คบกับแฟนมาหลายปี (เกือบ10ปี มั้งจำไม่ค่อยได้) เมื่อช่วงต้นเดือนมาบอกเราว่า รู้สึกกับเราแค่เพื่อน (เฮ้อออ...เพื่อนเท่านั้น)
แต่ก่อนอื่นนะคะ ต้องบอกก่อนว่า ระหว่างทางก็มีระหองระแหงมากมาย เรื่องอารมณ์ขี้โมโห หงุดหงิด พูดจาทำร้ายจิตใจ เพราะว่าคำพูดของเรามันแรง เขาก็ว่าเราและบ่นๆ เราก็มีเถียงๆกันไปเรื่อย เราก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาอะไร (อีกอย่างเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมด้วย จากเพื่อนและคบมาเป็นแฟนก็10กว่าปี) แต่จุดสุดยอดมันตรงนี้...
เขาบอกว่า ไอ้เรื่องที่เราแอบมีกิ๊กเมื่อ5ปีก่อน มันเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้เลย เขาพยายามอดทน พยายามทำใจ ไม่คิด แต่มันไม่เคยลืมเลย (ทั้งๆที่เรื่องนี้เราเคลียส์กันแล้ว เขาเองก็ให้อภัยแล้วด้วยนะ...5ปีก่อนค่ะ เมื่อ5ปีก่อน)
เอ้าาา...สรุปว่าเรื่องเมื่อ5ปีก่อนนี้แหล่ะ มันเป็นจุดที่เขารับไม่เคยได้เลย (เป็นเรื่องหลักๆ) แล้วมารวมกับไอ้ที่เรานิสัย ขี้โมโห อารมณ์ร้ายเวลาโมโห บลาๆ พวกนี้ (เป็นเรื่องรอง) เขาเลยรู้สึกอยากหยุดความสัมพันธ์กับฉัน (แต่มันก็อดคิดไม่ได้เนอะ เมื่อปี2556-2557 ยังวางแผนกับเราเรื่องแต่งงานเลย นี่มันอะไรฟร่ะ!!! คือคิดนะ แต่ต่อยอดไม่ได้เพราะตอนนี้มันจบแล้ว พูดไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา)
บอกอย่างไม่อายเลยว่า...งานนี้มียื้อ มีง้อ มีทุกอย่าง แต่...ผู้ชายเขาไม่รักแล้วอ๊ะ! บอกเลยนะคะว่าถ้าคุณคบกับแฟน แล้ววันนึงแฟนคุณมาบอกว่า "เราเป็นเพื่อนกันดีกว่าไหม" "เราอยู่ห่างๆกันซักพัก" คือเขาจะขอเลิกนะคะ!! แต่เขาเกรงใจเรากลัวเราเสียใจ ตอนแรกเราก็รับไม่ได้เราเลยบอกเขาว่า งั้นเลิกกันดีกว่า ห่างกับเลิกไม่ต่างกัน แล้วเราก็ร้องไห้ฟูมฟายT_T สงสัยผู้ชายจะตกใจอาการคลุ้มคลั่ง คุมสติไม่อยู่ของเรา ผู้ชายก็บอกว่า "ไม่ได้จะเลิกคับ แค่ขอห่างซักพัก" หลังจากนั้นเราก็ห่างบ้างเจอบ้าง เพราะไปรบเร้าถามเขามากๆเขาก็เริ่มพูดจาเสียงแข็งใส่เรา เราเลยถอยห่างมาดีกว่า แต่พอมาเมื่อสักพัก เมื่อกี้เลย เมื่อกี้เลยยยยย ...ได้คุยกันตรงๆ เราทนไม่ไหวเลยถามเขาว่า...
เรา : เทอตกลงนี่เราสถานะไหนเนี่ย ไหนเทอบอกว่าไม่ได้จะเลิกกับเรา?
ผู้ชาย : อืม เรากลัวเทอเสียใจ เราเลยอยากให้เวลา
เรา : คือจะขอเลิกใช่ไหม?
