เชื่อว่าความฝันของทุกคน ย่อมอยากมีบ้านเป็นของตนเอง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่ไม่ต้องไปใช้กำแพงร่วมกับคนอื่น
ราคาบ้านเดี่ยวปัจจุบันนี้ แค่แถวชานเมือง เนื้อที่น้อยสุดที่จะทำบ้านเดี่ยวได้ ก็เกิน สามล้านแล้วทั้งนั้น
นั่นหมายความว่า ใครก็ตามที่หาเงินทั้งชีวิตเพื่อมีบ้านสักหลัง ถึงเวลาที่เค้าเลิกจ้าง ไม่มีงานทำกันแล้ว ก็เตรียมขายบ้านทิ้งได้เลย
เพราะคงจะไม่มีเงินเหลือพอมาจ่ายภาษีกันแน่ เผลอๆอาจถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เพื่อเอาเงินมาจ่ายภาษี
ถ้ากฎหมายนี้ผ่านเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า บ้านที่ราคาประเมินต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
ราคา 1 ล้าน - 3 ล้าน เสียภาษี 2500 - 7500 บาทต่อปี
ราคา 3 ล้านหนึ่งสตางค์ - 10 ล้าน เสียภาษี 15000 - 50000 บาทต่อปี หรือ 1250 - 4167 บาทต่อเดือน
ยังไงถ้าจะเก็บกันแบบนี้จริงๆ ผมยอมเสียนะ หากรัฐสัญญาว่าจะปรับปรุงการบริการทุกอย่างของรัฐให้ดีขึ้นตามและรับประกันความพึงพอใจด้วย
ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าน เริ่มตั้งแต่ สาธารณูปโภค ถนนหนทาง การดูแลรักษาความปลอดภัย การติดตามของหาย แม้แต่การซื้อขาย ต้องสะดวกรวดเร็ว
ถ้าคิดว่าทำได้ ก็มาเอาเงินไป จะได้เลิกจ้างนิติบุคคลดูแลซะที
หรืออีกทางหนึ่ง รัฐต้องมีสวัสดิการเงินบำนาญสำหรับผู้มีบ้านทุกคนหลังเกษียณ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้
หากจะเก็บภาษีบ้านที่อยู่อาศัยแบบนี้ เช่าบ้านอยู่ดีกว่ามั้ย
ราคาบ้านเดี่ยวปัจจุบันนี้ แค่แถวชานเมือง เนื้อที่น้อยสุดที่จะทำบ้านเดี่ยวได้ ก็เกิน สามล้านแล้วทั้งนั้น
นั่นหมายความว่า ใครก็ตามที่หาเงินทั้งชีวิตเพื่อมีบ้านสักหลัง ถึงเวลาที่เค้าเลิกจ้าง ไม่มีงานทำกันแล้ว ก็เตรียมขายบ้านทิ้งได้เลย
เพราะคงจะไม่มีเงินเหลือพอมาจ่ายภาษีกันแน่ เผลอๆอาจถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เพื่อเอาเงินมาจ่ายภาษี
ถ้ากฎหมายนี้ผ่านเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า บ้านที่ราคาประเมินต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
ราคา 1 ล้าน - 3 ล้าน เสียภาษี 2500 - 7500 บาทต่อปี
ราคา 3 ล้านหนึ่งสตางค์ - 10 ล้าน เสียภาษี 15000 - 50000 บาทต่อปี หรือ 1250 - 4167 บาทต่อเดือน
ยังไงถ้าจะเก็บกันแบบนี้จริงๆ ผมยอมเสียนะ หากรัฐสัญญาว่าจะปรับปรุงการบริการทุกอย่างของรัฐให้ดีขึ้นตามและรับประกันความพึงพอใจด้วย
ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าน เริ่มตั้งแต่ สาธารณูปโภค ถนนหนทาง การดูแลรักษาความปลอดภัย การติดตามของหาย แม้แต่การซื้อขาย ต้องสะดวกรวดเร็ว
ถ้าคิดว่าทำได้ ก็มาเอาเงินไป จะได้เลิกจ้างนิติบุคคลดูแลซะที
หรืออีกทางหนึ่ง รัฐต้องมีสวัสดิการเงินบำนาญสำหรับผู้มีบ้านทุกคนหลังเกษียณ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้