนฯยูอาศัยความขยันของรูนีย์ และความเหนียวหนึบของเดเกอา ทำให้เก็บ 3 แต้มที่สำคัญไปได้หวุดหวิด
แต่ฟอร์มแบบนี้ ซึ่งกำลังต้องเจออาร์เซน่อลใน FA Cup และต่อด้วยสเปอร์ส ลิเวอร์พูล คั่นด้วยวิลล่า ต่อด้วยแมนฯซิตี้ และเชลซี จะอาศัย 'ดวง' เพียงอย่างเดียวในการทำประตู คงจะไม่สามารถทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์ FA Cup และยึดพื้นที่ไปเล่น UCL ไปได้ง่ายๆ