ผู้ชาย : อืม
เรา : นานแค่ไหนแล้วเนี่ย ที่คิดเรื่องนี้
ผู้ชาย : ประมาณ 1 ปี
เรา : เทอ ที่หลังก็บอกตรงๆเถอะ เจ็บเหมือนกัน จะบอกแบบไหนเจ็บเหมือนกัน เราอยากเจ็บแบบรู้เรื่อง ไม่อยากเจ็บแบบงงๆ เทอ ถามตรงๆนะ มีใครหรือเปล่าบอกได้เลย ฉันไม่ยื้อเทอหรอก
ผู้ชาย : ไม่มี ไม่มีใครเลย เรายังเป็นห่วงเทอเหมือนเดิมนะ
จากนั้นก็คุยทั่วไปแล้วค่ะ เราก็บ่นๆว่า ไปกันไม่ได้ก็จบ จะมาทนๆทำไมให้เสียเวลา บลาๆๆ (ก็ออกแนวบ่นๆ คือ เริ่มทำใจได้เยอะแล้วค่ะ)
ที่ตั้งกระทู้นี้ ก็ไม่มีอะไรมาก...แค่อยากจะบอกว่า...กว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่อยากจะบอกว่าน้ำตาท่วมหมอน คุยกะเพื่อนเป็น10คน ระบายๆ พูดๆแต่เรื่องเดิมๆ (สงสารเพื่อนมาก เพราะว่าพูดแต่เรื่องเดิมจริงๆ555) แล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนี้ผ่านมา23วันแล้ว ดีขึ้นมาบ้าง (น้ำตาไม่ท่วมหมอน) และการได้มาอ่านพันทิปบ้าง (อ่านอยู่เรื่องเดียว ความรักๆๆๆ) ตอบกระทู้ให้กำลังใจเพื่อนๆในพันทิปบ้าง และเพื่อนๆของเราที่เราโทรไประบายก็จะให้แง่คิดต่างๆนาๆบ้าง ก็ได้มีกำลังใจนะ แต่มันไม่ได้หายดีเท่าไหร่เลย
แต่ที่อาการค่อยๆดีขึ้น คือ เวลา และเราก็ฟังไฟล์เสียงครูอ้อย(ฐิตินาถ) เวลา+ข้อคิด ทำให้เริ่มปลงเริ่มเข้าใจ กลับมาดูใจเรา และเข้าใจในมุมผู้ชาย จากโกรธ เกลียด เป็น เฉยๆ จากที่อยากจะตัดออกไปจากชีวิตเลย มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น ทำให้กลับมารักตัวเองมากขึ้น ทำอะไรให้ตัวเรามากขึ้น
ทำให้รู้ว่า "เราสามารถมีความสุขได้ โดยไม่ต้องเอาชีวิตไปผูกอยู่กับใคร" "ใครไม่รักเรา ช่างเขา สำคัญคือเราต้องรักตัวเอง" "เราอย่าเอาปมเขา มาเป็นปมเรา" และ "ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อส่งเราไปยังจุดที่ดีที่สุดเสมอ"
ทุกครั้งที่เราคิดเรื่องผู้ชาย เราจะมีความคิดนึงมาตัดเรื่องนี้ออกไป คือ ทุกวันนี้ยังดูแลพ่อแม่ไม่ได้ดีเลย ยังจะมาฟูมฟายกับผู้ชายคนเดียวอีกเหรอ ดูแลพ่อแม่ให้ดีก่อนเถอะ!! ให้พ่อแม่อยู่สุขสบายก่อนนะ ค่อยมาดราม่าเรื่องผู้ชาย!! (ประโยคนี้เพื่อนจัดมาให้ และเราเองก็เห็นหน้าพ่อแม่เวลาไปหาที่ต่างจังหวัด เห็นพ่อแม่ทำงาน เห็นพ่อแม่ยังเหนื่อย) จากนั้นก็ตั้งสติได้ ก็เลิกคิด พอคิดมาอีก ก็จะตัดความคิดออก วันๆหนึ่งคิดไม่รู้กี่ล้านรอบ ทรม๊านทรมานT_T