ครอบครัวผมมี พ่อ แม่ ผม แล้วก็น้องชาย นะครับ ก่อนอื่นขอเล่าย้อนไปเมื่อสามสี่ปีก่อน คือว่าตอนนั้นพ่อผมได้เปิดร้านอาหารกับแม่ โดยให้แม่เป็นคนดูแลร้านทั้งหมด ส่วนพ่อผมจะเข้ามาช่วยดูร้านตอนเย็น แต่ถ้าวันไหนเหนื่อย ก็จะไม่มานะครับ ลืมบอกไปครับพ่อผมเป็นครูมัธยม แต่จะมาช่วยเวลาวันไหนแขกเยอะ ส่วนผมตอนนั้นเรียนมหาลัยอยู่อีกที่เลยไม่ค่อยได้มาช่วย จะมาช่วยก็ตอนกลับบ้าน หรือสอบเสร็จ แต่ส่วนมากผมไม่ค่อยมาช่วย เพราะผมไม่ค่อยชอบงานบริการ ช่วงปีสองปีแรก ร้านขายดีก็ทำบัญชีมีกำไร แต่พอช่วงสองปีหลังมาผมเริ่มไปหาแม่ที่ร้าน ร้านขายไม่ค่อยดีเพราะน้ำท่วมด้วย เศรษฐกิจไม่ดีด้วย ก็เลยขาดทุน แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นอยู่ที่อยู่ๆ ก็มีชายแปลกหน้ามายืนรอแม่หน้าร้านเกือบทุกวัน ถามแม่ก็อ้างว่า ติดค่าน้ำแข็งบ้าง ค่าแก๊สบ้าง แต่ผมไม่เชื่อ ตอนนั้นร้านขายไม่ค่อยได้ แขกน้อย ก็มีผู้ชายแปลกหน้ามายืนรอหน้าร้านทุกวัน ผมเริ่มสงสัยว่าจะเป็น คนทวงหนี้นอกระบบ แน่ๆ แต่แม่ก็ยังปากแข็งว่า ไม่ใช่ จนช่วงปี 54 ที่น้ำท่วมหนัก ปิดร้านไปสองเดือน เจ้าหนี้ที่เคยมาทวงมาไม่เจอแม่ เค้าก็คงโทรไปหาแม่ แต่แม่คงไม่รับสาย เค้าจึงเอากระดาษที่เขียนว่า เมื่อไหร่จะจ่าย มาแปะไว้ตรงประตูร้าน แล้วก็มีรอยก้อนหิน ขนาดประมาณลูกบอล ทุ่มใส่ประตูกระจกร้านแตก ผมกับพ่อมาเจอ ผมตกใจมากว่า เกิดอะไรขึ้นกับที่บ้าน พ่อกับแม่ก็มีปากเสียงกัน พ่อโมโหมาก ตอนนั้นผมเบื่อบ้านมาก ไม่อยากอยู่บ้านเลย กลับมาบ้านก็อยู่แต่บนห้อง พ่อกับผมรู้แล้วว่า แม่เป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 3 เจ้า ที่ผลัดกันมาทวง หนักเข้าพอแม่ไม่มีเงินให้ เขาก็มาทวงหนี้ถึงหน้าบ้านบ้าง หนักไปกว่านั้นคือ เขาไปทวงหนี้กับพ่อผมที่โรงเรียนเลย พ่อผมหน้าชามาก เมื่อก่อนสถานภาพการเงินบ้านผมไม่ได้ต่ำแต่ก็ไม่ได้รวย จนพ่อเริ่มใช้หนี้ให้แม่บ้าง กู้เงินสหกรณ์ ออมสิน มาทำร้านใหม่บ้าง จนสุดท้ายร้านก็ไปไม่รอด เป็นหนี้รวมๆ สามล้าน พ่อกับผม เคยถามแม่ว่า เป็นหนี้กี่คน คนละเท่าไหร่บ้าง แม่ก็ไม่เคยพูด จนมีวันนึง แม่เขียนมาสามเจ้าหนี้ คนละไม่ต่ำกว่า สองสามหมื่น ผมก็นึกว่า แม่จะบอกหมด แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ แม่ก็ยังโกหกอยู่อีก พ่อผมมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน เครียดมาก ทั้งครอบครัว มีพ่อหาเงินคนเดียวตอนนั้น ผมก็เครียดอยากแบ่งเบาภาระที่บ้าน แต่ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ พ่อได้แต่บอกว่า