แอบชอบรุ่นพี่คนนึงคะ บางครั้งก็เหมือนจะมีใจนะคะ แต่บางครั้งพี่เค้าก็เฉยใส่เรา

สวัสดีคะเราชื่อมายนะ อยู่ม.4 กำลังแอบชอบรุ่นพี่ม.5 คนนึงเขาเป็นนักบาส และก็เป็นคทากรด้วยหน้าตาพี่เขานี่แบบสาวๆตรึมคะ
มาเริ่มเรื่องกันเลยคะ
วันแรกที่มายได้เห็นหน้ารุ่นพี่มายจำได้ว่าวันนั้นมายไป รร สาย และเค้าก็กำลังเปิดตัวแต่ละสี (กีฬาสีคะ) ตอนนั้น ครั้งแรกนะคะที่มายเห็น พี่เค้า พี่เค้ากำลังควงไม้คทาออกมาจากหน้าเสาธงขณะที่มายกำลังเอากระเป๋าไปวางที่แถวพอดี และก็มีเด็กกรี๊ดพี่เค้าเต็มไปหมด และเราก็เดินไปดู พอเห็นก็เลยพูดว่าเห้ยคทากรสีนี้ยิ้มเท่จังเลย  ทีนี้เพื่อนที่เราพึ่งจะสนิทก็บอกว่านั้นแหละพี่คนนั้นแหละที่เราแอบชอบตั้งแต่ตอน อยู่ รร เก่าจนตอนนี้เพื่อนมายก็ยังชอบพี่เค้าอยู่นะคะ ต่อมาเลยนะคะครั้งที่สองที่มายได้เห็นพี่เค้าใกล้ๆ ตอนนั้นเป็นเทศกาลทานะบาตะไรสักอย่างเป็นงานของศิลป์ญี่ปุ่นที่มายเรียนเองคะ ตอนนั้นมายทำหน้าที่ขายขนม และพี่เค้าก็นั่งอยู่โต๊ะไม้หินอ่อนติดๆกับโต๊ะที่มายนั่งกับเพื่อนเลยคะ (สมมติว่าเพื่อนมายที่แอบชอบพี่เขาชื่อพีคะ)ตอนนั้นมายนั่งกับพีสองคน  ส่วนพี่เค้าก็กำลังเขียนคำขอพรคะ โดยมันจะต้องเอาไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ไผ่ ตอนนั้นมายก็ยังไม่ได้ชอบอะไรพี่เค้านะคะ แค่มองว่าน่ารักดี ตอนนั้นมายนึกอยากจะช่วยพี ก็เลยหยิบโทรสับทำเป็นเซลฟี่ตัวเองแต่ก็แอบไปถ่ายทางพี่เค้า และมันก็ได้ผลเลยคะ พี่เค้าหันมามองในกล้องพอดีเลยคะแต่ก็ ไม่รู้นะคะว่าพี่เค้ารู้ตัวรึป่าวว่าเราแอบถ่ายรูปอยู่ หลังจากนั้นก็ส่งรูปให้พีดู พีก็เหมือนจะดีใจตามประสาของคนแอบชอบนั้นแหละคะ 5555 ไอเราก็ขำว่าทำไปได้ไง โคตรอายเลย หลังจากนั้นเราก็พยายามกระโดดไปดูที่คำอวยพรของพี่เค้าทันทีที่พี่เค้าแขวนเลยคะ แต่ว่าพี่เค้าแขวนไว้สูงมากตอนนั้นเราก็พอจับใจความได้ว่าพี่เค้าขอพรให้กับครอบครัวคะ เราก็แบบโห้ว น่ารักมากกก เป็นคนรักครอบครัวมีอะไรนึกถึงครอบครัวตลอด
วันนั้นตอนบ่ายพอ รร เลิก มายก็ไปกินหมูกระทะกับพี จำได้ว่าตอนนั้นพีกำลังจะส่งรูปที่เราถ่ายกับพิมพ์ข้อความทักพี่เค้าไปเราก็เลยคิดอะไรสนุกๆออก ก็เลยบอกพีไปว่าขอดูโทรสับหน่อยดิ แล้วก็กดส่งออกทันทีเลยคะ ตอนนั้นพีแบบเหมือนจะเขินนะแต่ก็เก๊กๆทำเป็นว่าทำเป็นตีเราอะ พอพี่เค้าตอบกลับมาพีก็จะให้เราดูตลอด พีเป็นเพื่อนที่น่ารักนะคะ มีอะไรก็จะเล่าให้เราฟังตลอดพอเขาว่างๆก็จะเล่าเรื่องของพี่เค้าให้ฟัง ก็เลยทำให้เราพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับพี่เค้าเยอะขึ้น  พอหลายๆวันผ่านมา