สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน
เชื่อว่าหลายคนที่เป็นแฟนพันทิป คงเคยได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพี่แท็กซี่มามากมาย
วันนี้เราขอเราเรื่องราวที่เราเจอมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
หากมีข้อความตรงไหน ไปทำร้ายจิตใจใคร เราก็ขอโทษด้วยนะคะ
เราแค่อยากจะเอาเรื่องราวประสบการณ์ของเรามาบอกเล่ากันค่ะ
ตอนแรกคิดเอาไว้นานแล้วค่ะว่าจะเล่าเรื่องนี้ไว้ให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้โดยสารแท็กซี่ทุกท่านดีหรือเปล่า
และด้วยเหตุการณ์ที่เราเจอนั้น ทำเอา อึน มึน งง จนลืมจำป้ายทะเบียนเอาไว้
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาได้หลายเดือนแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เจอนั้นมันจำติดตามาจนทุกวันนี้
เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเคยเจอแบบนี้
คิดว่าถ้าไม่ได้มาบอกกล่าวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน คงจะคิดไม่ตกไปอีกนาน
ขอเล่าเลยแล้วกันค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ชีวิตสาวออฟฟิศอย่างเรา พอวันศุกร์แห่งชาติมาถึงเราก็ต้องหาเวลาไปสังสรรค์กันบ้าง เพื่อไม่ให้ชีวิตจืดชืด
เราและเพื่อนๆ จึงนัดกันว่า ไปเที่ยวผับกันมั้ย ไม่ได้ไปกันมานานแล้ว ปีละครั้ง สองครั้งเองมั้ง
กว่าจะนัดกันได้ครบก็เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่ ดังนั้นนัดกันได้ทั้งที งานนี้ก็ต้องจัดเต็มกันหน่อย
เราและเพื่อนสนิทของเราในกลุ่มคนนึงทำงานที่เดียวกันขออนุญาตเรียกว่า เอ ละกันค่ะ
เรากับเอ เลยคิดว่าจะไปแต่องค์ทรงเครื่องกันที่ห้องของเพื่อนอีกคนนึง ขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่า บี ค่ะ
ซึ่งห้องของบี อยู่ซอยรามคำแห่ง 40
เรากับ เอ ทำงานที่ย่านราชประสงค์
และจากประสบการณ์การเรียกแท็กซี่บริเวณแถวที่ทำงานนั้น ไม่ประสบความสำเร็จซักเท่าไหร่นัก
ด้วยความที่เรากับ เอ เดินทางมาทำงานตอนเช้าด้วยการใช้บริการของเรือคลองแสนแสบ
เลยคิดว่าก็เร็วดี จะได้มีเวลาแต่งองค์กันหน่อย
จึงตกลงกับ เอ ว่า เราขึ้นเรือไปลงท่าบางกะปิกันนะ จะได้เร็วจะได้เรียกแท็กซึ่ไปเลยไม่ต้องกลับรถ เลี้ยวเข้าซอยได้เลยน่าจะสะดวกกว่า
และด้วยความที่นัดกับเพื่อนๆว่า จะจัดเต็ม


ทำให้เรากับ เอ ต้องแบกอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งชุดสำหรับใส่ในตอนเย็น
รวมๆแล้วก็กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆแบบหิ้วได้ไปทำงานด้วย (ดูทุ่มเทมากเลย แหะๆๆ)
พอตกเย็น ก็แบกของเหล่านั้นขึ้นเรือที่ประตูน้ำ แล้วนั่งเรือมาลงที่บางกะปิ ของก็หนักเดินทางก็เหนื่อยแล้ว ก็เลยจะไปเรียกแท็กซึ่
พอมาถึงท่าที่เรือ เราก็เดินออกมาตรงปากซอยของท่าเรือ เราก็ว่าจะเรียกแท็กซี่ตรงนี้และ ไม่ใช่ป้ายรถเม ปากซอยกว้างมีพื้นที่จอด ไม่มีรถเข้าซอย เพื่อแอบรถให้หลบรถที่ตามมาได้เวลาเราขึ้นรถ
แต่เราก็กลัวว่าจะมีรถมาเข้า ออกซอยพอดี เราเลยเดินมาอีกนิดประมาณ 100 เมตร เพื่อที่จะได้ถึงบริเวณที่มีช่องเว้าให้จอดสะดวก
และแล้วก็มีแท็กซี่วิ่งมา เราก็โบกและถามก่อนขึ้นจนติดเป็นนิสัย ว่า "ไปรามคำแหง 40 ค่ะ พี่ไปมั้ยคะ?"