พอรู้ว่าคิดที่ไร ก็ใส่สติเข้าไปทำบ่อยๆมันก็ช่วยได้ จากที่มีน้ำตา มันก็ค่อยๆหายไป กลับมาสำรวจตัวเอง ความไม่ดีใดๆของเราก็ค่อยๆแก้ไขไป กลับไปหาพ่อแม่บ่อยขึ้น เริ่มดูแลตัวเอง จากที่ไม่คิดจะออกกำลังกาย ป่วยพะงาบๆเข้าออกโรงพยาบาลด้วยโรคเดิมๆมา3-4ปี ตอนนี้ก็สมัครคอร์สว่ายน้ำ เริ่มวิ่งตอนเย็น และหันไปซบอกเพื่อนเยอะๆ (เพื่อนรออยู่ 555)
เดี๋ยวเราจะมาแชร์บทความดีๆ ที่เราหาอ่านได้จากที่พันทิป และ ไฟล์เสียงที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น เผื่อใครอ่าน ใครฟังแล้วพอเป็นประโยชน์หรือเริ่มทำใจให้สบายๆได้ก็ลองดูนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ประสบปัญหาความรักนะคะ
ปล1. แต่ก่อนเราสวดมนต์และนั่งสมาธิด้วย แต่ด้วยความขี้เกียจก็ทิ้งร้างไปนาน ตอนนี้เริ่มกลับมาสวดมนต์แล้ว ก็พอช่วยให้จิตสงบบ้าง เราเชื่อว่า เราจะค่อยๆดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น และมีทักษะที่ดีขึ้นในการใช้ชีวิตทุกๆเรื่อง หากเพื่อนๆคนไหนเข้ามาอ่านแล้วอยากแชร์ไอเดียที่เด็ดกว่านี้ก็แชร์มาเลยนะคะ
ปล2. ช่วงแรกเหงามากบอกเลย นังเพื่อนที่มีแฟนก็ชอบนัดแล้วเบี้ยวไปกับแฟนตลอดๆ 555
บอกลาความรัก ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง (พอแล้วกับ10ปี ที่มีกันและกัน)
แต่ก่อนอื่นนะคะ ต้องบอกก่อนว่า ระหว่างทางก็มีระหองระแหงมากมาย เรื่องอารมณ์ขี้โมโห หงุดหงิด พูดจาทำร้ายจิตใจ เพราะว่าคำพูดของเรามันแรง เขาก็ว่าเราและบ่นๆ เราก็มีเถียงๆกันไปเรื่อย เราก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาอะไร (อีกอย่างเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมด้วย จากเพื่อนและคบมาเป็นแฟนก็10กว่าปี) แต่จุดสุดยอดมันตรงนี้...
เขาบอกว่า ไอ้เรื่องที่เราแอบมีกิ๊กเมื่อ5ปีก่อน มันเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้เลย เขาพยายามอดทน พยายามทำใจ ไม่คิด แต่มันไม่เคยลืมเลย (ทั้งๆที่เรื่องนี้เราเคลียส์กันแล้ว เขาเองก็ให้อภัยแล้วด้วยนะ...5ปีก่อนค่ะ เมื่อ5ปีก่อน)
เอ้าาา...สรุปว่าเรื่องเมื่อ5ปีก่อนนี้แหล่ะ มันเป็นจุดที่เขารับไม่เคยได้เลย (เป็นเรื่องหลักๆ) แล้วมารวมกับไอ้ที่เรานิสัย ขี้โมโห อารมณ์ร้ายเวลาโมโห บลาๆ พวกนี้ (เป็นเรื่องรอง) เขาเลยรู้สึกอยากหยุดความสัมพันธ์กับฉัน (แต่มันก็อดคิดไม่ได้เนอะ เมื่อปี2556-2557 ยังวางแผนกับเราเรื่องแต่งงานเลย นี่มันอะไรฟร่ะ!!! คือคิดนะ แต่ต่อยอดไม่ได้เพราะตอนนี้มันจบแล้ว พูดไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา)
