เอาล่ะ สนช. ยอมถอยแบบเสียไม่ได้ไปแล้ว คราวนี้ มาดู สปช. กันบ้าง ว่ามีการแต่งตั้งลูก ผัว เมีย เครือญาติ บ้างไหม

สปช. นั้น  มีสิทธิ์แต่งตั้งบุคคล  ดังนี้

(1) ที่ปรึกษาประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 1 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 72,660 บาท

(2) ที่ปรึกษารองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ
      มีจํานวนเท่าจํานวนรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 72,660 บาท

(3 ) เลขานุการประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 1 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 49,210 บาท

(4) เลขานุการรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ
      มีจํานวนเท่าจํานวนรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 49,210 บาท

(5) ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 1 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 43,490 บาท

(6) ผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ
      มีจํานวนเท่าจํานวนรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 43,490 บาท

(ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการแต่งตั้งที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการของประธานสภาและรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. 2557)


และ

(1) คณะทํางานทางการเมืองของประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

(2) คณะทํางานทางการเมืองของรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

คณะทํางานทางการเมือง ให้มีตําแหน่ง จํานวนและอัตราค่าตอบแทน ดังต่อไปนี้

(1) ที่ปรึกษา จํานวน 3 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 20,000 บาท

(2) นักวิชาการ จํานวน 3 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 18,000 บาท

(3) เลขานุการ จํานวน 2 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 15,000 บาท

และ

เพื่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
ให้มีการแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติแต่ละคน ในตําแหน่ง จํานวน และอัตราค่าตอบแทน ดังนี้

(1) ผู้เชี่ยวชาญประจําตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 1 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 24,000 บาท

(2) ผู้ชํานาญการประจําตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 1 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 20,000 บาท

(3) ผู้ช่วยดําเนินงานของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จํานวน 3 อัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดือนละ 15,000 บาท

(ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติหน้าที่อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ
และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. 2557)



ก็ต้องสืบค้นครับ   ว่า สปช. แต่ละคน  ตั้งใครมาบ้าง
เอาลูก ผัว เมีย เครือญาติ  มาแบบ สนช. หรือไม่



อีกอย่าง  (ตรงนี้ไม่ยืนยันนะครับ)
คุณสมบัติของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งตามที่ สปช. และ สนช. แต่งตั้งตามระเบียบรัฐสภานั้น
ว่ากันว่า  ต้องมีคุณสมบัติในลักษณะคล้าย ๆ ดังนี้

1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือ
2. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และเคยปฏิบัติหรือประสานงานด้านการเมือง มาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือ
3. ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และเคยปฏิบัติหรือประสานงานด้านการเมือง มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ
4. ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และเคยปฏิบัติหรือประสานงานด้านการเมือง มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี หรือ
5. สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ)
    และเคยปฏิบัติหรือประสานงานทางด้านการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า ๗ ปี


ก็ต้องสืบค้นครับ  ว่าบรรดาลูกเมียเครือญาติ  ที่ สนช.แต่งตั้ง  และอาจมีใน สปช. ด้วยนั้น
มีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่

หากไม่   ต้องคืนเงิน  เพราะถือว่าไม่มีคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น

นอกจากนั้น   ก็น่าสงสัยอีกเรื่องครับ
คือสงสัยว่า  "เงินเดือน" ของเหล่าบรรดาบุคคลที่ สนช. และ สปช. แต่งตั้งนี่
ไปเข้ากระเป๋าใคร ???

ถ้าแต่งตั้งลูก เมีย  ก็แน่ครับ  ว่าเงินไม่ไปไหน   ฉวยโอกาสแต่งตั้งลูกเมียมากินเงินเดือนนั่นแหละ

แต่หากแต่งตั้งพี่ น้อง ญาติ คนรู้จัก หรือใครอื่นก็ตาม  นั้น
เงินเดือนเป็นของบรรดาบุคคลที่ถูกแต่งตั้งจริงหรือไม่  หรือแค่ "ยืมชื่อ" มา  เพื่อให้บรรดา สนช.  สปช. รับเงินหวาน ๆ อีกหลายหมื่น

งานนี้   ปรธาน สปช.  และ  ประธาน สนช.  ตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดสักหน่อยดีไหมครับ

กล้าหาญสักหน่อยสิครับ




ขอคนไม่ดี  ไล่ล่าคนดีบ้างเหอะ