เพราะเราเคยเจอแบบว่าขึ้นไปนั่งแล้วก็ไม่ไป เราก็ต้องเสียเวลาลง ทำให้รถที่ตามมาต้องรอ เป็นสาเหตุของรถติด
เราเลยเลือกที่จะถามก่อนขึ้น เพื่อลดปัญหาจราจร
คุณคนขับแท็กซี่ เป็นผู้หญิง ผอมๆ อายุไม่น่าจะเกิน 40 ปี ก็พยักหน้า เป็นนัยว่า "ไป"
พอเรากับ เอ ขึ้นรถเรียบร้อย คุณพี่แท็กซี่ก็ขับออกไป ระหว่างทาง เราสังเกตุว่าในรถมีองค์เทพเต็มไปหมด ทั้งรูปปั้น รูปถ่าย โปสเตอร์
ทั้งคอนโซนหน้ารถ ทั้งเพดานหลังคารถก็ติดเต็มไปหมด แต่นั่นก็เป็นความชอบส่วนบุคคล เราก็เข้าใจค่ะ
และอีกอย่างที่สังเกตได้คือการขับของคุณพี่เค้าาค่ะ รถก็ไม่ได้ติด ข้างหน้าแท็กซี่ ก็ไม่มีรถคันอื่น แล้วพี่เค้าจะขับๆ หยุดๆ ขับช้าๆ หรือบางทีมีรถแซงมาก็ไปจ่อท้ายเค้า ทั้งๆที่เลนอื่นก็ว่าง
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าแปปเดียวเองเดี๋ยวก็ถึงแล้ว
พอถึงที่หมายเข้าซอยราคำแหง 40 มา และเข้าซอยตรงไม่มีเลี้ยวเข้าซอยย่อยมา ประมาณ 500 เมตร มิเตอร์ ขึ้นเลข 43 บาท
เราหยิบเงินไม่ถนัด เพื่อนเลยจ่ายแบงค์ 50 บาท ไป
ด้วยปกติแล้ว เราจ่ายค่าบริการ หรือซื้อสินค้าใด เราก็ต้องรอเงินทอนเป็นเรื่องปกติ
แต่!!! มันไม่ปกติสำหรับพี่แท็กซึ่ท่านนี้ค่ะ
พอเรายืนแบงค์ 50 ไป คุณพี่แท็กซี่ เราก็นิ่ง คุณพี่แท็กซี่ ก็ถามว่า "รออะไร"
เรากับ เอ : "อ่าว เงินทอนไงคะ"
คุณพี่แท็กซี่ ก็ตะคอก ย้ำเลยค่ะว่าตะคอกเสียงเขียวมาก ใส่เรากับ เอ ว่า
"จะงกอะไรกันนักกันหนา"
เอ คงฉุนอ่าค่ะ คือจะไม่ทอนก็บอกกันดีๆก็ได้ เอ เลยบอกว่า "งั้นของเงินคืนค่ะ เดี๋ยวจะหยิบพอดีให้"
เรากับเอ ก็ทำท่าหาเหรียญให้คุณพี่แท็กซึ่เค้าพอดีกับค่ามิตเตอร์
คุณพี่แท็กซี่ ก็เลยถอยรถออกมาอย่างเร็ว มาจอดตรงกลางซอย ซึ่งก็ไกลจากที่เราจะไปลงอยู่ถ้าไม่มีของอะไรมากมายคงไม่ซีเรียสอะไร เดินได้อยู่
คุณพี่แท็กซี่เค้าไม่สนค่ะ พอถึงกลางซอย เค้าก็ตะคอกกลับมาอีกว่า
"ลงไปได้แล้วไป ไป!!! จะงกอะไรกันนักกันหนา"