บอกอย่างไม่อายเลยว่า...งานนี้มียื้อ มีง้อ มีทุกอย่าง แต่...ผู้ชายเขาไม่รักแล้วอ๊ะ! บอกเลยนะคะว่าถ้าคุณคบกับแฟน แล้ววันนึงแฟนคุณมาบอกว่า "เราเป็นเพื่อนกันดีกว่าไหม" "เราอยู่ห่างๆกันซักพัก" คือเขาจะขอเลิกนะคะ!! แต่เขาเกรงใจเรากลัวเราเสียใจ ตอนแรกเราก็รับไม่ได้เราเลยบอกเขาว่า งั้นเลิกกันดีกว่า ห่างกับเลิกไม่ต่างกัน แล้วเราก็ร้องไห้ฟูมฟายT_T สงสัยผู้ชายจะตกใจอาการคลุ้มคลั่ง คุมสติไม่อยู่ของเรา ผู้ชายก็บอกว่า "ไม่ได้จะเลิกคับ แค่ขอห่างซักพัก" หลังจากนั้นเราก็ห่างบ้างเจอบ้าง เพราะไปรบเร้าถามเขามากๆเขาก็เริ่มพูดจาเสียงแข็งใส่เรา เราเลยถอยห่างมาดีกว่า แต่พอมาเมื่อสักพัก เมื่อกี้เลย เมื่อกี้เลยยยยย ...ได้คุยกันตรงๆ เราทนไม่ไหวเลยถามเขาว่า...
เรา : เทอตกลงนี่เราสถานะไหนเนี่ย ไหนเทอบอกว่าไม่ได้จะเลิกกับเรา?
ผู้ชาย : อืม เรากลัวเทอเสียใจ เราเลยอยากให้เวลา
เรา : คือจะขอเลิกใช่ไหม?
ผู้ชาย : อืม
เรา : นานแค่ไหนแล้วเนี่ย ที่คิดเรื่องนี้
ผู้ชาย : ประมาณ 1 ปี
เรา : เทอ ที่หลังก็บอกตรงๆเถอะ เจ็บเหมือนกัน จะบอกแบบไหนเจ็บเหมือนกัน เราอยากเจ็บแบบรู้เรื่อง ไม่อยากเจ็บแบบงงๆ เทอ ถามตรงๆนะ มีใครหรือเปล่าบอกได้เลย ฉันไม่ยื้อเทอหรอก
ผู้ชาย : ไม่มี ไม่มีใครเลย เรายังเป็นห่วงเทอเหมือนเดิมนะ
จากนั้นก็คุยทั่วไปแล้วค่ะ เราก็บ่นๆว่า ไปกันไม่ได้ก็จบ จะมาทนๆทำไมให้เสียเวลา บลาๆๆ (ก็ออกแนวบ่นๆ คือ เริ่มทำใจได้เยอะแล้วค่ะ)
ที่ตั้งกระทู้นี้ ก็ไม่มีอะไรมาก...แค่อยากจะบอกว่า...กว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่อยากจะบอกว่าน้ำตาท่วมหมอน คุยกะเพื่อนเป็น10คน ระบายๆ พูดๆแต่เรื่องเดิมๆ (สงสารเพื่อนมาก เพราะว่าพูดแต่เรื่องเดิมจริงๆ555) แล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนี้ผ่านมา23วันแล้ว ดีขึ้นมาบ้าง (น้ำตาไม่ท่วมหมอน) และการได้มาอ่านพันทิปบ้าง (อ่านอยู่เรื่องเดียว ความรักๆๆๆ) ตอบกระทู้ให้กำลังใจเพื่อนๆในพันทิปบ้าง และเพื่อนๆของเราที่เราโทรไประบายก็จะให้แง่คิดต่างๆนาๆบ้าง ก็ได้มีกำลังใจนะ แต่มันไม่ได้หายดีเท่าไหร่เลย
