คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เหมือนกันเลยค่ะ
คือเราคบกับแฟนมาตั้งแต่ ม.3 จนเราเรียนจบ ป.ตรี และ เรียนจบทำงานมาสามปี เริ่มมีปัญหาตอนทำงาน ทะเลาะกันไม่สนใจ ในใจเราก็คิดว่าเค้ามีกิ๊กรึเปล่าแต่ไม่เคยจับติด จนปลายปี 2555 เพิ่งมารุ้ความจิงว่าเค้ามีกิ๊กและคบกันมาสามปีแต่เพิ่งมามีอะไรกันตอนสองสามเดือนหลัง พอเราจับได้เค้าก็มีใจไปทางคนใหม่พอเราถามว่าจะเลือกใครเค้าบอกว่าขออยู่กันสามคน เรารับไม่ได้ ตอนแรกๆก็ทำใจไมได้ง้อเขาทุกอย่างแต่เค้าก็ผลักไสเราแบบคนไม่เคยรักกัน เราเลยเป็นฝ่ายตัดใจบอกเลิกแต่เค้าบอกว่าไม่เลิกยังไงๆๆก็ไม่เลิก เราก็เป็นฝ่ายถอยห่างอยุ่กับเพื่อนตลอดเวลาเกือบเดือน เค้าก็ไม่เคยโทรหาเราง้อเรา แต่เราถามความเป็นไปของเค้าจากเพิ่ลเค้า เค้าไปอยุ่กับแฟนใหม่ตลอด เราจึงทำใจได้ แต่พอเราทำใจได้เค้ากลับมา มาง้อเราทำทุกอย่างเพื่อเรา เราด่าเราไล่ยังไงก็ไม่ไป ในใจเราตอนนั้นสะใจน่ะ แต่ในใจจริงๆก็มีสงสาร ถามตัวเองว่ารักเค้าอีกมั้ยก็รักแต่น้อยลงจากเมื่อก่อนเต็มร้อยตอนนี้บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเหลือสักห้าสิบมั้ย เราสับสนมาก ผ่านไปสองเดือนที่เค้าง้อเราเราก็เฉยๆแต่เค้าก็ไม่ยอมแพ้ทำทุกอย่างๆๆจริงๆทำในสิ่งที่เราก็ไม่คิดว่าคนอย่างเค้าจะทำได้เพราะคบกันมาสิบกว่าปีรุ้จักนิสัยเค้าดี สิ่งที่ไม่เคยทำให้เค้าก็ทำได้เพื่อให้เรายกโทดให้ จนเดือนมีนาคม ปี56 เค้าบอกเราว่าจะบวชพอสึกแล้วตะมาขอเราแต่งงาน เราก็ไม่ได้ตอบตกลงน่ะ ำม่มีคำตอบใดๆให้เค้า (ตอนเลิกกันเราก็มีคนเข้ามาคุยด้วยสองคน คนนึงเป็นทหาร อีกคนเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่ก็แค่คุยพอเค้าจับติดนี่ฟูมฟายมากกว่าตอนเราซะอีก แต่เราบอกว่าแค่คุยไม่ได้มีอะไร แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ออกไปจากชีวิตเราแต่กลับกันทำให้เค้าง้อเรามากกว่าเดิม ไม่เปิดโอกาสให้เราอยุ่คนเดียว มาหาทุกวัน กลับบ้านก็ยังมีโทรตลอด รุ้สึกในใจทีใครทีมันน่ะ อิอิ) พอเค้าสึกออกมาก็มาง้อเราต่อ (บวชไม่กี่วัน) ก็เดินหน้าง้อต่อไปทำเหมือนตอนจีบกันใหม่ก็ทำให้เราใจอ่อนน่ะ แต่บอกไม่ถุกเหมือนกันพอนึกถึงสิ่งที่เค้านอกใจเรายังเสียใจอยุ่นึกทีไรน้ำตาไหลทุกที จนตอนเดือนกันยายนเค้าให้พ่อแม่มาขอเรา ในใจไม่ได้ดีจัยแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธ (งงมั้ยเรายังงงกับตัวเราเองเลย อิอิ อย่าว่ากันน่ะ ) ต่อๆ .. สุดท้ายงานแต่งงานก็มีขึ้นต้นปี 57 ตอนนี้ก็ปีกว่าแล้วที่แต่งงานกัน 14 ปีทีรักกัน ตั้งแต่วันที่เค้ากลับมาขอคืนดีเราจนถึงตอนนี้ เค้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทุกอย่างเค้าไปไหน