เรากับเอ ก็ อึ้งค่ะ คิดในใจ
"อะไรวะ งง ค่ะ คือพูดดีๆกันก็ได้" เออ พี่ไม่มีตังทอนนะอะไรก็ว่าไป พี่ขอละกันนะ เราก็ให้ได้ค่ะ
แต่มาพูดแบบนี้ เรากับเพื่อนๆจะทำยังไงหละคะ ก็ต้องลงสิคะ นึกในใจดีนะไม่ให้แบงค์ 100 ไป เห่อๆๆๆ
แล้วเรากับเอ ก็ต้องยอมรับชะตากรรมเดินมาให้ถึงห้อง บี ให้ได้
พร้อมกับอาการ งงๆ ว่า "ตกลงชั้นผิดใช่ปะเนี่ย ที่รอตังทอนเนี่ย"
จนลืมจำเลขทะเบียนพี่เค้า
เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ
ลักษณะของคุณพี่แท็กซึ่ : ผู้หญิง ผอม อายุไม่น่าเกิน 40
สีรถ : มันมืดเลยไม่ได้สังเกต อีกอย่างคิดว่าไปไม่ไกล เลยไม่ได้จำค่ะ แค่คับคล้ายคับคลาว่าจะเป็นสีชมพู
บรรยากาศภายในรถ : มีองค์เทพเยอะมาก ทั้งคอนโซนหน้ารถ เพดานหลังคารถ
ลักษณะการขับ : ช้าๆ เบรกบ่อยๆ เมื่อไม่มีเหตุจำเป็นต้องเบรก หรือ ขับจ่อท้ายรถคันหน้า
คือเราไม่ได้เหมาว่าแท็กซี่ไม่ดีทุกคนนะคะ แต่ที่เจอไม่ดี มันดันเยอะกว่าดีเท่านั้นเอง
ร้อยพ่อพันแม่ วันไหนเจอแท็กซี่ดีๆนะ ดีใจอย่างกะถูกหวยแหนะ
เราก็สงสารคนดีๆเค้า ที่จะทำมาหากินลำบากขึ้นอ่าค่ะ
เราเคยเจอแท็กซึ่ผู้ชายคนนึง ดีมากกกกกกกกก



พูดจาดีอย่างกับพนักงานโรงแรมไฮโซ ขับรถนิ่ม
เข้าซอยก็ไม่มีบ่นซักคำ ครับๆ ได้เลยครับ ตลอด
รถติดก็ไม่บ่น จะเปิดเพลงฟังก็ไม่ได้อยู่ๆก็เปิดมาดังลั่น
แต่ก็ถามเราว่า อยากฟังเพลงมั้ยครับ เดี๋ยวผมเปิดให้ ฯลฯ
ตอนเราลงก็อวยพรให้พี่เค้าเจริญๆอีก คนดีๆแบบนี้หายากจริงๆค่ะ
อยากให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
และเราสงสารพี่คนนี้อ่าค่ะ ที่เค้าเป็นคนดี กลัวว่าเค้าจะหากินลำบากขึ้น
เพราะผู้โดยสารมักจะมีประสบการณ์ไม่ดีกับพี่ๆแท็กซี่ท่านอื่นๆ
สาเหตุที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นส่วนหนึ่ง
คืออยากรู้ว่า เคยมีใครเจอ พี่แท็กซึ่ ผู้หญิงคนนี้บ้างมั้ยอ่าคะ?
คือเราไม่ได้มโนไปเองใช่มั้ยอ่าคะว่าเรารู้สึกแย่อ่า?
