ผมเคยเป็นนักเรียนมาก่อน และเกิดข้อสงสัยกับการเรียนวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยในโรงเรียน ซึ่งนับวันมันจะเหมือนวิชาท่องจำมากขึ้นทุกวัน ปัจจุบันนี้นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนวิทยาศาสตร์นั้นไม่ค่อยได้ทำการทดลอง กลายเป็นว่าเรียนแต่ในตำรา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทำให้การเรียนการสอนนั้นขาดประสิทธิภาพซึ่งแน่นอนว่าในตัวนักเรียนนั้นก็จะขาดทักษะในการทำการทดลอง และทำให้การเรียนการสอนนั้นไม่น่าสนใจ แม้กระทั่งรุ่นผมซึ่งผ่านการเรียนมัธยมศึกษาในโรงเรียนมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตอนที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ก็แทบไม่เคยได้ทดลองเลยทั้งๆที่มีชั่วโมงเข้าห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับผมการทดลองนั้นมีความสำคัญมาก การที่เรียนได้อย่างเข้าใจไม่ใช่เพียงแต่การอ่านตำราเรียนเพียงอย่างเดียวหรือจดตามที่ครูบอกว่าผลการทดลองจะเป็นอย่างนี้ ผมอยากให้ครูผู้สอนใส่ใจในส่วนนี้มากกว่านี้ เพราะเวลาเรียนในระดับที่สูงขึ้นทักษะพวกนี้ต้องนำไปต่อยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสายวิทยาศาสตร์ซึ่งจะตองทำการทดลอง กับประสบการณ์ตรงของผมตอนเรียนชั้น ปี 1 วิชาแลปเคมีพื้นฐาน ผมเพิ่งเคยทำการทดลองไตเตรต (เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนเรื่อง กรด-เบส) ทั้งๆที่เคยเรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมแต่ก็ได้เพียงแต่คำนวณและฟังคำอธิบายว่าการไตเตรตทำอย่างไรบนกระดานดำเท่านั้น สารอินดิเคเตอร์หน้าตาเป็นอย่างไรก็เพิ่งจะเคยเห็นตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งๆที่สารเหล่านี้ในโรงเรียนก็มีเพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอนอยู่แล้ว หากถามว่าโรงเรียนใดบ้างล่ะที่มีให้นักเรียนได้ทำการทดลองวิชาวิทยาศาสตร์ ตอบเลยครับว่ามีน้อยมากๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่ารายวิชามีผลการเรียนรู้ที่คาดหวังระบุชัดเจนว่านักเรียนต้องทำการทดลอง แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสนั้น จากนักเรียนที่ไม่ค่อยสนใจเรียนอยู่แล้วเพราะถูกสื่ออื่นๆ อาทิเช่น Social Media ต่างๆที่ดึงดูดให้นักเรียนไม่สนใจเรียน กลับมาเรียนในห้องเรียนที่มีแต่การบรรยายมันก็ยิ่งให้ไม่สนใจเรียนกันไปใหญ่ครับ
เรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน นักเรียนได้ทำการทดลองบ้างหรือไม่ หรือเรียนแบบบอกจดตามครู