เค้าก็พาเราไปตลอดเรียกได้ว่าเห็นเค้าก็ต้องเห็นเรา (เหมือนเค้าก็แค่หลงไปชั่ววูบ คิดเองน่ะ พอคิดได้ก็ปรับปรุงตัวใหม่ ขอโอกาสแก้ตัว) ตอนนี้ก็มีคามสุขดีทุกอย่าง แต่ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รุ้เป็นเรื่องของอนาคต แต่เราก็แอบมีนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นที่เค้าเคยนอกใจก็ยังมีเสียใจและไม่มีลืมด้วย (จำทุกฉากทุกตอน) แต่เราเลือกที่จะไม่รื้อฟื้นเวลาทะเลาะกันจะไม่นำเรื่องราวที่ผ่านมามาด่ากัน ทะเลาะเรื่องไหนก็เถียงกันเคลียร์กันให้จบ ไม่นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ พิมพ์สะยาวเรย อิอิ สำหรับ จขกท. แนะนำให้ถามใจตัเองก่อนว่ายังรักเค้าไหม และดูพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของเค้า ถามใจตัวเองให้ดีอย่าถามใจคนอื่น ถามใจเค้ากับใจเรา พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันไหม ยังรักกันมากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไหมแค่นั้นพอ ค่อยคิดให้ดีน่ะค่ะ ...ของเรานี่เค้าคือแฟนคนแรกคนเด่ว ส่วนเค้าเราคือแฟนคนแรก แต่แอบมีก๊ก แต่ก็จบที่เรา แต่ชีวิตคู่ยังไม่จบแค่นี้น่ะค่ะ การแต่งงานไม่ได้หมายความว่าจบแบบแฮปปี้แอนดิ้งเหมือนในละครน่ะค่ะ มันเพิ่งเริ่มต้นค่ะ ก็แล้วแต่อนาคตค่ะ
คือเราคบกับแฟนมาตั้งแต่ ม.3 จนเราเรียนจบ ป.ตรี และ เรียนจบทำงานมาสามปี เริ่มมีปัญหาตอนทำงาน ทะเลาะกันไม่สนใจ ในใจเราก็คิดว่าเค้ามีกิ๊กรึเปล่าแต่ไม่เคยจับติด จนปลายปี 2555 เพิ่งมารุ้ความจิงว่าเค้ามีกิ๊กและคบกันมาสามปีแต่เพิ่งมามีอะไรกันตอนสองสามเดือนหลัง พอเราจับได้เค้าก็มีใจไปทางคนใหม่พอเราถามว่าจะเลือกใครเค้าบอกว่าขออยู่กันสามคน เรารับไม่ได้ ตอนแรกๆก็ทำใจไมได้ง้อเขาทุกอย่างแต่เค้าก็ผลักไสเราแบบคนไม่เคยรักกัน เราเลยเป็นฝ่ายตัดใจบอกเลิกแต่เค้าบอกว่าไม่เลิกยังไงๆๆก็ไม่เลิก เราก็เป็นฝ่ายถอยห่างอยุ่กับเพื่อนตลอดเวลาเกือบเดือน เค้าก็ไม่เคยโทรหาเราง้อเรา แต่เราถามความเป็นไปของเค้าจากเพิ่ลเค้า เค้าไปอยุ่กับแฟนใหม่ตลอด เราจึงทำใจได้ แต่พอเราทำใจได้เค้ากลับมา มาง้อเราทำทุกอย่างเพื่อเรา เราด่าเราไล่ยังไงก็ไม่ไป ในใจเราตอนนั้นสะใจน่ะ แต่ในใจจริงๆก็มีสงสาร ถามตัวเองว่ารักเค้าอีกมั้ยก็รักแต่น้อยลงจากเมื่อก่อนเต็มร้อยตอนนี้บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเหลือสักห้าสิบมั้ย เราสับสนมาก ผ่านไปสองเดือนที่เค้าง้อเราเราก็เฉยๆแต่เค้าก็ไม่ยอมแพ้ทำทุกอย่างๆๆจริงๆทำในสิ่งที่เราก็ไม่คิดว่าคนอย่างเค้าจะทำได้เพราะคบกันมาสิบกว่าปีรุ้จักนิสัยเค้าดี สิ่งที่ไม่เคยทำให้เค้าก็ทำได้เพื่อให้เรายกโทดให้ จนเดือนมีนาคม ปี56 เค้าบอกเราว่าจะบวชพอสึกแล้วตะมาขอเราแต่งงาน