ถ้าใครเคยเจอมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ


มีใครเคยเจอ พี่แท็กซี่แบบนี้บ้างมั้ยคะ
เชื่อว่าหลายคนที่เป็นแฟนพันทิป คงเคยได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพี่แท็กซี่มามากมาย
วันนี้เราขอเราเรื่องราวที่เราเจอมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
หากมีข้อความตรงไหน ไปทำร้ายจิตใจใคร เราก็ขอโทษด้วยนะคะ
เราแค่อยากจะเอาเรื่องราวประสบการณ์ของเรามาบอกเล่ากันค่ะ
ตอนแรกคิดเอาไว้นานแล้วค่ะว่าจะเล่าเรื่องนี้ไว้ให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้โดยสารแท็กซี่ทุกท่านดีหรือเปล่า
และด้วยเหตุการณ์ที่เราเจอนั้น ทำเอา อึน มึน งง จนลืมจำป้ายทะเบียนเอาไว้
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาได้หลายเดือนแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เจอนั้นมันจำติดตามาจนทุกวันนี้
เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเคยเจอแบบนี้
คิดว่าถ้าไม่ได้มาบอกกล่าวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน คงจะคิดไม่ตกไปอีกนาน
ขอเล่าเลยแล้วกันค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ชีวิตสาวออฟฟิศอย่างเรา พอวันศุกร์แห่งชาติมาถึงเราก็ต้องหาเวลาไปสังสรรค์กันบ้าง เพื่อไม่ให้ชีวิตจืดชืด
เราและเพื่อนๆ จึงนัดกันว่า ไปเที่ยวผับกันมั้ย ไม่ได้ไปกันมานานแล้ว ปีละครั้ง สองครั้งเองมั้ง
กว่าจะนัดกันได้ครบก็เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่ ดังนั้นนัดกันได้ทั้งที งานนี้ก็ต้องจัดเต็มกันหน่อย
เราและเพื่อนสนิทของเราในกลุ่มคนนึงทำงานที่เดียวกันขออนุญาตเรียกว่า เอ ละกันค่ะ
เรากับเอ เลยคิดว่าจะไปแต่องค์ทรงเครื่องกันที่ห้องของเพื่อนอีกคนนึง ขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่า บี ค่ะ
ซึ่งห้องของบี อยู่ซอยรามคำแห่ง 40
เรากับ เอ ทำงานที่ย่านราชประสงค์
และจากประสบการณ์การเรียกแท็กซี่บริเวณแถวที่ทำงานนั้น ไม่ประสบความสำเร็จซักเท่าไหร่นัก
ด้วยความที่เรากับ เอ เดินทางมาทำงานตอนเช้าด้วยการใช้บริการของเรือคลองแสนแสบ
เลยคิดว่าก็เร็วดี จะได้มีเวลาแต่งองค์กันหน่อย
จึงตกลงกับ เอ ว่า เราขึ้นเรือไปลงท่าบางกะปิกันนะ จะได้เร็วจะได้เรียกแท็กซึ่ไปเลยไม่ต้องกลับรถ เลี้ยวเข้าซอยได้เลยน่าจะสะดวกกว่า
และด้วยความที่นัดกับเพื่อนๆว่า จะจัดเต็ม
ทำให้เรากับ เอ ต้องแบกอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งชุดสำหรับใส่ในตอนเย็น
รวมๆแล้วก็กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆแบบหิ้วได้ไปทำงานด้วย (ดูทุ่มเทมากเลย แหะๆๆ)
พอตกเย็น ก็แบกของเหล่านั้นขึ้นเรือที่ประตูน้ำ แล้วนั่งเรือมาลงที่บางกะปิ ของก็หนักเดินทางก็เหนื่อยแล้ว ก็เลยจะไปเรียกแท็กซึ่
พอมาถึงท่าที่เรือ เราก็เดินออกมาตรงปากซอยของท่าเรือ เราก็ว่าจะเรียกแท็กซี่ตรงนี้และ ไม่ใช่ป้ายรถเม ปากซอยกว้างมีพื้นที่จอด ไม่มีรถเข้าซอย เพื่อแอบรถให้หลบรถที่ตามมาได้เวลาเราขึ้นรถ
แต่เราก็กลัวว่าจะมีรถมาเข้า ออกซอยพอดี เราเลยเดินมาอีกนิดประมาณ 100 เมตร เพื่อที่จะได้ถึงบริเวณที่มีช่องเว้าให้จอดสะดวก
และแล้วก็มีแท็กซี่วิ่งมา เราก็โบกและถามก่อนขึ้นจนติดเป็นนิสัย ว่า "ไปรามคำแหง 40 ค่ะ พี่ไปมั้ยคะ?"