ตั้งใจเรียนให้จบนะ จนผมเรียนจบไปทำงานที่กรุงเทพ ตอนนั้น ร้านอาหารพ่อได้ขายให้คนอื่นไปแล้ว แล้วแม่ก็มาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งเล็กๆ ผมกลับมาบ้านเกือบทุกอาทิตย์ แม่ก็พูดว่า แม่ไม่มีหนี้แล้ว ผมก็เชื่อ นึกว่าปัญหาทางบ้านจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่กลับไม่ใช่ครับ มันแย่ลงกว่าเดิมอีก
ช่วงนั้นอาม่าป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ไม่มีคนเฝ้า พ่อก็ต้องไปเฝ้า อาทิตย์นึงสามสี่วัน จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้าน พอผมกลับบ้านขับรถจะไปดูร้านหาแม่ว่าเป็นยังไงบ้าง ขายดีมั้ย แต่กลายเป็นว่า ปิดร้าน ติดต่อแม่ไม่ได้ ระหว่างนี้ก็ยังมีเจ้าหนี้เริ่มมาทวงหนี้เหมือนเดิม... ผมเหนื่อยและเบื่อบ้านมาก พ่อก็โทรติดต่อแม่ไม่ได้ พ่อมาถามผม ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าแม่ไปไหน เสา อาทิตย์ ที่ผมกลับบ้าน แม่ไม่เคยอยู่บ้านเลย แต่มีอยู่อาทิตย์นึง ผมเปิดประตูไปเจอ แม่กำลังลงจากรถพอดี แต่เป็นรถคนอื่น มีผู้ชายมาส่งแม่ผม ผมรู้เลยว่า แม่กำลังนอกใจพ่อแน่ๆ ผมถามว่าไปไหนมา เค้าก็บอกว่า ไปงานบวชบ้าง งานแต่งบ้าง แต่ผมไม่เคยเชื่อแม่มานานมากละ แต่ผมสงสารพ่อ (ลืมบอกไปครับพ่อผมประสบอุบัติเหตุขาซ้ายหัก ตั้งแต่พ่อกับแม่ผมยังไม่ได้แต่งงาน ขาซ้ายพ่อสั้นกว่าข้างขวาประมาณนิ้วนึงได้ ทำให้เดินไม่ค่อยโอเค) ช่วงนั้นพ่อเริ่มรู้แล้วว่าแม่น่าจะมีชู้ ตอนนั้นร้านอาหารแม่ยังขายอยู่นะครับ ขายดีนะครับ แต่ทำไม แม่ต้องมายืมเงินผมซื้อผักซื้อหมู ทุกครั้ง เหมือนขายไม่ได้ (ผมคิดว่าเอาเงินไปจ่ายดอกหมด) จนร้านนี้ต้องปิดอีก พอปิดก็ไม่มีเงินจ่ายดอก เจ้าหนี้ก็มาทวงถึงบ้านเลยครับ พ่อผมก็ไม่จ่ายให้ไม่ไหวแล้วครับ แม่ไม่ยอมบอกว่า กู้เงินมาทำอะไรนักหนา ทำไมมันถึงได้บานปลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนี้
ยิ่งข้างบ้านมาพูดกับพ่อว่า อาจารย์รู้มั๊ย แฟนอาจารย์อ่ะมีผู้ชายมาส่งหน้าบ้าน พ่อยิ่งเสียใจมากครับ จนสุดท้ายพ่อก็ปล่อย เพราะไม่มีเงินแล้วครับ เป็นหนี้สหกรณ์ล้านกว่า ออมสินอีกล้านกว่า เงินเดือนพ่อเกือบห้าหมื่น หักแล้ว เหลือไม่ถึงสี่พันต่อเดือนเลยครับ แม่ก็ได้จัดสินใจทิ้งพ่อไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่ประเด็นไม่สำคัญหรอกครับ ผมปลงและปล่อยวาง ผมสงสารพ่อกับน้องมากกว่า ผมอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ นานๆทีครับ แม่ก็จะกลับมาบ้าน โดยมีผู้ชายคนนั้นมาส่ง แล้วแม่ก็เดินเข้าบ้าน