พรบ.นิรโทษล้มเจ้ปู เมื่อพรบ.นี้ออกช่วงเช้ามืด เมื่อฟ้าสว่าง ทุกคนก็ร้องยี้ เพราะทุกคนต้องการเห็นผู้ทำผิดต้องถูกดำเนินคดี พรบ.นี้จึงไม่สมควร
เพราะพรบนี้ทั้งแดงทั้งเหลืองคนที่ไม่สนใจการเมืองก็ไม่เอาด้วย เจ้ปูจึงสนองตอบยอมรับความผิดพลาดด้วยการยุบสภา
ม๊อบพรบ.นิรโทษรวมสีรวมเหล่ารวมกัน สร้างความสามัคคีสร้างความรวมใจทางการเมืองเป็นครั้งแรก เมื่อยุบสภา ม๊อบกลับบ้าน ม๊อบก็เป็นฮีโร่ของชาติ และแกนนำม๊อบคือประชาธิปัติ เมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ก็โหนกะแสนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปัติก็ชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน และนายอภิสิทธ์ก็ได้เป็นนายกโดนสมศักศรีทุกคนยอมรับ
แต่เมื่อม๊อบกลายพันธ์จากม๊อบผู้ดีมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ล่วงระเมิดสิทธ์ผู้อื่น เปลี่ยนแปลงโดยทันที นายสุเทพประกาศยึดอำนาจตั้งแต่วันแรกที่ยุบสภา อ้างอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน(ใช่ครับของปวงชนแต่ไม่ใช่ของนายสุเทพและคณะ) ม๊อบต่อต้านการทำผิดกฏหมายดันทำผิดกฏหมายเอง และความรุนแรงก็ทวีขึ้นเรื่อยๆ เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการณ์ลาออกทั้งคณะเพื่อสร้างสูญญากาศทางการเมือง(แต่ปี53แค่ยุบสภาหนีคาวเลือดคุณก็ไม่ยุบ) มีการปิดกรุงเทพและล้มการเลือกตั้ง สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงยุยงให้เกิดการฆ่ากัน จับชาวนาเป็นตัวประกันจนเสียชีวิต แล้วนำศพขึ้นโหนป้ายสีสร้างความเกลียดชังแก่ฝ่ายตรงข้าม ด่าเค้าหมาลอบกัด(ทีปี53ใช่กะสุนจริงและคนในวัดประทุมล่ะเค้าหนีตาย ไยจึงฆ่าเขา)
สุดท้ายเมื่อม๊อบเมื่อทั้งม๊อบทั้งรัฐบาลอ่อนแรงเหนื่อยล้า ผบทบ.ก็ยึดอำนาจ ยึดจากไคร เจ้ปูไม่อยู่แล้วรัฐบาลก็ไม่มี จึงเป็นการยึดอำนาจจากม๊อบนั้นเอง แม้นายสุเทพจะโชว์ใบเสร์จว่าใช่เงินไปถึง1400ล้าน ท่านผบทบ.ก็สับขาหลอกบอกว่าหนูไม่รู้ สุดท้ายก็ลาไปบวช ปิดฉากการเคลื้อนไหว
แค่เลือกตั้งประชาธิปัต์ก็ชนะ แต่นายสุเทพหวังชิงอำนาจเอง สุดท้ายก็แมวคาบไปทาน
ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง จึงเป็นเพียงวาทะกรรม คุณจำได้ไหม นายกต้องมาจากการเลือกตั้ง หยุดทำร้ายประเทศไทย มันมาจากคนคนเดียวทั้งสิ้น คุณไม่เคยจำ สุดท้ายก็โดนลวงให้ไปเดิน และนายสุเทพก็โดนหลอกไปด้วยอีกคน สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ
เหตุที่ล้มเลือกตั้ง
เพราะพรบนี้ทั้งแดงทั้งเหลืองคนที่ไม่สนใจการเมืองก็ไม่เอาด้วย เจ้ปูจึงสนองตอบยอมรับความผิดพลาดด้วยการยุบสภา
ม๊อบพรบ.นิรโทษรวมสีรวมเหล่ารวมกัน สร้างความสามัคคีสร้างความรวมใจทางการเมืองเป็นครั้งแรก เมื่อยุบสภา ม๊อบกลับบ้าน ม๊อบก็เป็นฮีโร่ของชาติ และแกนนำม๊อบคือประชาธิปัติ เมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ก็โหนกะแสนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปัติก็ชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน และนายอภิสิทธ์ก็ได้เป็นนายกโดนสมศักศรีทุกคนยอมรับ
แต่เมื่อม๊อบกลายพันธ์จากม๊อบผู้ดีมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ล่วงระเมิดสิทธ์ผู้อื่น เปลี่ยนแปลงโดยทันที นายสุเทพประกาศยึดอำนาจตั้งแต่วันแรกที่ยุบสภา อ้างอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน(ใช่ครับของปวงชนแต่ไม่ใช่ของนายสุเทพและคณะ) ม๊อบต่อต้านการทำผิดกฏหมายดันทำผิดกฏหมายเอง และความรุนแรงก็ทวีขึ้นเรื่อยๆ เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการณ์ลาออกทั้งคณะเพื่อสร้างสูญญากาศทางการเมือง(แต่ปี53แค่ยุบสภาหนีคาวเลือดคุณก็ไม่ยุบ) มีการปิดกรุงเทพและล้มการเลือกตั้ง สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงยุยงให้เกิดการฆ่ากัน จับชาวนาเป็นตัวประกันจนเสียชีวิต แล้วนำศพขึ้นโหนป้ายสีสร้างความเกลียดชังแก่ฝ่ายตรงข้าม ด่าเค้าหมาลอบกัด(ทีปี53ใช่กะสุนจริงและคนในวัดประทุมล่ะเค้าหนีตาย ไยจึงฆ่าเขา)
สุดท้ายเมื่อม๊อบเมื่อทั้งม๊อบทั้งรัฐบาลอ่อนแรงเหนื่อยล้า ผบทบ.ก็ยึดอำนาจ ยึดจากไคร เจ้ปูไม่อยู่แล้วรัฐบาลก็ไม่มี จึงเป็นการยึดอำนาจจากม๊อบนั้นเอง แม้นายสุเทพจะโชว์ใบเสร์จว่าใช่เงินไปถึง1400ล้าน ท่านผบทบ.ก็สับขาหลอกบอกว่าหนูไม่รู้ สุดท้ายก็ลาไปบวช ปิดฉากการเคลื้อนไหว
แค่เลือกตั้งประชาธิปัต์ก็ชนะ แต่นายสุเทพหวังชิงอำนาจเอง สุดท้ายก็แมวคาบไปทาน
ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง จึงเป็นเพียงวาทะกรรม คุณจำได้ไหม นายกต้องมาจากการเลือกตั้ง หยุดทำร้ายประเทศไทย มันมาจากคนคนเดียวทั้งสิ้น คุณไม่เคยจำ สุดท้ายก็โดนลวงให้ไปเดิน และนายสุเทพก็โดนหลอกไปด้วยอีกคน สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