แต่ที่อาการค่อยๆดีขึ้น คือ เวลา และเราก็ฟังไฟล์เสียงครูอ้อย(ฐิตินาถ) เวลา+ข้อคิด ทำให้เริ่มปลงเริ่มเข้าใจ กลับมาดูใจเรา และเข้าใจในมุมผู้ชาย จากโกรธ เกลียด เป็น เฉยๆ จากที่อยากจะตัดออกไปจากชีวิตเลย มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น ทำให้กลับมารักตัวเองมากขึ้น ทำอะไรให้ตัวเรามากขึ้น
ทำให้รู้ว่า "เราสามารถมีความสุขได้ โดยไม่ต้องเอาชีวิตไปผูกอยู่กับใคร" "ใครไม่รักเรา ช่างเขา สำคัญคือเราต้องรักตัวเอง" "เราอย่าเอาปมเขา มาเป็นปมเรา" และ "ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อส่งเราไปยังจุดที่ดีที่สุดเสมอ"
ทุกครั้งที่เราคิดเรื่องผู้ชาย เราจะมีความคิดนึงมาตัดเรื่องนี้ออกไป คือ ทุกวันนี้ยังดูแลพ่อแม่ไม่ได้ดีเลย ยังจะมาฟูมฟายกับผู้ชายคนเดียวอีกเหรอ ดูแลพ่อแม่ให้ดีก่อนเถอะ!! ให้พ่อแม่อยู่สุขสบายก่อนนะ ค่อยมาดราม่าเรื่องผู้ชาย!! (ประโยคนี้เพื่อนจัดมาให้ และเราเองก็เห็นหน้าพ่อแม่เวลาไปหาที่ต่างจังหวัด เห็นพ่อแม่ทำงาน เห็นพ่อแม่ยังเหนื่อย) จากนั้นก็ตั้งสติได้ ก็เลิกคิด พอคิดมาอีก ก็จะตัดความคิดออก วันๆหนึ่งคิดไม่รู้กี่ล้านรอบ ทรม๊านทรมานT_T พอรู้ว่าคิดที่ไร ก็ใส่สติเข้าไปทำบ่อยๆมันก็ช่วยได้ จากที่มีน้ำตา มันก็ค่อยๆหายไป กลับมาสำรวจตัวเอง ความไม่ดีใดๆของเราก็ค่อยๆแก้ไขไป กลับไปหาพ่อแม่บ่อยขึ้น เริ่มดูแลตัวเอง จากที่ไม่คิดจะออกกำลังกาย ป่วยพะงาบๆเข้าออกโรงพยาบาลด้วยโรคเดิมๆมา3-4ปี ตอนนี้ก็สมัครคอร์สว่ายน้ำ เริ่มวิ่งตอนเย็น และหันไปซบอกเพื่อนเยอะๆ (เพื่อนรออยู่ 555)
เดี๋ยวเราจะมาแชร์บทความดีๆ ที่เราหาอ่านได้จากที่พันทิป และ ไฟล์เสียงที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น เผื่อใครอ่าน ใครฟังแล้วพอเป็นประโยชน์หรือเริ่มทำใจให้สบายๆได้ก็ลองดูนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ประสบปัญหาความรักนะคะ
ปล1. แต่ก่อนเราสวดมนต์และนั่งสมาธิด้วย แต่ด้วยความขี้เกียจก็ทิ้งร้างไปนาน ตอนนี้เริ่มกลับมาสวดมนต์แล้ว ก็พอช่วยให้จิตสงบบ้าง เราเชื่อว่า เราจะค่อยๆดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น และมีทักษะที่ดีขึ้นในการใช้ชีวิตทุกๆเรื่อง หากเพื่อนๆคนไหนเข้ามาอ่านแล้วอยากแชร์ไอเดียที่เด็ดกว่านี้ก็แชร์มาเลยนะคะ
ปล2. ช่วงแรกเหงามากบอกเลย นังเพื่อนที่มีแฟนก็ชอบนัดแล้วเบี้ยวไปกับแฟนตลอดๆ 555