วันนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ โดนตัดสัญญาณมือถือ เนื่องจากพนักงานบอกว่า ใช้ยอดเกินวงเงินที่จำกัดไว้
แต่อยากให้อ่านว่าคำตอบจริงๆแล้ว เป็นเพราะอะไรกันแน่
ในครั้งแรกได้ทำการโทรไปสอบถามทาง call center ได้รับคำตอบว่า
" ตอนนี้ทางทรูกำลังทำยอดของรอบบิลที่แล้ว ทำให้ยอดเงินยังคงอยู่ในวงเงิน แล้วเดือนนี้ก็ได้ใช้บริการจนยอดถึงวงเงินแล้วจึงตัดสัญญาณ "
เราเลยถามกลับว่า ถ้าเราเพิ่มวงเงิน แล้วคุณจะทำการตัดยอดเงินของบิลที่แล้วแล้วปัญหานี้จะหมดไปใช่ไหม? พนังงานก็ บอกว่าใช่
วันนี้เราโดนตัดบริการอีกครั้ง เราโทรไปถามทางทรู ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ทรู ยังพูดคำเดิมว่า ยังทำยอดบิลไม่เสร็จ และ ครบ 3 วันที่เราต้องมาจ่ายเงินแล้ว
เราก็เลยถามว่า จ่ายอะไร เพราะยอดเงินก็ไม่มีว่าต้องจ่ายอะไร (เราซื้อโปรโมชั่นตอน ip5c ซึ่งทำสัญญาผูกกับบัตรเครดิตอยู่แล้ว) พนักงานยืนยันว่าเราต้องเอาเงินมาจ่ายทรูล่วงหน้า เป็นยอด 900 กว่าบาทเพื่อให้ทรู ปลดลอคสัญญาณให้
จุดนี้ไม่ได้อยากว่าพนง.call center นะคะ
แต่จะขอคำถามคำถามกับระบบของทรู นิดนึง อย่างไรช่วยพิจารณาด้วยค่ะ
1. คุณผูกสัญญากับลูกค้า ด้วยโปรโมชั่น เดือนละ 900 กว่าบาท แบบยังไม่รวมภาษี แล้วให้วงเงินกับลูกค้า 1800 บ. ได้อย่างไร เนื่องจาก ทางบริษัทคุณอ้างว่า คุณใช้เวลาในการทำยอดบิลช้าเอง อย่างไรลูกค้าก็ต้องใช้เกิน 1800 บาทอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ตัดยอดวงเงินให้ทันเวลา จะบอกว่าลูกค้าใช้เยอะเองหรือ?
2. ลูกค้า เป็นลูกค้าที่ใช้งานตัดผ่านบัตรเครดิต (ซึ่งโยงกับประเด็นเดิม ว่าคุณตัดยอดช้าเอง) มีความจำเป็นหรือ ที่ลูกค้าจะต้องเอาเงินสด ไปต่อคิวเอาเงินให้คุณก่อน เพื่อปลดล็อคสัญญาณที่ถูกตัด อันเนื่องมาจาก กระบวนการตัดยอดของคุณช้าเอง
อยากให้เข้าใจว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากลูกค้าไม่จ่ายค่าบริการ หรือ ค้างชำระค่าบริการ
แล้วการที่คุณมาตักสัญญาณแบบนี้ มันเกิดปัญหาเยอะมาก อยากให้ลองพิจารณาว่าครั้งนี้ปัญหามันเกิดเพราะลูกค้าหรือเปล่าไม่ใช่อ้างแต่ว่าจะ"ให้ลูกค้าเอาเงินไปเข้าระบบไว้ก่อน" แล้วทรูจะให้ใช้บริการ เราเลือกใช้บริการตัดบัตรเครดิต เพราะศูนย์บริการของคุณช้ามาก เราก็เลือกวิธีให้มันง่ายแล้ว ยังต้องมาเจอกับระบบที่ล่าช้าอีก.