พอตอนเย็นหรือค่ำ เค้าก็มารับไปครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เค้ามาบ้านก็มาเก็บกวาดบ้านให้ ซักผ้าให้ ซึ่งผมรู้สึกแย่ แล้วก็รับไม่ได้ ยอมรับเลยครับ ผมพูดไม่ดีกับแม่ แต่ส่วนมาก แม่โทรมาผมจะไม่รับครับ ยกเว้นเจอกันในบ้านอย่างวันนี้ ผมได้แต่คิดว่า กลับมาทำไม ไปแล้วก็ไปเลยสิ ไม่คิดว่ากลับมาคนที่อยู่เค้าจะรู้สึกยังไง ผมไม่ได้ดีใจหรอกนะที่เห็นแม่กลับมา ผมชินและชาไปนานมากแล้ว
ผมลืมเล่าไปครับ ตอนที่แม่ผมหนีไปแล้ว เหลือพ่อกับผมสองคน ส่วนน้องเรียนอยู่ที่จันทบุรี เท้าพ่อติดเชื้อ ทำให้ต้องตัดนิ้วเท้าสี่นิ้ว เท้าข้างซ้ายที่หักนะครับ ทำให้ผมต้องลาออกจากงานมาดูพ่อ แล้วก็ต้องหางานใหม่ที่บ้านเพื่อจะได้ดูแลพ่อได้ ช่วงนั้นผมท้อและเหนื่อยมาก ร้องไห้เกือบทุกวัน ญาติฝ่ายพ่อมาเยี่ยม เค้าก็บอกว่าให้ผมดูแลพ่อดีๆนะ แต่เค้าไม่เคยพูดถึงแม่ผมเลย เหมือนเค้าก็พอจะรู้แหละครับ ที่เล่ามามันก็ส่วนนึงคร่าวๆนะครับ ผมรู้อีกอย่างว่า ทุกวันนี้พ่อก็ยังแอบส่งเงินให้แม่ จนทุกวันนี้พ่อกับแม่ผมก็ยังไม่ได้หย่ากัน ผมเคยถามพ่อว่าทำไมไม่หย่า ผมบอกกับผมว่า หย่าแล้วแม่เค้าจะไปอยู่ไหนหละลูก ผมไปต่อไม่ถูกเลยครับ ผมอยากรู้ว่า ผมควรทำไงกับแม่ แต่จะให้ผมพูดคุยปกติ ผมยอมรับว่าผมทำไม่ได้ เหมือนผมอคติกับแม่ไปแล้ว... ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ พึ่งเคยพิมพ์ อาจจะจัดหน้า อ่านลำบาก ก็อภัยนะครับ
อยากระบายเรื่องที่บ้าน และควรทำยังไงกับแม่ดีครับ
ช่วงนั้นอาม่าป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ไม่มีคนเฝ้า พ่อก็ต้องไปเฝ้า อาทิตย์นึงสามสี่วัน จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้าน พอผมกลับบ้านขับรถจะไปดูร้านหาแม่ว่าเป็นยังไงบ้าง ขายดีมั้ย แต่กลายเป็นว่า ปิดร้าน ติดต่อแม่ไม่ได้ ระหว่างนี้ก็ยังมีเจ้าหนี้เริ่มมาทวงหนี้เหมือนเดิม... ผมเหนื่อยและเบื่อบ้านมาก พ่อก็โทรติดต่อแม่ไม่ได้ พ่อมาถามผม ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าแม่ไปไหน เสา อาทิตย์ ที่ผมกลับบ้าน แม่ไม่เคยอยู่บ้านเลย แต่มีอยู่อาทิตย์นึง ผมเปิดประตูไปเจอ แม่กำลังลงจากรถพอดี แต่เป็นรถคนอื่น มีผู้ชายมาส่งแม่ผม ผมรู้เลยว่า แม่กำลังนอกใจพ่อแน่ๆ ผมถามว่าไปไหนมา เค้าก็บอกว่า ไปงานบวชบ้าง งานแต่งบ้าง แต่ผมไม่เคยเชื่อแม่มานานมากละ แต่ผมสงสารพ่อ (ลืมบอกไปครับพ่อผมประสบอุบัติเหตุขาซ้ายหัก ตั้งแต่พ่อกับแม่ผมยังไม่ได้แต่งงาน ขาซ้ายพ่อสั้นกว่าข้างขวาประมาณนิ้วนึงได้ ทำให้เดินไม่ค่อยโอเค) ช่วงนั้นพ่อเริ่มรู้แล้วว่าแม่น่าจะมีชู้ ตอนนั้นร้านอาหารแม่ยังขายอยู่นะครับ ขายดีนะครับ แต่ทำไม แม่ต้องมายืมเงินผมซื้อผักซื้อหมู ทุกครั้ง เหมือนขายไม่ได้ (ผมคิดว่าเอาเงินไปจ่ายดอกหมด) จนร้านนี้ต้องปิดอีก พอปิดก็ไม่มีเงินจ่ายดอก เจ้าหนี้ก็มาทวงถึงบ้านเลยครับ พ่อผมก็ไม่จ่ายให้ไม่ไหวแล้วครับ แม่ไม่ยอมบอกว่า กู้เงินมาทำอะไรนักหนา ทำไมมันถึงได้บานปลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนี้
ยิ่งข้างบ้านมาพูดกับพ่อว่า อาจารย์รู้มั๊ย แฟนอาจารย์อ่ะมีผู้ชายมาส่งหน้าบ้าน พ่อยิ่งเสียใจมากครับ จนสุดท้ายพ่อก็ปล่อย เพราะไม่มีเงินแล้วครับ เป็นหนี้สหกรณ์ล้านกว่า ออมสินอีกล้านกว่า เงินเดือนพ่อเกือบห้าหมื่น หักแล้ว เหลือไม่ถึงสี่พันต่อเดือนเลยครับ แม่ก็ได้จัดสินใจทิ้งพ่อไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่ประเด็นไม่สำคัญหรอกครับ ผมปลงและปล่อยวาง ผมสงสารพ่อกับน้องมากกว่า ผมอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ นานๆทีครับ แม่ก็จะกลับมาบ้าน โดยมีผู้ชายคนนั้นมาส่ง แล้วแม่ก็เดินเข้าบ้าน พอตอนเย็นหรือค่ำ เค้าก็มารับไปครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เค้ามาบ้านก็มาเก็บกวาดบ้านให้ ซักผ้าให้ ซึ่งผมรู้สึกแย่ แล้วก็รับไม่ได้ ยอมรับเลยครับ ผมพูดไม่ดีกับแม่ แต่ส่วนมาก แม่โทรมาผมจะไม่รับครับ ยกเว้นเจอกันในบ้านอย่างวันนี้ ผมได้แต่คิดว่า กลับมาทำไม ไปแล้วก็ไปเลยสิ ไม่คิดว่ากลับมาคนที่อยู่เค้าจะรู้สึกยังไง ผมไม่ได้ดีใจหรอกนะที่เห็นแม่กลับมา ผมชินและชาไปนานมากแล้ว
ผมลืมเล่าไปครับ ตอนที่แม่ผมหนีไปแล้ว เหลือพ่อกับผมสองคน ส่วนน้องเรียนอยู่ที่จันทบุรี เท้าพ่อติดเชื้อ ทำให้ต้องตัดนิ้วเท้าสี่นิ้ว เท้าข้างซ้ายที่หักนะครับ ทำให้ผมต้องลาออกจากงานมาดูพ่อ แล้วก็ต้องหางานใหม่ที่บ้านเพื่อจะได้ดูแลพ่อได้ ช่วงนั้นผมท้อและเหนื่อยมาก ร้องไห้เกือบทุกวัน ญาติฝ่ายพ่อมาเยี่ยม เค้าก็บอกว่าให้ผมดูแลพ่อดีๆนะ แต่เค้าไม่เคยพูดถึงแม่ผมเลย เหมือนเค้าก็พอจะรู้แหละครับ ที่เล่ามามันก็ส่วนนึงคร่าวๆนะครับ ผมรู้อีกอย่างว่า ทุกวันนี้พ่อก็ยังแอบส่งเงินให้แม่ จนทุกวันนี้พ่อกับแม่ผมก็ยังไม่ได้หย่ากัน ผมเคยถามพ่อว่าทำไมไม่หย่า ผมบอกกับผมว่า หย่าแล้วแม่เค้าจะไปอยู่ไหนหละลูก ผมไปต่อไม่ถูกเลยครับ ผมอยากรู้ว่า ผมควรทำไงกับแม่ แต่จะให้ผมพูดคุยปกติ ผมยอมรับว่าผมทำไม่ได้ เหมือนผมอคติกับแม่ไปแล้ว... ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ พึ่งเคยพิมพ์ อาจจะจัดหน้า อ่านลำบาก ก็อภัยนะครับ