เจ้าของกิจการ ต้องทำใจกับคนงานทุจริต มันคือเรื่องปกติจริงหรอ???

**กระทู้แท็กผิดขออภัยด้วยนะคะ**

ขอเริ่มเราประหวัดคร่าวๆเราก่อนนะคะ.  เราอายุ 21 ปี เป็นพี่คนโตมีน้องชาย1คน. แต่งงานมีครอบครัว. ที่บ้านเปิดร้ายขายส่งสินค้า. ด้วยความที่เราเปนลูกคนโตพ่อแม่.อยากให้มีอะไรเป็นของตัวเอง. เรากับที่บ้านตกลงกันว่าจะเปิดคาร์แคร์ให้     เราเริ่มต้นจากการหาคนงานมาอยู่ที่ร้าน 2คน เปนคู่ผัวเมีย ซึ่งเป็นญาติฝ่ายแม่เรา. ด้วยความที่เราต้องทำงานทั้งที่ร้านพ่อ และเปิดร้านของตัวเอง. เรยไม่มีเวลาไปดูร้านบ่อยนัก. นานๆทีจะไปดูร้านแล้วเช็ดยอดกับเก็บเงินมา. มันเรยเป็นช่องว่างให้นังลูกจ้างตัวดีเห็นช่องทางคตโกงเรา. บางวันลูกค้าเยอะนางก็บ่นกับเราว่าเหนื่อยอยากได้คนมาช่วย. พักหลังเราเรยจ้างพี่ชายของนางกับเมียมาอยู่ช่วยที่ร้าน  แรกๆก็ดูราบรื่นไม่มีปัญหา บวกกับช่วงที่ร้านพ่อเรางานยุ่งเรยไม่ได้ออกมาดูร้าน. แม่เราจะเปนคนเช็คกับนาง *สมมุติชื่อนังยักษ์. 😸.  ทุกๆวันก็จะบอกรถ 9 คันบ้าง.   4คันบ้าง. คือเราเอะใจว่าทำไมมัยอดมันลดเยอะ. แต่ด้วยความใว้ใที่เป็นญาติกันเรยไม่ได้พูดอะไร. แล้วก็มีเรื่องเข้าหูตลอดว่านังยักษ์อู้.  ว่างก็เอาบ้านเราไปนินทา. พูดจากับเราได้มาก.   แต่ต่อหน้พ่อแม่เราพูดดี๊ดี. วางอำนาจชี้นิ้วใช้คนอื่นทำงานแล้วตัวเองมานอนแชทในออฟฟิตสบายๆ. ใช้เงินของคาร์แคร์. และลงบัญชีไม่ครบมาตลอด. 😏😏   พอเรารู้ ปรี๊ดเรยค่ะ. รีบมาคุยกับพ่อแม่ว่าจะแก้ปัญหายังไงดี. สรุป'เรากลายเป็นคนผิดค่ะ.  คือแม่กับพ่อว่าเราหูเบา. ใจแคบ. (ณ ตอนนั้นเรานอยมากอ่ะ.  เรไม่เข้าใจเราผิดอะไร). คือเราพลาดที่เราไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดแต่แรก.   ตอนนี้ไม่ว่าเราจะพูดอะไร. ทำอะไรเรากลายเปนมีอคติกับคนงานเฉยเรย. เราไม่เข้าใจเราแค่อยากปกป้องของๆตัวเอง.  มีการเช็คยอดกับคนงานอีกคนยอดก็ไม่เคยตรงกับของนังยักษ์. ยอดนังยักษ์จะน้อยกว่าตลอด.  แต่พ่อแม่เราไม่ยอมไล่นาง
ออก.   คือมันแย่อ่ะ.  เราไม่สามรถทำอะไรกับคนแบบนี้ได้เรยร๋อ.??   เราเริ่มท้อ.  มันไม่เห็นเพอร์เฟคเรย.  เหนื่อยมากทำดี แต่กลับโดนว่า. นอยมาก 😭😭

#แค่อยากมาระบาย. อึดอัดมาก