อย่างไรช่วยพิจารณาด้วยนะคะ อยากยกเลิกสัญญา ก็ไม่ให้ยกเลิกเพราะติดสัญญา 2 ปี แต่บริการก็ไม่ให้ใช้ ไม่แน่ใจว่าทรูมีระบบการให้บริการอย่างไรแล้วค่ะ
ใช้บริการโทรศัพท์ True move ไม่ได้ เนื่องจากกระบวนการตัดยอดของทรูเอง
แต่อยากให้อ่านว่าคำตอบจริงๆแล้ว เป็นเพราะอะไรกันแน่
ในครั้งแรกได้ทำการโทรไปสอบถามทาง call center ได้รับคำตอบว่า
" ตอนนี้ทางทรูกำลังทำยอดของรอบบิลที่แล้ว ทำให้ยอดเงินยังคงอยู่ในวงเงิน แล้วเดือนนี้ก็ได้ใช้บริการจนยอดถึงวงเงินแล้วจึงตัดสัญญาณ "
เราเลยถามกลับว่า ถ้าเราเพิ่มวงเงิน แล้วคุณจะทำการตัดยอดเงินของบิลที่แล้วแล้วปัญหานี้จะหมดไปใช่ไหม? พนังงานก็ บอกว่าใช่
วันนี้เราโดนตัดบริการอีกครั้ง เราโทรไปถามทางทรู ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ทรู ยังพูดคำเดิมว่า ยังทำยอดบิลไม่เสร็จ และ ครบ 3 วันที่เราต้องมาจ่ายเงินแล้ว
เราก็เลยถามว่า จ่ายอะไร เพราะยอดเงินก็ไม่มีว่าต้องจ่ายอะไร (เราซื้อโปรโมชั่นตอน ip5c ซึ่งทำสัญญาผูกกับบัตรเครดิตอยู่แล้ว) พนักงานยืนยันว่าเราต้องเอาเงินมาจ่ายทรูล่วงหน้า เป็นยอด 900 กว่าบาทเพื่อให้ทรู ปลดลอคสัญญาณให้
จุดนี้ไม่ได้อยากว่าพนง.call center นะคะ
แต่จะขอคำถามคำถามกับระบบของทรู นิดนึง อย่างไรช่วยพิจารณาด้วยค่ะ
1. คุณผูกสัญญากับลูกค้า ด้วยโปรโมชั่น เดือนละ 900 กว่าบาท แบบยังไม่รวมภาษี แล้วให้วงเงินกับลูกค้า 1800 บ. ได้อย่างไร เนื่องจาก ทางบริษัทคุณอ้างว่า คุณใช้เวลาในการทำยอดบิลช้าเอง อย่างไรลูกค้าก็ต้องใช้เกิน 1800 บาทอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ตัดยอดวงเงินให้ทันเวลา จะบอกว่าลูกค้าใช้เยอะเองหรือ?
2. ลูกค้า เป็นลูกค้าที่ใช้งานตัดผ่านบัตรเครดิต (ซึ่งโยงกับประเด็นเดิม ว่าคุณตัดยอดช้าเอง) มีความจำเป็นหรือ ที่ลูกค้าจะต้องเอาเงินสด ไปต่อคิวเอาเงินให้คุณก่อน เพื่อปลดล็อคสัญญาณที่ถูกตัด อันเนื่องมาจาก กระบวนการตัดยอดของคุณช้าเอง
อยากให้เข้าใจว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากลูกค้าไม่จ่ายค่าบริการ หรือ ค้างชำระค่าบริการ
แล้วการที่คุณมาตักสัญญาณแบบนี้ มันเกิดปัญหาเยอะมาก อยากให้ลองพิจารณาว่าครั้งนี้ปัญหามันเกิดเพราะลูกค้าหรือเปล่าไม่ใช่อ้างแต่ว่าจะ"ให้ลูกค้าเอาเงินไปเข้าระบบไว้ก่อน" แล้วทรูจะให้ใช้บริการ เราเลือกใช้บริการตัดบัตรเครดิต เพราะศูนย์บริการของคุณช้ามาก เราก็เลือกวิธีให้มันง่ายแล้ว ยังต้องมาเจอกับระบบที่ล่าช้าอีก.
อย่างไรช่วยพิจารณาด้วยนะคะ อยากยกเลิกสัญญา ก็ไม่ให้ยกเลิกเพราะติดสัญญา 2 ปี แต่บริการก็ไม่ให้ใช้ ไม่แน่ใจว่าทรูมีระบบการให้บริการอย่างไรแล้วค่ะ