1 วัน ณ อยุธยา (One Day Bike Trip)

ตอนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2014) เพื่อนเราได้ส่งกระทู้ กะทันหัน One day Bike Trip in Ayutthaya (http://pantip.com/topic/32119096) มาให้เราแล้วก็ชวนแพลนทริปช่วงปลายเดือนธันวาด้วยกัน ช่วงเดือนธันวาเป็นช่วงที่ไม่ร้อนมาก One day bike trip ในจังหวัดใกล้ๆอย่างอยุธยาจึงดูเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียว เราตอบตกลงแทบจะทันที แต่อ่านไปอ่านมา เราก็คิดว่าไหนๆไปถึงอยุธยาทั้งที ก็น่าจะเที่ยวให้หลายๆวัดหน่อย จะได้คุ้มๆ เราก็เลยนั่งแพลนทริปดูใหม่ออกมาเป็นทริปนี้ (แม้จะไปเที่ยวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่เราพึ่งจะองค์ลง และเพราะดองไว้สองเดือนกว่าๆ เราก็อาจลืมรายละเอียดอะไรไปบ้าง ขออภัยล่วงหน้านะคะ)

หลังจากที่เราตัดสินใจจะไปอยุธยาด้วยรถไฟ เราและเพื่อนอีกสองคนก็รวมพลกันที่หัวลำโพงได้ประมาณเกือบเก้าโมงเช้า และได้ขึ้นรถไฟฟรีรอบ 9.25 รถไฟชั้นสาม (พัดลม) ของขบวนนี้ฟรีสำหรับคนไทย(ต่างชาติต้องเสียเงิน) มีคนขึ้นรถไฟค่อนข้างเยอะกว่าที่คิดไว้ ขอแนะนำว่าควรจะขึ้นรถไฟก่อนเวลาออกอย่างน้อย15นาทีถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆ ที่นั่งเป็นเบาะคู่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ถ้าใครยังไม่ได้กินข้าวเช้าก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะในรถไฟก็จะมีคนเดินขายน้ำ ขายอาหารอยู่ตลอดทาง ราคาค่อนข้างย่อมเยาว์ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ารสชาติเป็นยังไง



รถไฟเข้าเทียบชานชลา ณ อยุธยาประมาณ 11.30 ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่บอกในตารางเดินรถมาก เมื่อลงจากรถไฟ เราก็ถ่ายรูปซักเล็กน้อยก่อนเดินไปขอแผนที่อยุธยาจากประชาสัมพันธ์ของสถานี



หน้าสถานีมีรถตุ๊กตุ๊กจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่เพราะว่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะขี่จักรยาน เราจึงปฏิเสธไป ซอยตรงข้ามสถานีมีร้านเช่าจักรยานอยู่ แต่ขอแนะนำว่าให้ไปเช่าหลังจากข้ามแม่น้ำป่าสักจะดีกว่าเพราะจะได้ไม่ต้องแบกจักรยานลงเรือ เราขึ้นเรือข้ามฟากที่ราคา5บาทสำหรับผู้ใหญ่และ4บาทสำหรับเด็กไปที่ท่าเรือข้ามฟากตลาดเจ้าพรหม เมื่อขึ้นจากเรือก็จะเจอร้านเช่าจักรยาน ราคา 40 บาทต่อคันต่อวัน พี่ที่ร้านจักรยานก็ใจดีแนะนำวัดที่น่าเที่ยวเล็กน้อยก่อนออกเดินทาง

วัดมหาธาตุเป็นวัดแรกที่เราเลือกไปเพราะอยู่ไม่ไกลจากร้านจักรยานเท่าไหร่ คนไทยสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ชาวต่างชาติต้องจ่าย 50 บาท)



นอกจากจะเป็นวัดที่ใหญ่พอควรแล้ว ไฮไลท์ของวัดนี้ที่ใครๆไปก็จะไปถ่ายรูปก็คือเศียรพระพุทธรูปที่อยู่ไนต้นไม้



ปั่นจักรยานไม่กี่ร้อยเมตรจากวัดมหาธาตุก็จะถึงวัดราชบูรณะ วัดนี้เป็นวัดที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่ก็สวยพอควรทีเดียว คนก็ค่อนข้างน้อยกว่าทำให้เรามีโอกาสเก็บภาพ portrait สวยๆมาหลายรูปทีเดียว



กว่าจะถ่ายรูปกันเสร็จก็เที่ยงกว่าๆแล้ว เราพักกินข้าวกลางวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเลยจากวัดราชบูรณะไปซักไฟแดงสองไฟแดง (ถ้าขับจักรยานมาจากวัดราชบูรณะ ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือ) รสชาติใช้ได้ทีเดียว จานค่อนข้างเล็กแต่ราคาก็ไม่แพงมาก

หลังจากหลงทางอยู่ซักพัก เราก็ปั่นไปถึงตลาดใกล้ๆวัดพระศรีสรรเพชญ์ แวะซื้อน้ำและสายไหมซึ่งเป็นของดังของจังหวัดอยุธยา (3ถุง100บาท แบ่งกันคนละถุงพอดี) หลังจากนั้นก็แวะไหว้พระและเสี่ยงเซียมซี ณ วิหารพระมงคงบพิตรก่อนจะเดินไปวัดพระศรีสรรเพชญ์ (มีเจดีย์สามองค์เป็นจุดสังเกตุ)







วัดสุดท้ายที่เราจะไปก็คือวัดไชยมงคล ก่อนมาจขกท.ก็เช็คเวลาพระอาทิตย์ตกมาคร่าวๆเพื่อจะได้กะเวลาไปถ่ายพระอาทืตย์ตกที่วัดใหญ่ทัน วัดนี้ค่อนข้างไกลจากวัดอื่นๆอยู่ ระหว่างทางก็ผ่านโรงพยาบาลกลาง แถวนี้มีร้านขายสายไหมเยอะ ใครที่ยังไม่ได้ซื้อก็มาซื้อแถวนี้ได้ หลังจากแวะซื้อน้ำซื้อผ้าเย็นจากเซเว่นก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ วัดนี้อยู่ค่อนข้างไกล จึงค่อนข้างอันตรายสำหรับคนที่ขี่จักรยานไม่ค่อยแข็ง ขี่ตามกูเกิ้ลแม็พไปเรื่อยๆ (มีขี่ขึ้นสะพานสูงๆข้ามแม่น้ำให้ออกกำลังกายซักเล็กน้อย) ไปถึงวัดประมาณสี่โมงนิดๆ แดดกำลังสวย เหมาะสำหรับการถ่ายพอร์เทรทอย่างยิ่ง





ถ่ายพระอาทิตย์ตกจนหนำใจก็ได้เวลาขี่จักรยานกลับ แนะนำให้เพื่อเวลาออกจากวัดก่อนพระอาทิตย์ตกดินซักเล็กน้อย เพราะขากลับทางค่อนข้างมืด ถ้าจักรยานไม่มีไฟก็จะอันตราย แวะคืนจักรยานตอนทุ่มนึง โดนพ่อบ่นทางโทรศัพท์ว่ากลับช้าพอเป็นพิธี แต่พี่เจ้าของร้านใจดีพาแว๊นซ์มอไซต์ไปที่ท่ารถตู้รอบทุ่มครึ่ง (รอบสุดท้าย) เพื่อกลับอนุเสาวรีย์

ถึงอนุเสาวรีย์ตอน 20.30 พอดี แวะกินข้าวกันแถวๆนั้นก่อนแยกย้าย เป็นอันว่าจบวันพอดี

สรุป:
    - เที่ยวอยุธยา 1 วัน 4 วัด 1 วิหาร
    - ค่าใช้จ่ายต่อคน: น้อยกว่า 300 บาท (ไม่รวมมื้อเย็นและแท็กซี่กลับบ้านจากอนุเสาวรีย์)
    - ของฝากกลับบ้านเป็นสายไหมคนละถุง
    - รูปที่ถ่าย: หลายร้อยรูป

แนะนำ:
    - ถ้าเป็นไปได้ให้ขึ้นรถไฟรอบประมาณแปดโมงครึ่งจากหัวลำโพง เพราะจะได้เริ่มเที่ยวตอนยังไม่ร้อนมาก และจะได้ไปวัดเพิ่มด้วย เราเองอยากจะไปวัดพระนอนอยู่ แต่เวลาไม่พอ
     - ถ้าใครกลัวดำ ก็อย่าลืมพกแจ็กเก็ต/คาร์ดิแกน และครีมกันแดดไปนะคะ
    - ยังไม่ต้องรีบซื้อสายไหม เพราะเราเองซื้อตั้งแต่เที่ยงแล้วก็ให้มันตากแดดอยู่บนรถจักรยานครึ่งวัน (เพื่ออะไร?)
    - อย่ารอจนพระอาทิตย์ตกแล้วค่อยออกจากวัดเพราะปั่นจักรยานกลางคืนค่อนข้างอันตราย (จักรยานเช่าส่วนใหญ่ไม่มีไฟหน้ารถติดมา)

เพิ่มเติม:
    - ภาพที่ลง ถ่ายด้วยกล้อง Nikon D5200 สองตัว (เรากับเพื่อนคนนึงบังเอิญใช้กล้องรุ่นเดียวกัน) และเลนส์ nikon 35mm/1.8D กับ Tamron 18-270mm
    - รูปที่ถ่ายเป็นภาพที่เราถ่ายเองกับที่เพื่อนถ่ายผสมๆกันไป อาจจะไม่ได้โปรเท่าไหร่นะ (กำลังฝึกฝนอยู่ค่ะ)
    - สามารถเช็คตารางรถไฟได้ที่ http://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp
    - สามารถหาแผนที่ได้ที่ http://www.photoontour.com/gallery2/flood49_2/ayudhaya_map.htm แต่ไปขอที่สถานีรถไฟหรือร้านจักรยานก็ได้
    - ข้างล่างเป็นเส้นทางขี่จักรยานคร่าวๆที่เราใช้ (ขากลับจากวัดไชยวนารามเราใช้กูเกิ้ลแมพเลยจำทางไม่ได้)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่