สิ่งที่ข้าพเจ้าได้จากการทำงานมา 1 ปี (มารวบรวมข้อคิดให้เด็กจบใหม่กันเถอะ)

ไม่นึกไม่ฝันว่าชีวิตการทำงานมันจะเป็นความจริง ยิ่งกว่าในละครเสียอีก
แรกเริ่มเดิมทีเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มุ่งหวังอยากจะมีการมีงานทำ มีเงินดีๆใช้ ได้เลี้ยงพ่อแม่ ได้ไปเที่ยว ซื้อของสวยๆ
แต่คำว่าการทำงาน มันไม่ได้มีเส้นทางที่เรียบง่ายกันไปแบบนั้นในทุกๆคน
หนทางย่อมไม่เคยวางด้วยกุหลาบที่ทาบทับถนนไปตามทางยาวหลายกิโล
แต่มันยิ่งกว่านั้น ... แต่ก็ใช่ว่าจะมานั่งเครียดอะไร นี่คือสิ่งที่เราอยากแชร์ ให้กับเด็กๆที่จบใหม่
หรือคนที่กำลังจะเริ่มทำงาน ในแบบที่เราและเพื่อนๆๆๆเคยประสบพบเจอมา
// และยินดีมาก หากท่านใดมีข้อเพิ่มเติม เชิญได้เลยค่ะ
เพราะจุดประสงค์ที่เราตั้งทู้ขึ้นมา ก็เพื่ออยากให้พวกเขาเหล่านั้นได้รู้จักโลกของการทำงานมากขึ้น
ซึ่งของแต่ละคน แต่ละสายงาน ย่อมไม่เหมือนกัน และมีคำแนะนำที่แตกต่างกันแน่นอน

===============================================================

1. หากเวลาเข้างานของคุณคือ 08.00 น. นั่นหมายถึง คุณควรจะต้องยืนรอตอกบัตรก่อนเวลา 07.45 น. เผื่อคนรอตอกบัตรเยอะ เผื่อคนรอคิวขึ้นลิฟต์เยอะ เผื่อต้องเดินเลี่ยงหัวหน้า เผื่อต้องแวะซื้อของกินจุกจิกแถว 7-11

2. หากคุณเผอิญตอกบัตรช้าไป 1 นาที ยังไงก็ไม่มีหยวน สายคือสาย เป๊ะคือเป๊ะ เข้างาน 8 โมง ตอกบัตรแล้วมันโชว์ 8.01 น. แบบนี้ก็ถือว่าสาย

3. การเข้าลิฟต์ หากคุณเป็นคนเข้าลิฟต์คนแรก แล้วเห็นว่ามีคนรีบวิ่งมาขอไปด้วย ช่วยเงยหน้าจากสมาร์ทโฟนแป๊บแล้วกดให้คนเข้าจนเห็นว่าไม่มีใครแล้ว เพื่อนเราเคยโดน หล่อนเข้าลิฟต์คนแรกแล้วมัวแต่ก้มหน้าจิ้มๆอยู่ โดยไม่ได้ดูว่าใครวิ่งมา ปรากฏเป็นหัวหน้าอีกฝ่าย โดนประตูลิฟต์หนีบอย่างจัง หล่อนเลยโดนเอาไปพูดถึงถึงความไม่ช่างสังเกตเวลาขึ้นลิฟต์ไปเลย

4. การเอาขนมหรืออาหารมาทานในห้องหรือโต๊ะทำงาน รบกวนอย่าเป็นพวกของที่ส่งกลิ่นเหม็นมากจะได้ไหม โต๊ะทำงานยังไงก็ไม่ใช่โต๊ะกินข้าวนะ บางคนแทะเมล็ดทานตะวันทั้งวันอย่างกับมีต้นตระกูลเป็นแฮมทาโร่ แล้วไม่พอ เศษมันก็เกลื่อนตามพื้นน่ะสิ ใครเดินผ่านก็ติดรองเท้าไปเรื่อยๆ สงสารคนทำความสะอาดกันบ้างอะไรบ้าง

5. การมาทำงาน เราต้องพกความมีมารยาทมาด้วย การยกมือไหว้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเราเป็นเด็กใหม่ยิ่งต้องให้ความเคารพสถานที่และพี่ที่เขาอยู่มาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รับไหว้ก็ตาม เราก็ไหว้ไปเถอะ ช่างเขา

6. การกดโทรศัพท์จิ้มเล่นไปเรื่อยๆในขณะทำการประชุมคือสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง แม้ว่าเรื่องที่ประชุมจะเกี่ยวข้องกับเราน้อยที่สุดก็ตาม

7. เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเจอหัวหน้าแบบไหน เพื่อนร่วมงานแบบไหน ลูกค้าแบบไหน ทางเดียวที่ทำได้ในแต่ละวันคือ ค่อยๆศึกษาดูนิสัยกันไปเงียบๆ เพราะบุคคลบางกลุ่มมีความสามารถในการทำให้อารมณ์แปรปรวน นิสัยรวนเรได้อย่างบ่อยครั้ง เช้ามา ดี๊ดี ตกบ่าย หงุดหงิดใส่อีกแระ เพลีย

8. หลีกเลี่ยงการเล่าเรื่องส่วนตัวในที่ทำงานและห้องน้ำในที่ทำงาน เราไม่รู้หรอกว่าใครจะได้ยินบ้าง คนที่ได้ยินบางทีอาจไม่ใส่ใจเลยกับใส่ใจเรามากสุดๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้การบันทึกเสียงทำได้ง่ายยิ่งกว่าแกะซองลูกอมคูก้า (อย่าเถียง เราว่าซองมันแกะยากสุดแระ) บางทีเขาอาจจะเตรียมเล่นงานเราอยู่ก็ได้ใครจะรู้