เราก็ไม่ได้ตอบตกลงน่ะ ำม่มีคำตอบใดๆให้เค้า (ตอนเลิกกันเราก็มีคนเข้ามาคุยด้วยสองคน คนนึงเป็นทหาร อีกคนเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่ก็แค่คุยพอเค้าจับติดนี่ฟูมฟายมากกว่าตอนเราซะอีก แต่เราบอกว่าแค่คุยไม่ได้มีอะไร แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ออกไปจากชีวิตเราแต่กลับกันทำให้เค้าง้อเรามากกว่าเดิม ไม่เปิดโอกาสให้เราอยุ่คนเดียว มาหาทุกวัน กลับบ้านก็ยังมีโทรตลอด รุ้สึกในใจทีใครทีมันน่ะ อิอิ) พอเค้าสึกออกมาก็มาง้อเราต่อ (บวชไม่กี่วัน) ก็เดินหน้าง้อต่อไปทำเหมือนตอนจีบกันใหม่ก็ทำให้เราใจอ่อนน่ะ แต่บอกไม่ถุกเหมือนกันพอนึกถึงสิ่งที่เค้านอกใจเรายังเสียใจอยุ่นึกทีไรน้ำตาไหลทุกที จนตอนเดือนกันยายนเค้าให้พ่อแม่มาขอเรา ในใจไม่ได้ดีจัยแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธ (งงมั้ยเรายังงงกับตัวเราเองเลย อิอิ อย่าว่ากันน่ะ ) ต่อๆ .. สุดท้ายงานแต่งงานก็มีขึ้นต้นปี 57 ตอนนี้ก็ปีกว่าแล้วที่แต่งงานกัน 14 ปีทีรักกัน ตั้งแต่วันที่เค้ากลับมาขอคืนดีเราจนถึงตอนนี้ เค้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทุกอย่างเค้าไปไหน เค้าก็พาเราไปตลอดเรียกได้ว่าเห็นเค้าก็ต้องเห็นเรา (เหมือนเค้าก็แค่หลงไปชั่ววูบ คิดเองน่ะ พอคิดได้ก็ปรับปรุงตัวใหม่ ขอโอกาสแก้ตัว) ตอนนี้ก็มีคามสุขดีทุกอย่าง แต่ต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รุ้เป็นเรื่องของอนาคต แต่เราก็แอบมีนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นที่เค้าเคยนอกใจก็ยังมีเสียใจและไม่มีลืมด้วย (จำทุกฉากทุกตอน) แต่เราเลือกที่จะไม่รื้อฟื้นเวลาทะเลาะกันจะไม่นำเรื่องราวที่ผ่านมามาด่ากัน ทะเลาะเรื่องไหนก็เถียงกันเคลียร์กันให้จบ ไม่นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ พิมพ์สะยาวเรย อิอิ สำหรับ จขกท. แนะนำให้ถามใจตัเองก่อนว่ายังรักเค้าไหม และดูพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของเค้า ถามใจตัวเองให้ดีอย่าถามใจคนอื่น ถามใจเค้ากับใจเรา พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันไหม ยังรักกันมากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไหมแค่นั้นพอ ค่อยคิดให้ดีน่ะค่ะ ...ของเรานี่เค้าคือแฟนคนแรกคนเด่ว ส่วนเค้าเราคือแฟนคนแรก แต่แอบมีก๊ก แต่ก็จบที่เรา แต่ชีวิตคู่ยังไม่จบแค่นี้น่ะค่ะ การแต่งงานไม่ได้หมายความว่าจบแบบแฮปปี้แอนดิ้งเหมือนในละครน่ะค่ะ มันเพิ่งเริ่มต้นค่ะ ก็แล้วแต่อนาคตค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คนที่เคยเป็นแฟนกันเลิกกันไปแล้วแล้วกลับมาคบกันจะรักกันเหมือนครั้งแรกได้จิงหรอ??