เพราะเราเคยเจอแบบว่าขึ้นไปนั่งแล้วก็ไม่ไป เราก็ต้องเสียเวลาลง ทำให้รถที่ตามมาต้องรอ เป็นสาเหตุของรถติด
เราเลยเลือกที่จะถามก่อนขึ้น เพื่อลดปัญหาจราจร
คุณคนขับแท็กซี่ เป็นผู้หญิง ผอมๆ อายุไม่น่าจะเกิน 40 ปี ก็พยักหน้า เป็นนัยว่า "ไป"
พอเรากับ เอ ขึ้นรถเรียบร้อย คุณพี่แท็กซี่ก็ขับออกไป ระหว่างทาง เราสังเกตุว่าในรถมีองค์เทพเต็มไปหมด ทั้งรูปปั้น รูปถ่าย โปสเตอร์
ทั้งคอนโซนหน้ารถ ทั้งเพดานหลังคารถก็ติดเต็มไปหมด แต่นั่นก็เป็นความชอบส่วนบุคคล เราก็เข้าใจค่ะ
และอีกอย่างที่สังเกตได้คือการขับของคุณพี่เค้าาค่ะ รถก็ไม่ได้ติด ข้างหน้าแท็กซี่ ก็ไม่มีรถคันอื่น แล้วพี่เค้าจะขับๆ หยุดๆ ขับช้าๆ หรือบางทีมีรถแซงมาก็ไปจ่อท้ายเค้า ทั้งๆที่เลนอื่นก็ว่าง
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าแปปเดียวเองเดี๋ยวก็ถึงแล้ว
พอถึงที่หมายเข้าซอยราคำแหง 40 มา และเข้าซอยตรงไม่มีเลี้ยวเข้าซอยย่อยมา ประมาณ 500 เมตร มิเตอร์ ขึ้นเลข 43 บาท
เราหยิบเงินไม่ถนัด เพื่อนเลยจ่ายแบงค์ 50 บาท ไป
ด้วยปกติแล้ว เราจ่ายค่าบริการ หรือซื้อสินค้าใด เราก็ต้องรอเงินทอนเป็นเรื่องปกติ
แต่!!! มันไม่ปกติสำหรับพี่แท็กซึ่ท่านนี้ค่ะ
พอเรายืนแบงค์ 50 ไป คุณพี่แท็กซี่ เราก็นิ่ง คุณพี่แท็กซี่ ก็ถามว่า "รออะไร"
เรากับ เอ : "อ่าว เงินทอนไงคะ"
คุณพี่แท็กซี่ ก็ตะคอก ย้ำเลยค่ะว่าตะคอกเสียงเขียวมาก ใส่เรากับ เอ ว่า "จะงกอะไรกันนักกันหนา"
เอ คงฉุนอ่าค่ะ คือจะไม่ทอนก็บอกกันดีๆก็ได้ เอ เลยบอกว่า "งั้นของเงินคืนค่ะ เดี๋ยวจะหยิบพอดีให้"
เรากับเอ ก็ทำท่าหาเหรียญให้คุณพี่แท็กซึ่เค้าพอดีกับค่ามิตเตอร์
คุณพี่แท็กซี่ ก็เลยถอยรถออกมาอย่างเร็ว มาจอดตรงกลางซอย ซึ่งก็ไกลจากที่เราจะไปลงอยู่ถ้าไม่มีของอะไรมากมายคงไม่ซีเรียสอะไร เดินได้อยู่
คุณพี่แท็กซี่เค้าไม่สนค่ะ พอถึงกลางซอย เค้าก็ตะคอกกลับมาอีกว่า "ลงไปได้แล้วไป ไป!!! จะงกอะไรกันนักกันหนา"
เรากับเอ ก็ อึ้งค่ะ คิดในใจ "อะไรวะ งง ค่ะ คือพูดดีๆกันก็ได้" เออ พี่ไม่มีตังทอนนะอะไรก็ว่าไป พี่ขอละกันนะ เราก็ให้ได้ค่ะ
แต่มาพูดแบบนี้ เรากับเพื่อนๆจะทำยังไงหละคะ ก็ต้องลงสิคะ นึกในใจดีนะไม่ให้แบงค์ 100 ไป เห่อๆๆๆ
แล้วเรากับเอ ก็ต้องยอมรับชะตากรรมเดินมาให้ถึงห้อง บี ให้ได้
พร้อมกับอาการ งงๆ ว่า "ตกลงชั้นผิดใช่ปะเนี่ย ที่รอตังทอนเนี่ย"
จนลืมจำเลขทะเบียนพี่เค้า
เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ
ลักษณะของคุณพี่แท็กซึ่ : ผู้หญิง ผอม อายุไม่น่าเกิน 40
สีรถ : มันมืดเลยไม่ได้สังเกต อีกอย่างคิดว่าไปไม่ไกล เลยไม่ได้จำค่ะ แค่คับคล้ายคับคลาว่าจะเป็นสีชมพู
บรรยากาศภายในรถ : มีองค์เทพเยอะมาก ทั้งคอนโซนหน้ารถ เพดานหลังคารถ
ลักษณะการขับ : ช้าๆ เบรกบ่อยๆ เมื่อไม่มีเหตุจำเป็นต้องเบรก หรือ ขับจ่อท้ายรถคันหน้า
คือเราไม่ได้เหมาว่าแท็กซี่ไม่ดีทุกคนนะคะ แต่ที่เจอไม่ดี มันดันเยอะกว่าดีเท่านั้นเอง
ร้อยพ่อพันแม่ วันไหนเจอแท็กซี่ดีๆนะ ดีใจอย่างกะถูกหวยแหนะ
เราก็สงสารคนดีๆเค้า ที่จะทำมาหากินลำบากขึ้นอ่าค่ะ
เราเคยเจอแท็กซึ่ผู้ชายคนนึง ดีมากกกกกกกกก
พูดจาดีอย่างกับพนักงานโรงแรมไฮโซ ขับรถนิ่ม
เข้าซอยก็ไม่มีบ่นซักคำ ครับๆ ได้เลยครับ ตลอด
รถติดก็ไม่บ่น จะเปิดเพลงฟังก็ไม่ได้อยู่ๆก็เปิดมาดังลั่น
แต่ก็ถามเราว่า อยากฟังเพลงมั้ยครับ เดี๋ยวผมเปิดให้ ฯลฯ
ตอนเราลงก็อวยพรให้พี่เค้าเจริญๆอีก คนดีๆแบบนี้หายากจริงๆค่ะ
อยากให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
และเราสงสารพี่คนนี้อ่าค่ะ ที่เค้าเป็นคนดี กลัวว่าเค้าจะหากินลำบากขึ้น
เพราะผู้โดยสารมักจะมีประสบการณ์ไม่ดีกับพี่ๆแท็กซี่ท่านอื่นๆ
สาเหตุที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นส่วนหนึ่ง
คืออยากรู้ว่า เคยมีใครเจอ พี่แท็กซึ่ ผู้หญิงคนนี้บ้างมั้ยอ่าคะ?
คือเราไม่ได้มโนไปเองใช่มั้ยอ่าคะว่าเรารู้สึกแย่อ่า?
ถ้าใครเคยเจอมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