9. คนที่คอมพิวเตอร์ประจำตัว แล้วชอบฟังวิทยุหรือชอบเปิดเพลง รบกวนหาหูฟังมาใส่ก็ดีนะ รบกวนคนอื่นอย่างแรง

10. อย่าพยายามตีสนิทหัวหน้าถ้าไม่จำเป็น เพราะหัวหน้าเป็นมนุษย์ที่มีอำนาจมากสุดในแผ่นดินออฟฟิศ อย่าทำเป็นเล่นไป

11. เด็กใหม่ที่เข้ามาส่วนมากมักจะทำตัวดีกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตัว พี่ๆเตือนเราเสมอ ถ้าเป็นผู้หญิง อย่านุ่งสั้นไป อย่าโป๊เกินไป เซฟตัวเราด้วย เป็นผู้ชายก็อย่าปล่อยชายเสื้อนอกกางเกงถ้าไม่จำเป็น ถ้าจะทำทำหลังเลิกงานดีกว่า

12. การทำงานในออฟฟิศอาจทำให้บางครั้งเราตกไปอยู่ในประเด็นชายหญิง ซึ่งถ้าคุณบริสุทธิ์ใจก็ควรสงบเสงี่ยมไว้ในระดับหนึ่ง มันจะไม่ปลอดภัยเลยถ้าทุกคนมาคอยจับผิดเราจนอึดอัด ยิ่งกับถ้าอีกฝ่ายแต่งงานมีครอบครัว คุณต้องยิ่งระวัง

13. การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งที่ดี บางคนเข้ามาทำงานก็ได้กลุ่มเพื่อนสนิท บางคนก็เลือกที่จะไม่สุงสิงกับใคร ทั้งนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล แต่มันจะเป็นไปได้ดีหรือกับการที่เลือกไม่คบใครเลยถึงแม้จะทำงานด้วยกันตั้งวันละ 8 hr. ไม่น้อยนะนั่น

14. อย่าก่อศัตรู อย่าสู้ไปเรื่อย อย่าเฉื่อยเรื่องงาน อย่าผลาญน้ำใจ

15. การแอบรักคนในที่ทำงานเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหากดันไปแอบรักคนที่ใครๆก็ชอบกันทั้งออฟฟิศ จุดๆนี้ก็ควรทำใจกันไว้บ้าง เลือกเอาว่าจะเดินหน้าตามหาความเสี่ยง หรือจะเลี่ยงเอากลัวการตกลงมาเจ็บ ยิ่งคนๆนั้นคบหลายคนเผื่อเลือก เห็นเราเป็นแค่คนคุยยามเหงาหรือหวังพึ่งประโยชน์ เลื่อนตำแหน่ง บลาๆๆจากเรา บอกได้คำเดียว รีบออกมาเถิด ให้ไว !

16. โตแล้ว อยู่ในวัยทำงานกันแล้ว ต้องปรับตัวให้ได้ อย่าไปเล่นเฟส เล่นเกมจนดึกดื่น ตื่นสาย แล้วถ้าตื่นไม่ไหวก็ลางาน แบบนี้ถือว่าคุณยังเด็กอยู่นะ

17. ทำโอตอนกลางคืน ทำได้ แต่ถ้ามันทำให้การเดินทางไปกลับแสนจะลำบากจนคุณร่างกายทรุดโทรม โรคภัยโลมเลีย แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ จะทรมานสังขารกันไปทำไม พักบ้างอะไรบ้าง

18. บางครั้งคนบางคนก็ทำให้เรารู้ว่า ปากหวานก้นเปรี้ยวนั่นเป็นยังไง ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง มีให้เห็นกันแทบทุกที่ ต้องทำใจ

19. เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่า คนที่ทำงานได้นานที่สุด ไม่ใช่คนที่แกร่งที่สุด หากแต่เป็นคนที่ทำใจให้เป็นสุขที่สุดต่างหาก เพราะถ้าคุณวางตัววางหัวใจเป็นกลาง ไม่คาดหวังกับอะไรเลย คุณก็จะไม่ต้องมาเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเรื่องถูกคนนินทา โดนบังคับให้ยื่นใบลาออก คนพวกนั้นก็จะทำอะไรคุณไม่ได้ หากภายในจิตใจคุณแกร่งพอ

20. อย่าให้คนที่ทำงานล่วงรู้ล็อคอินและรหัส Pantip ของคุณ ไม่งั้นเขาก็รู้หมดน่ะสิว่าเราเป็นคนอย่างไรเพียงแค่จิ้มไปที่ 'โปรไฟล์ของฉัน'

21. กับกลุ่มคนบางคน ทำดีให้ตายยังไงเขาก็ไม่เปิดใจ ไม่มองเราในแง่ดี อันนี้ปล่อยเขาไป แต่ให้ระวังเวลาทำผิดพลาด เพราะคนกลุ่มนี้แหละคอยจ้องซ้ำเติมเราอยู่ เข้าข่าย ทำดีร้อยครั้ง มองไม่เห็น แต่พอผิดแค่ 1 ครั้ง จำเรื่องนี้กันจนตาย ประมาณนั้น

..........................เดี๋ยวจะมาต่อนะคะ ถ้าใครมีเพิ่มเติม ยินดีรับฟังความเห็นค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่