***ย้ำหน่อยนะค่ะเราไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงแบบที่คนนั้นไม่ดีนะค่ะเข้าใจว่ามีปะปนกันไป (อย่าด่าเรานะ อิอิ)
ต่อมาเค้าก็เริ่มง้อเราง้อแบบเดียวกับที่เราง้อเค้าเลยหล้ะมาทำดีให้เราสารพัดจนตอนนั้นยอมรับนะว่าใจเริ่มอ่อนลงไปเรื่อยๆเริ่มนึกถึงวันที่รักกันวันที่คอยดูแลกัน วันครบรอบต่างๆภาพของขวัญภาพการกระทำดีๆเหล่านั้นเริ่มมาวนเวียนอยู่ในหัว จนตอนนั้นเราเริ่มสับสนเราเริ่มห่างเริ่มไม่รับโทรศัพท์ไม่ค่อยตอบไลน์จากเพื่อนชายคนนั้น แต่ก็ไม่ได้กลับมาคุยกับแฟนเราซะทีเดียวนะ จนกระทั่งด้วยความที่แฟนเราเค้ากลัวจะเสียเราไป เค้าให้พ่อกับแม่เค้ามาสู่ขอเราโดยที่พ่อกับแม่เราได้บอกไปว่าขอเวลาให้ลูกสาว(ก็คือเราเอง)1ปี เพื่อที่จะให้เรากับแฟนเราทบทวนอะไรหลายๆอย่างให้ดีก่อน
ซึ่งวันนี้ตอนนี้ที่พิมพ์อยู่เวลาก็ล่วงเลยมาแล้ว3เดือน เพื่อนชายของเราก็เริ่มหายไป แฟนเราก้เริ่มเดินหน้าเอาชนะใจเราต่อไปเรื่อยๆพาเราไปเที่ยวในที่ๆเราเคยบอกกับเค้าว่าเราอยากไป พยายามทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้มากที่สุด เราเห็นถึงความพยายามของเค้านะ แต่ทุกครั้งที่มองไปที่แผลเป็นที่มือเราตอนที่โดนกุญแจรถบาด มันรู้สึกไม่อยากกลับไปแล้วยังไงก้ไม่รู้ แต่อีกใจก็คิดว่าเราจะให้รอยแผลนี้ปิดกลั้นหัวใจเราทำไม เราก็กำลังรู้สึกดีกับเค้าไม่ใช่หรอ เค้าเองก็สำนึกผิดมามากพอแล้ว
***เหลือเวลาอีกประมาณ9เดือน เราต้องตัดสินใจ
**********************และคำถามที่ติดอยู่ในใจเรามาตลอดก็คือ เค้าจะรักเราได้เท่าเมื่อก่อนจริงหรอ?********************************
***หรือว่าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้หรือไก้ลเคียงแบบนี้ก็มาแชรืกันได้นะค่ะ***