ตอนนั้นพีสไก้มาบอกมายคะว่าเราจะบอกชอบพี่เค้านะ เราก็บอกว่าถ้าสบายใจก็บอกไปเลย ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าพี่เค้ารู้สึกยังไง พีก็เลยส่งข้อความไปบอกชอบพี่เค้าคะ  แต่ว่าพี่เค้าอ่านแล้วไม่ตอบ ตอนนั้นพีก็พยายามตัดใจจากพี่เค้าคะ แต่ก็เหมือนจะยังตัดไม่ได้นะคะ ข้ามเรื่องไปเลยนะคะกลับที่จุดเริ่มต้นของมายกับพี่เค้าเลยคะ จุดเริ่มต้นมันพึ่งจะเริ่มเมื่อตอนแข่งกีฬาสีเสร็จคะ ตอนนั้นมายแอดเฟสพี่เค้าไปคะ ช่วงนั้นนะคะเฟสมายกำลังมียอดไลค์เพิ่มคะจากที่ว่าร้อยกว่าก็กลายเป็นหกเจ็ดร้อยกว่า บางรูปนี่พันกว่าเลยนะคะ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราเริ่มมีคนเข้ามาทักเยอะ ก็เลยมีคนรู้จักเยอะคะ  แต่ก็ไม่ได้ดังอะไรนะคะ แค่รู้สึกว่าช่วงนั้นกำลังขาขึ้นเฉยๆ5555555 ต่อเลยนะคะตอนนั้นพี่เค้ารับแอดมายคะ แล้วก็มาโพสต์หน้าไทม์ไลน์มายว่ารับแอดแล้วนะ^^ เราก็เลยเขินๆไปโพสต์กลับว่า ขอบคุณที่รับแอดคะ ^^ ตอนนั้นมายตั้งภาพปกตัวเองฉีกขาจำได้เลยคะตอนนั้นคนแซวเยอะมากเลย คือเราแค่อยากจะโชว์เฉยๆว่าฉีกขาได้นะ มันเป็นรูปตอนที่มายซ้อมลีดเดอร์คะ แต่คนอื่นมองยังไงมายก็ไม่รู้นะ 5555555555555 แล้วหลังจากนั้นพี่เค้าก็ทักมาคำแรกว่าภาพปกโหดนะ เราก็แบบ ทักแบบแปลกจากคนอื่นที่เราเคยคุยมาเลยนะ ตอนนั้นมายก็เลยเริ่มจะชอบพี่เค้าคะ หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันเลยคะ มีหลายครั้งนะคะที่พี่เค้าชวนเราไปกินโรตีบ้าง น้ำชาบ้าง แต่ก็มายก็ไม่ได้ไปตลอดเลย ไม่ใช่ไม่อยากไปนะคะ เอาจิงๆคือเราอยากไปมาก เพราะมันจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ใกล้กับพี่เค้ามากขึ้น และความฝันก็เป็นจริงคะ วันนั้นมายชวนพี่เค้าไปวิ่งหน้าเมืองตอนเช้ารุ่ง และมายก็ได้โทรนัดอะไรกับพี่เค้าเรียบร้อย (เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่เราได้เบอพี่เค้า คือแบบดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้เบอพี่เค้ามาก่อน) แล้วเราก็คุยกันทางแชทกันต่อ พี่เค้าบอกว่าให้เราโทรไปปลุกไรงี้ คือแบบเราก็ยิ่งเขินไปอีก วันนั้นนอนก็ไม่หลับคะ คืออยากให้ถึง พน ไวๆไง >< และวันนั้นก็มาถึงมายตื่นตอนตีห้าตอนเช้าแล้วก็โทรไปปลุกพี่เค้า หลังจากนั้นพี่เค้าก็โทรมาว่ากำลังออกไป ไอเราก็ไม่คิดอะไรมากนะไขกุญแจปกติพอเปิดไปหน้าบ้านเท่านั้นแหละ คือพี่เค้าจอดมอเตอร์ไซด์อยู่ตรงหน้าบ้านเราเว้ย เราก็แบบตกใจเห้ย มาได้ไง แล้วรู้ได้ไงว่าบ้านเราอยู่ตรงนี้ แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าก็คือ ป้ามายยืนอยู่ข้างหลังค่ะคือไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้มาวิ่งวันนี้ เราก็เลยบอกพี่เขาไปว่าไปเจอกันหน้าเมืองนะเราก็เดินไป พี่เขาก็ขับรถตามหลังเรามาติดๆ ตอนนั้นก็เขินนะ เลยลืมดูป้าเลย 55555555555555 และเราก็เดินบ้างวิ่งบ้างและก็คุยกันระหว่างเดิน จะบอกว่าเวลาได้คุยกับพี่เค้ารู้สึกเขินๆนะ ก็เลยดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไร ก็มันอายเลา คนพึ่งจะนัดเจอกันครั้งแรกนะ >///< ตอนนั้นจำได้นะตอนที่เราวิ่งรอบสุดท้ายอะ มายก็บอกพี่เขานะว่าไม่ไหวแล้ว พี่เขาก็บอกว่าอีกนิดเดียวแล้วไปให้ถึงตรงนั้นเดี่ยวก้ได้หยุดแล้ว แต่ตอนนั้นเราไม่ไหวจริงๆ ไม่ไหวมากๆ พี่เค้าก็เลยเอามือมาดันหลังเราจนสุดท้ายเราก็วิ่งไปถึงตรงนั้น และทีนี้พี่เค้าก็แนะนำเราว่าให้ยืดขาหน่อยจะได้ไม่เมื่อย และพี่เค้าก็ทักว่าเราหน้าซีดด้วย คือแบบตอนนั้นมายก็รู้ตัวเองแล้วแหละ ว่าหน้าตัวเองเนี่ยหน้าคงจะแบบไก่ไม่มีเลือด หรือ ไก่ถูกต้มอะ 5555555 คือซีดจิงๆนะยอมรับเลย และหลังจากนั้นเว้ย เราได้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่เค้าฟินมาก ครั้งแรกไง แล้วพี่เค้าก็ถามว่าไปหาไรกินกันก่อนมั้ย เราก็บอกไปว่าได้ เขินนะคือไม่ได้นัดไรล่วงหน้าไงคือพี่เขาชวนปุปเราก็ตกลงทันทีเลย  ระหว่างนั่งรถเราก็คุยกันปกติ และแล้วความเงียบก็บังเกิดก็ตอนที่เราได้นั่งหันหน้าเข้าหากันตอนกินโจ๊ก คือแบบตอนนั้นมายไม่มองหน้าพี่เค้าเลยนะคือเขินไง แล้วพี่เค้าก็เหมือนจะแอบเหล่ๆตามาบ้างนะ แต่เราก็คุยกันนะ ไม่ใช่ว่าไม่คุย แต่ก็เขินมั้งไง และพอตอนจ่ายตังพี่เค้าก็จ่ายให้เราก่อน และก็บอกว่ารอบหน้าค่อยเลี่ยงพี่คืนก็ได้ เราก็แบบเห้ย จะมีรอบหน้าอีกจิงๆใช่มั้ย คือเขินไง แต่ก็ชอบนะ ยังก็ได้ ขอแค่ให้ได้ไปกับคนที่เรารักเราชอบก็พอแล้ว และหลังจากนั้นพี่เค้าก็มาส่งเรากลับบ้าน เฮ้อ วันนั้นเราโคตรมีความสุขเลยอะ คือนั่งเก็บเอาไปคิดทั้งวันทั้งคืน ข้ามเรื่องมาต่อเลยนะ เราก็แชทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันนั้นเราก็นัดไปหาไรกินกันอีก วันนั้นพี่เขาโทรมาบอกว่าอยู่หน้าเมืองแล้วนะ ไอเรานี่แบบวิ่งจุกตูดหากระเป๋าใส่รองเท้าทันทีเลย และตอนนั้นใส่หมวกกันน็อคเนี่ยคือมันใส่ยาก หรือเราใส่ไม่ถูกก็ไม่รู้นะ แต่ที่รู้ๆคือพี่เค้าหยิบหมวกไปแล้วใส่ให้เราเว้ยเขินว่ะ เขินอีกแล้ว ระหว่างพี่เค้าขับรถเวลาเราพูดอะไรพี่เค้าก็จะหันหน้ามาฟัง ซึ่งตอนนั้นหน้าเราจะใกล้กันมาก แบบ แก้มจะติดกันละ ถ้าหอมแก้มได้นะหอมไปนานละ (เดี่ยวๆ หยอกเล่นนะ 55555) และก็ถึงร้านหอมหวาน เป็นร้านน้ำแข็งใสน่ารักๆ สบายๆ ที่เด็กนักเรียนชอบมากินกัน และแหม่บังเอิ๊นบังเอินตอนเข้าไปในร้าน เราก็เจอเพื่อนอะดิ เพื่อนมันก็มโนไปเลยทีนี้ ว่ามากับใครหว่า แหนะๆๆๆ ไอเราก็ยิ้มนะไม่พูดไร แต่รอบนี้รู้สึกดีนะ เหมือนจะกล้าคุยกันมากขึ้น มองตากันได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเกร็ง ระหว่างกินน้ำแข็งใสพี่เขาก็ให้เราชิมของพี่เขาว่าอร่อยนะรสนี้อะ ชิมดูเร็ว (รสยาคูลท์ใส่ลูกเดือย 55555) หลังจากนั้นเราก็คุยกันว่าจะไปไหนต่อดี ตอนแรกพี่เขาชวนเราไปดูหนังนะ แต่วันนั้นเราไม่ได้เอาตังไปเยอะไง พึ่งจะเอาไปฟาดเรียบกับเพื่อนเมื่อวานเอง TT ก็เลยตอบไปว่าแม่ยังไม่โอนเงินมาเลย -..-  พี่เขาก็เลยพาเราไปอ่านหนังสือในซีเอดแทน เราก็หยิบหนังสือคนละเล่ม ไปหนังอ่านกัน จำได้เลยนะ ครั้งนั้นเรานั่งกันชิดมาก และก็มีตอนนึงที่มือของพี่เค้ามาอยู่บนตักเรา โคตรน่ารักอะ เรานี่ก็แบบแอบยิ้มนะ ไม่รู้ว่าพี่เค้าจะจับติดหรือป่าว อ่อๆๆ มีตอนนึงพี่เค้าน่ารักมาก พี่เค้าหยิบหนังสือโฮเด้งที่อยู่หลังพี่เขามาอ่านแล้วก็ชวนเราไปกินก๋วยเตี๋ยวทันทีเลย5555 น่ารักนะ แต่ว่าไม่ได้ไปกินอะ เพราะว่ามายยังอิ่มอยู่เลยตอนนั้น ตอนนั้นก็รู้สึกผิดนะ ที่ไม่ยอมกินก๋วยเตี๋ยวเป็นเพื่อนพี่เค้าอะ ต่อมาระหว่างจะกลับเราย้อนกลับไปนะตอนจะเดินเข้าห้างอะเราเจอ ผช คนนึง เมื่อตอนเราอยู่ ม.2 ผช คนนั้นเคยแฝงตัวเป็นเซลขายเตาแก๊สแล้วบุกเข้ามาในบ้านเรา วันนั้นถ้าเราไม่รีบวิ่งไปหยิบโทรสับนะ ก็คงโดนข่มขืนไปแล้วละ เพราะตอนนั้นเราอยู่บ้านคนเดียวไง และก็ไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน ก็เลยทำให้ภาพนั้นมันติดตา ต่อจากที่ย้อนกลับไปเลยนะ ขากลับเราเดินออกมา ผช คนนั้น ก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ระหว่างความกลัวมายก็พอจะรู้สึกดีนะ ที่พี่เขาเอามือมาจับไหล่เราแล้วพูดว่าไม่เปนไรนะ  ตอนนั้นเรารู้สึกอบอุ่นใจมาก ที่มีพี่เขาอยู่ข้างๆ เลยทำให้อุ่นใจ ระหว่างกลับบ้านพี่เขาก็ไปส่งเรานะ แต่ดันมามีงานหน้าเมืองพี่เขาก็เลยแวะพาไปหาไรกินกัน พี่เค้าซื้อป๊อะเปี๊ยะ (เขียนถูกมั้ยเนี่ย -0-) ส่วนเราก็ซื้อน้ำส้มปั่น และแล้วความฟรุ้งฟริ้งก็บังเกิดหันไปเจออาจารคะ แหม่ๆ ไม่มีไรมากหรอกคะ ก็แค่อาจารเดินเข้ามาทักพี่เค้า แต่ไม่ต้องคิดไรมากหรอกนะคะ หลังจากเจออาจารที่ รร อาจารก็เข้ามาแซวต่อหน้าเพื่อนเลยคะ ไว้เดี่ยวเล่าให้ฟังนะคะ กลับตอนเมื่อกี้ก่อน พอทักทายอาจารเสร็จเราก็ไปนั่งกินกัน คุยกัน แล้วพี่เค้าก็พาเรามาส่งที่บ้าน และก็กลับไปคุยกันทางแชทต่อ หลังจากนั้นก็เหมือนว่าเราจะเริ่มสนิทมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะมีหยอดๆกันบ้าง แต่มายก็ไม่รู้หรอกนะว่าความรู้สึกนี้พี่เขาจะรู้สึกเหมือนมายหรือป่าวว หลังจากนั้นมายก็ไปเที่ยวภูเก็ต ก่อนไปมายก็หยอดๆไปหาพี่เขาว่าอย่ามาคิดถึงก็ละกัน แล้วพี่เขาก็ตอบว่า ไม่รับปาก อร้ายยยๆ ไอเรานี่บิดตัวเป็นเกลียวเลย และหลังจากที่มายไปภูเก็ตก็เดี่ยวได้คุยบ้างไม่ได้คุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรมากคะ จนกระทั่งมีครั้งนึงเราอัดเสียงตัวเองร้องเพลงส่งไปให้พี่เขา เพราะเคยสัญญาไว้ แล้วไม่ได้อัดสักที พี่เขาก็เลยมาทวง ตอนนั้นมายร้องเพลง ฝากไว้ในกายเทอ 5555 ไม่รู้นึกไง อัดเสร็จก็ส่งไปเลย ตอนแรกก็ไม่กล้าส่งนะ กลัวจะฟังไม่ได้ อายด้วย แต่ก็ไม่อยากผิดคำพูด สุดท้ายก็เลยตัดสินใจส่ง แต่แบบปริ่มอะ พี่เขาบอกว่าเพราะดีนะ เรานี่แบบ เฮ้ออออ โล่งอกไปหน่อย หลังจากนี้เราก็คุยแชทกันปกติเรื่อยๆ บางครั้งก็ได้คุยบ่อยมาก แต่บางครั้งก็มาๆหายๆ แต่เราก็ต้องเข้าใจแหละเนอะ จะให้พี่เขาว่างมาตอบเราตลอด 24 ชม. ก็คงไม่ได้หรอก แต่แบบครั้งไหนที่ไม่ได้คุยนะ ยิ้มเฟลอะ คิดถึงไง บางครั้งนี่แบบงี่เง่านะ โพสตัสนู้นนี้ บางทีมายก็ดูเยอะอะ เอาง่าย อารม ผญ ก็จะแบบที่ทำไปก็อยากให้สนใจบ้างไรบ้างไง ข้ามมาตอนเปิดเทอมเลยนะ เปิดเทอมสองสิ่งแรกที่เรามองหาก็แน่นอนว่าต้องเป็นพี่เขา ตอนนั้นพียังไม่รู้นะว่ามายกำลังชอบพี่เขา แต่พอผ่านมาเรื่อย พอเราเริ่มมองหาพี่เขาบ่อยๆ ถามเรื่องพี่เขาบ่อยๆ พีก็เริ่มจะสงสัยแล้วละ และบางครั้งเวลาเราเจอพี่เขาพี่เขาก็จะคอยทักเราบ้าง เตะตบเราบ้าง พีก็อาจจะเริ่มสงสัยแล้วละมั้ง ใจนึงเราก็ดีใจนะที่พี่เขาทัก แต่ใจนึงก็ไม่อยากทำแบบนี้กับพี จนกระทั่งวันนั้น วันที่มาย พี และเพื่อน นั่งคุยกันแบบสนุกสนาน จนอาจารที่เคยเจอมายกับพี่เขาตอนไปหาไรกินด้วยกัน อาจารก็เลยเข้ามาทักว่า วันนั้นใส่กางเกงขาดๆ ปล่อยผม ไปเดินกับใครแล้วนะ พี่ม.5 อะ ไอเราก็กลัวว่าอาจารจะพูดชื่อ ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าเราไม่ตอบอาจารก็จะต้องพูดชื่อพี่เขา มายก็เลยตัดสินใจพูดชื่อจริงพี่เขาออกไป ทำให้พีต้องหลบหน้าไปอีกทางเลยทันที เหตุการณ์ในตอนนั้นทุกคนพากันเงียบมาก แต่พอสักพักทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ เรื่องราวก็เวียนไปเวียนมาแบบนี้เรื่อยๆ เราก็เจอพี่เขา พี่เขาก็ทักเรา ส่วนพีก็หลบหน้า จนกระทั่งวันลอยกระทง วันนั้นเพื่อนของมายที่ชื่อวิวเขามาที่บ้านมาย พีก็มาด้วยนะ  เรื่องยังไม่จบนะคะ เดี่ยวจะกลับมาเล่าต่อคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่